ความเจริญคืออะไร
เห็นใครต่อใครก็ล้วนพูดถึงความเจริญ อยากให้บ้านเมืองเจริญ อยากให้คนอยู่ดีกินดี
“เราต้องสร้างความเจริญให้กับพื้นที่ เราต้องสร้างเศรษฐกิจในพื้นที่เพื่อที่จะได้สร้างถนน สร้างบ้าน สร้างธุรกิจ คนอยู่ดีกินดี มีงานทำ”
เห็นได้ชัดเลยว่าคิดกันไม่ครบ มุ่งพัฒนากันแต่ทางกายภาพ สร้าง สร้าง และสร้าง…
สร้างกันมากๆ ก็เหมือนกับการปั่นหุ้น หุ้น..ที่มูลค่าเป็นเพียงตัวเลขบนกระดาน สร้างมูลค่าให้หุ้น แล้วก็ทุกข์ใจ สุขใจ หรือลุ้นเครียด เมื่อมันขึ้นหรือลง
เวลาสร้าง ก็อยากจะได้เร็วๆ ถูกๆ แล้วก็มักจะลืมถึงเวลาที่ใช้งานที่จะต้องดูแล
พอสร้างเสร็จ ต้องบำรุงรักษาเพื่อใช้งาน ก็ไม่ได้ทำ
พอเสีย ต้องกำจัด ก็เอาไปทิ้งไว้ให้เป็นปัญหาของคนอื่น เพราะคิดว่าไม่ใช่เรื่องของตน
ระหว่างการสร้าง ก็ใช้ทรัพยากรธรรมชาิติกันไป ทำลายพื้นที่อยู่อาศัยของตนไป
ตอนใช้งาน ประสิทธิภาพของสิ่งที่สร้างแต่ไม่ได้รับการบำรุงรักษาก็ต่ำ ก็ทำลายสภาพแวดล้อมไปเรื่อยๆ อีก
ตอนทำลาย ก็เอาไปทิ้งๆ ไว้ แบบง่ายๆ ปัดให้พ้นตัว ให้เป็นปัญหาของส่วนรวม…
ลองมองคูคลองในกรุงเทพ ลองมองบ่อขยะ ลองมองไปในถังขยะในบ้านเราเองดู หรือมองดูข่าวบนหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์
ถ้าอยากดูความเจริญที่ว่า ก็คงต้องดูแถวๆ นั้น
ที่น่าแปลกใจคือ สุดท้ายที่คนส่วนใหญ่คิดว่าความเจริญนำไปสู่ความอยู่ดีกินดีนั้น ลืมลองมองไปรอบๆ ตัวแล้วลองตัดสินดูว่ามันเป็นเช่นนั้นหรือไม่
เจริญทางกายภาพนั้นนำไปสู่ความเสื่อมทั้งนั้น
เจริญทางปัญญาต่างหากที่เป็นทางออก
มีปัญญาคิดและเข้าใจ ว่าถ้าสร้างต้องสร้างให้ดี ต้องลงทุน ต้องรับผิดชอบดูแลใช้งาน ต้องดูแลตอนกำจัด
มีปัญญาคิด ว่าไม่มีอะไรยั่งยืน ไม่มีใครได้ทั้งหมด หรือเสียทั้งหมด แต่จะได้บ้างเสียบ้างเป็นธรรมดา และไม่มีอะไรฟรีในโลก
มีปัญญาคิด ว่าอะไรจำเป็น อะไรเกินความจำเป็น อะไรเป็นประโยชน์ส่วนตัว แต่เป็นโทษส่วนรวม
มีปัญญา เข้าใจธรรมชาติ และธรรมะ รู้จักปรับตัว
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา นั้นเที่ยงแท้แน่จริงเสมอ