คนนี้..คุณครู..สมศ..ใช่มั๊ย..(2)
อ่าน: 1992เล่าต่อจากบันทึกที่แล้วนะคะ
เมื่อผ่านช่วงเวลาของการสัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้องทั้งหลาย
ก็ได้เวลาที่ผู้ประเมินจะสังเกตและตรวจสอบ ค้นหาคุณภาพจากฝ่ายต่างๆ ในโรงเรียน
เป็นเวลาที่ตนเองเดินลอยชายไปมาได้เต็มที่ ไม่ค่อยมีใครสนใจจะซักถาม
ยกเว้นยามที่ต้องตัดสินใจในบางประเด็น
สังเกตเห็นท่าทีของทั้งสองฝ่าย เมื่อได้แรกพบ
ฝ่ายที่มาก็คงระแวดระวังกันเต็มที่ เผื่อจะมีรายการสร้างภาพให้เห็น
ฝ่ายที่อยู่ก็ตื่นเต้น กลัวจะอธิบายได้ไม่ชัดเจน โดยเฉพาะครูใหม่ที่มาทำงานได้ไม่ถึงปี
ยังดีที่ได้พูดคุยกันไว้ก่อนล่วงหน้า ให้มองผู้ที่มาเยือนในแง่ดี เป็นโอกาสที่จะให้คนอื่นเห็นสิ่งที่เราทำ
สิ่งใดไม่ได้ทำก็ชี้แจงแสดงเหตุผลตามบริบทของตนที่อาจแตกต่าง
ไม่ต้องปกปิด หรือปกป้องตนเอง
ให้เรียนรู้ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ เพื่อนำมาใช้ปรับปรุงการทำงานต่อไปให้ต่อเนื่อง
โชคดีที่ทีมผู้ประเมินไม่ได้มาด้วยท่าทีที่กร้าวกร่าง แต่กลับสร้างความเป็นกันเองด้วยอารมณ์ขัน
บรรยากาศการพบปะกันกับคุณครูและเด็กจึงค่อยผ่อนคลายลง
เฝ้ามองทุกสิ่งที่ดำเนินไป และได้เห็นน้ำใจของผู้คนรอบข้าง
ที่ต่างช่วยกันคนละไม้ละมืออย่างแข็งขัน สับเปลี่ยนหมุนเวียน ตั้งแต่ให้สัมภาษณ์ สอนหนังสือ ดูแลเด็ก
จัดการเอกสาร ขัอมูลและทุกสิ่งที่ถูกเรียกหา ข้าวปลาอาหาร กระทั่งล้างจานชาม
ดูแลไม่ให้ทีมเหน็ดเหนื่อยจนหมดแรง
แม้จัดเตรียมเอกสารไว้ค่อนข้างครบถ้วน และควรจะเป็นฝ่ายผู้ประเมินที่จะเลือกนำข้อมูลไปใช้
กลับได้รับคำขอให้จัดข้อมูลใส่ในเอกสารการเก็บข้อมูลที่นำมา
จึงเป็นภาระของทีมงานที่ต้องเรียบเรียงข้อมูลใส่ให้ตรงช่องที่ต้องการ
เมื่อแรกเห็นมองด้วยใจขุ่นมัว ไม่ใช่งานของตัว ทำไมต้องกะเกณฑ์กันมาทำ
มิหนำซ้ำผู้ประเมินคนหนึ่งทิ้งงานไว้แล้วหายจ้อยไปจากโรงเรียนก่อนเวลา
แต่เมื่อตั้งสติพิจารณา เปลี่ยนมุมมองใหม่ให้เข้าใจและเห็นใจในภาระของผู้มาเยือน
ซึ่งก็เป็นเสมือนเพื่อนร่วมทางที่พยายามทำหน้าที่ในการพัฒนา
ทั้งเห็นว่าส่วนใหญ่ก็ตั้งใจทำงานของตนอย่างเต็มที่ จึงค่อยรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
ลองถามว่าเมื่อต้องการได้ข้อมูลตามแบบฟอร์มที่กำหนด ทำไมไม่ส่งให้โรงเรียนเสียแต่เนิ่นๆ
จะได้ไม่ต้องทำงานเกินเวลาเพื่อจัดหาข้อมูลมาให้ ทุกอย่างโรงเรียนล้วนมีเก็บไว้ทั้งสิ้นแล้ว
ได้คำตอบที่ชวนคิดต่อ ถ้าให้ก่อน โรงเรียนทำจริงก็ดี แต่ถ้ามีการตกแต่งข้อมูลจะทำอย่างไร
อืมมม..การทำให้เกิดความไม่เชื่อใจกันและกัน ทำให้ต้องมีขั้นตอนยุ่งยากมากมายเพิ่มขึ้นเช่นนี้ล่ะหนอ
มาตรฐาน ขั้นตอน และวิธีการที่เคร่งครัด ต้องประเมิน ต้องวัดเป็นปริมาณ ตัวเลข
มีร่องรอยที่เห็นเป็นรูปธรรม ซ้ำยังใช้กับโรงเรียนทุกประเภทด้วยวิธีการเดียวกัน
บางทีก็สร้างปัญหามากมายในการปฏิบัติ
เมื่อเอกสารหรือระบบที่เหมาะกับงานราชการ ถูกนำมาใช้กับเอกชน
ทำให้เกิดความสับสนอยู่ไม่น้อย
ยามต้องคอยตอบปัญหาที่เกี่ยวข้อง จึงยืนยัน ตามที่ได้ทำจริง
ด้วยวิธีการที่เลือกแล้วว่าเหมาะสม สอดคล้องกับวิถีของโรงเรียน
บางเรื่อง บอกผู้ประเมินไปว่าไม่เป็นไรหากไม่ได้คะแนน เพราะไม่คิดจะทำเอกสารย้อนหลัง
บางเรื่องก็ต้องชั่งใจ เมื่อได้รับคำถามโดยนัยว่าจะปรับเปลี่ยนแก้ไขเอกสารสำคัญของปีที่ผ่านไป
ให้สอดคล้องกับสภาพปัจจุบันที่มีความสำเร็จมากกว่าเดิมหรือไม่
ในที่สุดร่วมกันตัดสินใจ หากจำเป็นจะขอเลือกวิธีชี้แจงแสดงหลักฐานเพิ่มเติมในภายหลัง
แทนการแก้ไขข้อมูลเพียงเพื่อรับประกันความแน่ใจว่าจะสอบผ่าน
รู้ว่าการตัดสินใจยืนหยัดเพื่อสิ่งที่ถูกต้องเป็นเรื่องยาก
แต่ยังอยากทำงานต่อไปโดยยังคงนับถือตัวเองได้อย่างเต็มศักดิ์ศรี
ไม่เพียงแต่บรรดาผู้ใหญ่ที่ร่วมมือร่วมใจ
เหล่านักเรียนน้อยใหญ่ก็รับรู้ถึงการมาเยือนของผู้ประเมินกันไปทั่ว
หลายคนอยากเห็นตัวจริง จนเข้ามาทัก..คนนี้ “คุณครู สมศ.”ใช่ไหม
แถมมีน้ำใจจะชวนไปอวดโรงเรียนของตัวให้ทั่วถึง
ยามที่ “คุณครู สมศ.” สุ่มเด็กหลายวัยมาจัดให้ทำงานเป็นกลุ่มๆ ตามกระบวนการ
เห็นชวนกันทำงานอย่างขะมักเขม้น มีข้อสงสัยก็ไปถาม พยายามทำจนสำเร็จ
หมดเวลาแล้วยังค้างใจ หนูอยากทำให้เสร็จทุกข้อ
พอคุณครูเข้าไปในห้องเรียน ขอให้ร้องเพลงภาษาอังกฤษให้ฟัง
ยังถาม เอาอีกไหม พวกหนูร้องได้อีกหลายเพลงนะ..
มิหนำซ้ำเวลาพักยังแสดงความเป็นตัวของตัวเองด้วยการเล่น ซุกซน โลดไล่ ไปตามที่เคยเป็น
มองไม่เห็นคุณครู สมศ. ชนเข้าโครมเบ้อเริ่ม..เห็นว่ายกมือไหว้ขอโทษแล้วรีบหายตัวไป
สุดท้ายได้รับคำชมว่า เด็กโรงเรียนนี้กล้าแสดงออก กล้าคิด กล้าถาม
เห็นแล้วล่ะว่า เรียนอย่างมีความสุขจริงๆ
พบว่าการรับฟัง และแลกเปลี่ยนความคิดความเชื่ออย่างเปิดใจ ไม่โอ้อวด
กลับสร้างความเข้าใจและความรู้สึกที่ดีให้แก่กัน
ได้ความคิดดีๆ หลายเรื่องที่จะนำไปปรับใช้จากการได้พูดคุยกันนอกรอบ
แต่หลายเรื่องก็อาจยากต่อความเข้าใจและดูไม่น่าเชื่อถือในสายตาของผู้มาเยือน
พัฒนาครูด้วยการอบรม แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันในโรงเรียน
พัฒนาทีมด้วยการทำค่ายฤดูร้อน
ที่ปรึกษา แหล่งช่วยเหลือทางปัญญา อยู่บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
ไปศึกษาดูงานในด้านที่แตกต่างไปจากวงการศึกษา ฯลฯ
สิ่งเหล่านี้ไม่มีวุฒิบัตรรับรอง แต่กลับก่อให้เกิดการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง
ภาพของการตั้งวงถ่ายทอดประสบการณ์จากรุ่นพี่สู่รุ่นน้อง
การชื่นชม ช่วยเหลือกันและกันอย่างจริงใจ
การส่งต่อแบ่งปันในการทำงาน ไม่แยกผลงานของฉัน ผลงานของเธอ
แม้แต่การเปลี่ยนความคิดความเชื่อที่มีต่อการดูแลเด็ก ให้มีความอ่อนโยน มีความเข้าใจที่เพิ่มขึ้น
การร่วมกันศึกษาหลักสูตร วางแผนการสอน ตรวจสอบความถูกต้องของการสอน การวัดผลอย่างจริงจัง
เหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้โดยง่าย หรือพัฒนาได้ด้วยการอบรมให้ครบตามชั่วโมงที่กำหนด
แต่ด้วยวิธีและวิถีที่เป็นอยู่ ไม่อาจนำมาให้ดูในช่วงเวลาสั้นๆ
คงต้องมาใช้ชีวิตร่วมกันยาวนานเกินสามวันจึงจะมองเห็น
กว่าจะพัฒนาเด็กได้แต่ละคน แต่ละปี มีเรื่องราวที่มากกว่า “ใช้โครงการและกิจกรรมอะไรในการพัฒนา”
ด้วยว่า มีหลากหลายปัจจัยที่ใช้ส่งเสริม
จะตอบไปว่าใช้หัวใจของความเป็นครู และอยู่กับเด็กด้วยความเมตตา
ก็เกรงว่าจะหาร่องรอยหลักฐานมายืนยันได้ไม่หนักแน่น ตรงเกณฑ์ที่จะได้การยอมรับ
บางเรื่องราว บางตัวเลข ก็วัดเด็กเฉพาะด้าน ไม่ว่าพื้นฐานของเด็กที่รับมาเป็นอย่างไร
ก็ใช้ผลการสอบแห่งชาติ ที่มักมีคำถามประหลาดๆ ให้เด็กได้เย้ยหยันมาตัดสินคุณภาพเท่ากันทุกคน
ทั้งการใช้ผลการประกวดแข่งขันและรางวัลที่ได้รับเป็นเครื่องชี้วัดความสำเร็จ
กลับเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังไม่ให้สร้างความเหลื่อมล้ำในโรงเรียนนี้
สามวันที่ได้รับการประเมิน จึงเป็นช่วงเวลาที่ได้เฝ้ามองกระบวนการต่างๆ
มีทั้งสิ่งที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย
ในยามใจขุ่นมัว ก็มีที่ปรึกษาที่ช่วยมาเตือนสติ ด้วยข้อเขียนและบทความอย่างทันท่วงที
จนถึงวันสุดท้าย ได้รับการรายงานโดยรวมว่า เป็นที่น่าพอใจ ทั้งได้รับคำชมหลายเรื่อง
แต่ขั้นตอนยังไม่สิ้นสุด ต้องรอหน่วยเหนือตรวจสอบ ก่อนจะมอบคำตัดสินมาให้ในภายหลัง
จะเป็นอย่างไรให้รอดู..
เถอะนะ..อย่างน้อย..โลกก็ยังไม่แตกสลายไปตามคำทำนายในวันนั้น..
และเรายังคงทำงานกันต่อไป..
บันทึกไว้เพื่อเป็นอีกหนึ่งเสี้ยวประวัติศาสตร์ของมงคลวิทยา..
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง..
บอกกล่าว..เล่าขาน..ปณิธานมงคลวิทยา
http://www.youtube.com/watch?v=cIP0Gyrrpkk
เค้าหาว่าหนูเป็นกระเหรี่ยง
http://lanpanya.com/dd190751/archives/56
“การประเมิน” จาก ลานจอมป่วน
http://lanpanya.com/jogger/?p=1226
“บัณฑิตชนบท” จาก ลานดงหลวง
http://lanpanya.com/bangsai/archives/1280
“สมหวัง”จี้สมศ.ปฏิรูประบบประเมินใหม่
http://www.thaipost.net/news/181212/66758
« « Prev : คนนี้..คุณครู..สมศ..ใช่มั๊ย..(1)
ความคิดเห็นสำหรับ "คนนี้..คุณครู..สมศ..ใช่มั๊ย..(2)"