ปลูกแล้ว..ก็ปลูกอีก..

โดย dd_l เมื่อ ธันวาคม 25, 2011 เวลา 7:10 (เย็น) ในหมวดหมู่ การศึกษา #
อ่าน: 3031

ช่วงที่มีผู้คนมากหน้าหลายตาเข้ามาในโรงเรียน
ซึ่งใช้เป็นสถานที่สอบคัดเลือกบุคลากรของธนาคารใหญ่แห่งหนึ่ง
ได้รับคำชมว่า โรงเรียนร่มรื่น..มีต้นไม้หลากหลายชนิด
คงจะจริงดังว่า
ทุกวันนี้ได้อาศัยไม้ใหญ่น้อย ทั้งให้ร่มเงา เป็นที่เล่น ที่เรียน สารพัด
จึงมักจะชวนกันปลูกต้นไม้อยู่ไม่หยุดหย่อน

ก่อนถึงวันพ่อปีนี้  คุณครูมีกิจกรรมมานำเสนอหลายรายการ พร้อมกับคำถาม..
จะปลูกต้นไม้อีกดีไหม เมื่อปีที่แล้วก็เพิ่งชวนกันปลูกไป
กิจกรรมจะซ้ำเดิมเสียกระมัง

จึงต้องมาทบทวนความหมายของการปลูกต้นไม้ในวันพ่อ
ที่อยากจะสานต่อความตั้งใจเดินตามรอยพระยุคลบาทของในหลวง
แม้ทำได้เพียงก้าวเริ่มก้าวเล็กๆ ด้วยกิจกรรมของเด็กๆ ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก
หากยังคงมุ่งมั่นสู่จุดหมาย คงได้ปลูกสำนึกดีฝากไว้ให้รอการงอกงาม
และเป็นความท้าทายให้สรรสร้างงานซ้ำๆ สอนให้เด็กได้รอบรู้ ลึกซึ้ง


เมื่อได้ทำ ก็ได้เห็น..
เช่นวันที่เด็กๆ ชั้น ป.2 เดินกันมาเป็นแถวในยามสายชวนให้ติดตาม
คุณครูชวนคุยก่อนเริ่มงานด้วยการนำ “ต้นไม้มหัศจรรย์” มาให้ดู
แล้วนำสู่ความสนใจใคร่รู้ ด้วยคำถาม
รู้ไหม..มันจะงอกได้ทั้งๆที่ตอนนี้ไม่มีรากนะ
ถ้าเราเอาก้านที่ตัดมานี่ไปฝังไว้ในดิน..

เสียงเล็กๆ..สอดขึ้นมาว่า..อ๋อ..เรารู้แล้ว “ชำ” มันไง
ที่ตอนอยู่อนุบาลคุณครูให้ทำ แต่เรา “ชำมันในน้ำ” ให้รากมันงอกน่ะ..
ต้นอะไรนะ..โกศลใช่ไหม..

รู้ไหม..ต้นไม้นี้ชื่ออะไร..นี่ต้นพรมญี่ปุ่นนะคะ
พรมญี่ปุ่น..พงญี่ปุ่น..เสียงแข่งกันทวนชื่อซ้ำหลายคน
พรมญี่ปุ่นค่ะ ไม่ใช่พง..
อ้อ..แล้วทำไมถึงชื่อพรมญี่ปุ่นล่ะ ลองสังเกตดูนะ

เอ๊..แล้วทำไมเราต้องปลูกต้นไม้ในวันพ่อล่ะ ทำอย่างอื่นไม่ได้หรือ
ต้นไม้ที่หนูปลูกปีที่แล้วยังอยู่ไหม..

มันตายแล้วค่ะ!!!..คนมองไม่เห็นเลยไปเหยียบมัน!!!..
แล้วปีนี้พวกหนูจะทำอย่างไรให้ไม่ตายล่ะ ลองคิดดู
เสียงตอบมีหลายความคิด..ตั้งแต่ติดป้าย เอาซ่อนไว้ มาดูมันบ่อยๆ ฯลฯ

จนมาถึงขั้นตอนการปลูกที่ครูคลุกดินเตรียมไว้ให้แล้ว
ยังไม่วายมีข้อสงสัย..
ครูบอกให้ใส่ดินในกระถางจนเกือบเต็ม เว้นห่างไว้หนึ่งเซนติเมตร
แล้วทำไม..ไม่ใช่หนึ่งนิ้วล่ะครู..ไม่ใช่หนึ่งนิ้วหรอกเหรอคับ
นี่คงยังจดจ่อกับการเรียนหน่วยการวัด ที่จัดให้ได้ลงมือทำผ่านมาแล้ว

เมื่อทยอยกันไปรับอุปกรณ์ ตักดิน รับแจกต้นไม้มาเรียบร้อย
ระหว่างคอยเพื่อนก็มีการค้นพบ..
อุ๊ย..ใบมันมีขนนุ่มๆ นะ..จับดูซิ
ว้าว..เวลามันโดนแดดมันระยิบระยับด้วย..

เป็นความรู้ที่ส่งต่อแก่กันอย่างรวดเร็ว..จากกลุ่มนี้ไปถึงกลุ่มนั้น
เกิดการสังเกตเพิ่มเติม..มันมีหลายสีด้วยนะเวลาพลิกใบ

ทั้งได้เห็นการจัดการของผู้นำตามธรรมชาติ
ทำแบบนี้สิ..ทำแบบนั้น..ปากก็พูด..มือก็ทำ..
แม้เพื่อนคนพิเศษ..ที่อาจทำอะไรได้น้อยกว่าวัย
ยังถูกจับมือให้ไปสัมผัสใบไม้ ยกกระถางมาชี้ให้ดู
เพื่อให้ได้รู้เรื่องราวที่ตื่นเต้นอย่างเท่าเทียมกัน

ทำงานกันใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ ที่มีแสงส่องลอดใบลงมา
มองเห็นเจ้าตัวเล็กแต่ละกลุ่มพากันเอากระถางไปวางกลางแสงแดด
เมื่อลองถามจึงได้เห็นความรู้ที่นำสู่การปฏิบัติแบบเด็กๆ
ก็ต้นไม้ต้องการ ดิน น้ำ อากาศ และแสงแดดค่ะคุณครู!!..
เอ้อ..ก็เห็นอยู่ไม่น่าถามเนาะ..ทุกคนเข้าใจหมดยกเว้นครูนี่แหละ..มั้ง..^^
มิน่า..เห็นวางแล้วนั่งจ้องกัน..ราวกับจะให้เติบโตในพริบตา..

บ้างเรียนรู้นอกตำราได้ทุกเรื่อง
ครูขา..ต้นนี้หนูรู้จักค่ะ..ต้นนี้ด้วย..ต้นนั้นอีก..
เธอยังบอกด้วยความภูมิใจ..หนูรู้เพราะเทอมที่แล้วหนูทำโครงงานสำรวจชื่อต้นไม้ค่ะ..
อืมม..สอนได้ผลจริงๆ..

บ้างชวนกันประลองยุทธ์ระหว่างรอ..พอให้ได้เคลื่อนไหว..
บ้างชวนให้ดู..ครูคับ..นี่ผมทำเงาเหมือนค้างคาวได้
นี่เหมือนดวงตา..นี่หมา..คับ..

จินตนาการช่างล้ำเลิศ..

ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็ปลูกต้นไม้ รดน้ำได้เรียบร้อยกันทุกกลุ่ม
เดินแถวยกกระถางไปวางในที่จัดไว้
มีปัญหาท้าทายความคิดกันอีกครั้ง..จะจำกระถางกันอย่างไร
บ้างจะทำเครื่องหมาย..บ้างจะทำป้ายชื่อ..
คุณครูจึงถือเป็นโอกาสชวนไปคิด ไปสรุปประสบการณ์กันต่อในห้องเรียน
หลังจากแวะเวียนไปดู “ต้นแม่”ของต้นไม้มหัศจรรย์ที่ชวนกันปลูกในวันนี้แล้ว

เมื่อได้อ่านงานของเด็กที่เขียนส่งครู
เห็นความคิด เห็นสำนวนของบรรดาหนูๆ ซึ่งท้าทาย “ความสามารถในการอ่าน”
แล้วก็พลอยได้รอยยิ้ม

ทั้งเหตุผลที่ทำไมต้องปลูกต้นไม้ในวันพ่อ

เพราะจะทำให้พ่อมีชีวิตยืนยัน ให้พ่ออยู่นาน
จะทำให้มีออกซิเจนและทำให้พ่อมีชีวิตต่อไป
เพื่อให้พ่อได้นึกถึงผมตอนที่ผมไม้ยู่อ
ถ้าไม่ปลูกต้นไม้โลกของเราจะไม่มีคนเพราะไม่ออกซิเจนพวกเราจะตายได้
ให้อากาศให้ฉัน ให้ร้มเงอ ให้โลกไม่ร้อน
ไม่ให้น้ำท่วมประเทศไทย ไม่ให้โลกเป็นพิษ ไม่ให้มีควมพิษ มีคาร์บอน
จะไม่ให้น้ำท่วมเพราะว่าต้นไม้จะดูดน้ำเข้าไปในต้น
ให้คนเราอยู่รอดเพราะว่ามันจะดูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ปลูกเพื่อบอลิโพก
เพื่อเป็นของขวัญแทนสิ่งของและที่สำคัญยังไม่ต้องเสียเงิน ฯลฯ

และวิธีดูแลให้ต้นไม้เติบโต

เขียนปร้ายติน ไว้ที่มีคนรู้ ไว้ที่สูง
เขียนป้ายติดหรือนำไปไวที่มีต้นไม้เยอะ
รดน้ำให้ต้นไม้เจริญเติบโต  ใส่ปุ๋ยคอก ป้องกัน พรวนดิน ไม่ให้แมลงมากัด ให้เหงจากคน
ซีดยาข้ามะแมง  รดน้ำต้นไม้ให้โต ปุ๋ย ดิน หนอน
ห้องกัน ดูแล รดน้ำ ใส่ปุ๋ยคอก มาดูทุกวัน ไว้ที่ไม่ค่อยมีคน ไว้ที่ไม่มีรด หมั่นดูแล
ใช้ไม้ปักเพื่อให้รู้ว่ามีพืชปลูกอยุ่ตรงนี้  ใส่ปุ๋ย  ลดน้ำ พรนดิน
ให้ใส่ปุ๋นและใส่น้ำ  ให้แสงแดด
รสน้ำ  ใส่ปุ๋ยคอก ตากแดด ฯลฯ

ยังคงตามติดต่อเนื่องในเรื่องของการดูแลต้นไม้
พบทั้งความสนใจมาดูแล และครูต้องตามแก้ปัญหา
ครูขา..น้องมาช่วยรดน้ำให้หนูแรงไป..ต้นไม้ที่ชำไว้กระเด็นหายไปเลยค่ะ..!!!
เกือบสามสัปดาห์ผ่านไป..ยังไม่มี “ปร้าย” มา “ติน”
ยังไม่มีใครยกต้นไม้ไว้ในที่สูง..แต่รดน้ำกันอยู่เสมอ..
วันนี้.. ท่ามกลางต้นเป็ดแดงของน้อง ป.1
ท่ามกลางต้นใบนาคและปีกนกกระทาของพี่ ป.3
ต้นพรมญี่ปุ่นหลายกระถางออกดอกสีแดงสดใสอยู่ในแสงแดดอุ่นแล้ว..

ต้นไม้มีทีท่าว่าจะเติบโตรอดชีวิต
แต่งานปลูกความรู้คิดและจิตสำนึกอันดีงามยังรอการบ่มเพาะอย่างต่อเนื่อง
ด้วยงานเล็กๆ ก็ชวนให้เด็กฝึกคิด ฝึกทำ ได้หลายเรื่อง
ด้วยงานเล็กๆ ล้วนต้องการการคิด เตรียมการ ความละเอียด ใส่ใจ ของครูหลายเรื่อง
ด้วยงานเล็กๆ ล้วนต้องการความร่วมมือ ร่วมใจ
ให้มั่นคงในการก้าวเดินตามรอยพระยุคลบาท ทีละก้าว..ทีละก้าว..ต่อไปไม่หยุดยั้ง..

« « Prev : เพียงเท่านี้..

Next : ใบไม้ห่มดิน » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

7 ความคิดเห็น

  • #1 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 25 ธันวาคม 2011 เวลา 8:56 (เย็น)

    น่ารักจริงๆ

    ต้นไม้ ผมเชียร์มะรุมนะครับ กินง่าย โตเร็ว WHO ใช้แก้โรคขาดอาหาร ปลูกที่โรงเรียนไม่ต้องเยอะมาก แค่จะเอาฝัก+เพาะเมล็ดแจกเด็กให้กลับไปปลูกที่บ้าน http://lanpanya.com/wash/archives/2833

  • #2 dd_l ให้ความคิดเห็นเมื่อ 26 ธันวาคม 2011 เวลา 6:59 (เช้า)
    ระยะหลังๆมานี้ เริ่มสนใจปลูกต้นไม้กินได้มากขขึ้นเหมือนกันค่ะ งานเดียวกับที่เล่ามานี้น้องเล็กๆปลูกไม้ประดับ ชั้นโตขึ้นปลูกไม้กินได้ กล้วยที่ช่วยกันปลูกไว้ตามซอกมุมต่างๆของโรงเรียนช่วงนี้ออกลูกหลายเครือ แถมเวลามีงานที่ต้องใช้ใบตองพี่โตๆ รู้แหล่งตัดกันเองเลยค่ะ
    มะรุมทางเหนือเรียกบะค้อนก้อม แกงฝักอ่อนอร่อยดีนะคะ บางคนชอบฝักแก่. ที่อารามปลูกไว้ยังต้นเล็กอยู่เลยค่ะ
  • #3 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 26 ธันวาคม 2011 เวลา 2:07 (เย็น)

    น่ารักมากค่ะ ^ ^ ชอบการสอนแบบให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านการสัมผัสไปเรื่อยๆแบบนี้มากๆ

    ทำให้นึกถึงการสอนของยิวที่ทุกเช้าเอาตระกร้าให้เด็กคนละใบ ไปเดินเก็บของอะไรก็ได้คนละ 5 -10 ชิ้น (เรียนรู้เรื่องจำนวน) พอได้แล้วมานั่งกับครูดูว่าในตะกร้าของตัวเองมีอะไรบ้างที่จัดหมวดหมู่ได้ เช่น ของชิ้นไหนมีกลิ่น ก็ดมกันใหญ่ แล้วเอามารวมกัน ของชิ้นไหนมีเสียง เก๊าะเขย่ากันอุตลุต แล้วก็ถึงตาเจ้าตัวน้อยจัดกลุ่มเองบ้าง จะให้มีอะไรเหมือนกันอย่างเช่นของอะไรมีความสูง จากก้อนหินที่ก่อนหน้านี้อยู่ในกลุ่มไม่มีกลิ่นก็ย้ายกลุ่มเป็นมีความสูง สอนเรื่องหมวดหมู่ สอนเรื่องการสังเกต สอนให้รู้ว่ามีวิธีคิดได้หลายแบบ โดยไม่ต้องขึ้นกระดานว่าความสูง = … ความยาว คือ…เลยนะคะ

    เห็นแล้วมีความสุขค่ะ คุณครูที่เตรียมการเรียนรู้แบบนี้ได้ต้องมีความละเอียดมากมาย ความนิ่ง มั่นคง ใส่ใจของคุณครูส่งต่อถึงคนตัวเล็กให้ได้เติบโตทีละก้าวๆๆอย่างน่าชื่นใจ แม้คนตัวเล็กจะไม่ได้”น่ารัก”ตลอดเวลาก็ตาม

    ขอบคุณสำหรับเรื่องที่ทำให้ยิ้มกว้างที่สุดในวันนี้เลยค่ะ
    ^___________________^

  • #4 โรงเรียนมงคลวิทยา » Blog Archive » ปลูกแล้ว . . ก็ปลูกอีก ให้ความคิดเห็นเมื่อ 26 ธันวาคม 2011 เวลา 7:01 (เย็น)

    [...] ปลูกแล้ว . . ก้ปลูกอีก ได้ “ที่นี่” [...]

  • #5 dd_l ให้ความคิดเห็นเมื่อ 27 ธันวาคม 2011 เวลา 4:40 (เย็น)
    เรื่องที่เล่าให้ฟังน่าเอาไปคิดต่ออีกเนาะเบิร์ด ขอบคุณที่มาแบ่งปันความคิดจ้า สอนเด็กแบบนี้พี่ว่าครูต้องรู้รอบ และมีทักษะในการจัดการ และที่สำคัญต้องช่วยกันหลายๆ ฝ่ายทีเดียวค่ะ แ่ต่พอให้เด็กได้มีประสบการณ์เรียนรู้จากการลงมือปฏิบััติ ได้สัมผัสจริงบ่อยๆ ก็เริ่มคุ้นเคยกับการเรียนวิธีนี้ทั้งเด็กและครู

    ที่ยากคือจะตั้งคำถามอย่างไรให้เด็กสนใจ สงสัย คิด แถมยังต้องให้เวลารอคำตอบ ซึ่งบางทีก็เป็นคำตอบที่เราไม่คาดคิดนะ จะให้กำลังใจให้เรียนรู้อย่างต่อเนื่องอย่างไรฯลฯ ยังต้องฝึกกันอีกเยอะค่ะ ^^

  • #6 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 27 ธันวาคม 2011 เวลา 11:06 (เย็น)

    เยี่ยมจริงๆ

  • #7 ลานเวลา » ใบไม้ห่มดิน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 4 มกราคม 2012 เวลา 11:04 (เย็น)

    [...] ต้นไม้ ใบไม้ในโรงเรียน เป็นเสมือนของมีค่าที่ไม่อาจซื้อหามาได้โดยง่าย กว่าจะช่วยกันดูแลเอาใจใส่ให้เติบโตเช่นนี้ก็เนิ่นนานนัก จึงมักจะชวนเด็กให้มีกิจกรรมเกี่ยวเนื่องกับต้นไม้อยู่ไม่ขาด เช่นวันพ่อแห่งชาติที่ผ่านมาก็ชวนกันปลูกต้นไม้ให้พ่อ ต่อจากปีที่ผ่านมา [...]


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.061582088470459 sec
Sidebar: 0.015684843063354 sec