ขอแค่ให้รู้..ครูนันทวิศาล
อ่าน: 3905ปีนี้ฝนตกหนัก ตกนาน ตกบ่อย จึงมีเรื่องไม่ค่อยปกติให้พบเห็น
เช่น ต้นมะขามใหญ่หน้าโรงเรียนเอนล้มลงมาทับสายไฟให้โกลาหลกันทั้งโรงเรียน
และเช้านั้นรถติดทำเอาผู้คนวุ่นวายไปทั่วเมือง
ดังเรื่อง”นกเตนถล่ม”ที่เจ้าหนูเสื้อสีส้มเขียนเล่าไว้ในลานของเธอ
มีความเสียหายกันทั้งมากและน้อย ก็ค่อยช่วยเหลือแก้ไขไป
คนทำงานที่โรงเรียนอยู่บ้านใกล้น้ำกันสองพี่น้อง เก็บข้าวของกันไม่ทัน
ก็ช่วยกันรวบรวมเงินบริจาคไปช่วยเหลือพอประทังความเดือดร้อน
คงต้องปรับตัวปรับใจให้คุ้นชินกับภัยธรรมชาติที่มากขึ้นทุกปี
สองสามวันก่อน นอนฟังเสียงฝนเทตั้งแต่ค่อนรุ่งจนหยุดตกเมื่อตอนเช้า
ทำเอาน้ำเจิ่งนองเต็มสนาม กบเขียด ร้องกันเซ็งแซ่
ทำงานกันท่ามกลางสายลมเย็นและเสียงธรรมชาติได้สักพักก็เกิดมีคำถาม
เอ๊ะ..นั่นมันกบหรือเขียด หรือ คางคก หลายสิบตัวที่เต้นหยองๆ อยู่กลางสนาม
คำตอบแยกเป็นฝักฝ่าย บ้างก็ว่าคล้ายเขียด บ้างบอกว่าอาจเป็นคางคก
เพื่อแก้ข้อสงสัยจึงต้องพักงานไปถ่ายรูปมาหาคำตอบ
อ้อ..รู้แล้ว…เขียด..เขียด..คั่วแคอร่อยนะ..อ้าว!!!!
สังเกตดูเห็นผู้คนแวะเวียนไปดูสนามกันตั้งแต่ลุงภารโรง ลุงยาม คุณครู
โดยเฉพาะเด็กๆ ที่ทั้งยืนดู ปีนดู และมุดดู กันอย่างสนอกสนใจ
จะว่าไปแล้ว โรงเรียนนี้ ก็มีเรื่องน่าสนใจในธรรมชาติให้ได้เรียนกันมากพอดู
ทั้งเรื่องนก หนู ปู ปลา ทั้งบรรดาสัตว์ตัวเล็กตัวน้อย
ทั้งที่คุณครูจัดไว้ในบทเรียน และยามที่แวะเวียนไปหาความรู้กันเองยามพัก
ฝนตกอย่างนี้ เดี๋ยวก็มีปูหลงทางไต่มาบนถนนให้จับไปปล่อย
ใครที่มาโรงเรียนแต่เช้าหน่อยอาจพบปลาว่ายทวนขึ้นมาบนร่องระบายน้ำ
ในยามที่คุณครูพาไปค้นคว้าในห้องสมุด หน้าต่างบานริมสุดก็เป็นที่ส่องดูปลา
มีทั้งแม่ปลาช่อนตัวโต ว่ายวนเฝ้าลูกครอกฝูงใหญ่
ปลากระดี่มีลายจุด ปลาเข็ม ปลานิล หาดูได้แถวท้องร่องข้างห้องเรียน
ยามพักเที่ยงก็เพลิดเพลินกับการแบ่งขนมให้เจ้าก๊าบเป็ดเทศตัวโต
ยิ่งได้แอบคุณครูกระโดดลงไปป้อนขนมใกล้ๆ ยิ่งสนุกนัก
คุณครูอนุบาลอาศัยการพาเด็กเดินไปเรียนรู้ในโรงเรียนได้สารพัน
บางวันเรียนเรื่องสัตว์ปีก ก็อาศัยเปิดกรงไก่หน้าโรงเรียน
ต้อนบรรดาไก่โต้ง ไก่เจี๊ยบ ออกมาเดินเล่นให้ลูกๆ ดูไก่ หาไข่มาดูบ้าง
บางวันชวนกันไปดูคูน้ำ ก็เรียนเรื่องสัตว์น้ำนี่นา
ดูปลา ดูหอย ที่ขอลุงภารโรง ช่วยตักมาให้จับ ให้คลำกันทั่วหน้า
บ้างก็ศึกษาด้วยการยกขึ้นดมกลิ่น
ก่อนกลับก็สอนให้ขอบคุณคุณลุงกันอย่างเรียบร้อย
บางวันอาจเจอคำถาม..ครูขา..หนูสงสัยมากว่า ทำไมงูตัวนั้นถึงตาย
เอิ่ม..ครูจะรู้มั้ยเนี่ยคะ
บางวันเดินไปชะโงกที่หน้าต่าง..อาจได้รับคำเตือน
ครูคับ..ระวังตุ๊กแก!!!..มันอยู่ตรงซอกใต้ป้ายเนี่ยคับ..ผมเห็น
เอ้อ..ถ้าขวัญอ่อน คงจะกระโดดไปแล้ว..ใต้หลืบป้ายเนี่ยนะ..ต้องระวัง..
ในยามที่กำลังคุยงานกันในห้อง
อาจมีกลุ่มเด็กๆ ทำหน้าตาร้อนรนเข้ามาขอความช่วยเหลือ
ครูขา..ฝากเลี้ยงนกหน่อยค่ะ หนูเก็บได้ มันยังเล็กอยู่เลยค่ะ
ต้องเป็นภาระให้ครูหากล่องมาใส่ พร้อมให้คำสัญญาว่าจะรับเลี้ยง
เพราะก่อนออกจากห้องยังเวียนฝากฝังนกกันอีกหลายรอบ
กับเด็กชั้นโต เคยเห็นจับกลุ่มมุงดูอะไรบางอย่าง
เมื่อเข้าไปจึงเห็นภาพความพยายามเลี้ยงนกด้วยดอกไม้
ผมเก็บได้ที่ใต้ต้นไม้ข้างสนามครับ
นกสีเหลืองตัวน้อยเกาะเกี่ยวนิ้ว กระโดดเกาะบ่า เกาะอกคนพูดอยู่ไปมา
พูดคุยกันจนตกลงใจให้แม่นกเลี้ยงคงจะดีกว่า แล้วพานกไปคืนไว้ที่กิ่งไม้ใกล้ที่เดิม
รอคอยให้ได้ยินเสียงนกร้องและบินวน จนแน่ใจว่ามีแม่นกมารับ จึงหายค้างคาใจ
เห็นเรื่องราวเช่นนี้ว่ามีคุณค่า แม้เป็นเรื่องนอกตำราที่ไม่มีในข้อสอบ
ด้วยเป็นประสบการณ์ในชีวิต ที่สั่งสมและบ่มเพาะ
เป็นเสมือนข้อมูลพื้นฐานที่รอให้เรียกใช้ในวัน วัย อันควร
เป็นสิ่งแวดล้อมที่ส่งเสริมการเรียนรู้
เป็นความสุขนอกห้องเรียน ที่เพียรพยายามสร้างโอกาสให้เด็กได้รับ
ชีวิตในโรงเรียนของเด็ก ไม่ควรจะแห้งแล้งด้วยการเรียนที่คร่ำเคร่งอยู่กับตำรา
หรือการแสวงหารางวัลจากการแข่งขันเพื่อประดับในประวัติผลงานของตัวเท่านั้น
โรงเรียนน่าจะเป็นที่ที่ให้ความอบอุ่น ความเชื่อมั่น ความสนุกสนาน ในการเรียนรู้
ได้ลองคิด ลองทำ จนได้รู้ถึงความรัก ความชอบในการเรียน ในชีวิตของตน
ได้ฝึกฝน ได้รับการกล่อมเกลา
คิดเช่นนี้ จึงพยายามทำเช่นนี้ และมีเรื่องราวให้ต้องคิดต้องพัฒนา
มีปัญหาให้แก้ไขอยู่ไม่ขาด
ยังโชคดีที่มีชีวิตอยู่แบบบ้านนอก ยามเหน็ดเหนื่อยก็ยังมีเสียงกบเขียดขับกล่อมให้บันเทิงใจ
บางทีศิษย์เก่าก็มาให้กำลังใจใน social network
ขอบคุณ โรงเรียนมงคลที่สอนผมมา ขอบคุณครูหลายๆ ท่าน
ขณะนี้ผมกำลังศึกษาปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง คณะวิทยาศาสตร์
ผมเคยติดผลการเรียนรู้ 60 กว่าตัว ขณะนี้กำลังศึกษา ปวส. ที่ มทร.ล้านนา ภาคพายัพ
คิดถึงมงคลที่สุดในโลก คิดถึงสระว่ายน้ำที่เคยว่าย คิดถึงโรงอาหารที่เคยนั่งกิน
คิดถึงห้องเรียนที่เคยเรียน คิดถึงครูทุกคนที่เคยสอน อยากกลับไปนอนกลางสนามอีกครั้ง
คิดถึง …เพลงมาร์ช คิดถึง …เสียงระฆัง คิดถึง …ต้นจามจุรี
คิดถึง …เพื่อน คุณครู คิดถึง …บรรยากาศเดิมๆ คิดถึง …มงคลวิทยา‘
คิดถึงโรงเรียนจังค่ะ ฯลฯ
เฮ้อ..ครูก็ประเภทเดียวกันโคนันทวิศาลนะ
มาบอกอย่างนี้ละก็..สู้ขาดใจเล้ยยยยยย..
« « Prev : บันทึกนี้..ไม่เหมาะสำหรับคนเกลียดเด็ก..^^
Next : เอ๊ะ..หรือว่าจะเป็นชีวิตขาลง ?!??!! » »
15 ความคิดเห็น
อะโหล อะโหล ทดสอบจากมือถือ
เอาปลั๊กอินชื่อ MCEComments ออกไปครับ
แก่แล้ว เป็นอดีตของชาติ ก็ทำได้แต่เพียง “คิดถึง” (ดีกว่าคิดเลยนิ)
http://www.youtube.com/watch?v=6VeqvvhZK3w&feature=related
ไม่เฝ้าลานตัวเองนานนนนน เลย… ^^
ปรบมือให้ครับ
มงคลวิทยาแอบอุ๊บอิ๊บเอาพี่เป็นที่ปรึกษากิติมศักดิ์นานแล้วนะคะ^^
ด้วยความยินดีครับน้องสาว
อ้าว ที่ปรึกษาทำงานหน่อย อิอิ
ชีวิตที่ผ่านฤดูกาล คือการเรียนรู้ของจริง ฝนตก น้ำท่วม ฝนแล้ง มันเป็นปกติ การที่ชีวิตนักเรียนผ่านสิ่งเหล่านี้แหละดี เอาสิ่งที่ผ่านมาเป็นวิชาเรียนรู้ อย่างที่ทำน่ะ ดีแล้ว หากเราลากปรากฏการณ์นั้นๆเข้ากับวัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ สิ่งที่ควรปฏิบัติ ก็คือการเรียนรู้ในชีวิตจริงที่เผชิญเพียงโรงเรียนขยายองค์ความรู้ให้ครอบคลุมกว้างขวางมากขึ้นเท่าที่จะเอื้อให้
โยงไปในเส้นทางชีวิตเด็กเมื่อโตขึ้นชีวิตเขาก็จะต้องผ่านมรสุมชีวิตไม่มากก็น้อย ไม่เบาก็หนัก ขอให้เขาเอาสิ่งนั้นมาเรียนรู้ ก็จะปรับตัวเขาเองให้อยู่รอดต่อไปได้
สิ่งที่จะเสนอต่อไปนี้ โรงเรียนอาจจะทำแล้วนะครับ คือ จากปรากฏการณ์ที่บันทึกมาทั้งหมดนี้ ลองให้เด็กช่วยกันบันทึกสิ่งที่เขาเห็น ที่เขาสัมผัส ที่เขาวาดฝัน จะเอาแบบมีกรอบกว้างๆ หรือแบบไม่มีกรอบเลยก็ได้ หนึ่งหน้ากระดาษ หรือครึ่งหน้ากระดาษ ใครไม่เขียนบันทึกวาดรูปก็ได้ ใครอยากเอากบเอาเขียดมาแต่งเป็นเพลง เป็นกลอน ได้ เด็กโตขึ้นมาอาจจะไปหาข้อมูลว่ากบ เขียนมันมีวิถีชีวิตอย่างไร มันมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับ กบ เขียนอย่างไรบ้าง ใครบางคนอาจจะไปสอบถามผู้ใหญ่ว่า กบ เขียนเหล่านี้มีเรื่องเล่าอะไรบ้าว เอามาทำอาหารได้ไหม กี่อย่าง อะไรบ้าง
นี่คิดเล่นๆก็ได้เรื่อง ลองพิจารณาดูนะครับว่าหยิบส่วนไหนไปทำอะไรได้บ้าง
สนุกจะตายไป ครับ
อ่านบันทึกนี้แล้วรู้สึกว่าเด็กโชคดีที่มีโอกาสและได้ใช้โอกาส
ต้นสาคู สาเก และโปร่งฟ้า ได้ฤกษ์เอาไปปักดำไว้ที่ป่าหลังบ้านแล้ว
คิดถึงนะ..ทั้งครูรามและครูอึ่ง ว่างๆจะมา “ยาม” อีก
(ยาม ..ภาษาอีสานแปลว่าไร เหมือนภาษาชาวเม็งไหมหนอ?)
[...] [...]
[...] Conductor ครูออต หมอเจ๊ ทีมลำพูน (ครูอึ่งกับครูอาราม) อุ๊ยสร้อย น้าอึ่งอ๊อบ [...]