คงเป็นของเล่น..กระมัง..
อ่าน: 1972เคยเล่นกับมดไหมคะ
นั่งดู นอนดู มดเดินกันเป็นแถวๆ แวะพัก ทักทายกันบ้าง
บางทีก็แกล้งเอาใบไม้ ดอกหญ้า ไปขวางทาง แล้วดูว่ามดจะทำอย่างไร
เห็นบางตัวหลงไปไกล ก็คอยเอาใบไม้ไปกั้นให้หันไปในทิศที่มีเพื่อนเดิน
บางเวลารู้สึกว่า ชีวิตเป็นอย่างนั้น
ที่ดูเหมือนว่า จะมีเรื่องราวเข้ามา ให้เป็นความยากลำบาก
เป็นคลื่นที่ถาโถม ให้ก้าวเดินเชื่องช้าลง
เป็นกำแพงขวางกั้น ให้ปีนป่ายข้ามไป
ด้วยเป็นชาวพุทธที่อ่านพระคัมภีร์และมีเพื่อนชาวมุสลิม
ในช่วงแห่งความยากลำบาก
บางครั้งก็บอกตัวเองและผองเพื่อนว่า..มีแบบฝึกหัดจากพระเจ้ามาอีกแล้ว
แบบฝึกหัดที่ทำให้ได้รู้จักความจริงแห่งชีวิต
แบบฝึกหัดที่ทดสอบว่า ควรค่าแก่การได้เรียนรู้โลกในมิติที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเพียงใด
แบบฝึกหัดที่จะทำให้จากโลกนี้ไปอย่างไม่เสียดายและไม่รู้สึกติดค้างในใจ
น่าแปลก..ในยามที่ทำแบบฝึกหัด
ก็ได้รับสัญญาณแห่งความเมตตาควบคู่กันมาเสมอ
ในยามที่ใจไม่เต็มร้อย เมื่ออ้อนเพื่อนไปหน่อยๆ ว่า..อวยพรให้ฉันบ้างนะ
สิ่งที่ได้กลับมา คือ คาถา
สัพพะพุทธานุภาเวนะ ขออำนาจคุณพระพุทธ
สัพพะธัมมานุภาเวนะ ขออำนาจคุณพระธรรม
สัพพะสังฆานุภาเวนะ ขออำนาจคุณพระสงฆ์ ปกป้องคุ้มครองให้…..
ช่างเป็นวิธีให้กำลังใจอันน่ารัก และจริงจังกับการช่วยเหลือ
จนเอื้อเฟื้อให้เกิดรอยยิ้มก่อนเริ่มงาน
แม้เมื่อแวะเข้ามาในลาน ป้าหวานก็ช่างมีถ้อยคำนำใจให้มีเรี่ยวแรง
ทั้งใครบางคนก็แบ่งเรื่องราวดีๆให้ดู
โชคดีที่อยู่ในบรรยากาศของการทักทายไถ่ถาม
ยามเมื่อไปเยี่ยมบ้านยาย และได้เดินไปตลาดกับน้าผู้อาวุโส
เป็นโอกาสให้ได้ยินวิธีโต้ตอบด้วยไมตรีที่แปลกหู
” เอ๊อ..ไม่มีคนคอยถามแล้วไหมล่ะ..”
น้าตอบว่า.. “เออ..สมน้ำหน้าเนาะ”
ก่อนจะหันมาบอก..เมียมันเพิ่งจะเสียไป..ทุกทีเมียมันชอบทัก..
กระทั่งขากลับ..เดินผ่าน..ยังได้ยินเสียงเดิม..
” ซื้อหยังมากิ๋นพ่องเจ้า..เอ้า!..ถามแทนก็แล้วกัน..”
ได้เห็นความหม่นของใจ ที่แฝงไว้ใต้ใบหน้าเปื้อนยิ้มนั้น
ทุกคนได้รับแบบฝึกหัดของชีวิตอย่างทั่วหน้ากัน
กระทั่งวันนี้..
ขณะที่กำลังบรรเลงฝีมือผัดข้าวอย่างน่าหวาดเสียว
คนกินจะเคี้ยวได้ กลืนลง หรือเปล่าหนอ
มีแขกมาเยี่ยมยามเช้า พร้อมกับข้าวคาวหวานที่เห็นแล้วเต็มตื้น
เพียงแค่รู้ข่าวว่าแม่ไม่ค่อยสบาย
พี่ชายต่างบ้าน ที่เพิ่งจะฟื้นจากความเจ็บป่วย
จัดข้าวผัดมาในถุงเล็กๆ ห่อหมกสองสามห่อ
ขนมในห่อกระดาษ สองสามชิ้น อัดมาในถุงพลาสติกใบเล็ก
ถุงใบเล็กๆ แต่บรรจุไว้ด้วยความห่วงใย ใส่ใจอย่างถี่ถ้วน
มองเห็นความรักยิ่งใหญ่ที่ใส่ไว้ในข้าวปลาอาหาร
แม่คงรู้ได้นะ ว่ามีคนรักแม่มากมายจริงๆ
และเช้านี้
ที่ห้องครูเซี้ยงมีกลิ่นธูปและควันเทียน
คุณครูที่เกษียณจากงานไปเมื่อไม่นานนำพานเครื่องไหว้มาคารวะ
อาปาคงรู้ได้นะ ว่ามีคนรักอาปามากมายจริงๆ
น่าแปลก..เพียงแค่เห็นความดีงาม ก็นำให้ใจเป็นสุข
พระเจ้า..คงเห็นเราเป็นของเล่น..ที่น่าเอ็นดู
แบบฝึกหัดที่ได้รับจึงเจือด้วยความเมตตา
ให้หาช่องทางพบสุข บนเวลาแห่งทุกข์
ให้ความทุกข์สอนให้เข้าใจโลกและชีวิต
พระเจ้าคงคิดสร้างเราให้แกร่งกล้า..เพื่อรับใช้ชาวประชาให้ดีขึ้น..กระมัง..
« « Prev : เรื่องโป๊..โป๊..(เซ็นเซอร์)
Next : Todo Tag: ห้องเรียนลูกรัก » »
8 ความคิดเห็น
บนเวลาแห่งทุกข์
ให้ความทุกข์สอนให้เข้าใจโลกและชีวิต
เขียนได้กินใจจริง ๆค่ะ พี่อึ่ง อ่านแล้วได้คิดมากมาย ขอบคุณค่ะ ทุกอย่างคือบททดสอบความแกร่ง ความอดทน และเราจะได้พบอะไรอีกมากมายที่้เราเองก็คาดไม่ถึงเนาะค่ะ
มากอดรับคนที่เขียนได้ดีเหลือเกินค่ะ ^ ^…การยื่นมือไปกอดคนอื่น ทำให้เราไม่เหลือมือที่กอดความทุกข์ไว้กับตัวเอง
การทดสอบที่พระเจ้าหรือชีวิตออกข้อสอบมาให้นั้นมีแง่งามของมันแบบที่พี่ครูอึ่งเขียนเนาะคะ ความทุกข์เปิดโอกาสให้เราคิดถึงคนอื่น … และการคิดถึงคนอื่นมักจะนำมาซึ่งความสุข
เมื่อคิดถึงพี่ครูอึ่ง เบิร์ดเก๊าะรู้ว่าคิดถึงมากมายนั้นเป็นจั๋งไดเลยค่ะ
#1 ราณีคะ เมื่อความทุกข์ผ่านไป เราจะเติบโตขึ้นเสมอ และเมื่อเวลาผ่านไป เราอาจยิ้มได้กับเรื่องราวที่เคยทุกข์ บางครั้งก็อาจลืมไปได้ว่า..รู้สึกเป็นทุกข์ได้ถึงเพียงนั้นเอย่างไร บางทีพระเจ้าอาจจัดให้เรามีทุกข์ เพื่อจะเข้าใจทุกข์ของผู้อื่นด้วยเนาะ
#2 เบิร์ดคะ ธรรมชาติเมตตาเรา จนจัดสรรให้มีความเปลี่ยนแปรไม่คงที่ในชีวิต เพื่อที่เวลาเราทุกข์ได้ ก็คลายลงได้ สุขได้ก็คลายลงได้เช่นกัน
ท้งยังจัดสรรให้มีผู้คนดีๆ มีเรื่องราวมากมายให้เราคิดได้ เรียนรู้ได้ แบ่งปันกันได้นะคะเบิร์ด
ดีจัง..ที่มีคนน่ารักให้คิดถึง..^___^
แล้วมันก็ผ่านไปนะอึ่ง
ทุกข์มันมักจะมากกว่าสุขเสมอ
และมักจะมาพร้อมๆกันหลายด้าน…ข้อดีประการเดียวของความทุกข์ที่มาพร้อมๆกันคือทำให้เราเห็นช่องว่างของความทุกข์เพื่อที่จะแทรกตัวลงไปและ…อยู่ให้ได้อย่างเบิกบานเน๊อะ
แต่ละคนมีวิธีให้แรงใจตัวเองแต่ละแบบไปเนาะอุ้ย การมีกัลยาณมิตร ที่ชวนให้คิด ให้มอง และสนุกกับรสชาดของชีวิต ก็เป็นความเมตตาอีกประการหนึ่งของพระเจ้า ของธรรมชาติ
บางช่วง ชีวิตก็เหมือนมด เหมือนกว่างกิ..อิอิ เหมือนดักแด้ เหมือน….ฯลฯ คละเคล้ากันไป
เมื่อคิดได้ ก็ยิ้มได้ เนาะอุ้ย
มายิ้มหวานๆ มากอดอุ่นๆ คร้าบ
เราโชคดีเมื่อรู้ว่าเราโชคดี…ทั้งๆที่เราโชคดีมาตั้งนานแล้ว…จ๊ากกกกส์
ความคิดใหม่เกิดเมื่อมองมุึมใหม่ ค้นพบสิ่งใหม่ในสิ่งเก่า …โอย..อารายกันเนี่ย
ส่งรักทางไกลคร้าบ…ไกลตา ใกล้ใจ คร้าบ
ความรักทำให้เกิดความห่วง… ความอาทร….. ความรักทำให้เกิดความผูกพัน….. และเช่นเดียวกัน…. ความรักทำให้เกิดความสุข…… อยู่ที่ใจเราเนอะน้องอึ่งที่จะมองความทุกข์อย่างไรให้เป็นสุขที่แท้ เป็นความสุขแท้ซึ่งจะแปรเปลี่ยนไปสู่การมีแรงต่อไปในการสู้เพื่อการเรียนรู้ชีวิต….. ดูไปเหอะจะพบว่ามดก็เป็นสัตว์สังคมเนอะ….. และมันก็รู้บริบทของมันว่าเวลาที่มีความลำบากเข้ามาเยือน…..มันควรเรียนรู้และหาทางแก้อย่างไร….. มันไม่ใคร่ได้แสดงให้เราเห็นว่ามันก่นทุกข์ตรม….. มันมีแต่เดินหน้าให้เราได้เห็นความเป็นยอดนักสู้ชีวิตที่ไม่ย่อท้อ…. มองเห็นทุกเวลาของมันมีแต่การเรียนรู้และเป็นสุขกับความลำบากนั้น…… พี่ว่าชีวิตของมันไม่เคยใช้คำว่า “ต้อง” เลยมั๊ง
ฝากใจมาเป็นกำลังใจ……พร้อมฝากความห่วงใยต่อคุณแม่มาด้วยคะ…..คนแก่เฒ่าแล้ว….แรงใจก็ผ่อนลง….การยอมรับในสิ่งที่คนแก่เฒ่าใฝ่ฝันและอยากทำ…..เท่ากับช่วยให้คนแก่เฒ่ามีกำลังใจคืนมา…..คนแก่เฒ่ามักจะรู้ตัวว่า….ตัวเองนั้นยังมีคุณค่าที่จะดูแลและทำอะไรด้วยตัวเองได้บ้าง….ยอมๆซะบ้างให้ได้ทำนะน้อง…..แรงใจจะช่วยให้การป่วยไข้ฟื้นคืนมาโดยเร็วค่ะ
คิดถึงค่ะ
ขอบคุณป้าหวาน และ พี่ตานะคะ
แม่ดีขึ้นแล้วค่ะ แต่ว่า..ไม่ค่อยยอมไปหาหมอ เวลาป่วย..จะรักษาเอง(ไม่ค่อยดื้อสักเท่าไรค่า) อิอิ