ไหว้สาปารมี ๑๓๑ ปี ครูบาเจ้าศรีวิชัย

โดย dd_l เมื่อ มิถุนายน 14, 2009 เวลา 7:11 (เย็น) ในหมวดหมู่ การศึกษา, เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 5909

หลายวันก่อนได้รับหนังสือเชิญให้ไปประชุมเตรียมการงานบุญ
ในวาระครบรอบร้อยสามสิบเอ็ดปี ครูบาศรีวิชัย “ต๋นบุญ” หรือนักบุญแห่งล้านนา
ที่จะมาจัดงานที่วัดจามเทวีใกล้ๆ โรงเรียน

จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะรวมงานบุญไปกับงานสอน
ตั้งแต่ขั้นตอนของการเตรียมการ ครูจึงผสานเนื้อหาวิชาด้วยการพาเด็กมาเรียนนอกห้อง
ด้วยต้องมีอุปกรณ์ในการลงมือแต่งดาครัวทาน
พร้อมกับค้นหาประวัติและผลงานของท่านครูบามาให้เรียนรู้
ทั้งกำหนดให้เด็กค้นคว้า ศึกษาต่อเนื่องในเรื่องราวที่สอดคล้องกับหลักสูตร
เป็นการเรียนที่มีผู้แวะเวียนมาร่วมสอน ร่วมเรียนและต่างเป็นครูให้แก่กัน

งานใดใครถนัด ก็จัดทำไป สอนกันไป 
จึงได้เห็นทั้งผู้ใหญ่ เด็กร่วมกันเสาะหาข้าวของประดามีมาทำให้ต้นครัวทานดูดีและสวยงาม
พุ่มดอกไม้บูชา และครัวทานแต่งดาจากใบคา ไม้ไผ่และใช้กระดาษทองห่อหุ้ม
ตัดกิ่งไม้ใบไม้ใกล้ๆ ตัวมาเสียบแต่ง เติมด้วยดอกไม้จากขี้ผึ้ง
เท่านี้ก็ได้ต้นครัวทานสูงสง่ามาตั้งอวดอยู่หน้าอาคาร ให้คนผ่านไปมาได้ร่วมทำบุญ

 

 เมื่อถึงวันงาน ก็ทะยอยกันไปวัดตามที่ครูจัดเวลาให้
ทั้งไปชมนิทรรศการ ฟังเสวนา ทั้งหาความรู้จากคุณครูภูมิปัญญา
ที่เมตตามาจัดมุมสอนอยู่ในวัด
ได้สัมผัสกับบรรยากาศที่อวลด้วยศรัทธา 
มีเสียงสวดพระคาถาบารมีสามสิบทัศ จากเหล่าศรัทธาแต่ละวัด
ที่แว่วมาจากวิหารไม่ขาดสาย

ยามหิว กระหายก็วิ่งไปโรงทาน มีทั้งน้ำและอาหาร
ที่บรรดาลุง ป้าเจ้าศรัทธาของวัดจัดมาแจก
ได้ชม ชิมของแปลก ที่ไม่ได้เห็นในชีวิตประจำวัน
เป็นการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ วิถีชาวบ้าน และวัฒนธรรมผ่านประสบการณ์
สนุกสนานกันจนต้องบอกครูว่า..ปีหน้าเรามากันอีกนะ !!!
  

 

เสียดายที่เด็กๆ ไม่ได้อยู่ร่วมงานในตอนเย็นที่เป็นเวลาแห่ครัวทานเข้าวัด
จึงจัดเป็นกิจกรรมของบรรดาคุณครู บุคลากร ในโรงเรียนและลูกหลาน
ที่ช่วยกันแบกหามครัวทาน ตั้งขบวนพร้อมเสียงฆ้องกลองแห่แหนอย่างครึกครื้น
ชื่นบานกันทั้งคนในขบวนและคนรอดูอยู่ข้างทาง

เป็นพิธีกรรมที่งดงาม เรียบง่าย และยังมีกลิ่นอายของวิถีพื้นบ้านดั้งเดิม
ประรำพิธีทำด้วยไม้ไผ่ ใบตองตึง อยู่ข้างสนามหญ้าหน้ากู่บรรจุอัฐิของครูบาศรีวิชัย
ช่างฟ้อนวัยงาม ฟ้อนอวดฝีมือ เป็นการต้อนรับเมื่อขบวนไปถึง
และได้ทึ่งกับปฏิภาณช่างซอ ที่ขับกล่อมด้วยคมคำสำนวน
ทั้งประกาศเชิญชวนให้ผู้คนเข้าประจำที่ด้วยวิธีขับขานผ่านเพลงซอ!!

เสียงครื้นโครมจากวงฆ้องกลองนำขบวน สงบลง
เมื่อผู้คนนั่งลงพร้อมกันบนเสื่อที่ปูลาดบนหญ้านุ่ม บ้างก็นั่งรายเรียงอยู่กับพื้นหญ้า
ทั้งท่านผู้ว่าราชการ ทั้งบรรดาชาวบ้าน ล้วนเท่าเทียมในตำแหน่งนั่ง..

 หลังร่วมกันไหว้พระสวดมนต์
พิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลถึงครูบา ก็เริ่มต้นด้วยเสียงซอแว่วหวาน
ผสานด้วยเสียงขับขาน “กะโลง”
โคลงค่าวที่แต่งแต้มคำโดย อาจารย์วิลักษณ์  ศรีป่าซาง กวีล้านนา
ผู้คนมากมายนับพัน นั่งสงบเงียบ
ฟังเครื่องดนตรีพื้นเมืองเพียงชิ้นเดียวกับเสียงขับกะโลงทำนองพื้นเมือง
ท่ามกลางฟ้าโล่งกว้างและสายลมพัดเย็น ช่างให้ความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย

และได้ร่วมกันรับศีล ถวายผ้าบังสุกุล ถวายสังฆทาน
ที่พระสงฆ์ผู้เป็นองค์ดำเนินพิธีการ เชิญชวนให้ศรัทธาญาติโยมเป็นผู้ถวาย
ทั้งผู้แก่ผู้เฒ่า สาว หนุ่ม โดยไม่ได้เลือกชั้นวรรณะ

ใช้เวลาไม่นานนักก็เสร็จพิธี
ชวนกันนำน้ำมะกรูดส้มป่อยไปรดน้ำดำหัวกู่ครูบา เป็นการสูมาคารวะ

ก่อนแยกย้ายกันไปรับประทานอาหารที่โรงทานเพื่อเติมพลัง
บ้างก็ช่วยกันเก็บรวบรวมปัจจัยเงินทองจากครัวทานมาเก็บไว้ให้แก่วัด
บ้างก็แวะชมการแสดง ท่ามกลางแสงสีใต้ร่มโพธิ์ต้นใหญ่
ทั้งฟ้อนเจิง ฟ้อนเล็บ กลองสะบัดไชย ต่างวาดลวดลายเต็มที่
ด้วยมีจุดมุ่งหมายถวายการแสดงเพื่อคารวะครูบาเจ้า

 

ระหว่างเดินกลับบ้านด้วยใจปีติสุข นึกย้อนทบทวนถึงสิ่งดีที่ได้เห็น
เป็นงานบุญที่ไม่เล็กเกินไป และไม่ใหญ่จนเกินกำลัง
ทั้งไม่ใช่งานที่มุ่งหมายจะขายการท่องเที่ยว
แต่สิ่งเหนี่ยวนำใจให้ผู้คนมารวมกัน คือความศรัทธาในครูบา
การพยายามจะรักษาจารีตประเพณีดั้งเดิม
พร้อมกับเติมความรู้ด้านวัฒนธรรมและวิถีความดีแก่คนรุ่นหลัง
จึงก่อให้เกิดพลังในการสร้างงานที่ประสานความร่วมมือจากหลายฝ่าย

ไม่ได้เห็น อาการมึนเมาของผู้คน ยามแห่หามครัวทานเข้าวัด
ไม่เหมือนการจัดปอยหลวงของผู้คนสมัยนี้
ที่มักมีการฉลองยามแต่งดาครัวทาน จนเป็นงานใหญ่ให้เป็นภาระหาเงินทองมาจัดเลี้ยง
ทั้งกระหน่ำเปิดเครื่องเสียงประชันขันแข่งกันล่วงหน้า
กว่าจะถึงวันถวายครัวทาน  สติสัมปชัญญะก็พาลจะหายไปกว่าครึ่ง

การจัดงานไหว้สาครูบาเจ้าศรีวิชัยแบบเรียบง่าย
ก่อให้เกิดคุณค่า มากกว่าการโหมประโคมมหรสพ เครื่องเสียง
ซึ่งสรรพสำเนียงกึกก้องจากภายนอก
กลบเสียงความปีติจากภายในที่ควรให้ได้ยินไปเสียสิ้น
ยินดีที่ได้ร่วมงานที่มุ่งเอาแก่นของการทำบุญ มากกว่าเปลือก
ทั้งเลือกนำเสนอเรื่องราววัฒนธรรมผ่านกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม
และขอชื่นชมผู้คนที่มีส่วนร่วมสร้างงานอย่างที่เห็น
เป็นโอกาสให้เด็กๆ ได้เรียน ได้รู้ ได้อยู่ในบรรยากาศแห่งการเอื้อเฟื้อแบ่งปัน
เป็นงานวัด  งานบุญ  ที่หวังให้ได้จรรโลง ค้ำจุน วิถีแห่งความดีต่อไป
 

 

 วันนี้เอาบุญมาฝากนะคะ..

  

บันทึกจากงาน..ไหว้สาปารมี ๑๓๑ ปี ครูบาเจ้าศรีวิชัย
เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ ๑๑ มิถุนายน  ๒๕๕๒
ณ วัดจามเทวี อ.เมือง จ.ลำพูน

 

ขอขอบคุณ..

อ.พงษ์เทพ  มนัสตรง
ที่เอื้อเฟื้อเอกสารข้อมูล “กะโลง” ไหว้สา ครูบาเจ้าฯ

อ.บารเมศ  วรรณสัย
ที่เรียบเรียงเอกสาร “ครูบาศรีวิชัย  นักบุญแห่งลานนา”  ให้ได้เพิ่มพูนความรู้

ขอบคุณสภาวัฒนธรรมอำเภอเมืองลำพูนและผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน
ที่จัดงานดีๆ ให้ได้มีเรื่องมาแบ่งปันกันอ่าน

ขอบคุณผู้อ่าน..ด้วยค่ะ

« « Prev : ชวนกั๋น..อู้กำเมือง

Next : ยามย่ำค่ำ..ที่วัดเจดีย์หลวง » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

4 ความคิดเห็น

  • #1 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 มิถุนายน 2009 เวลา 7:48 (เย็น)

    ข้อมูลเพิ่มเติม น่าแปลกที่หาไม่ได้นะครับว่าเมื่อไหร่ (คงจะเป็นที่วัดจามเทวี ที่มีกู่และกุฏิครูบาเจ้าสถิตย์อยู่)

  • #2 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 มิถุนายน 2009 เวลา 7:50 (เย็น)

    สาธุด้วยความอิ่มเอิบในใจค่ะ

    งามจากความตั้งใจ ร้อยเรียงด้วยมือน้อยๆ หลากหลายมือ …ดอกผึ้งสวยมากค่ะ กลีบเรียงอ่อนช้อย และบางใสในบางที่ เห็นถึงความประณีตใส่ใจ ตั้งใจกระทำให้เพื่อไหว้สาครูบาเจ้าฯ อย่างงดงาม

    เห็นภาพมีชีวิตด้วยคำบอกเล่า นุ่มนวล และคมคาย ชอบมากค่ะ ^ ^

  • #3 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 มิถุนายน 2009 เวลา 8:43 (เย็น)

    มันเป็นความยิ่งใหญ่ในวาระที่สำคัญและในใจ
    ลูกหลาน เหลน โหลน หลอน ควรจะเรียนรู้และสำนึกถึงพระคุณแห่งนักบุญล้านนาองค์นี้
    ท่านยิ่งใหญ่ และหอมหวลทวนลมทวนกาลเวลา

  • #4 จันทรรัตน์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 มิถุนายน 2009 เวลา 9:40 (เย็น)

    อิ่มเอิมด้วยรอยบุญ

    ขอบคุณค่ะ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.2538890838623 sec
Sidebar: 0.11684894561768 sec