ขอปลูกไผ่ในหัวใจเธอได้ไหม

อ่าน: 3833

เพาะเมล็ดไผ่ 

มิตรภาพแห่งไมตรีของญาติออนไลน์เรากำลังงอกงาม และจะค่อยๆงดงามต่อๆไป ถ้าเราเอาวิถีไทยมาใช้ ถ้อยทีถ้อยอาศัยหล่อเลี้ยงน้ำใจกัน เป็นพื้นที่แห่งความสุขความหวัง ที่พอจะช่วยกันก่อเกิดพลังใจระหว่างกัน ไปเยี่ยมยามถามข่าว ส่งเรื่องราวและของฝากแบ่งปันกัน สังคมแห่งความเอื้ออาทรกำลังจะผลิบานน้อยๆแต่มั่นคง อาจจะแซวกันบ้างเพื่อความสนิทสนม ที่นี่ไม่มีเขามีแต่เรา ทุกคนเป็นตัวคูณของกันและกัน บางจังหวะได้อ่านการโต้ตอบ..แบบกอร่อกอติกก็ถือว่าเป็นอายิโน๊ะโม๊ะโต๊ะเสริมบรรยากาศ ที่เป็นเสน่ห์ของการเขียนแบบฉบับของหมู่เฮา เราไม่ได้เขียนเชิงวิชาการไม่ได้เขียนวิทยานิพนธ์ แต่เรากำลังเขียนแบบปะปนความซาบซึ้งให้กัน จึงขอขอบคุณกองเชียร์ที่คอยอ่านคอยให้กำลังใจ

เรามาให้กำลังใจกันเถิด

อ่านแล้วก็มีแก่ใจคอมเมนท์บ้าง

นึกถึงหัวอกคนอื่นบ้างก็ดีนะ

น้ำใจก็มีคนทุกคน..ควรนำไปรดไมตรีให้งอกเงย..

ถ้าเราเริ่มกระชับพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้เข้าหากัน ใครติดขัดสงสัยประเด็นไหนก็ส่งโจทย์ขึ้นมา ข้าผู้น้อยพอรู้บ้างแค่หางอึ่งก็จะปะติดปะต่อให้ฟัง ทำไมละครับ  ไม่เป็นกูรูก็เว้าวอนสู่กันฟังได้ ท่านใดมีข้อมูลเพิ่มก็ถ่างขยายให้กว้างขึ้น ละเอียดขึ้น ไม่อย่างนั้นเราจะ..เข้ามาใช้FB.ให้เสียเวลาทำไมละครับ

ผมสังเกตุว่า..ในFB.เราจับกลุ่มกันมากมาย ใครใคร่เข้าไปเป็นเพื่อนกลุ่มไหนก็สมัครใจเข้าไปตามอัธยาศัย ดูเหมือนมันจะมีเค้าโครงหลวมๆอยู่พอประมาณ กลุ่มสวนป่าก็กระดี๊กระด๊าหาบริบทของตนเอง ค่อยๆเรียนรู้ค่อยๆเติบใหญ่ จนเมื่อชัดเจนกระจ่างใจแล้ว ก็จะเกิดเป็นวัฒธรรมของกลุ่ม พัฒนาเป็นขององค์กรในลำดับต่อไป

ผมเชื่อว่ากลุ่มเรา..คงจะไม่ช้าเป็นเต่าเตาะแตะอยู่อย่างนี้หรอก

อีกหน่อยความสามารถในตัวท่านทั้งหลาย

ก็จะช่วยกันติดเทอร์โบให้เต่าตัวนี้

วิธีที่ดีและง่ายที่สุดก็คือสร้างนิสัยคอมเมนท์ให้กันและกัน
สิ่งนี้เป็นตัวชี้วัดว่า..ท่านสนใจจะเป็นผู้เรียนแล้วหรือยัง

ไม่ต้องคอมเมนท์แบบเอาเป็นเอาตายอะไรหรอกนะครับ

มาอิๆเอ๊ะๆกันบ้างก็นับว่าได้หล่อเลี้ยงน้ำใจให้กันแล้ว..

ช่วยกันสร้างวัฒนธรรมการคอมเมนท์กันหน่อยได้ไหมคนสวย

ไผ่หม่าจู

เพื่อขยายความที่เยิ่นเย้อข้างบน  วันนี้จะเขียนข่าวเล่าแจ้ง“เรื่องไผ่” ด้วยมีคนสวยสนใจอากจะให้เขียนเรื่องนี้ เมื่อคนดีต้องการ เราก็บริการให้กันสิครับ การที่มีผู้ข้อร้อง ผู้ตั้งโจทย์ให้ เป็นจุดเริ่มที่สำคัญ ดีกว่าการเขียนเปะปะตามอำเภอใจ แสดงว่า..รูปรอยของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เริ่มเข้าสู่บทที่1แล้ว..จึงขอนำเสนอเรื่องตามที่มีการร้องขอ ณ บัดนี้..

วันนี้จะเล่าเรื่องไผ่ฉบับย่อตามบริบทที่สวนป่าได้ถูลู่ถูกังมา

..กล่าวนามตามท้องเรื่อง..นับตั้งแต่บรรพบุรุษได้มาหักร้างถางพงจับจองพื้นที่ตรงนี้ หลังจากเคลียพื้นที่ป่าให้เป็นพื้นที่กสิกรรมแล้ว สิ่งแรกที่ลงมือก็ทำลงมือปลูกก็คือปัจจัยที่จำเป็นเบื้องต้น ..สร้างกระต๊อบขึ้นมาพำนัก สร้างคอกควาย ตัวพลังงานหลักในขณะนั้น ปลูกพืชอาหารที่จำเป็น เช่น มะกรูด มะนาว ตะไคร้ ข่า พริก มะเขือ แมงลัก กระเพรา กล้วย อ้อย หลังจากนั้น มะพร่้าว มะม่วง ขนุน น้อยหน่าก็ตามมา พร้อมกับหน่อไผ่มาลงไว้ที่มุมสวน เป็นไผ่พันธุ์มีหนามลำใหญ่ที่ครัวเรือนไทยอีสานปลูกกันทั่วไป เพื่ออาศัยคุณสมบัติของไม้ชนิดนี้ได้สารพัดประโยชน์ จักสานก็ได้ ใช้ทั้งลำมาเป็นเค้าโครงกระต๊อบก็ดี หน่อยังแกงป่าเด็ดสะระตี่นัก

ควรนึกด้วยว่าในป่าสมัยนั้นไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆเลย

เกษตรกรต้องคิดพึ่งพาตัวเอง100%

ไม่มีเพื่อนบ้าน อยู่เดี่ยวโดดกลางป่า

เกิดอะไรขึ้นมา  ต้องการอะไร

มีวิธีเดียว ให้ถามตัวเอง

แสดงว่าในอดีตเราทำเรื่องความพอเพียงอย่างถึงพริกถึงขิงมาแล้วละครับ

 

ไผ่กิมซุง

ไผ่เป็นตัวเลือกลำดับต้นๆที่ควรลงไว้ ต่อมาบ้านเมืองเจริญขึ้น นักส่งเสริมการเกษตร พ่อค้าพันธุ์ไม้ ผู้สนใจเรื่องพันธุ์ไม้ ได้นำไผ่สายพันธุ์ดีเข้ามาขยายในประเทศเรา เมื่อ50ปีที่แล้ว ชาวบ้านฮือฮากันมากกับไผ่ตงจากเมืองจีน จะไม่ตาโตยังไงละเธอ แต่ละหน่อโตเท่าโคนขา ออกหน่อครึดรอบกอไปหมด เอามาต้มใส่กระดูกสุกรก็หวานฉ่ำ เอาไปผัดเอาไปใส่ห่อหมกอร่อยเหาะ เรียกว่าเอามาทำอาหารจะโดนใจกว่าหน่อไผ่รวกหน่อเล็กๆของเราว่างั้นเถอะ

ยังไม่จบแค่นี้หรอกเธอ

ไผ่พันธุ์ดีๆแปลกๆจากทั่วโลกทยอยเข้ามาสู่แผ่นดินไทยไม่น้อยหน้าพันธุ์ไม้อื่นๆ

ผมในฐานะเกษตรกรที่ปลูกสร้างสวนป่า รับรางวัลจากในหลวงด้วยนะเธอ ผมจึงสนใจพันธุ์ไม้แปลกๆทุกชนิด สนใจซื้อหามาทดลองปลูกหลายหลาก ปลูกแล้วก็รอชื่นชม สมัยเมื่อ30กว่าปีที่ผมมาปักหลักปลูกป่า ผมก็ได้พันธุ์ไผ่บงจากศูนย์เพาะชำกล้าไม้มาปลูกเป็นแนวรั้ว ปัจจุบันเป็นทิวไผ่ให้ใช้ประโยชน์ได้ไม่อั้น ถัดมา20ปี ไผ่บงหวานมีผู้นำมาจากจังหวัดเลยมาเสนอขายหน่อละ30บาท ผมสั่งมาปลูก30หน่อ ไผ่บงหวานก็ขึ้นรอบๆบ้าน ให้อาศัยร่มเงาอาศัยลำต้นและอาศัยหน่อ จุดพิเศษของไผ่บงหวานก็คือ หักเปาะออกมาปอกเปลือกออกเคี้ยวกินสดๆได้เลย ไม่มีรสขื่นแม้แต่นิดเดียว  นับว่าอัศจรรย์ไม่เบาในสมัยนั้น จะเอาไปต้ม/ไปผัด/ไปยำ/กรอบอร่อยไปหมด

ไผ่หม่าจู

ถัดมาอีก10ปี มีไผ่แปลกๆใหม่ๆที่หน่วยราชการส่งเสริม เช่น ไผ่หม่าจู หม่าจูเป็นไผ่ที่มีหน่ออร่อยมาก ที่เราเห็นตุ๋นไผ่ในร้านข้าวต้มในภัตตาคารล้วนเป็นหน่อไผ่ชนิดนี้ โครงการหลวงขายหน่อสดก.ก.ละ60บาท ขายลำต้นราคาลำเล็ก-ใหญ่ตามขนาด ราคาตั้งแต่100-400บาท/ลำ ส่วนหน่อกิ่งตอนราคาอยู่ที่ 150-200 บาท เป็นไผ่ที่มีลำเปลาตรง ไม่มีกิ่งก้านเกะกะเหมือนไผ่อื่น มีความแข็งแรงทนทาน นำไปทำเฟอร์นิเจอร์ได้ดี

 

ไผ่บงหวานเมืองเลย

3 ปีต่อมามีไผ่เข้ามาเขย่าวงการอีกชนิดหนึ่ง เป็นไผ่ที่ปลูกกินหน่อ ถ้าใส่ปุ๋ยรดน้ำจะออกหน่อรอบโคนทั้งปี ไผ่ชนิดนี้โดนใจคนอีสานเข้าเต็มๆ พวกชอบกินซุปไผ่ชอบใจมาก บางคนถึงกับเอามาตั้งชื่อใหม่ว่า  “ไผ่แม่ลูกดก” ชื่อเป็นทางการคือ “ไผ่กิมซุง” คุณคอนฯซื้อมาฝาก5หน่อ ปลูกรอด4หน่อ ตอนออกมาใหม่ๆราคากิ่งพันธุ์ละ 250-500 บาท ตอนนี้เป็นแตกกอใหญ่ยืนต้นถาวรแล้ว

ปีที่แล้วทดลองขยายพันธุ์ตามสไตล์ของผม

ให้ลูกน้องไปตัดลำต้นกลางแก่กลางอ่อนมาเป็นท่อนๆยาว 2 เมตร

เอาสว่านเจาะหลุม ใส่ปุ๋ย แล้วหย่อยท่อนพันธุ์ลงปลูก

เดินท่อน้ำหยดช่วยรดใน 2 เดือนแรก หรือยามฝนทิ้งช่วงบ้าง

ผ่านไป1ปี ไผ่20หลุมเหลือรอดมาเติบใหญ่18 หลุม

วิธีนี้ง่ายจริงๆ..แต่เหมาะกับการขยายพันธุ์ในพื้นที่ (ตัดปุ๊บปลูกปั๊บ)

ต่อๆมาผมก็ยังปลูกไผ่พันธุ์ใหม่ๆ ไผ่เหลือง ไผ่ซางนวล ไผ่บงเขียวปราจีน ไผ่บงพันธุ์ศรีสะเกษ ผมยังรักษาพันธุ์ไผ่ป่าไว้ด้วยนะ.. เธอเอ๋ยมันมีหนามยุบยับไปทั้งกอ หนามแหลมคมซะด้วย สมัยก่อนเขาปลูกล้อมบ้าน ปลูกเป็นรั้วล้อมคอกวัวควาย โจรขะโมยเห็นหนามไผ่มิดชิดถึงกับหมดปัญญาบุกมาย่องเบา

ใครจะบ้าไปถางหนามไผ่หนาหลายเมตรบุกเข้ามาละครับ

ปีที่แล้วขาใหญ่ชวนไปเมืองจีน ไปดูเรื่องการปลูกไผ่ เพราะมีโครงการจะปลูกไผ่ขนานใหญ่ในประเทศไทยและประเทศลาว ก่อนปลูกก็พากันไปหาความรู้ ผมพาขาใหญ่ไปหาครูอึ่งที่ลำพูน ไปคุยกับนักอุตสาหกรรมไผ่มือหนึ่งของเอเซีย ที่ค้นคิดเทคนิคการแปรรูปไผ่ได้ดี ผลิตไม้ไผ่แผ่นแปรรูปส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลก ในระยะใกล้เคียงกัน กรมป่าไม้จัดประชุมวิชาการประจำปี กรมฯเชิญไปบรรยายเรื่องการปลูกสวนป่า ได้โอกาสสอบถามนักวิชาการในกรมป่าไม้เรื่องไผ่เพิ่มเติม เขาแนะนำให้ไปดูงานที่ประเทศจีนชื่อ”แบมบูซิตี้” ซึ่งเป็นเมืองที่รวบรวมเรื่องไผ่ไว้ครบวงจรแห่งหนึ่งของโลก

ผมสงสัยมานานแล้ว..เวลาดูหนังกำลังภายใน

ผู้กำกับออกแบบคิวบู๊ให้พระเอกโผร่างละลิ่วฟันฉั๊วะฉะที่ยอดไผ่

นึกชมในใจว่าเกษตรกรจีนนี่นายแน่มาก

มีฝีมือในการปลูกไผ่ไม่ให้แน่นกอแผ่ขยายเป็นลำๆเหมือนต้นไม้ทั่วไป

พอไปเห็นกับตา อีโธ่อีถังเอ๋ย..มันเป็นไผ่พันธุ์ที่ขึ้นเป็นต้นๆไม่ได้ขึ้นเป็นกอ

ผมก็เพิ่งเคยรู้เคยเห็น โง่เป็นบ้าเลยละครับ

ที่เมืองจีนมันขึ้นเองตามภูเขา..จีนตัดเอามาทำนั่งร้าน ฯลฯ

กลับจากจีนก็กว้านซื้อพันธุ์ไผ่ซางนวลที่เมืองลับแล ได้พันธุ์ไผ่ไปหลายหมื่นกิ่ง ส่งไปปลูกที่เลยและข้ามไปปลูกที่ลาว บังเอิญช่วงที่ส่งพันธุ์ไผ่ข้ามโขง ตรงกับช่วงที่น้ำท่วมใหญ่บางกอก ที่ลาวเองก็ท่วมท้นเช่นกัน กระแสน้ำในลำโขงเชี่ยวกราก พัดเอาเรือขนกิ่งไผ่จมไปลำหนึ่ง พันธุ์ไผ่ถูกส่งไปปลูกในเมืองบาดาลเสียแล้ว เจ๊งไปหลายหมื่นกับลำที่จม ภายในเดือนหน้ากำลังหาเวลาว่างไปติดตามดูไผ่เสียหน่อย แทนที่จะนั่งฟังเพลงลูกทุ่งของไผ่ พงศธร เฉยๆ

ปีนี้ไผ่บงหวานเมืองเลยกอหน้าบ้านตายขุยก่อนตายไผ่ก็จะออกเมล็ดมาสืบทอดสายพันธุ์ เมล็ดไผ่เล็กๆคล้ายกับเมล็ดหญ้า สมัยก่อนตอนเจอภัยแล้งรุนแรงผู้คนอดอยาก ชาวบ้านป่าก็จะไปรวมรวมเมล็ดไผ่มาตำจะได้เหมือนเมล็ดข้าวเล็กๆ..เอามาหุงต้มผสมกับมันป่า แต่สมัยนี้ไม่ต้องแล้ว..ยามไผ่ออกเมล็ด..นกตัวเล็กๆจะยกโขยงมาปาร์ตี้เมล็ดไผ่จ๊อกแจ๊กทั้งวัน

เมล็ดไผ่หล่นเกลื่อนพื้น

ผมเอาน้ำรดไว้ ไม่นานนักหน่อไผ่เล็กๆก็งอก

เราก็ไปถอนมาชำในถาดเพาะชำ

อายุได้ 3 เดือนก็นำไปปลูกได้

ข้อดีก็คือจะได้นับอายุเลข1ของไผ่ชนิดนี้

 

: หมายเหตุ 

  • 1. ถ้าศึกษาจะรู้ว่าไผ่แต่ละชนิดอายุไม่เท่ากัน50-100ปี ถึงเวลาก็ตายพร้อมกัน
  • 2. ถ้าสนใจเรื่องไผ่เวลามาที่สวนป่า ก็อี๋อ๋อชวนเสวนาหาความรู้เพิ่มเติมได้
  • 3. ถ้าสนใจจะเพาะเมล็ดไผ่ มาช่วงนี้แหละได้เรียนปฏิบัติแน่ๆ
  • 4. ถ้าอยากจะชิมไผ่ ต้มไผ่ ผัดไผ่ แกงไผ่ ทำซุปหน่อไม้ ก็มาช่วงนี้แหละ
  • 5. ถ้าอยากรู้ว่าไม่แก่ดัดยากไม้อ่อนดัดง่าย ก็ลองมาดัดดู
  • 6. ถ้าจะนอนนวดเตียงไม้ไผ่นั่งในกระต๊อบไม้ไผ่ได้เลย หมอนวดให้นวดกันเอง
  • 7. ถ้าจะตามดู เรื่องดินขุยไผ่ หนอนรถด่วน เรียนการขยายพันธุ์มาได้เลย
  • 8. ถ้าจะอ่านอย่างเดียวไม่คอมเมนท์ นี่น่าโดนไม้เรียวไม้ไผ่

          แคว๊กๆ


ศึกดวลตะหลิวทอง

อ่าน: 1727

พี่น้องครับ  ศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก..ก็พี่แต๋วของเรานะสิครับ ชวนพรรคพวกจะบุกสวนป่าปลายเดือนนี้ พี่เขาก็ธรรมดาที่ไหนเล่า ในรัศมี50ตารางกิโลเมตรนี่ลุยไปชิมอาหารร้านดังๆมาหมดแล้ว ไม่เชื่อก็ลองชวนคุยเรื่องนี้ดูเถิด ทุกซอกทุกซอยร้านไหนฝีมือเป็นยังไง พี่เขาไปชิมยิ่งกว่าแฟนพันธุ์แท้

ไม่ได้บอกแค่ว่า “อร่อยหรือไม่อร่อย”

แต่รู้ทะลุก้นครัวไปจนกระทั้งบอกได้ว่า

“อร่อยเพราะอะไร”

ไอ้ตรงนี้ละสำคัญ..ที่บ่งบอกว่า..เชลชวนชิมเรียกเจ๊ได้อย่างเต็มปากเต็มคำ

ผมเคยได้ฟังกับหูตัวเองมาแล้ว

ระหว่างเซียนเจี๊ยะขาใหญ่ กับ พี่แต๋วคนสวยของชาวFB.

อึ้งกิมกี่ตาค้างลิ้นไก่แห้งเลยละครับ

หลังจากพบปะกันครั้งนั้น..พี่แต๋วก็มุ่งมาดปราถนาจะบุกมาสวนป่าให้ได้ ทำการบ้านมาตลอด ถ้าเราสังเกตุจะเห็นว่าพี่แต๋วขู่ผมอยู่เรื่อย ..จะบุกเต็มที่ กระโดดกอดบ้างละ ปลุกระดมสมาชิกของพี่เขาอยู่เรื่อยๆ ทำเอาผมหวาดหวั่นมิใช่น้อย ต้องเร่งทำการบ้านบ้างเหมือนกัน เพราะโปรแกรมทองของนักชิมระดับภาคพื้นเอเซียมา ถ้าตั้งรับไม่ดีมีหวังตกม้าตาย

กิจกรรมสัมพันธ์หนึ่งที่ออกแบบไว้

ก็คือการดวลทำอาหารระหว่างทีมเมืองกรุง กับ ทีมลูกทุ่ง

ฝ่ายพี่แต๋วก็ทำอาหารตามถนัดมื้อละ 2 อย่าง

ฝ่ายครัวบ้านป่าก์ก็จะทำอาหารพื้นถิ่นมื้อละ 2 อย่าง

ตั้งชุดครัวแยกอยู่คนละฝั่งของป่าไผ่ จ้องหน้ากัน แอบดูกันได้ อิ อิ..

จัดโต๊ะอาหารไว้ตรงกลาง แล้วรับประทานอาหารร่วมกัน แลกเปลี่ยนความรู้กัน แบบจะๆ ต่อหน้ากะทะและกาละมัง เอาตะหลิวเป็นพะยาน ส่วนกรรมการผมจะเชิญขาใหญ่เพื่อนผมมาด้วย ตะกี้คุยกันแล้ว..ยังโต๋เต๋อยู่เมืองจีน ยืนยันว่าจะกลับมาทันแน่นอน อยากจะเชิญอ.แป๋วกับป้าหวานมาเป็นกรรมการด้วย ไม่ทราบว่าจะมาได้หรือเปล่า ให้รอกอดส์เป็นผู้คุมระฆังเวลา และทำการบันทึกคลิปวีดีโอไว้ทุกระยะ เพื่อส่งขึ้นFB.ให้แควนๆได้ชม ส่วนเจ้าแห้วกันเอาไว้เป็นลูกมือผม ไม่งั้นจะออกไปเต้นเชียร์จนป่าแตก

เพื่อความไม่ประมาท วันนี้ผมลองซ้อมทำแกงบ้านๆป่าๆพื้นถิ่น กว่าจะถึงวันดวลกันผมคงซ้อมไว้ได้หลายเมนู วันนี้ทำแกงอ่อมประยุกต์ ไม่ใส่เนื้อนะครับ อาจจะมีปลาป่นที่ติดมากับพริกแกงบ้าง ชูรสด้วยผักประจำถิ่นใส่ แมงลัก ชะอม ใบมะกรูด และน้ำสลัดโฉมยงที่มีรสขามเปียก ความหวานมีในผักสดๆอยู่แล้ว ยังได้จากมะเขือเทศและต้นหอม เรื่องต้นหอมกับแกงอ่อมอีสานนี่ยังกะกิ่งทองใบหยก จึงไม่ใส่หัวหอมหรือหอมหัวใหญ่ เพราะจะหวานเกินไป

ความกลมกล่อมที่ภาษาอีสานเรียกว่า “อำลำ” นั้น ผมใช้ยอดชะอม ยอดมะระขี้นก และยอดอ่อนยอ แม่ครัวหัวป่าบางแห่งจะตำข้าวสารใส่เพื่อให้แกงข้น ภาษาพื้นถิ่นบอกว่า “ให้มันนัว” บางถิ่นก็ใส่ข้าวคั่ว แต่เมื่อเราแกงไม่ใส่เนื้อ ผมจึงใส่เผือกแทน เผือกยักษ์ที่ใส่มีคุณสมบัติพิเศษ ต้มกับผักแล้วจะเปื่อยยุ้ยแทนข้าวสารตำได้ดี อาหารอีสานยังนิยมใส่น้ำปลาร้า บ้างก็ใส่ปลาทูเค็ม ปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็นปลาเค็ม แต่ผมเห็นว่าแค่นี้ก็อร่อยจนสะอื้นแล้ว จึงตัดของเค็มๆออกไป

ผมเป็นเศรษฐีผักตามที่อาจารย์สมบูรณ์ตั้งให้

จะแกงแต่ละหม้อมีผักให้เลือกไม่หวาดไม่ไหว

แต่แกงหม้อนี้จะเน้นผักพื้นถิ่นเป็นหลัก

เท่าที่เลือกมาวันนี้มี มะเขือพวง หน่อไม้ ยอดตำลึง ยอดมะกล่ำ ยอดมะรุม ยอดผักปลัง ยอดน้ำเต้า ดอกชมจันทร์ ผักอ่อมแซบ ยอดกระดุมเงิน ก้านตูน ใส่ฟักทองอ่อน ส่วนผลน้ำเต้าอ่อนยกยอดไปทำเมนูอื่น รสแซบแบบอีสานต้องเผ็ดนิดๆ ผมใช้พริกอ่อน ถ้าพริกแก่จะเผ็ดและไม่หอมเท่าพริกอ่อน ถ้าจะใส่พริกไทยสดกับดีปลีน่าจะเหมาะกับแกงใส่เนื้อแบบแกงป่า

เดี๋ยวเผ็ดมากไป..คนกรุงจะน้ำตาร่วง

ใช้น้ำปลาแทนซ็อสนะครับไม่งั้นรสจะเพี้ยนเกินไป

ถามว่า..ผักชูรสใส่หลากหลายด้วยกันอย่างนี้ ..กลิ่นมันจะไม่เตะกันรึ

ก็แหม..ตอนนี้เราซ้อมใหญ่ลับฝีมือ..เดี๋ยวก็รู้

ปกติแม่ครัวหัวป่าส์ เขาจะรู้คุณสมบัติของผักแต่ละชนิดอยู่แล้ว สุกช้าสุกเร็ว กลิ่นกลางๆหรือกลิ่นเข้มข้น คุณสมบัติออก-รสหวาน-เผ็ด-ขมหน่อยๆ เราต้องรู้น้ำหนัก ใส่มากใส่น้อย ใส่หน้าใส่หลัง แม้แต่น้ำปลา หรือผักชูรสก็มีกำหนดระยะใส่ ไม่งั้นความหอมหายหมด ถ้าไม่รู้รายละเอียดพวกนี้ เสน่ห์ปลายจวักจะเกิดขึ้นได้อย่างไรละครับ

ส่วนคุณค่าทางด้านโภชนาการนั้นไม่ต้องห่วง

คุณหมอสารภีเขียนไว้ผักสดๆไทยๆนี่แหละดีที่สุดในโลก

ไม่มีบ้านไหนเมืองไหมมีผักสารพัดประโยชน์มากเท่ากับบ้านเรา

ถ้าเปลี่ยนแนวคิดมากินผักแทนยา

เราก็จะรู้ว่ากินผักอร่อยกว่ากินยามากมายนัก ใช่ไหมละเธอ

 

ไหนๆที่รักจะมากะตู้วู้กันแล้ว แม่หวีจะทำเมี่ยงคำ ตำน้ำพริกกุ้งให้ชิม มื้อเช้าจะเลี้ยงข้าวต้มมะลิแดงกับขนมครก ชวนแคะขนมครกท่ามกลางแดดอุ่น ใครจะชิมต้องเอายิ้มแลก ชา กาแฟ เลือกได้ ผมจะอาสาอบไก่ อบหมู กับเตาดาโกต้า มีน้ำมะสังใส่น้ำแข็งแถมตอนบ่าย ของหวานนอกจากผลไม้แล้ว จะชวนทำมะตูมไข่หวาน

รายการพี่แต๋วถล่มสวนป่าครั้งนี้ ถ้ามีจำนวนสมาชิกสัก 10 คนกำลังดี ถ้าลูกทีมยังไม่ครบก็ประกาศชี้ชวนสิครับ พี่เล็ก หนูจู หนูกุลฯ ถ้าว่างก็ลองพิจารณาดู เพราะจากนี้ไปสวนป่าก็จะยุ่งๆๆและยุ่งกับการดูงานของคณะต่างๆ และมีงานก่อสร้างติดต่อกัน ไม่สะดวกจัดรายการประชันตะหลิวอย่างนี้ได้อีก ประกอบกับยังมีคิวตะเร๊ดแต๊ดแต๋ค้างอยู่อีก2-3รายการ ถึงเป็นฤๅษี..บางทีก็ต้องออกไปช่วยสุดสาคร..

อ้อ..พี่แต๋วไม่ต้องเตรียมชุดโยคะมาหรอกนะ

ไปเลี้ยงแพะ เลี้ยงนกกระจอกเทศ ปลูกผัก ก็เอวอ่อนเอวหวานแล้ว

ผมเผยไต๋ให้ฟังบางส่วนแล้ว

แต่จุดเด็ดขืนบอก..เกรงว่าต่อมพี่แต๋วจะแตกเสียก่อน นะสิ

จึงเรียนมาด้วยความเคารพรักสม่ำเสมอ ชิมิ ชิมิ  ..

 

 

 


ไม่ใช่แฟนทำแทนได้ แต่ไม่ดีพอ

อ่าน: 1778

(รับอาสาสมัครขุดดิน 100 คน )

 

เมื่อวานเป็นบ้าอะไรไม่รู้ โพสต์ไป4เรื่อง ไม่ทราบว่าอ่านกันตาแฉะ หรือว่าเล่นน้ำจนแฉะ ไม่มีอะไรแปลกหรอกนะครับ มีเรื่องมาก ก็เขียนมาก ก็เท่านั้น ผมมีหน้าที่เขียน ท่านมีหน้าที่คอมเมนท์ แต่ส่วนใหญ่จะคอมเมนท์ในใจ ก็ไม่ว่ากัน จูงใจได้ แต่บังคับใจไม่ได้ อิสระเสรีเป็นสิ่งที่ต้องเคารพกัน ที่เผลอย้ำเรื่องนี้มากไปหน่อย คงเป็นไปตามประสาคนแก่ อย่าถือสาเลย .. 

ช่วงนี้ฝนตก ดินชุ่ม น่าขุดดินปลูกๆๆ..เรื่องที่จะเพาะปลูกก็มีมากทำไม่ทัน ที่น่าสังวรณ์ก็คือสังขารเราไม่เอื้ออำนวยให้ทำงานหนัก ขืนฝืนทำตามใจเกินกำลัง ก็ไม่คุ้มค่ายาเสียเวลาไปหาหมอ ได้แต่เจ็บใจ..ทำไมอีตอนเราแข็งแรง ทำไมเราไม่ทำงานให้มากกว่านี้ เราเอาเวลาไปเอ้อระเหยจนเกินควร มาถึงวันนี้ต้องอาศัยแรงคนอื่นช่วยทำ ซึ่งยังไงๆมันก็ไม่เหมือนที่เราได้ลงแรงเอง ยืดเส้นยืดสายเอง เหงื่อตกแล้วมันภูมิใจนะ ร่างกายก็ได้ประโยชน์ไปพร้อมๆกับผลลัพธ์ที่ออกมา

เรียกว่าได้ ทั้งภายนอก ภายใน

สถานการณ์ปัจจุบัน มันเสมือนเพลงๆหนึ่ง

ไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้

ถ้ารอให้หมดแรง จะทำภาระกิจอะไรก็ยาก

ตอนนี้ยังดีเฉพาะที่แรงใจ ยังไวไฟ ซู่ซ่าส์ ส่วนแรงกายปล่อยปะละเลยมานาน จนสังขารเผชิญกับโรคภัยไข้เจ็บอยู่เนื่องๆ ตอนที่ร่างกายยังหนุ่มแน่นเราก็ประมาท ไม่รับผิดชอบตัวเอง ไม่รักตัวเอง จนท้องโย้ กว่าจะหาวิธีผ่าแตงโมออกมาได้แทบตาย ผ่าแตงแล้วกว่าจะมาพักฟื้นเรียกคืนพละกำลังให้กลับคืนมาอีกมันไม่ง่าย ไม่เหมือนอยู่ในช่วงวัยหนุ่มสาวที่ร่างกายฟื้นฟูตัวเองอย่างมีประสิทธิภาพ ถึงจะรู้ว่ามันเป็นธรรมดาของโลก คนเราจะอยู่ในภาวะเสื่อมตลอดเวลา แต่มากระโตกกระต๊ากช่วงที่สังขารชำรุดนี่มันยุ่งยากนะน้อง จึงฝากไว้ว่า

เมื่อยังอยู่ในวัยแสวงหา ก็ขอให้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์กันหน่อย

ช่วยนำพาตัวเองเข้าสู่สนามเรียนรู้อย่างสง่าผ่าเผย

ตั้งอกตั้งใจเก็บเกี่ยวความรู้มากๆ ทำงานให้มาก เที่ยวให้น้อยลง

เอาไว้มาเที่ยวตอนโรยราจะดีกว่า

เพราะการท่องเที่ยวพักผ่อนเหมาะกับวัยบ่ายคล้อย

เราจึงควรบริหารเวลาให้ดี

ช่วงวัยไหนควรจะลุย วัยไหนควรจะถอย

ใช้ร่างกายผิดจังหวะ สุดท้ายก็จะเหมือนรถยนต์วิ่งไม่เต็มลูกสูบ

แล้วก็มานั่งโอดครวญ..ซึ่งไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว

 

ใช้เวลาสัก5 นาที ถามตัวเองว่า

  • มีเรื่องอะไรบ้างที่คั่งค้างไม่ได้ทำ
  • มีเรื่องอะไรบ้างที่อยากทำแล้วยังไม่ได้ทำ
  • มีเหตุผลอะไรที่เหนี่ยวรั้งให้ยังไม่ทำ
  • ขาดปัจจัยอะไรบ้างที่ยังไม่พร้อม
  • ต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้างถึงจะได้ลงมือทำ
  • แรงใจเป็นยังไง แรงกายเป็นยังไง

จากการสังเกตตัวเอง  พบว่า ..แรงใจ สำคัญที่สุด ถ้าเรามีใจอยากจะทำ มันจะเกิดความพยายามอย่างแรงกล้า จะไม่มองหาอุปสรรค แต่พร้อมที่จะฝ่าหรือลุย แต่ถ้าแรงใจอ่อน เราจะคิดถึงข้ออ้างต่างๆนานา

เปรียบเหมือนความคิดของคนอกหัก

มันจะระทดระท้อไปหมด

ตรงกับข้ามกับคนที่กำลังจะพบรัก

แหม  กระดี๊กระด๊าจนน่าถี-

เขียนรอให้ฟ้าเปิด จะได้เดินออกไปเฉิดโฉม

บัดนี้ฟ้าแจ้งจ่างป่างแล้ว

จึงขอเวลาออกจากหน้าจอก่อนนะน้อง

พบกันใหม่..จะเก็บเอาความคิดถึงมาฝากเธอทุกคนๆ

บ๋าย บายยย..

 

 


สงกรานต์กับครู

อ่าน: 1816

วันนี้กระต๊อบน้อยรับแขกทั้งวัน 3-4คณะได้

ด่วนสายตรงที่โทรมาค่อนข้างตะกุกตะกั๊ก..เพราะรับแขกนะเธอ

เมื่อวานนี้เล่นสงกรานต์กับนางเมฆขลาและรามสูรย์เปียกมะล๊อกมะแล๊กไปตามฟอร์ม วันนี้ฟ้าใสตั้งแต่เช้า พอเข้าบ่ายทำท่าครึ้มอกครึ้มใจอีกแล้ว ถ้าจะมาแถมอีกก็ขอเป็นช่วงกลางคืนเถิดนะพระพิรุณ ขอให้มดปลวกตั้งหลักกันบ้าง ฝนที่เทมาทำให้บ้านปลวกแมลงชำรุดไปพอควร ส่วน-กบขียด-คางคก-ร่าเริงระรื่น แมลงเม่าก็รอจังหวะเล่นออกมารำวงเล่นไฟยามค่ำคืน

ฝนมาแต่ละครั้งนำความเปลี่ยนแปลงให้แก่สรรพสิ่งทั้งปวง

น้ำฝนมีคุณค่าเหมือนน้ำใจ

หล่นลงตรงไหนมีแต่ความดีงาม

นึกถึงข้อมูลที่คุณหมอสารภีนำเสนอเกี่ยวกับคุณค่าของผักชนิดต่างๆ อ่านแล้วได้ความรู้และประทับใจมากๆ ทำให้เรารู้ว่าผักแต่ละชนิดในบ้านเรา มีคุณค่าทางเภสัชอย่างเอกอุ เพียงแต่คนไทยเราไม่ใส่ใจเท่าที่ควร บ้างก็ไปหลงละเมอเมนูและผักต่างด้าวจนลืมของดีใกล้ตัว ลองเข้าไปอ่านดูละครับ อ่านแล้วท่านจะรักผักไทยๆอย่างไม่รู้ตัว แต่ละตัวมีสารอาหารมากมาย ถ้าเรารับประทานผักปลอดสารพิษทุกวัน ก็เหมือนการเติมภูมิต้านทานให้กับตัวเองทุกวัน

ถ้าเราเห็นความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องใด

เราก็จะใส่ใจกับเรื่องนั้นๆได้ดี

  1. ทำความเข้าใจเกี่ยวกับคุณประโยชน์ของผักจากบล็อกคุณหมอสารภีและที่อื่นๆ
  2. ทดลองปลูกผักดูบาง
  3. ให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อผัก
  4. ทดลองประกอบอาหารรับประทานในครอบครัวบ่อยขึ้น
  5. วางแผนระยะยาวเรื่องการบริโภคผักในครัวเรือน
  6. ทำการศึกษาวิจัยเพิ่มเติม
  7. ออกทัศนศึกษาดูงานในจุดที่ท่านสนใจ
  8. ถามตัวเองว่า..พร้อมที่จะทำเรื่องนี้แล้วหรือยัง
  9. ถ้าสงสัย  กลับไปอ่านข้อ1-8

ผมมีเครือข่ายครูในพื้นที่มานมนาน เรียกตัวเองว่า “กลุ่ม3ก้อนเส้า”

ครูกลุ่มนี้มีแนวคิดเรื่องการศึกษาที่น่าสนใจ

กล้าคิด กล้าทำ กล้าเสนอแนะ และถ้าเบี้ยว ที่จะไม่ทำตามกระแสบ้าๆบอๆ

ด้วยพฤติกรรมเยี่ยงนี้จึงถูกผู้บังคับบัญชาบ้องตื้นหมั่นใส้

แต่..ด้วยความที่เป็นคนที่มีเจตนาดีต่อหน้าที่และรับผิดชอบลูกศิษย์

จึงพอประคับประคองตัวอยู่ในระบบได้ตามควรแก่อัตภาพ

พูดไปแล้ว..พวกเขตพื้นที่ ผู้บริหารก็ได้อาศัยผลงานของครูกลุ่มนี้แหละแก้ผ้าเอาหน้ารอดเนื่องๆ

 

ทุกปี วันสงกรานต์เขาก็จะนัดกันมาเยี่ยมยามผม และก็ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะบอกให้ผมรู้ตัวล่วงหน้า จึงไม่ทราบว่าจะจัดเลี้ยงข้าวเลี้ยงน้ำได้อย่างไร มาถึงเขาก็จะจัดที่จัดทาง เสริ์ฟน้ำ จัดพิธีการรดน้ำ แจกของฝากของขวัญ ถ่ายภาพ ผมมีหน้าที่ให้พร แล้วก็คุยสารทุกข์สุกดิบกัน นานๆได้พบกัน..จึงได้ฟังเรื่องดีๆของแต่ละคน ซึ่งเป็นความรู้ใหม่ ผมได้เรียนรู้เรื่องใหม่ๆจากคุณครูกลุ่มนี้

ยกสุดท้าย..เขาจะบอกว่า..

ให้ครูบาเล่าเรื่องอะไรก็ได้สรุปท้ายให้ฟัง

แหม..เรื่องเล่ามีปะเลอะ

ให้ไปตามอ่านในลานปัญญาและFB.

แล้วก็อย่าลืมคอมเมนท์ด้วยละ

ไม่อย่างนั้น..เขาจะเป็นครูที่หัวไวใจสู้ได้อย่างไร?

ถ้าไม่ต่อแต้มความรู้กับคนอื่นๆ

จะ..เปิดห้องเรียนสู่โลกกว้าง ให้ทุกอย่างเป็นครูได้อย่างไร

ถ้าครู ไม่เปิดตา เปิดใจ เปิดโน๊ทบุกส์ กระโจนเข้าสนามความรู้อย่างชาญฉลาด

ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่ครูทำไม่ได้ ถ้าครูอยากจะทำ


ครูพันธุ์ใหม่

อ่าน: 2394

ต้นไม้ป่าไม้ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากใครหรอกนะครับ เขาพึ่งตัวเองและพึ่งกันเองได้ดี ไม่ได้อ่อนแอร้องกระจองง๋องเหมือนสรรพสิ่งอื่น เพียงแต่มนุษย์อย่าไปรบกวนไปทำลาย ป่าไม้ก็จะดำรงอยู่ได้เป็นปกติ มนุษย์นี่ก็แปลก รู้ทั้งรู้ว่าตนเองต้องอาศัยป่าไม้และธรรมชาติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่มนุษย์ก็ไม่มีความตระหนัก ยังรุกทำลายป่าไม้อย่างหฤโหด

น่าจับพวกนี้ไปทิ้งไว้ที่ดาวอังคารนัก

เช้าๆเดินไปดูสภาพแวดล้อมกระต๊อบ

เดินไปเจอรูแมงมุมเล็กๆกำลังโผล่ออกมา

นั่งสังเกตุ ..จะเห็นความมหัศจรรย์ของบ้านแมลงชนิดนี้

ลองพิจาณาดูเส้นใยที่ถักทอปากรูดูเถิด

มันช่างละเอียดซับซ้อน..ถ้าเอามาต่อๆกันจะยาวสักกี่มากน้อย

เจ้าของรังจะต้องใช้ความพยายามมากเท่าไหร่

ที่จะสร้างเส้นใยดักสัตว์เล็กๆ..

เจ้าตัวนอนหลบร้อนอยู่ในรู..รอสิ่งที่จะมากระทบกับดักที่โยงไว้ปากรู

ดูๆไปแล้วช่างสบายเหลือเกิน

นับเป็นชุดความรู้ที่น่าสนใจยิ่งนัก

คุณครูที่สอนด้านธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม น่าจะชวนลูกศิษย์ไปเรียนในสภาพจริงบ้างนะครับ เสน่ห์ของโลกธรรมชาตินั้นน่าลุ้นระทึกยิ่งนัก ถึงสมัยนี้จะมีสื่อสะดวกดึงมาชมได้ แต่มันก็ยังขาดชีวิตชีวาอยู่ดีนั่นแหละ การที่เด็กสัมผัสความรู้สดๆเหล่านี้ จะช่วยปลูกฝังความตระหนักให้เห็นความสำคัญ เกิดความสนใจและห่วงใยธรรมชาติมากขึ้น

ไม่อย่างนั้นเราจะสร้างนิสัยความรับผิดชอบให้กับโลกใบนี้ได้ยังไงละครับ

เรียนในห้องได้ความรู้

เรียนนอกห้องได้ความจริง

เอาความรู้+ความจริง

ผู้เรียนก็จะได้รู้ความจริง

แต่..กว่าจะถึงจุดนั้น

ครูผู้สอน..ควรจะได้รู้ทะลุกระบวนการเหล่านี้ล่วงหน้าเสียก่อน

ไม่อย่างนั้น..คุณครูจะสอนเด็กให้ทันสมัยได้อย่างไร

เด็กพันธุ์ใหม่ต้องสอนด้วยกลอุบายใหม่ๆ

ครูพันธุ์ใหม่..สนใจเรื่องเหล่านี้ไหมละครับ?



Main: 0.047422885894775 sec
Sidebar: 0.26415300369263 sec