ทองบินได้

อ่าน: 2734

 

: ประเทศชาติดูทันสมัย เจริญรุ่งเรืองด้านวัตถุ แต่ธรรมชาติเสียหาย ถือว่า..กระจอก

: บริหารบ้านเมือง แย่งชิงอำนาจมาได้ แต่สังคมแตกเป็นเสี่ยง ถือว่า..กระจอก

: ทำมาค้าขายร่ำรวย รวบหัวรวบหาง รายเล็กรายน้อยล่มจม ถือว่า..กระจอก

: นักวิชาการ บริหารวิชาความรู้ไปในทางที่เสื่อม ถือว่า..กระจอก

: ชาวนาชาวสวน ทำมาหากินทำลายต้นทุนสภาพแวดล้อมยับเยิน ถือว่า..กระจอก

: อ่านบทความ ไม่ยอมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ไม่คอมเมนท์ ถือว่า..ขี้เกียจ !

::  รู้เล็กรู้น้อยค่อยบรรจง

คนบ้านป่ามีปัญหาให้ขบคิดอยู่เสมอละครับ บางสิ่งก็แก้ไขได้ บางสิ่งก็ยังแก้ไม่ตก ต้องพยายามแก้ไขกันต่อไป เพียงแต่เราอย่าลืมปัญหาที่แขวนไว้มีอะไรบ้าง วันนี้ยกตัวอย่างใหดูสักเรื่องหนึ่ง เรื่องเกี่ยวกับทองๆนะครับ แต่เป็นทองที่บินไปบินมา ชาวบ้านเรียกกันว่าแมลงวันทอง ตัวมันเล็กๆสีทองมีลายคาดดำที่ท้อง มันเป็นตัวก่อกวนทำลายผลไม้ให้เน่าเสียง่าย ชอบไปวางไข่ไว้ตามผิวผลไม้และผักต่างๆ เมื่อหนอนโตขึ้นก็เข้าไปชอนไขอยู่ในผลไม้นั้นๆ ทำให้ผลเน่าเสียหาย ส่งผลกระทบต่อคุณภาพและต้นทุนปีหนึ่งหลาบพันล้านบาท

บางพื้นที่เกษตรกรจะทำการห่อผลไม้ด้วยกระดาษ ป้องกันแมลงวันทองมาวางไข่แต่เนิ่นๆ ถึงจะป้องกันได้เราก็เสียเวลากับเรื่องพวกนี้ไปไม่น้อย มีนักเคมีผลิตสารดึงดูดแมลงวันทองให้มากลุ้มรุม แล้วเอายาฆ่าแมลงผสมลงในเหยื่อ เมื่อแมลงวันทองมาดูดกินก็จะตาย ลดจำนวนศัตรูพืชลงไปเรื่อยๆ

แต่ในกลุ่มเกษตรอินทรีย์ที่ระแวดระวังเรื่องการใช้ยาต่างๆ

จะแนะนำให้ปลูกไม้ดอกไล่แมลง

เช่น ดาวเรือง และกระเพรา

ต้นกระเพราที่ดอกแก่จะส่งกลิ่นเรียกแมลงวันทองมาตอม

 

ช่วงนี้ผมรับประทานชาสะระเหน่และชากระเพรา

ปกติจะไปเด็ดยอดอ่อนมาใช้

ต่อมายอดอ่อนไม่มี ไปเด็ดยอดกระเพราแก่มาชงน้ำชา

เธอเอ๋ยแมลงวันทองบินมาตอมที่ถ้วยน้ำชาจำนวนมาก

เอามือตบตกลงไปในถ้วยน้ำชาตายนับร้อยตัวได้

จึงได้ข้อสังเกตใหม่ว่า..

ใบกระเพาะแก่ในน้ำร้อนจะส่งกลิ่นฉุนเรียกแมลงวันทองมาตอมได้มาก

ดื่มชาใบกระเพาอ่อนมานานไม่เห็นมีแมลงวันทองมาตอม

เป็นอุทาหรณ์ให้แง่คิดว่า ..บางทีใบอ่อนใบแก่ก็เรียกแมลงวันทองได้ต่างกัน

แต่ที่เด็ดไปกว่านั้น เมื่อเช้านี้เดินไปเจอลูกน้ำเต้าพันห้อยโตงเตงอยู่บนต้นมะละกอ จึงขยับไปถ่ายรูปใกล้ๆ อ้าว! เจอแมลงวันทองกำลังตอมดอกมะละกอเป็นกระจุก นับเป็นเรื่องใหม่ที่ได้เจอ ก่อนหน้านั้นไม่ทราบไม่ได้สังเกตุเห็นแมลงวันทองชอบกลิ่นดอกมะละกอมาก่อน

คงต้องติดตามดูต่อไป

  • แมลงวันทองชอบกลิ่นดอกมะละกอทุกพันธุ์หรือชอบบางพันธุ์
  • เราจะหาวิธีกำจัดแมลงวันทองที่ตอมดอกมะละกอได้อย่างไร
  • โจทย์พวกนี้..เป็นการบ้านที่ท้าทายทั้งนั้นละครับ
  • ในธรรมชาติมีความรู้ที่เราไม่รู้มากมายนัก
  • ถามว่าถ้าจะเรียน จะออกแบบเก็บเกี่ยวความรู้อย่างไหน?

อย่างนั้นรึ! อย่างนี้รึ! รึอย่างไร?


เล่นสงกรานต์กับนางเมฆขลา

อ่าน: 1898

ทั้งๆที่ไม่ออกจากเคหาไปเล่นสงกรานต์ที่ไหน
นอนเฝ้ากระต๊อบน้อยกลอยใจอยู่โด่เด่

อาบน้ำทาแป้งอ่านหนังสือ
แต่งกลอน นอนกลางวัน
อยู่เหมือนมาปิกนิคทุกวัน..
ไม่สะดวกสบายจนเว่อร์
แต่ได้รสชาติของชีวิต

รึ อาจจะเป็นเพราะติดเชื้อลูกชาวไร่ชาวนาก็ได้
เห็นธรรมชาติแล้วจะชอบๆๆ..นอนสัมผัส ไม่ได้คิดเรื่องยากลำบากอะไร
หุงข้าวหม้อเล็กๆ ต้มบ้างผัดบ้างตำน้ำพริกบ้าง แค่นี้ก็อร่อยจนไม่รู้จะยังไงแล้ว
การได้อยู่ง่ายๆกับธรรมชาตินี่แหละ ..ของขวัญที่เรามอบให้ตัวเอง

• อยากจะชมเดือน..แสงเดือนก็มาเยือนส่องหล้า
• อยากจะแก้ผ้-..ฝนก็ตกลงมาให้อาบ
• อยากจะอาบแดด..พระอาทิตย์ก็โผล่มาโลมไล้
• อยากจะกินผักผลไม้..ก็เดินไปเด็ดฉับๆ..
• อยากจะไปไหน..ก็ไม่เปลืองน้ำมัน ไม่ต้องติดไปแดง
• อยากจะนั่งจะนอนจะเดินเหิร ..ก็สะดวกสบายไม่วุ่นวายเหมือนข้างนอก

ชักสงสัยว่า..ทำไมคนเราถึงชอบกระเสือกกระสนก็ไม่รู้นะ
แทนที่จะปลูกคะน้า พริก มะเขือ กินเอง
เปล่า! วิ่งโร่เข้าบางกอกไปทำงานง๊อกๆ..เพื่อหาเงินมาซื้อมะเขือฉีดยาฆ่าแมลงกิน
ท่าจะบ้า..ไหมเล่า..

บ่ายแก่ๆมีลูกหลานชาวบ้านเอามะพร้าวอ่อน/ดอกไม้/มาขอพร ก็คุยกันตามประสาคนอยู่ในพื้นถิ่นเดียวกัน ถามไถ่เรื่องทำมาหากิน ปัญหาทั่วไป จุใจก็หน้าแฉล้มกลับไป..กำลังจะตัดสินใจไปรดน้ำผักดีหรือไม่ดี ถ้าขี้เกียจก็ชะลอได้อีกหนึ่งวัน เพราะพื้นดินยังพอชุ่มชื้น ถ้าโชคดีมีฝนมาก็ต่ออายุความชุ่มฉ่ำไปได้อีกหลายวัน
ผมสังเกตเห็นว่าปีนี้ฤดูฝนขยับมาเร็วขึ้น เดือนมีนาเมษาพระพิรุณก็มาเยือนหลายครา บางหมู่บ้านก็เจอลมหอบหลังคาไปไว้กลางกอไผ่ เมื่อคืนจังหวัดตราดลมกวาดสวนยางพาราไปหลายขนัด อายุใกล้จะได้กรีดยางแล้ว
อาชีพเกษตรกรรมมันก็มีความเสี่ยงยังงี้แหละพี่น้อง
ไม่มั่นคงเหมือนอาชีพปั้นน้ำเป็นตัวอย่างท่านผู้ทรงเกียรติหร๊อกนะ

ระหว่างยี่ยักยี่หย่อนจะเอายังไงดี ก็นึกขึ้นได้ว่าอาหารมื้อเย็นยังไม่ได้วางแผน แต่เล็งไว้แล้วว่ามะเขือยาวออกลูกหนักจนต้นโงนเงน ทำท่าจะแก่มากเกินที่จะเก็บเมล็ดพันธุ์ ใบโหระพาก็กำลังงาม อย่ากระนั้นเลย..ผัดมะเขือยาวใส่ไข่ เจี๊ยะกับซุปผักสดดีกว่า..อร่อยหรือไม่อร่อยก็ไม่รู้จะบอกใคร เพราะโฉมยงเขาก็ขี้เกียจเดินมากินข้าวที่กระต๊อบด้วย เขาไม่ได้รังเกียจรังงอนอะไรหร๊อก เป็นแต่บางวันเขาก็ไม่กินข้าวมื้อเย็น ลมพัดลมเพเอาแน่เอานอนไม่ได้

ใครหิวก็เชิญแสดงฝีมือโชว์เสน่ห์ปลายจวักตามอัธยาศัย
นึกขึ้นได้ว่าเจ้าแห้วก็ชอบผัดมะเขือยาว
กะว่าจะถ่ายรูปไปอวดให้ชักดิ้นชักงอสักหน่อย

เพียงแค่คิดเสียงฟ้าก็ร้องครืนๆ ลมพัดอู้ๆ มองดูยอดไม้..พัดแรงเอาการเหมือนกัน ต้นกล้วยจะหักพับอีกกี่ต้นก็ไม่รู้ หลังจากลมผ่านไป..ฝนก็ตกมาสิครับ ตกหนักมากประมาณครึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นก็ตกยิมๆให้ยายฉิมไปเก็บเห็ด แต่ก็ไม่แน่นะ คืนนี้อาจจะเทลงมาอีกกะทอกก็ได้ อากาศเย็นฉ่ำ กะว่าบันทึกนี้แล้วจะไปอาบน้ำฝน

 

เทวดามาชวนเล่นสงกรานต์แล้วนี่ คราวนี้คงนุ่งผ้าขาวม้าทะมัดทะแมง เพราะจะไล่ปล้ำนางเมฆขลา แข่งกับรามสูรย์ที่โกรธเกรี้ยวขว้างขวานอยู่ครืนๆ ดูท่าคืนนี้จะเล่นเกมส์ยาวเสียแล้ว เมฆหนายังลอยต่ำ ลมก็สงบนิ่งเสียด้วย
ไม่ต้องไปเที่ยวรดน้ำ-ถนนข้าวสาร-ข้าวเหนียว-ข้าวปุ้นที่ไหนหร๊อก

เล่นสงกรานต์ถนนข้าวนอกนาที่นี่แหละ ..แฉะทั้งกายและใจ !


จดหมายรักจากสวนป่า

อ่าน: 1891

เรียน อาจารย์คุณหมออุ๊ ที่นับถือ

ผมก็มีชื่อเล่นเหมือนคุณหมอนั่นแหละ แปลกๆแท้ๆ ยังนึกขำๆ จะต้องเขียนว่า..เรียนคุณหมออุ๊ จากคนชื่ออุ๊ เป็นอุ๊ยกกำลัง2 งานนี้จึงกลายเป็นการผนึกกำลังของคนชื่ออุ๊กับมิตรสหาย ที่จะได้มาช่วยกันบรรเลงจัดค่ายฤดูร้อนนิสิตแพทย์จุฬาฯให้เทิดเทิง

พี่น้องครับ ผมไปรับโพยมาเมื่อคราวไปงานปัจฉิมโอวาทนักศึกษาแพทย์จุฬาที่ชลบุรี ปีนี้คณะอาจารย์และนักศึกษาจะมาเข้าค่ายที่สวนป่าในวันที่ 4-8พฤษภาคม 2555 จำนวน 40 ชีวิต ผมลงรายการไว้ให้นานแล้ว เกรงว่าจะไปชนตูม! เข้ากับคณะอื่น.. ตามธรรมเนียมของชาวเฮ ใครจะไปจะมาผมก็มองหาตัวช่วย ประกอบกับคุณหมออุ๊ก็ตามประชิดถามถึงวิทยากรในรอบนี้มีใครบ้าง ..จะได้ทำหนังสือเชิญไปถึงเจ้าตัวอย่างเป็นทางการ ผมได้เกริ่นเรื่องนี้บ้างแล้วเมื่อจัดงานเฮที่ผ่านมา และได้เอ่ยมธุรสวาจาผ่านลานปัญญายั่วเย้าขาเก่าเจ้าประจำ
ปรากฎว่าได้ผลแฮะ

มีบางคนสมัครใจทิ้งรายการไปเที่ยวพักร้อนต่างประเทศเฉยเลย
เพื่อความแน่ใจ..โยนหินถามทาง..
ท่านใดจะมาร่วมวงประจงจิตกับค่ายฤดูร้อนคราวนี้บ้าง
เอามือลง..ขอให้ออกมาข้างหน้าหนึ่งก้าว
ขอนับละนะ

1 นายแพทย์สุธี ฮั่นตระกูล
สำนักงานเทศบาลนครพิษณุโลก
อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก 65000

2 ผศ.ดร.จันทรรัตน์ เจริญสันติ
กลุ่มพยาบาลสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา
คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50200
(เรียนคณบดี คณะพยาบาลศาสตร์)

3 นางสาวสมพร พวงประทุม
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
(เรียนคณบดี คณะเภสัชศาสตร์)

4 อาจารย์ดวงพร เลาหกุล
อาจารย์อาราม อู่ทอง
โรงเรียนมงคลวิทยา
อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน 51000
(เรียนผู้อำนวยการโรงเรียนมงคลวิทยา)

5 แพทย์หญิง ศิริรัตน์ สุวันทโรจน์
โรงพยาบาลกระบี่ อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ 81000
(เรียนผู้อำนวยการโรงพยาบาลกระบี่)

6 นายตฤณ ตัณฑเศรษฐี
มูลนิธิโอเพ่นแคร์
ชั้น 11 อาคารซอฟต์แวร์พาร์ค ถนนแจ้งวัฒนะ
อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120

นอกจากท่านดังกล่าวแล้ว ผมขอฝากอีกาคาบข่าวไปถึงอาจารย์ไร้กรอบแห่งนาซา ท่านบางทราย อัยการชาวเกาะ อาว์เปลี่ยน ที่ชาวลาวเรียกว่า ปา-ลี-ยอง-ป้าหวาน หมอเบิร์ด ..ยังมีสมาชิกกลุ่มอีแอบกระดี๊กระด๊าจะมาสมทบตามวาระจรอีกไม่น้อย พวกนี้เป็นนางอายไม่ยอมให้เอ่ยนามตามท้องเรื่อง แต่ตั้งใจมาอย่างดุดันแน่ ถึงเอาลวดหนามล้อมก็แหกด่านเข้ามา เพื่อความไม่ประมาท

อาจารย์หมอเตรียมเข็มมาด้วยนะครับ ถ้าจับฝังเข็มอาการหวือหวาน่าจะสงบลงได้

ส่วนผมต้องการตรวจหูเช่นเคย พักนี้หูชอบหาเรื่องครับ

พวกแซ่เฮนี่ร้อนวิชาทั้งนั้นละครับ ชวนเข้าป่าเข้าดงจึงสนใจกันไม่น้อย ส่วนเนื้อหาสาระและกิจกรรมได้คิดไว้บ้างแล้ว วิทยากรเจ้าเก๋าส์มองตาก็รู้ใจ รู้ทิศทางกันอยู่แล้ว คงจะมีอะไรดีๆมาฝากลูกหลานนักศึกษาไม่น้อย

กิจกรรมยามค่ำคืนบ่ต้องห่วง ร้อนๆอย่างนี้จะมีอะไรดีกว่าเอาฟางมาปูแล้วนอนดูดาว แต่เชื่อเถอะ..รายการแย่งไมค์ก็จะเกิดขึ้นอยู่ดี ในเมื่อมีนักรักเต็มป่าออกอย่างนั้น ถ้าได้อาจารย์Handy มาบริหารไมค์ละหัวใจผะผ่าวแน่ คอยดูทีท่านักร้องแหบเสน่ห์แย่งไมค์กันก็ชื่นมื่นแล้ว ส่วนเครื่องไม้เครื่องมือที่ควรเตรียมมา อย่าลืมกล้อง โน็ตบุกค์ และรอยยิ้ม
ตอนนี้เรามีWIFI.ให้ทำการบ้านสะดวกแล้วนะครับ ขอบอก

ช่วงนี้เรากำลังสร้างหมู่บ้านโลก นอกจากจะพาเดินชมแล้ว ยังจะจัดเรื่องเล่า..ว่าหมู่บ้านทะลุโลกเป็นยังไง มีองค์ประกอบอะไรบ้าง คงยกหน้าที่นี้ให้ท่านรอกอดส์เจ้าของต้นเรื่อง ส่วนผมจะชวนคุย:เรื่องผ่าแตงโม, :เรื่องหัวอกของแพทย์ชนบท..อยู่ไหนอยู่ได้ ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ แถมยังอยู่สบายถ้ารู้วิธีเข้าไปนั่งอยู่บนตักของชาวบ้าน

ยังมีเรื่องสนุกอีกเยอะ เช่น ทำอาหารด้วยเตาดาโคต้า ตอนนี้พัฒาการขึ้นเยอะแล้วนะครับ นอกจากหุงข้าวหม้อดินสะดวกกว่าเมื่อก่อนแล้ว ยังทำไก่อบโอ่ง ปลาเผาน้ำพริกหนุ่ม ซุปผักสดบันลือโลก เมี่ยงคำของโฉมยง เมนูสลัดสดๆที่ไปเดินตัดฉับๆมากับมือ ส่วนของหวาน นอกจากผลไม้ ยังมีน้ำปั่นมะสังสูตรพิเศษ ให้ชื่นชิมสลายความร้อนยามบ่ายดีนักเชียว หมู่นี้มะตูมหล่นเต็มสวน จะนำเสนอมะตูมไข่หวาน และชวนทำขนมครกตอนเช้า

อนึ่ง ก่อนหน้าจะถึงรายการนี้
จะมีคณะเครือญาติจากFB.ของผมมาเยี่ยมยาม
หลายคนเป็นนักชิมระดับอึ้งกิมกี่อยู่แล้ว
เราก็จะพากันซ้อมใหญ่เมนูเด็ดสักรอบสองรอบเป็นการนำร่อง

ส่วนวันงานจริงมีวิทยากรมาจากต่างภาคอยู่แล้ว
คงได้แสดงเสน่ห์ปลายจวักกันอย่างหวือหวา
ถ้าเป็นไปได้ผมจะให้ไอ่ตาหวานมาทำอาหารอินตะละเดียโชว์

ในงานเฮที่ผ่านมา..คุณหมอจอมป่วนจะโชว์ทำกับข้าวให้สนั่น
อุตส่าห์รอดูกัน
ไอ่เราก็นึกว่าท่านเที่ยวไปบรรยายมาทั่วโลก น่าจะมีเมนูเด็ดๆ
สุดท้าย ..กลายเป็นไข่เจียว โธ่ๆๆ


สงกรานต์บ้านกระต๊อบ

อ่าน: 4094

ปีนี้ โชคดีที่มีกระต๊อบใหม่ มาให้อาศัยหลบลมร้อนพักผ่อนกายใจ นั่งๆนอนๆทำงานไปท่ามกลางเสียงนกร้องเพลงตามสุมทุมพ่มไม้ มีแดดบ้าง ลมบ้าง ใบไม้บ้างมาเยือน มีมดดำเป็นผู้คุมกฎความสกปรก ถ้ามีกลิ่นอาหารกลิ่นอร่อย มดยกทัพขบวนยาวเฟื้อยมาทักทายทันที
แสดงว่า..
เพื่อนร่วมโลกไม่ต้องการให้เรานำสิ่งแปลกปลอม
มาทำความแปดเปื้อนพื้นที่ๆเราอยู่ร่วมกับเขา
เราจึงควรจะอยู่อย่างสะอาด สงบ เรียบร้อย แช่มช้อยแต่พองาม
เดินเบา หายใจเบา เอ๊ะยิ้มเบาๆด้วยสิ..

คืนนี้ออกมานอนครั้งแรก
เปิดไฟทำงานอ่านหนังสือ..สักพักแมลงจะบินมา
เขาคงมาดูว่า..มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น
ทำไม!! ที่นี่สว่างจัง.. จึงมากันบินมาตอมไฟ
บางคนเข้าใจว่าแมลงชอบเล่นไฟ..จริงรึ!
แมลงอาจจะบินมาเพื่อหาวิธีลดแสงสว่างลงก็ได้นะ

ไม่เป็นไรเพื่อนเอ๋ย ..ปิดไฟก็ได้ ..
นั่งเงียบๆท่ามกลางแสงเดือนหรุบหรู่ ฟังเสียงนกเพรียกไพร เป็นอะไรหรือเจ้านกน้อย นอนเหงาเปล่าเปลี่ยวหรือไร จึงส่งเสียงเว้าวอนอยู่ทั้งคืน นั่งไปสักพักชักจะสะลึมสะลือ เอาผ้าขาวม้ามาปู หยิบผ้าห่มมาคลุมขาถึงหน้าอก พื้นที่นอนจำกัดแค่ตัวเอนนอนได้ ..นึกไปถึงว่า..วาระสุดท้ายคนเราก็ต้องการพื้นที่แค่กว้างศอกยาววาเท่านั้น
แต่เมื่อยังมีลมหายใจอยู่นี่ละ..มนุษย์เราต้องการพื้นที่ดำรงชีพมากน้อยเท่าใดถึงจะพอดี คนเมืองอาจจะต้องการห้อง/โต๊ะทำงาน คนป่าอาจจะต้องการพื้นที่เพาะปลูกบ้าง ซึ่งถ้าทำอย่างประณีตและเข้าใจ มีวิชาความรู้ที่จะอยู่จะทำในพื้นที่นั้นๆอย่างมีคุณภาพ คนเราก็ไม่ได้ต้องการที่ดินมากมายอะไรหรอก

ถ้าเป็นผม..มีที่ดิน 5 ไร่ก็มากไปแล้ว
แค่ปลูกผัก1ไร่ ก็ทำแทบไม่ไหวแล้ว
ต้องปลูกไม้ผล ไม้ผักยืนต้น เพื่อจะไม่ต้องปลูกบ่อยๆ
เป็นการบริหารการทำงานให้น้อยลงไปส่วนหนึ่ง
พื้นที่ๆเหลือปลูกผักล้มลุก ผักตามฤดูกาล ไม้ดอกไว้ชื่นชม
แทรกกระถาง/ถุงเพาะชำต้นไม้/แปลงเพาะกล้าไม้ ในที่ว่าง
แค่นี้ แค่นี้จริงๆ ก็อยู่ได้อย่างเรียบง่ายปกติสุข

ถ้าโลภมาก ต้องทำมาก เหนื่อยมาก
จะเหลือเวลาที่ไหนเอามาดูแลตัวเอง จะเอาเวลาที่ไหนมาพักผ่อน
จะมีเวลาที่ไหนไปเรียนรู้ไปใคร่ครวญ
ในเมื่อสาละวนอยู่กับความต้องการที่ไม่มีวันจบ

อยู่กระต๊อบแล้วรู้สึกดี อยู่ในที่น้อยๆ ง่ายๆ ตอกตะปูแขวนสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้บ้าง กระต๊อบไม่มีตู้เตียง ไม่มีชั้นเก็บของ ก็ไม่ควรมีมีภาระให้มากมาย คำว่าเสื่อผืนหมอนใบยังมีเสน่ห์ถ้าเราใคร่ครวญ เปลี่ยนตัวเองมาชื่นชมวิธีอยู่วิธีทำที่ไม่ต้องมีสมบัติรุงรังนี่ดีจังเลย มีหม้อหุงข้าวเล็กๆ มีหม้อไฟฟ้าสีแดงที่ใช้นึ่งข้าว ผัก ไข่ ไปพร้อมกัน มีพัดลมตัวน้อยไว้คอยเพิ่มกระแสลมยามบ่าย มีกระติ๊กน้ำร้อนไว้ชงชา อ้อ! มีโน๊ตบุกส์ มีWIFI.ก็สุดหรูแล้ว

เทียบกับเมื่อก่อน ที่นี่ไม่มีอะไรเลยเราก็อยู่มาแล้ว ผ่านมาแล้ว
ปัจจุบันสิ่งที่มีที่สมทบเข้ามามากขึ้นๆ..
มากไปก็เป็นภาระ..เดี๋ยวมด แมลง ปลวก ก็จะมาประท้วงอีก
ความพอดีพอเพียงเป็นวินัยกำกับกิเลสเราเหมือนกันนะเธอ
ชีวิตที่พอดี เดินอยู่สายกลางของแต่ละคนอาจจะไม่เท่ากัน
ของใครของมันออกแบบกันให้ลงตัวลงใจเถิดนะ

มีแฟนหลายคนไม่ดี ถูกมองว่าหลายใจ
แต่ถ้ามีเพื่อนมากมาย..เพื่อนที่รู้ใจ
เพื่อนที่รักและไว้วางใจได้ ..มีมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีใช่ไหมละเธอ

อุ้ยจันตา..บอกว่า..
วันไหนเศร้าเพื่อนก็เล่าเรื่องให้หัวเราะ
วันไหนอกเดาะ..ก็มีอกให้ซบสะอื้นไห้

สงกรานต์..คนไกลขอส่งกระแสใจมาถึงเพื่อนทุกคน
ขอให้ชีวิตชุ่มเย็นเหมือนน้ำฝนที่โปรยปราย
หล่นไปตกตรงไหนความชุ่มชื่นงอกงามเขียวระบัด
ชีวิตยิ้มชื่น ผ่อนคลาย หัวเราะได้ ก็พอแล้ว
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด..
จงคอมเมนท์ บ้างเถิด ..
คิ คิ..


โลกในความคิดคำนึง

อ่าน: 1258

__++

เกือบไปแล้วไหมละ ต่อๆไปมนุษย์เราก็จะเผชิญกับจุดใจหายใจคว่ำมากขึ้น วิกฤติโลกที่ยากจะป้องกันหรือต้านทาน ที่มนุษย์ยังแก้ไม่ตกก็คือภัยพิบัติจากธรรมชาตินี่แหละ มันเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว ช่วงที่โลกค่อยๆเย็นลงมันคงเกิดการหดตัว หลายแสนปีแล้วก็ยังไม่นิ่งไม่อยู่ตัว วันดีคืนดีมันก็บิดขี้เกียจ พวกมนุษย์ก็พล่านกันสิครับ เมื่อก่อนอาจจะหลายร้อยหลายพันปีเปลือกโลกลุกขึ้นมาเขย่าครั้งหนึ่ง เดี๋ยวนี้บ่อยขึ้นเพราะน้ำมือมนุษย์นี้แหละ ที่ชอนไขโลกจนเสียศูนย์ ตั้งแต่เราใช้น้ำมัน เราสูบของเหลวจากพื้นพิภพเป็นจำนวนเท่าไหร่ เทียบกับแม่น้ำใหญ่ๆได้กี่สาย ดูดเอาของเหลวจากส่วนลึกระดับนั้น..มีอะไรเข้าไปแทน รึปล่อยให้มันเป็นโพรงว่างเปล่า

เปิดพื้นที่ให้เปลือกโลกขยับ
ใช่หรือเปล่าก็ไม่รู้นะ..
ส่วนด้านบนพื้นภิภพเล่า..สร้างเขื่อนสร้างตึก ระเบิดภูเขา
เปลี่ยนแปลงเปลือกโลกผิวนอกไม่แพ้การเจาะพรุนด้านใน
ตอกย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับการอาศัยอยู่บนโลกในนี้แบบโง่ๆ
มีสรรพสัตว์ชนิดไหนบ้างที่ทำลายโลกใบนี้ได้เท่ามนุษย์

แล้วยังทะลึ่งสถาปนาตัวเองว่า..เป็นสัตว์ประเสริฐสัตว์ชั้นสูง!
เป็นได้จริงๆหรือในเมื่อโง่วายป่วงอย่างนี้

ถ้ามนุษย์เรียนรู้จากธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง ความพอดีพองามในสังคมโลกมนุษย์จะดีกว่านี้มาก คนยุคก่อนเขาคิดได้นะ เขามองเห็นธรรมชาติเป็นผู้มีพระคุณ เปรียบเสมือนมารดา แม่คงคง แม่โพสพ ในเบื้องต้น ต่อมาก็แปรเปลี่ยนเป็นแม่แปลกสาแหรกไปต่างๆนานา แม่ยก ไม่รู้ยกอะไร คล้ายแม่แรงรึเปล่า

เขียนขยักไม่ให้เครียดไปอย่างนั้นเอง สรุปว่าวิกฤติกิเลสยากที่พวกหัวเดียวกระเทียมลีบจะไปทำอะไรได้ เมื่อความคิดโลกมันจมดิ่งไปปานนั้น สิ่งที่พวกพอจะมีสติอยู่บ้างคิดทำ ก็คงเป็นการช่วยกันเหยี่ยวยาธรรมชาติเท่าที่จะทำได้ ดีกว่างอมืองอเท้าทำตาปริบๆ และการเข้ามาช่วยกันทะนุบำรุงธรรมชาติ ก็เท่ากับได้กล่อมเกลาจิตใจของตนเองไปด้วย

“คำว่าธรรมชาติบำบัดนั้นมันตีความได้กว้างไกลไปถึงจักรวาลโน่น”

เรื่องเหล่านี้เป็นบุญเป็นกุศลที่ได้รับตรงๆ
ปลูกมะม่วงมันไม่ออกลูกเป็นซองมาม่าหรอกนะเธอ
คนเราเกิดมามีเวลาไม่มากนัก
กว่าจะผ่านวัยเด็กมาถึงวัยทำงานก็ลองคิดดู
จะมีเวลาทำงานเต็มที่ได้กี่ปี
หลังจากนั้นสังขารก็ถดถอย
ถึงทำงานก็คงจะทำได้ไม่เต็มที่เหมือนวัยกลางคน
แต่ถ้าทำการบ้านมาดีแต่ต้น
ยามถึงวัยบ่ายคล้อย..ธรรมชาติก็จะดูแลตอบแทนเรา

สิ่งที่มนุษย์ต้องการคงจะไม่เหมือนกันทั้งหมด
แต่ก็มีหลายส่วนที่ต้องการตรงกัน
เช่นเรื่อง อากาศ อาหาร อารมณ์ อนามัย ที่ปกติสุขและปลอดภัย
และยังมีเรื่องอื่นๆที่นับล้านเรื่องที่มนุษย์ปรุงแต่งขึ้นมา
ปัญหาคือเราไม่ได้คิดเรื่องนี้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน
ถ้าค่อยๆคิดค่อยๆทำที่ละเล็กละน้อยตามลำดับ
เราก็จะไม่ต้องนอนก่ายหน้าผากคร่ำครวญถึงปัจจัยต่างๆ

สุดท้ายก็คิดว่า..ตนเองผ่านวาระที่จำเป็นนั้นมาแล้ว หมดโอกาสแล้ว จำยอมรับสภาพ หมดกำลังใจ ที่จะคิดจะทำอะไร สุดท้ายจิตใจก็ห่อเหี่ยว อยู่ไปวันๆอย่างซักกะตายไปยังงั้นเอง อยู่อย่างพลุกพล่านและฟุ้งซ่าน คงคิดจนเซ็งด้านไปหมดแล้วละมัง ในทุกครั้งที่มานั่งเป็นไอ่เบื้อหลังพวงมาลัยรอไฟเขียว

ชีวิตคนเรานี่นะติดไฟแดง
ถ้ามดแมลงพูดได้..มันคงหัวเราะเยาะจนฟันโยก
เพราะชีวิตของสัตว์เล็กสัตว์น้อยพวกนั้นไม่ต้องติดต้องรออะไรเลย
ไม่ใช่เพียงแค่ติดไฟเขียวนี้หรอกนะ
ชีวิตของเธอยังติดโน่นติดนี่พะรุงพะรังรอบตัวและรอบใจ

ลองถามตัวเองดูสิ..วันนี้เธอติดอะไร
บางคนอาจจะตอบว่าติด FB. ติดกาแฟ ติดเกมส์ ติดทีวี ติดๆๆ
ถ้าให้ดีช่วยกันต่อให้ติดกับธรรมชาติเถิด
แล้วเธอจะรู้ว่าธรรมชาติไม่ธรรมดา
มีความลึกซึ้งกว่าที่เคยรู้สึกและเข้าใจมากกว่าที่เคยรับรู้
ลุกมาพร่ำกลางดึกก็ไม่รู้ว่าเธอจะเข้าใจบ้างไหมหนอ

โลกได้ตักเตือนแล้ว..ในชีวิตเธอจะต้องซ้อมรับความเสี่ยงเป็นระยะๆ
ตอนนี้เธอกำลังเสี่ยงอะไร เสี่ยงทาย หรือเสี่ยงเซียมซี
ใบที่ 16 ..บ่งบอกว่า..
อ่านเรื่องใดๆแล้ว..ควรจะคอมเมนท์กลับมาบ้าง
แคว๊กๆ



Main: 0.034250974655151 sec
Sidebar: 0.046144962310791 sec