จากรากหญ้าสู่นาซ่า

อ่าน: 2632

..ดูหัวข้อนี้แล้วคล้ายทำนอง จากดินไปสู่ดาว แท้ที่จริงแล้วมีที่ไปที่มาสุดแสนจะโชติช่วงชัชวาล เมื่อผมได้ขึ้นรถกับพระอาจารย์ไร้กรอบ เพื่อไปงานปฐมนิเทศนักศึกษาสถาบันพระปกเกล้า หลักสูตรเสริมสร้างสังคมสันติสุขรุ่นที่ 2 หรือเรียกว่ารุ่นสสสส. 2  ที่โรงแรมกรุงศรีริเวอร์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

(ฉลาดได้อีก ดีกว่่าโง่อีกแล้ว แน่นอน)

การได้พบพระอาจารย์ไร้กรอบแต่ละครั้ง เหมือนโดนไฟฟ้าช็อตหัวใจยังไงยังงั้น เจอเป็นกอดเอาฤกษ์ พระอาจารย์จะหัวเราะทักทาย หลังจากนั้นก็จะงัดเอาความรู้ความคิดสด ๆ ใหม่ ๆ มาเล่าขาน ชีวิตที่เต็มไปด้วยงานที่สุดแสนจะรื่นเริงบันเทิงใจ จนนึกไม่ได้ว่ามีคราใดที่บุรุษผู้นี้จะหยุดอยู่เฉย ๆ ได้บ้างไหมหนอ ในหัวสมองมีสติปัญญาอุ่นเครื่องตลอดเวลา ลีลาที่ถ่ายทอด ทำให้ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดตื่นตาตื่นใจแทบตกเก้าอี้ไม่รู้ตัว

อ่านต่อ »


หาไม่เจอแต่ก็เจอ

อ่าน: 1850

เมื่อวานนี้ช่วยกันเดินหาจุดที่แม่นกยูงออกไข่

สังเกตเห็นอาการผิดปกติมาหลายวันแล้ว

เจ้านกตัวผู้จะเรียกหาแม่คนสวยทั้งวัน

ปกติจะมีเสียงขานรับ

แต่เดี๋ยวนี้เงียบฉี่

เจ้าโต๊กจึงร้องโวยวายอยู่ตัวเดียว

เราพยายามสังเกตว่าแม่นกยูงโผล่ออกมาจากจุดไหน แต่ก็ไม่ทันสักที ตอนเย็นเห็นป๋อหลอมาขออาหารกิน แล้วก็หลบแวบหายไปเหมือนมายากล พวกคนงานก็ช่วยกันค้นหาตามสุมทุมพุ่มไม้ ผมไปเจอรังไข่.. ตอนแรกดีใจนึกว่าใช่แล้ว  แต่บ่าย ๆ เห็นเจ้าไก่งวงโอ๊กไปแพนหางทำเสียง ถึด ถึด อยู่แถวนั้น จึงรู้ว่าเป็นรังไข่ไก่งวง ตอนเย็นไปนับดูมี 8 ฟอง จิ๊กเอามา 3 ฟอง  กะว่าถ้าเจอรังไข่นกยูงจะเอาไข่ไก่งวงไปสับเปลี่ยน ลักษณะของไข่ใกล้เคียงกันมาก ไก่งวงฟักไข่อยู่ในแปลงผัก ใกล้ชิดกับเราจะดูแลง่ายกว่า ตอนที่ลูกเจี๊ยบออกมา จะจับแม่ลูกเข้าคอกอนุบาลก็น่าจะง่ายกว่านกยูงซึ่งจับยาก ปล่อยให้นกยูงฟักไข่ไก่งวงสลับกัน นกยูงเป็นสัตว์ที่ชอบเลี้ยงลูกมาก ถ้าเห็นไก่บ้านเลี้ยงเจ้าเจี๊ยบที่เพิ่งออกมาใหม่ ๆ  แม่นกยูงยังไปแย่งลูกไก่แจ้มาเลี้ยงแบบดื้อ ๆ  เหมือนกับจะพูดว่า “ฉันขอเลี้ยงลูกเธอมั่ง” มีหรือแม่ไก่แจ้จะยอม จึงเกิดสงครามย่อยไล่จิกตีกันอลหม่าน

อ่านต่อ »


โลกมนุษย์คงจะดีกว่านี้แน่

อ่าน: 10029

ระหว่างที่มีรายการขย่มกรุงยุ่ง ๆ เย๊ว ๆ นี่นะครับ พวกเราคงทำอะไรไม่ได้มากนัก นอกจากนั่งถอนใจทำตาปริบ ๆ  ในเมื่อคนไทยมองไม่เห็นจุดที่เป็นแก่นสารของชาติตนเอง อะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นละครับ เรื่องทั้งหมดอย่าไปโทษใคร โทษคนไทยทั้งหมดนี่แหละที่มีส่วนทำให้เกิดหมายเหตุประเทศไทย ถ้าทุกคนมีมิติทางสังคมในหัวใจ ไม่ปล่อยปะละเลยให้พวกที่รักประเทศไทยจนน้ำลายไหล ทำอะไรเลยเถิดเรื่องมันก็จะไม่เข้าตาจนเช่นนี้

วัฒนธรรมไทยก็มีส่วน ที่คนส่วนใหญ่มองว่าธุระไม่ใช่ ฉันไม่ไปยุ่งเกี่ยวเดี๋ยวจะพลอยโดนหางเลข คิดง่าย ๆ นึกว่าจะพ้น ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับบ้านเมืองเป็นเรื่องกระแทกกระทั้นถึงกันหมด จะไปหลบอยู่มุมไหนก็ไม่พ้นหรอก เจอหางเลขทั่วหน้าไม่มากก็น้อย เหตุแห่งความแตกแยกมันค่อย ๆ สะสมมานาน แล้วก็บานปลายออกไปเรื่อย ๆ  เพราะประเทศนี้ไม่มีภูมิคุ้มกันทางสังคมที่เข้มแข็งพอจะดูแลความสงบสุขของบ้านเมือง คนไทยหยวนให้กับทุกเรื่อง เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ก็รับกรรมกันไปเถิดนะต๋อย

ถ้าเอาแต่บ่นเดี๋ยวก็โดนคุณหมอจอมป่วนจวกอีก ถามว่า..นับแต่นี้ไปคนไทยควรจะคิดและทำอะไรในเรื่องที่ผันผวนจนยากที่จะจับต้นชนปลายไม่ถูก คงต้องหันมาดูหน้าที่ของคนไทยกระมังครับ หน้าที่โดยตรงต่อการงานรับผิดชอบ และหน้าที่ ๆ ช่วยกันดูแลสังคม ถ้าไม่มีหน้าที่ตัวหลัง ลอยเพสังคมให้ตกอยู่ในมือของคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดโดยไม่มีหางเสือ  ก็จะเกิดก๊ก เกิดเหล่า จ้องเจี๊ยะผลประโยชน์ส่วนรวม  คราวนี้ละครับที่ประเทศไทยจะเป็นไปอย่างซึมกะทือ ชักหน้าไม่ถึงหลัง แบ่งเขตแบ่งพื้นที่ของข้าใครอย่าเตะ ผิดกลิ่นเข้ามาเป็นโดนไล่โฮ่ฮาเขวี้ยงปากระเจิง จะหาเสียงก็ยาก จะปกครองก็ยาก จะทำมาหากินก็ยาก เกิดอำนาจเถื่อนซ้อนอำนาจรัฐ เมื่อเป็นไปถึงปานฉะนี้เราจะนั่งดูดำดูดีอย่างไร?

อ่านต่อ »


พื้นที่ความรู้เป็นพื้นฐานของสติปัญญา

อ่าน: 8832

(ห่านไม่เคยตื่นสาย ทุกเช้าตรู่จะเดินปรึกษากัน)

เมื่อคืนนี้เทวดาส่งลมเย็นข้ามฟ้ามาจากจีนแผ่นดินใหญ่ เสียงลมพัดตึง ๆ ทั้งคืน ใบไม้ปลิวว่อน เสียงกิ่งไม้หักโครมคราม จักจั่นย้ายไปไหนก็ไม่รู้เงียบฉี่ทั้งคืน สภาพแวดล้อมโลกมีเรื่องชวนปวดหัวมากขึ้นจนจับต้นชนปลายไม่ถูก บ่นกันร้อนแล้งแสนสาหัสอยู่แหมบ ๆ  จู่ ๆ ก็เย็นเฉียบแบบกะทันหัน เมื่อคืนนอนหนาว..กอดอะไรก็ไม่อุ่น นอนฟังเสียงลมสะดุ้งทั้งคืน

(ลมธรรมชาติไม่มีปุ่มปรับลดระดับเหมือนพัดลมบ้าน)

อ่านต่อ »


กว่าจะถึงวันนี้

อ่าน: 6877

(ถ้าไม่ปลูกก็ไม่มีลูกเหรียงหล่นมาให้ในวันนี้)

คนที่อยู่ท่ามกลางป่าคอนกรีต อาจจะไม่รู้สึกรู้สาถึงความเป็นป่าธรรมชาติเหมือนคนชนบท การเกี่ยวข้องและความสืบเนื่องหรือความจำเป็นอาจจะรู้สึกไม่ตรงกัน นั่นก็หมายความว่า ถึงจะอยู่โลกใบเดียวกัน แต่เราก็มองคนละมุม ทำให้ปัญหาของโลกยากที่จะได้รับการปฎิบัติไปในทิศทางเดียวกัน มลภาวะต่าง ๆ จึงตกค้างในจิตใจของมนุษย์แบบคนละเรื่องเดียวกัน อาจจะวับๆแวมๆถึงภัยพิบัติเป็นครั้งคราว ชั่วครู่ชั่วยามก็เลอะเลือนไปเหมือนเดิม ถ้าช่วยกันคนละไม้ละมือไม่กระทำต่อสภาพแวดล้อมให้ติดลบ อาจจะช่วยให้การตั้งต้นที่จะช่วยกันกอบกู้วิกฤติภาวะโลกร้อนได้บ้าง ไม่ต้องมาก ช่วยกันคนละเล็กละน้อยตามความถนัดและความสามารถ ลงขันเพื่อส่วนรวมอย่างผู้ตระหนัก ไม่ใช่คอยแต่ตระหนกอย่างเดียว

อ่านต่อ »



Main: 0.098376035690308 sec
Sidebar: 0.9576518535614 sec