กว่าจะถึงวันนี้

อ่าน: 6900

(ถ้าไม่ปลูกก็ไม่มีลูกเหรียงหล่นมาให้ในวันนี้)

คนที่อยู่ท่ามกลางป่าคอนกรีต อาจจะไม่รู้สึกรู้สาถึงความเป็นป่าธรรมชาติเหมือนคนชนบท การเกี่ยวข้องและความสืบเนื่องหรือความจำเป็นอาจจะรู้สึกไม่ตรงกัน นั่นก็หมายความว่า ถึงจะอยู่โลกใบเดียวกัน แต่เราก็มองคนละมุม ทำให้ปัญหาของโลกยากที่จะได้รับการปฎิบัติไปในทิศทางเดียวกัน มลภาวะต่าง ๆ จึงตกค้างในจิตใจของมนุษย์แบบคนละเรื่องเดียวกัน อาจจะวับๆแวมๆถึงภัยพิบัติเป็นครั้งคราว ชั่วครู่ชั่วยามก็เลอะเลือนไปเหมือนเดิม ถ้าช่วยกันคนละไม้ละมือไม่กระทำต่อสภาพแวดล้อมให้ติดลบ อาจจะช่วยให้การตั้งต้นที่จะช่วยกันกอบกู้วิกฤติภาวะโลกร้อนได้บ้าง ไม่ต้องมาก ช่วยกันคนละเล็กละน้อยตามความถนัดและความสามารถ ลงขันเพื่อส่วนรวมอย่างผู้ตระหนัก ไม่ใช่คอยแต่ตระหนกอย่างเดียว

(กว่าจะได้เห็นเมล็ดแห่งความดีมีเวลาสร้างสม 20 ปี)

วันนี้เป็นวันดีวันหนึ่งในรอบ 20 ปี ที่ฝักของต้นเหรียงหล่นลงมาให้เราเก็บเมล็ดมาเพาะปลูกผมได้ต้นกล้าจากท่านมหา 5 ขั้น จำนวน 5 ต้น เอามาปลูกไว้ข้างบ้านเพื่อให้อยู่ในสายตาประสาคนขี้เกียจ เหรียงที่ว่าโตวันโตคืน ลำต้นชะลูดสูงลิ่วแตกกิ่งก้านสาขา ที่โคนต้นมีพูขนาดใหญ่แตกรอบ ๆ ลำต้น รากใหญ่มาส่วนเข้ามาเบียดคานบ้าน กิ่งก้านก็ตกใส่หลังคาบ้าง ได้ให้คนงานขึ้นไปตัดทอนทุกปี เดี๋ยวนี้กิ่งสูงได้เป็นที่หลับนอนของนกยูงทั้งคู่ ก่อนหน้าเมื่อผ่านมา 2-3 ปี มีลูกโม่งหล่นมาให้เห็น แต่ยังไม่ติดฝัก..มีคนเกรงว่าจะเป็นอันตรายที่ไม้ใหญ่อยู่ติดบ้าน แนะนำให้โค่นลงมา

(ถ้าไม่มามีหรือจะได้ยืนอยู่ตรงนี้)

ผมตัดไม่ลงและตัดใจไม่ได้

คิดว่ายอมย้ายบ้านดีกว่าที่จะมาโค่นต้นไม้

คิดดูเถิด สร้างบ้านปีเดียวก็เสร็จแล้ว

ปลูกต้นไม้กว่าจะโตขนาดนี้ใช้เวลา 20 ปี

ถ้ายังไม่มีวิธีปลูกต้นไม้ให้โตรวดเร็วก็ย้ายบ้านกันเถิดนะ

(ถ้าไม่ปลูกก็ไม่ได้เจอผักที่อร่อยๆเหล่านี้)

เท่าที่สังเกตุ ไม้ยืนต้นต่าง ๆ ทะยอยออกฝักออกเมล็ดได้ 2-3 ปีแล้ว ไม้แดง ไม้สะเดา ไม้ยางนา ไม้ประดู่ ไม้มะสัง ไม้มะค่าโมง ไม้สาธร ไม้อาคาเซีย ไม้ยูคาลิปตัส รวมทั้งไม้เหรียง ทำหน้าที่แม่ไม้พันธุ์ดีเตรียมพร้อมที่จะแตกลูกแตกหลานออกไป ผมเริ่มเก็บดอกเบี้ยจากแม่คุณเหล่านี้ ด้วยการเอาเมล็ดมาเพาะเพื่อปลูกและจำหน่ายให้ผู้ที่สนใจปลูกสร้างสวนป่าทั่ว ๆ ไป การเรียนรู้ขั้นตอนเหล่านี้มีความหมายต่อโลกใบนี้ไม่มากก็น้อย นับวันจะสอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบที่หลากหลาย แต่คนเราก็ลังเลที่จะกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดอย่างเป้นระบบและสอดรับกันทุกฝ่าย เพราะธรรมชาติของมนุษย์มันเป็นเช่นนั้นเอง

(ถ้าไม่เพาะ ก็ไม่มีไม้พันธุ์ดีมาปลูก)

การสร้างป่าครอบครัวจำเป็นต้องออกแบบ และสามารถตอบคำถามได้ถึงวิธีการและเ้หตุผลแวดล้อม ว่าทำไมเราถึงต้องทำเช่นนี้ มีผลได้ผลดีต่อคนเองและต่อโลกอย่างไร เดือนนี้จะเห็นได้ชัดจากความร้อนอบอ้าวและความแห้งแล้งที่นำความอ่อนเพลียละเหี่ยใจกระจายว่อน แต่จักจั่นกลับร้องเพลงเป็นที่ครึกครื้นทั้งวันทั้งคืน ถ้าเรายอมรับว่าตกอยู่ในวังวนที่ไม่ปลอดภัยจากภาวะแวดล้อม แล้วลงมือทำอะไรเสียบ้าง ปัญหาอยู่ที่จะเริ่มต้นอย่างไร?

(ไม่มีป่า ไม่มีธรรมชาติ ไม่มีดอกกระเจียว ไม่มีเสียงจั๊กกะจั่น มีแต่เสียงม๊อบที่อึงอล)

มหาชีวาลัยอีสานจึงเดินมาข้างหน้า 1 ก้าว

เพื่อจะปลี่ยนทศนิยมมาเป็นการทดลองด้วยสองมือและหัวใจมั่น

เมื่อสร้างสังคมรักกันเองยังไม่ได้

ก็ขอชวนมาปลูกต้นไม้กันไว้เถิด

ต่อไปไม่ว่าใครจะมาที่นี่

ก่อนกลับจะได้ปลูกต้นไม้ไว้ที่นี่ทุกครั้งไป

เพื่อจะมั่นรักไว้กับต้นไม้ยังไงละครับ

แคว๊ก

« « Prev : วิธีทำงานร่วมกับเทวดา

Next : พื้นที่ความรู้เป็นพื้นฐานของสติปัญญา » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

11 ความคิดเห็น

  • #1 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 9 มีนาคม 2010 เวลา 21:08

    คราวนี้เอาเม็ดลูกเหรียงมาสับปลายออกนิดหนึ่ง แล้วเพาะในกระบะทราย รดน้ำให้ชุ่ม แต่อย่าให้น้ำขัง รอมันแตกยอดแบบถั่วงอก เอามาจิ้มน้ำพริก หรือจะดองแบบถั่วงอกก็ได้ครับ

  • #2 aram ให้ความคิดเห็นเมื่อ 9 มีนาคม 2010 เวลา 22:02

    มารักต้นเหรียงด้วยคน 20ปียังไม่เคยลืมตอบแทนให้คนปลูกได้ชื่นใจในวันดีดีแบบนี้ครับ
    แวะมาทักทายสวัสดีพี่หมอเจ๊ด้วยครับ

  • #3 สายลมครับ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 9 มีนาคม 2010 เวลา 23:10

    พ่อครับ จัดรวมพลเฮฮาศาสตร์ที่สวนป่านะครับ  นะครับ นะ นะ

  • #4 rattiya ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 มีนาคม 2010 เวลา 11:37

    เห็นด้วยกับน้องสายลมครับ
    อยากไปนอนสวนป่า

  • #5 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 มีนาคม 2010 เวลา 15:14

    ท่านอัยการมาเพิ่มเมนูเด็ดให้แล้ว จะลอง จะล้อง จะล๊อง นะครับ

  • #6 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 มีนาคม 2010 เวลา 15:18

    ต้องเรียก เหรียงที่รัก แล้วกระมัง อาลาม

  • #7 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 มีนาคม 2010 เวลา 15:22

    สายลมเอ๊ย รีบแต่งงานก่อน ดีกว่ามั๊ง

  • #8 krupu ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 มีนาคม 2010 เวลา 15:36

    อ่านจบแล้วได้ข้อคิดเรื่องความเพียรที่พึงมี เพื่อใช้ฝ่าฟันกับสิ่งที่ชีวิตต้องเผชิญ แฮ่ ๆ พวกหนูคงยังต้องเดินกันอีกไกลเลยค่ะ แต่ก็รู้สึกปลอดภัยและมีกำลังใจขึ้นเพราะมีต้นแบบ มีบทเรียนสำเร็จรูปให้ได้เรียนรู้ก่อนแบบนี้ล่ะค่ะ
    ขอบคุณค่ะ ^_^

  • #9 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 มีนาคม 2010 เวลา 15:41

    โปรแกรมสวนป่าในคราวต่อไป
    คิดว่าน่าจะจัดสัก 5-7วัน
    ใครงานมากกลับก่อน มาหน้า-มาหลังได้
    ไม่ต้องเฮโลไป-เฮโลมา พร้อมกัน
    คิดว่าจะชวนสร้างบ้านอิฐซีเมนต์สัก 1 หลัง
    ทางสวนป่าจะเตรียมอัดอิฐดินซีเมนต์โค้งไว้
    เทฐานไว้ เตรียมอุปกรณ์หน้าต่างหลังคาไว้ให้พร้อม
    พอชาวเฮมาก็ช่วยกันเอาอิฐบล็อกเรียงเป็นชั้นๆ
    ภายใน5วันตัวโครงใหญ่น่าจะเสร็จ
    ที่เหลือช่างทำต่อ
    เราก็จะได้บ้านทรงกลมเส้นผ่าสูนย์กลาง 8 เมตร
    สามารถนอนเล่นได้ 8-10คน
    เย็นสบายๆ เพราะมีระบบถ่ายเทอากาศอย่างดี

    บ้านทรงกลมมี 2 ขนาด
    1 เ้ส้นผ่าศูนย์กลาง 6 เมตร ทำเสร็จแล้วมาดูตัวอย่างได้
    2 เส้นผ่าศูนย์กลาง 8 เมตร จะทำชั้นเดียว หรือ2 ชั้นก็ได้ (ยังไม่ได้ทำ น่าทำมาก ขอบอก)
    ถ้ามีกิจกรรมแบบนี้จะสนุก
    กลางวันสร้างบ้าน กลางคืนนอนคุยกันที่ชานบ้าน
    ใครปวดเมื่อยมีหมอนวดบริการ
    คนไม่ถนัดงานช่างไล่เข้าครัว หุงหาอาหาร เสริ์ฟน้ำแดงแกงร้อน หรือไม่ก็ให้ร้องเพลงชดเชยงาน
    ยังมีกิจกรรมแปลกๆอีก อย่างที่ครูปูมาเล่นถ่ายภาพประหลาดๆลงในบล็อกนั่่นก็สนุก
    ทำสุกี้หม้อไฟ ทำขนมครก ทำห่อหมกในเตาดาโกต้า ก็สุดยอด
    แค่พาไปเกาคางวัว ก็อื้อฮือแล้ว
    แป๊ดอย่าลืมขน 2 สาวเจ้าของวัวมาด้วย
    ส่วนน้าอึ่งชวนมาเป็นโฟแมนก็ฮาแล้ว ขอบอก
    ถ้ามาคราวนี้มีผักปะเล่อปะเต๋อ
    มีนกยูงคอยจิกรถสวยด้วย
    อยากให้มารถทัวร์ ไม่เหนื่อย และสะดวก
    จะจัดวันไหน วันไหน-ปี-เดือน อะไร ต้องซาวเสียง
    หาวันหยุดยาวๆ ถ้าเป็นหน้าหนาวก็ดี จะให้ไปนอนในเตาถ่าน อิอิ

  • #10 handyman ให้ความคิดเห็นเมื่อ 11 มีนาคม 2010 เวลา 6:06

       อีกไม่กี่วันจะอพยพกลับบ้านที่ไชยาเพราะขนสัมภารกไปกองเป็นภูเขาไว้แล้ว หนึ่งในหลายงานที่อยากทำคือทำบ้านและบริเวณโดยรอบประมาณ 1 ไร่ให้เป็น ศูนย์การเรียนรู้  เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนเรียนรู้อะไรก็ได้ที่จะทำให้ชีวิตมีความปกติสุขทั้งฝ่ายกายและจิตวิญญาณ .. ในใจก็ได้บรรจุเรื่อง “เหรียง” ไว้เป็นวิชาแรกๆแล้วครับ 
       ตอนเด็กๆเคยมีหน้าที่สับเม็ดเหรียงเพื่อเตรียมเพาะ โดยใช้เครื่องมือง่ายๆที่พ่อทำให้ คือใช้ไม้ไผ่ขนาดประมาณ 1 นิ้ว ยาวราว 1 ฟุต ตรงกลางเจาะรูกลมๆขนาดพอให้หัวเม็ดเหรียงโผล่ออกไปได้ ตอกไม้ดังกล่าวลงบนดินนั่งป้อนเม็ดเหรียงเข้าช่องดังกล่าวและใช้มีดคอยสับปลายเม็ดที่ยื่นออกไปทางด้านตรงข้าม  ไม่เคยมีอุบัติเหตุมีดบาดเพราะการทำงานนี้แม้แต่ครั้งเดียว  ตอนนี้ได้ความรู้ ได้แนวทางใหม่ๆให้ได้ลองอีกหลายอย่าง เช่นการขัด การต้มเม็ดเหรียงก่อนเพาะ ตั้งโจทย์เพื่อการลองของไว้แล้ว 2-3 ข้อครับ

    1. เพาะเม็ดเหรียงให้ได้ผลเร็วที่สุดต้องทำอย่างไร
    2. ต้นกล้าเหรียงที่มีกิ่งเป็นสะตอทำได้หรือไม่ และทำอย่างไร
    3. ทำต้นเหรียงใหญ่ให้ออกฝักเป็นสะตอ ทำได้หรือไม่  ทำอย่างไร
    4. เมนูอาหารจากลูกเหรียงที่แปลกใหม่จากที่ทำๆกันอยู่ได้แก่อะไรบ้าง
    5. ฯลฯ
  • #11 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 11 มีนาคม 2010 เวลา 6:23

    ดีครับ เหรียงจงเจริญ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.21873092651367 sec
Sidebar: 0.56355905532837 sec