๖๑.การแปรเปลี่ยนความขัดแย้ง(๒)

โดย อัยการชาวเกาะ เมื่อ 20 พฤศจิกายน 2008 เวลา 15:42 ในหมวดหมู่ เสริมสร้างสังคมสันติสุข #
อ่าน: 1845

วันนี้ก็เลยขอต่อของ อ.พิชัย ให้จบตอนเลยนะครับ รู้สึก Rating ตก เพราะการสลายม๊อบทำให้มีคนเจ็บคนตายหรือเปล่า แต่งานนี้บอกได้เลยว่าผมอยู่คนละข้างกับตำรวจผู้สลายม๊อบแน่นอนครับพี่น้อง….

ปัจจุบันคนจีนในไทย จัดงานวันเชื้อสายจีน มีสมเด็จพระเทพฯ ภูมิใจในความเป็นจีน แต่ ในอดีตเมื่อ ๓-๔๐ ปีก่อนเวลาเจ้าหน้าที่มาก็วิ่งกันหัวซุกหัวซุนเพื่อพาอากงอาม่าซึ่งใบต่างด้าวขาดอายุหลบหนีไปซุกซ่อน แต่ปัจจุบัน conflict transformation ไปสู่ความสมานฉันท์

๑.ปัญหาภาคใต้ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนา ไปเอาอุสตาซจากที่โน่นที่นี่ เอานักเทศน์จากนครศรีธรรมราชไปเทศน์ ทั้งๆที่ปัตตานีเป็นศูนย์กลางทางศาสนา การทำอย่างนี้เหมือนกับไปตบหน้าเขา

๒.ไม่ใช่เรื่องของต่างชาติ ขบวนการปัตตานีเองก็ไม่ได้ต้องการให้ต่างชาติเข้ามายุ่ง เพราะเป็นปัญหาภายใน เจรจาที่โน่นที่นี่ไม่ใช่ของจริง

๓.ไม่ใช่เป็นเรื่องทั่วไปที่เจรจาแล้วหยุด มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก…

เกิดจากแยกปัญหาไม่ออก เพราะเป็นจิตสำนึกร่วมว่าเราอยากเปลี่ยนแปลง คิดไม่ออกหรอกเพราะปกครองมาเป็นพันปี อยู่ๆมาบอกว่าอยากมีส่วนร่วม เกิดอาการงง

การต่อสู้ที่ภาคใต้ไม่ใช่เพื่อแบ่งแยกดินแดน เพราะเขารู้ว่ามันยาก แต่ต้องต่อสู้เพื่อให้เกิดพลัง เกิดอัตลักษณ์ของความภาคภูมิใจของความเป็นคนปัตตานี

ทำไมที่สามจังหวัดชายแดนใต้พูดภาษามลายูไม่ได้ ทำไมที่สุรินทร์เวลาหาเสียงพูดภาษาเขมร ที่ภาคเหนือก็อู้คำเมือง ทำไมที่ภาคใต้จึงใช้ภาษามลายูไม่ได้

ตัวอย่างคนที่มีอำนาจ จะเปลี่ยนยากจนกว่าจะเกษียณจึงจะเปลี่ยนง่าย มันมีอะไรบางอย่างที่ล๊อคสังคมไทย เช่น เดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด การทำเรื่อง Conflict Transformation ต้องเข้าใจสังคมไทยอย่างถ่องแท้ด้วย ต้องลงลึก กล้า เอาเรื่องพัฒนานำหน้า อย่าไปเถียงกันเรื่องแผ่นดินนี้ใครมาก่อนใครครอบครองก่อน ใครถูกใครผิด

ทั้งหมดนี้ เป้าหมายหาวิธีการศึกษาให้ลึกไปถึงต้นเหตุและปัจจัยที่นำไปสู่ความรุนแรง และสังคมไทยเข้าใจโจทก์คลาดเคลื่อน ปัญหาที่เกิดขึ้นความขัดแย้งเข้าใจโจทก์ผิดปัญหาความขัดแย้งก็แปรเปลี่ยนเป็นความรุนแรง เหตุการณ์ปี ๑๖ และ ๑๙ การเรียกร้องประชาธิปไตยถูกเข้าใจว่าเป็นการกระทำของคอมมิวนิสต์ จึงกลายเป็นเรื่องใหญ่

สิ่งที่เรากำลังทำในหลักสูตรนี้เป็นเรื่องยุทธศาสตร์ไม่ใช่ยุทธวิธี แต่ปัญหาของเราต้องตอบโจทก์ทางยุทธศาสตร์ ปัญหาเหล่านี้เกิดทั่วโลกมีมากมีน้อยเท่านั้น เพียงแต่เข้าใจวิธีการจัดการและการเข้าใจปัญหา

นักการเมืองก็น่าจะรู้ดี การแก้ปัญหาไม่ตรงจุดเพราะผู้มีอำนาจไม่สนใจจะฟัง เราสูญเสียงบประมาณเป็นแสนล้าน แต่สันติวิธีไม่มีคำว่าสาย

จุดหนึ่งเราทำดี แก้ไข ขอโทษ ปรับปรุง แล้วเราบอกว่าถูกทาง เรามีแนวร่วมมากขึ้น แต่ความรุนแรงไม่หมดเพราะไม่ตรงโจทก์ โจทก์ที่ว่าคนที่ใช้ความรุนแรงเขาคิดอย่างไร ผู้นำไม่สนใจ แต่พอคิดมันช้าไป…ถามว่าทำแล้วมันจะจบไหม เหมือนสเปนแคว้นบาสส์ บาร์เซลโลนา แม้จะสงบไปแล้วแต่ก็จะมีระเบิดทุกปี เพราะเป็นสัญลักษณ์ต่อสู้กับการถูกข่มเหง

เวลาเราคิดเองตอบโจทก์เอง ก็ผิดทาง เราต้องใช้วิธีการมีส่วนร่วม

พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ ท่านให้เชิญศรีพงษ์ สระกวี ไปพบบอกว่าน้องไปบอกเพื่อนถ้ากลับมาจะช่วย ถ้ามีคดีเล็กน้อย ไม่มีงานทำผมก็จะช่วยดูแล ถ้าคุณไปแล้วไม่กลับมาผมไม่ว่า คนไทยถ้าเห็นหัวคนไทยด้วยกันมันก็น่าจะคุยกันรู้เรื่อง ถ้าเมื่อไรที่รัฐบาลบอกว่าเราจะคุยกันอย่างเพื่อนร่วมชาติ คนไทยจะฟังกันไหม…ไม่ได้คุยกันแบบคุยกับคอมมิวนิสต์ เราต้องเดินข้ามความเจ็บปวด ล้มตายไปแล้วหันหน้ามาคุยกัน จะให้ตายไปเรื่อยๆงั้นหรือ เราคนเข้าตะรางมันมีประโยชน์อะไร

ทำไมเราไม่สามารถเดินข้ามความเจ็บปวดตรงนี้ อาจารย์ยุพวกเราให้สร้างพลัง บอกให้ท่านเอกชัยให้พาไปพบผู้มีอำนาจในบ้านเมือง บอกเขาด้วยว่าเมื่อมันเป็นเรื่องการเมืองก็ต้องแก้ปัญหาด้วยการเมือง ไม่ใช่แก้ด้วยข้อหากบฏ การตั้งโจทก์สำคัญมาก เช่น เรื่องยาเสพติดตั้งโจทก์ว่าทำสงครามกับยาเสพติด มันก็ต้องยิงกันฆ่ากันเพราะทำสงคราม มันมีแนวรบ มันมีศัตรู จึงมีความชอบธรรมที่จะฆ่า….

อาจารย์พิชัย บอกว่าเราจะคิดไกลเพื่อลูกหลานหรือเราจะคิดแคบเพื่อแก้ปัญหาตรงนี้เรื่อง กรือเซะหรือตากใบ มันต้องเปิดกว้างให้มีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ มันเป็นการส่งสัญญาณว่ามีการเปลี่ยนโจทก์ อ.บอกว่าเห็นพูโลส่งสัญญาณบ่อย ถ้าทำผิดพลาดก็ขอโทษแล้วหันหน้ามาอยู่ร่วมกันอย่างสันติ แต่ขณะนี้มันช้าไปแล้ว

-ปล้นปืนเป็นสัญลักษณ์แห่งความเจ็บปวด ไม่มีอะไรเจ็บปวดเท่านี้อีกแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นก็ทำให้เกิดการตัดความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

การไปเมกกะสมัยก่อนลำบากมาก แม่เฒ่าคนไทยพุทธกอดแม่เฒ่าชาวมุสลิมร้องห่มร้องไห้เพราะไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกหรือไม่ ผู้คนบอกว่าอยากเห็นเป็นแบบนี้ ชาวบ้านน่ะได้ แต่ระดับปัญญาชนยังไม่แน่….เพราะมันเจ็บเกินกว่านั้นแล้ว

ถ้าเป็นปัตตานีเป็นปัตตานีมหานคร จะเป็นมหานครของใครก็ของไทย ใช่ไหมครับ… ให้คนปัตตานีกำหนดชะตากรรมของคนปัตตานีเองได้หรือไม่ ไม่ต้องมายุ่งได้หรือไม่ กำหนดการศึกษาเองได้หรือไม่เพราะเขามีคนที่มีความรู้ ดอกเตอร์ก็หลาย ทำไมหรือเขาไม่มีความสามารถหรือ…

การแก้ปัญหาทางใต้ต้องรู้เข้าใจว่า ภาคใต้

๑.ไม่ใช่ Body Count นับศพได้แล้วชนะ แต่ต้องทำให้เห็นว่าไม่จำเป็นต้องฆ่าฟันกัน

๒.ส่งสัญญาณเพื่อนร่วมชาติ ผมไว้ใจคุณ คุณไว้ใจผมได้….

เราจะอยู่ร่วมกันได้ไม่ใช่แค่หยุดยิง เป็นการส่งสัญญาณ ให้ไฟค่อยๆมอด ปรับวิธีการกัน หากเป็นเช่นนี้ใครมายิงชาวบ้านจะจัดการกันเอง ขณะนี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่มากพอ ที่สำคัญต้องเปลี่ยนวิธีคิด เราหาทางออกให้เพื่อนร่วมชาติ ชนะกันที่ทิศทาง ไม่ใช่ชนะด้วยปืน เดี๋ยวนี้ เวลาพูดไม่เข้าหู ก็จะมีการระเบิด เพื่อแสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจ ดังนั้น หากจะให้ได้ผล แสดงว่าเขาก็ส่งสัญญาณ ดังนั้น เราต้องเริ่มส่งสัญญาณในทางที่ดี ส่งสัญญาณว่าคุณเป็นเพื่อนร่วมชาติ ผมไว้ใจคุณ คุณไว้ใจผม…..

อ่านจนจบแล้ว คุณไว้ใจผมไหมว่าจดมาครบถูกต้อง อิอิ……

« « Prev : ๖๐.การแปรเปลี่ยนความขัดแย้ง

Next : ๖๒.ความขัดแย้งในถิ่นอีสานใต้ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

4 ความคิดเห็น


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.30182409286499 sec
Sidebar: 1.5156209468842 sec