บ้านชานเมือง (24) ระเบียบในความไร้ระเบียบ
เราสามารถเรียนรู้ได้จากธรรมชาติรอบ ๆ ตัวเราได้เสมอถ้าเราสนใจ การมองดูใบของเฟิร์นที่ปลูกไว้ทุก ๆ วัน ทำให้เราได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น เมื่อเรามองดูใบของต้นเฟิร์นที่โตขึ้นมาแล้ว (ตามรูปบน) เราก็จะเห็นว่า ใบเฟิร์นนั้นเรียงซ้อน ๆ กันเป็นชั้น ๆ จากด้านนอกเข้าไปด้านใน ดูเหมือนจะไม่มีระเบียบอะไร แต่ถ้าเราเริ่มพิจารณาให้ละเอียดขึ้น เราก็จะเริ่มเห็นว่าการเรียงของใบในแต่ละชั้นจะจัดเรียงในลักษณะที่สับหว่างกันอย่างมีระเบียบ ในทางวิชาการก็เชื่อกันว่า มันเกิดขึ้นมาจากวิวัฒนาการของพืช เพื่อให้ใบสามารถได้รัยแสงได้มากที่สุด เพื่อประสิทธิภาพในการสังเคราะห์อาหารของใบพืช โดยขบวนการสังเคราะห์แสง ที่เกิดขึ้นโดยเซลล์ที่มีสีเขียวที่อยู่ในใบ อ่านต่อ »
เข็มขัดสั้น 2
เรื่องการถ่ายรูปในงานเป็นอีกเรื่อง ที่เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดไว้ว่าจะเกิด เริ่มตั้งแต่งานช่วงเช้า ผู้ที่เจ้าสาวนัดหมายมาช่วยถ่ายรูปช่วงพิธีเช้ามีสองคน บอกว่าเป็นเพื่อน โดยนัดให้มาถึงบ้านงานประมาณ 7.30 น. เช่นเดียวกับแจ้ง ผู้ใหญ่ (พลตำรวจตรี วาทิน คำทรงศรี ซึ่งเป็นคุณลุงของเจ้าสาว) ที่จะมาช่วยเป็นประธานในพิธีให้ รวมทั้งญาติที่จะมาร่วมพิธี เพราะพิธีจะเริ่มจริง ๆ เวลา 7.59 น. โดยนัดแนะทางฝ่ายเจ้าบ่าวว่า ขบวนขันหมากควรมาถึงก่อนเวลาเล็กน้อย คุณลุงและคุณป้าพร้อมลูกชายและลูกสาว ที่มีศักดิ์เป็นพี่ของเจ้าสาว เดินทางมาถึงบ้านในเวลาประมาณ 7.30 น. ตามที่นัดหมาย อีกประมาณ 15 นาที ได้รับแจ้งว่า ทางขบวนรถขันหมากของเจ้าบ่าวเดินมาถึงหน้าหมู่บ้านแล้ว ก่อนเวลาประมาณ 15 นาที เราจึงประสานให้นำรถเข้าหมู่บ้านมา และให้ไปจอดรออยู่ที่ซอยก่อนถึงบ้านเจ้าสาวก่อน เพราะยังไม่ถึงเวลาและที่สำคัญคือ ตากล้องทั้งสองคนยังเดินทางมาไม่ถึง เรารอจนเหลือเวลาอีกเพียง 5 นาที ตากล้องก็ยังคงมาไม่ถึง แม้จะโทรประสานล่วงหน้าก่อนเกือบชั่วโมง ผมจึงตัดสินใจเดินหน้าพิธีตามเวลาที่กำหนด โดยแจ้งทางขบวนขันหมากเจ้าบ่าวให้เคลื่อนขวนมาที่หน้าบ้าน โดยตัวเอง ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า คือการทำหน้าที่ตากล้องเสียเอง (โชคดีที่ผมเอง ได้เตรียมกล้องไว้พร้อมอยู่ในกระเป๋ากันไว้อยู่แล้ว) และ ลูกปัทรีบให้เพื่อนอีกคนที่มาช่วยงานตั้งแต่เมื่อวานแล้ว รีบไปเอากล้องของตนเองมาช่วยถ่ายรูปอีกคน เรื่องนี้เจ้าสาวกับเจ้าบ่าวคงไม่ทราบในตอนนั้น….ก็เป็นเรื่องคาดไม่ถึงอีกครั้งครับ…..ตากล้องเดินทางมาถึงหลังพิธีเริ่มแล้วเกือบ 10 นาที แต่เราก็มีรูปและเริ่มพิธีตามกำหนดเวลา คือ 7.59 น. ได้ตามที่ตั้งใจครับ….รูปทั้งสามคือรูปที่ผมถ่ายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีครับ…..ขอบคุณสวรรค์จริง ๆ เราจึงสามารถมี Presentation ที่ครบขั้นตอน เพื่อนำเสนอได้ในงานเลี้ยงฉลองสมรสช่วงเย็น
งานแต่งครั้งที่ 2
มีโอกาสจัดงานแต่งอย่างมีส่วนร่วมครั้งที่ 2 อย่างจริงจังในชีวิต เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2552 ที่ผ่านมา ไม่ใช่ผมได้แต่งงานเป็นครั้งที่ 2 หรอกนะครับ แต่เป็นการได้ร่วมการจัดงานของลูกสาว ถือว่าเป็นการได้ร่วมจัดงานอย่างจริงจังเป็นครั้งที่ 2 นอกเหนือจากการจัดงานแต่งของตนเอง เมื่อ 35 ปีก่อน จึงอยากจะนำมาเล่าสู่กันฟัง จากประสบการณ์การจัดงานที่ห่างกันถึงขนาดนี้ เผื่อจะให้ข้อคิดหรือประโยชน์แก่ท่านอื่น หรือได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับท่านอื่นบ้างครับ
ฉลอง 60 ปีงานงิ้วปักธงชัย
ช่วงระหว่างวันที่ 4-8 ธันวาคม 2552 นี้มีงาน ฉลอง 60 ปีงานงิ้ว ของตลาดอำเภอปักธงชัย เป็นงานที่ถือว่าเป็นงานประจำปีที่ยิ่งใหญ่ของชาวตลาดปักธงชัย ที่จัดมานานเป็นปีที่ 60 แล้วในปีนี้ ดังนั้นจึงเป็นงานที่ผมได้พบเห็นและร่วมงานมาตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก งานงิ้วประจำปี ที่เรียกกันอย่างสั้น ๆ ที่จริง หัวใจสำคัญของงานคือ งานสักการะ ขอพร “ปึงเถ่ากงม่า” ที่เป็นศาลเจ้าประจำตลาดปักธงชัยนั่นเอง ชาวตลาดปักธงชัยและลูกหลานชาวตลาดปักธงชัย แม้จะไปทำมาหากินหรือไปมีครอบครัวอยู่ในที่ไหนของประเทศก็ตาม จะพยายามมาร่วมงานนี้ให้ได้ทุกปี เพื่อมาสักการะ ขอพร จาก “ปึงเถ่ากงม่า” ให้มีโชคมีลาภ มีความสุข ความเจริญในชีวิต เป็นช่วงรวมญาติของแต่ละครอบครัวอีกวาระหนึ่งด้วย
KORAT LOVE THE KING
หลังจากไหว้ย่าโมแล้ว เราก็ได้มีโอกาสร่วมชมงานวันสุดท้ายของงานเทิดไท้ องค์ภูมิพล ( KORAT LOVE THE KING ) ที่จัดโดยเทศบาลนคร นครราชสีมา ระหว่าง วันที่ 3-6 ธันวาคม 2552 ณ บริเวณลานย่าโม
เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมถวายความจงรักภักดี แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยการจัดกิจกรรมต่างๆ มากมาย มีการลงนามถวายพระพร ณ ลานอนุสาวรีย์, นิทรรศการโครงการปลูกจิตอาสาปลูกต้นไม้ให้พ่อ สร้างจิตสำนึกให้ประชาชนในพื้นที่ ให้มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม พบกับการแสดงดนตรี KORAT YOUTH ORCHESTRA ซึ่งเป็นวงดนตรีของเยาวชนจากสถานศึกษาต่างๆในจังหวัดนครราชสีมา กลุ่มนักดนตรีที่เข้าร่วมจาก 11 สถาบัน ในการบรรเลงประเภทเครื่องเป่า จำนวนกว่า 200 คน เล่นเครื่องสายจำนวนกว่า 100 คน และ นักร้องที่เข้าร่วมจำนวนกว่า 300 คน ประชาชนสามารถเข้าร่วมรับฟังการแสดงแสดงดนตรีเทิดพระเกียรติได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
รายละเอียดของงานอื่น ๆ คงหาได้ไม่ยากจากอินเทอร์เน็ตครับ เราโชคดีจริง ๆ ที่ได้ไปร่วมชมงานในวันสุดท้าย
อนุสรณ์สถานวีรชนคนโคราช
แม้ว่าผมเป็นชาวโคราชโดยกำเนิด แต่ไม่น่าเชื่อครับผมเพิ่งไปเดินที่ลานย่าโมเป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้เอง (6 ธันวาคม 2552) จึงได้เห็นและชื่นชมกับ อนุสรณ์สถานวีรชนคนโคราช ที่สร้างไว้ในบริเวณลานย่าโมแห่งนี้ จากบันทึกเขียนไว้ว่า
” อนุสรณ์สถานวีรชนคนโคราช อนุสรณ์สถานแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๔๘ เพื่อเชิดชูวีรกรรมท้าวสุรนารี (คุณหญิงโม) และวีรชนคนโคราช ที่ได้ช่วยกันต่อสู้ข้าศึกศัตรูที่มารุกรานจนได้ชัยชนะเมื่อปีพุทธศักราช ๒๓๖๙ “ ดังนั้นผมจึงได้มาชื่นชมอนุสรณ์สถานแห่งนี้หลังการสร้างถึง 4 ปีทีเดียว ก็อดที่จะนำภาพมาให้ได้ร่วมชื่นชมกันไม่ได้ครับ ท่านใดที่มีโอกาสแวะมาโคราช ไหว้ท่านท้าวสุรนารีแล้ว ก็อย่าลืมแวะมาสัมผัสบรรยากาศบริเวณลานย่าโมและอนุสรณ์สถานวีรชนคนโคราชที่อยู่ติดกันด้วยนะครับ
บริเวณลานย่าโม แห่งนี้ จะใช้เป็นลานจัดกิจกรรมต่าง ๆ อยู่เป็นประจำของชาวโคราช ดังนั้นเมื่อท่านแวะมาก็จะได้สัมผัสกับชาวโคราชได้มากขึ้น มีกิจกรรมมากมายหลายแบบในบริเวณนี้ เป็นที่พักผ่อนยามเย็นและยามค่ำคืนของชาวโคราช บริเวณลานย่าโมนี้ ในสมัยก่อนเป็นบริเวณสวนไม้ดอกไม้ประดับที่เรียกว่า สวนรัก และ ตลาดโต้รุ่ง ของชาวโคราช ในสมัยโน้น (ช่วงที่ผมเรียนอยู่ชั้น ม. 7- 8 โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย) โดยเฉพาะช่วงใกล้สอบ จะไปดูหนังสือที่บ้านเพื่อนที่อยู่ใกล้ ๆ จนดึก ก็ปั่นจักรยานสองล้อ หรือบางครั้งก็เดินจากบ้านเพื่อนมาหาอะไรรับประทานกันที่ตลาดโต้รุ่งแห่งนี้ หรือบางทีก็ให้ใครคนใดคนหนึ่งหรือสองคนออกไปซื้อกลับมารับประทานกันไปติวกันไป ในสมัยนั้นใครผ่านมาที่โคราชยามค่ำคืน ตลาดโต้รุ่งแห่งนี้ก็เป็นจุดนัดพบ ที่แวะมาหาของรับประทานกัน มีของอร่อย ๆ ให้เลือกชิมมากมาย รวมทั้งมีของฝากจากโคราชอันหลากหลาย ให้เลือกซื้อติดมือกลับไปอีกด้วย ผมยังจำบรรยากาศดี ๆ เหล่านั้นได้ครับ
พ่อของลูก
เนื่องในโอกาสวันพ่อ 5 ธันวาคม 2552 ปีนี้มีเวลาอยู่กับบ้านแบบสบาย ๆ นึกถึงคุณพ่อที่จากพวกเราไปนานหลายปีแล้ว คุณพ่อเป็นต้นแบบของผมและลูก ๆ ในเรื่องความขยันหมั่นเพียรและการดูแลเลี้ยงดูลูก ๆ
จำได้ว่าตอนสมัยที่ผมยังเด็ก ๆ เรียนอยู่ในชั้นประถมศึกษา คุณพ่อกับพี่ชายจะตื่นแต่เช้า ตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง ออกจากบ้านไปเพื่อไปรอรับซื้อของที่ชาวบ้านจะนำมาขายยังตลาด แต่คุณพ่อกับคุณพี่จะไปรอดักซื้อก่อนที่ชาวบ้านจะเดินทางมาถึงตลาด อุปกรณ์ที่นำติดตัวไปก็จะมีตาชั่งแบบเก่าที่เป็นคันด้ามยาวเพื่อไว้ชั่งน้ำหนักของที่จะซื้อ ของที่ซื้อก็จะมีทั้งข้าวเปลือก เป็ด ไก่ และ ของป่าต่าง ๆ ที่ชาวบ้านเอามาขาย พอฟ้าสว่างก็จะกลับมาเปิดร้านที่เป็นร้านค้าปลีก ที่มีทั้งของใช้ต่าง ๆ เครื่องมือสำหรับทำการเกษตร เสื้อผ้า และของอื่น ๆ อีกมาก เรียกว่าถ้ามีคนมาถามหาอะไรที่ไม่มีขาย คุณพ่อก็จะพยายามไปหาซื้อว่าไว้ขาย โดยเดินทางจากตัวอำเภอไปซื้อมาจากร้านค้าขายส่งที่อยู่ในตัวจังหวัด
คุณพ่อจะดูแลเรื่องอาหารการกินและการไปโรงเรียนของลูก ๆ อย่างดี คุณพ่อจะเป็นคนไปซื้ออาหารจากตลาดเอง ไม่ว่าจะเป็นผักผลไม้ เนื้อหมูและปลา นำมาให้คุณแม่เป็นผู้ทำให้พวกเราได้ทานก่อนที่จะไปโรงเรียน และในตอนกลางวันคุณพ่อก็จะเป็นผู้นำอาหารใส่ปิ่นโต ปั่นจักรยานไปส่งให้เราได้รับประทานกันที่โรงเรียนทุกวัน คุณพ่อจะนั่งดูเราทานจนอิ่มแล้วจึงนำเอาปิ่นโตกลับบ้าน ดังนั้นพวกเราจึงได้รับประทานทั้งอาหารเช้าและอาหารกลางวันอย่างเต็มที่ คุณพ่อจะซื้ออาหารที่ดี ๆ มาให้พวกเราทานกันอย่างสม่ำเสมอ คุณพ่อพูดกับพวกเราเสมอว่า “คนเรา ถ้าได้รับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ ก็จะทำให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง มีสมองที่ดีและเฉลียวฉลาด“ ดังนั้นเรื่องอาหารการกิน คุณพ่อจะเลือกแต่อาหารที่ดีมีคุณภาพให้พวกเราได้รับประทานกัน และพวกเราก็ไม่ทำให้คุณพ่อผิดหวังครับ ลูกของพ่อทุกคนเรียนดี สอบได้ที่หนึ่งของชั้น หรือที่หนึ่งของโรงเรียนกันแทบทุกคน มีชื่อติดบอร์ดของโรงเรียนกันหลายคน
ขอบพระคุณ คุณพ่อ ที่ทำให้ลูก ๆ มีวันนี้ คุณพ่อที่เป็นทั้งผู้ให้ และเป็นแบบอย่างที่ยอดเยี่ยมของพวกเราทุกคน…..ระลึกถึงพ่อครับ
บ้านชานเมือง (22) สัตว์ชั้นสูง
ตามที่ได้เล่าให้ฟังว่าที่บ้านชานเมืองของเรา มีทั้งพืชพรรณไม้ที่หลากหลาย ทั้งไม้ดอก ไม้ประดับ และไม้ผล ทางด้านสัตว์ก็มีทั้งที่เลี้ยงไว้และไม่ได้เลี้ยงแต่แวะมาเยี่ยมเยือนให้เราได้ชื่นชมและศึกษา ในบรรดาสัตว์ทั้งหมด จะมีอยู่พวกหนึ่งที่มีความหลากหลายเป็นพิเศษ มีทั้งขนาดเล็กกลางใหญ่ มีสีสรรมากมาย เป็นสัตว์ที่ว่องไว ฉลาด เสียงดี นอกจากนั้นยังมี นิสัยและลักษณะพิเศษต่าง ๆ มากมายที่เราต้องเรียนรู้ เพื่อให้เกิดสติปัญญา แต่ก็ยังไม่สามารถเรียนรู้ได้หมด เป็นสัตว์ชั้นสูงสองเท้า ที่มีสติปัญญาเป็นเลิศ มีความสลับซับซ้อนอย่างมาก ในนิสัยใจคอและในการแสดงออก มีการเคลื่อนไหวและการเปลี่ยนแปลง ที่ยากที่จะคาดเดาได้ การเรียนรู้จากสัตว์พวกนี้จำเป็นต้องเรียนรู้อย่างตั้งอกตั้งใจ ด้วยความมีสติ เป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต
เนื่องจากผมไม่มีกล้องซูมดี ๆ อย่างมืออาชีพ มีเพียงกล้อง Cybershot ธรรมดา จึงไม่มีความสามารถถ่ายภาพชัด ๆ ของสัตว์พวกนี้มาให้ชมได้ครับ ขอให้ผู้อ่านจินตนาการเอาเองนะครับว่า สัตว์พวกนี้รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร….อิอิ
สุขสันต์วันพ่อ…..สุขสันต์วันพ่อ…..สุขสันต์วันพ่อ…..อิอิ
บ้านชานเมือง (19) สัตว์เลี้ยงไม่มีขา
นอกจากเรามีสัตว์เลี้ยงยอดนิยมประเภท 4 ขาคือ เจ้าเหมียวที่เป็นสุดรักสุดโปรดของเจ้าของแล้ว ที่บ้านชานเมืองของเรายังมีสัตว์เลี้ยงอีกหลายชนิด วันนี้นำภาพสัตว์เลี้ยงไม่มีขามาให้ชมครับ อันนี้ก็แล้วแต่มุมมองของเจ้าของบ้านนะครับว่า มันเป็นสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์ไม่ได้เลี้ยง มันจะทำหน้าที่ควบคุมจำนวนต้นไม้บางชนิดไม่ให้มีมากเกินไป โดยการกินใบและยอดเป็นอาหาร อย่างเช่นต้นสมุนไพร (ง๊อก) ที่เจ้าของนำมาปลูก ตามในรูป (ซ้ายบน) หลาย ๆ ต้นถูกมันกินใบจนหมด บางต้นก็สามารถแตกใบใหม่ออกมาทดแทนได้ แต่บางต้นก็แห้งตายไป ทีแรกผมไม่เชื่อนะครับว่าเจ้าสัตว์ไม่มีขานี้สามารถปีนป่ายขึ้นไปถึงยอดต้นไม้สูงเป็นฟุตได้ เพราะส่วนใหญ่เคยเห็นแต่มันเดินอยู่บริเวณพื้นดินหรือพื้นซีเมนต์ข้างบ้าน (ตามรูปล่างขวา) แต่ท่านผู้ชำนาญการควบคุมปริมาณสัตว์ (ไม่ได้เลี้ยง) ชนิดนี้บอกว่า ต้องออกมาดูตอนดึก ๆ หรือ เช้า ๆ จึงจะได้เห็นมันออกปฏิบัติการ ผมพยายามเฝ้ามองหาอยู่หลายวัน จึงสามารถเห็นกับตา (ตามภาพ) โอ้โหมันเป็นสุดยอดนักปีนป่านจริง ๆ ครับ คราวนี้จับได้คาหนังคาเขาขณะมันกำลังปฏิบัติการกินทั้งใบและยอดจริง ๆ ครับ
พบว่ามีทั้งหอยเล็กหอยใหญ่ หลายขนาดด้วยกัน เรียกว่าหอยอะไรบ้าง ? มีวิธีกำจัดหอยพวกนี้อย่างไร ? ใครเป็นผู้ชำนาญการ ช่วยด้วยครับ มันเป็นสัตว์ที่เราไม่อยากจะเลี้ยง….อิอิ
เอ….แต่มันก็น่าจะมีประโยชน์ เพื่อการสร้างสมดุลย์ในระบบนิเวศน์นะ และการมองดูมันก็สามารถเตือนสติเราได้เหมือนกันนะ…..มันไม่มีมือมีตีน มันยังสามารถปีนป่าย เดินทาง เพื่อหาเลี้ยงชีพได้ เรามีตั้ง 2 มือ 2 เท้า (ตีน) จะต้องสู้ชีวิต ทำมาหาเลี้ยงชีพให้ได้ จะได้ไม่อายหอยมัน…..5555