เก็บเกี่ยวข้าวในแปลงนาสาธิต

อ่าน: 2558

เสาร์ที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ แปลงนาสาธิต การทำนาดำอินทรีย์ บ้านใหม่อุดม ต. บ้านใหม่ อ. หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา อาม่าในฐานะวุฒิอาสาธนาคารสมอง จ. นครราชสีมา ได้น้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาปรับใช้ เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ให้ครอบครัวชาวนา ทำนาให้ได้ข้าวให้พอกินตลอดทั้งปี และมีเมล็ดพันธุ์พอเพียงที่จะปลูกในฤกาลต่อไป อย่างมั่นคง จึงทำแปลงนาสาธิต เพื่อสอนให้ชาวนาทำนาที่เป็นมิตกับสิ่งแวดล้อม ถีงเวลาเก็บเกี่ยว อาม่าประสานขอความอนุเคราะห์รถเก็บเกี่ยวข้าวจาก บริษัทสยามคูโบต้า คอร์เปอเรชั่น จำกัด ซึ่งได้รับความร่วมมือดีอย่างดียิ่งค่ะ

แม่เสมเจ้าของนาคนที่ยืนดูนา

อาม่ากำลังโบกมือ

แม่เสมเจ้าของนา ปราบปลื้มกับผลผลิตที่ได้ ตอนปักดำให้ด้วยรถปักดำของคูโบต้า ใช้กล้าข้าวหอมมะลิ  ๑๐๕ อายุ ๑๕ วัน แม่เสมมาสารภาพกับอาม่าว่า ตอนแรกจะถอดใจแล้ว เพราะต้นข้าวต้นเล็กมาก แล้วเหี่ยวคิดว่าต้องตายแน่ๆ หลังจากปักดำดำไปได้หนึ่งอาทิตย์เริ่มให้ปุ๋ยอินทรีย์น้ำฉีดพ่น เพิ่มเสริมสร้างรากให้แข็งแรง จากนั้นข้าวเริ่มตั้งตัวได้ แม่เสริมทำตามคำแนะนำ และสังเกตุว่าหลังฉีดปุ๋ยครั้งแรก ไม่มีหญ้ามารบกวน จึงเรียกปุ๋ยน้ำว่ายา อาม่าต้องอธิบายให้ฟังว่า เป็นปุ๋ยน้ำอินทรีย์ที่ผลิตโดยเครือข่ายของอาม่า ให้ไว้ทั้งหมด ๖ ถัง (ถังละ๑ลิตร) ทีมงานอาม่าอธิบายวิธีใช้ ให้ชาวนาได้รับฟัง ซึ่งมีสองสูตร สูตรที่หนึ่งใช้กับต้นข้าวอายุน้อยกว่าสองเดือน และสูตรที่สองหลังจากต้นข้าว มีอายุสองเดือนขึ้นไป แม่เสมก็ทำตามคำแนะนำ คือ ฉีดปุ๋ย ทุก ๑๕ วัน รวมฉีดปุ๋ยทั้งหมด หกครั้ง และยอมรับว่าทำนาแบบนี้ไม่เหนื่อยเลยและออกรวงสวยงามจนเป็นที่โจทย์จันกันใน หมู่ชาวนา ตอนแรกนึกว่าจะไม่ได้ข้าวแน่ๆ แต่กลับกลายเป็นาข้าวที่สวยที่สุดในระแวกนี้ ถึงกับจะมาขอแลกข้าวไปปลูกบ้าง

รถเก็บเกี่ยวข้าวคูโบต้า

แปลงนาข้าวนี้ มีเนื้อที่แค่ไร่ครึ่ง ไม่ถึงสองไร่ค่ะ เพราะอีกครึ่งไร่อยู่เหนือขึ้นไปเป็นอีกแปลง ใชักล้าข้าวที่เตรียมมาสองไร่ไปดำที่แปลงน้อยด้วย และดูแลเหมือนนาแปลงใหญ่

ถ่ายข้าวใส่รถ

เก็บไปได้ส่วนหนึ่งเต็มรถเก็บเกี่ยว(เท่ากับน้ำหนักข้าวหนึ่งตัน ) ต้องถ่ายขึ้นรถบรรทุกข้าว แล้วเก็บเกี่ยวส่วนที่เหลือต่อจนหมด ซึ่งได้ข้าวอีกมากเกือบเต็มรถ คาดว่าต้องได้ข้าวเกือบสองตัน ในนาไร่ครึ่งค่ะ


ผลการศึกษาปลูกข้าวต้นเดี่ยวในท่อซีเมนต์

4442 ความคิดเห็น โดย Lin Hui เมื่อ พฤศจิกายน 5, 2011 เวลา 21:30 ในหมวดหมู่ ปลูกข้าวต้นเดี่ยว, เรื่องเล่าของLin Hui #
อ่าน: 42713

การปลูกข้าวต้นเดี่ยวโดยใช้แหนแดงและปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ

ผลการ การทดลองศึกษาการปลูกข้าวต้นเดี่ยวในภาชนะชนิดต่างๆ

๑. การปลูก(ปักดำ)ข้าวในท่อซีเมนต์ ใช้ข้าวหอมมะลิ ๑๐๕ ทั้งสองท่อค่ะ แต่ท่อที่หนึ่งขังน้ำได้ ท่อที่สองขังน้ำไม่อยู่ จึงเป็นข้อดีได้เปรียบเทียมกันได้ง่ายขึ้น เหมือนจำลองนาลุ่มและนาดอน

ปรากฏว่าข้าวทั้งสองท่อ มีการเจริญเติบโตไม่แตกต่างกัน ตั้งแต่ เมษายน - เดือนสิงหาคม

พอเข้าสู่เดือนกันยายน เริ่มมีความแตกต่าง ในท่อนาดอนข้าวเริ่มใบแห้งเนื่องจากท่อเก็บน้ำไม่อยู่ต้องเติมน้ำวันละสองครั้ง

ข้าวในท่อนาลุ่มยังดูแข็งแรงเริ่มลำอวบออกอาการว่าพร้อมที่จะตั้งท้องช่วงกลางกันยายน พอเข้าเดือน ตุลาคมก็ออกดอกสวยงาม

จนปลายเดือนตุลารวงข้าวแก่พร้อมที่จะเก็บเกี่ยวได้

จึงทำการเก็บเกี่ยวในวันที่ ๓๐ ตค. ๒๕๕๔ และตากรวงให้แห้ง

พอรวงแห้งรวบรวม และนับจำนวนรวงทั้งหมดได้ ๑๐๓ รวง เป็นรวงหักก่อนที่ข้าวจะแก่ รวง จึงมีรวงข้าวที่มีข้าวทั้งหมด ๙๘ รวง ทำการทะยอยนับเมล็ด ที่แยกข้าวออกจากรวง ที่ละรวง โดยแยกนับเมล็ดข้าวดี  และข้าวลีบ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ละเอียดทุกรวง


สรุปผลการศึกษาปลูกข้าวต้นเดี่ยวโดยใช้แหนแดงและปุ๋ยอินทรีย์ ในท่อซีเมนต์ท่อแรก(นาลุ่ม) ปลูกหกต้นเสียหายไปสามต้น เหลือสามต้นแตกกอกว่าร้อยลำแต่หักไปส่วนหนึ่งเหลือทั้งหมด ๑๐๓ ลำให้รวงทั้งหมด ๑๐๓ รวงแต่รวงหักไปก่อนที่เมล็ดจะพัฒนาต่อไป คงได้รวงที่มีเมล็ดข้าวแค่ ๙๘ รวง ได้เมล็ดข้าวทั้งหมด ๑๕,๕๘๓ เมล็ด เป็นข้าวเมล็ดสมบูรณ์ ๑๑,๕๑๘ เมล็ด
สรุปลงทุนปลูกข้าวเมล็ด(ต้นตายไป ต้น)  ได้ข้าวทั้งหมด ๑๑, ๕๑๘ เมล็ดค่ะ

ส่วนข้าวในท่อซีเมนต์ที่สอง ข้าวเริ่มจะแก่แล้ว คงเก็บเกี่ยวได้ประมาณกลางเดือนตุลา แต่ผลผลิตจะต่างกับท่อแรกอย่างเห็นได้ชัด แล้วจะสรุปผลหลังเก็บเกี่ยวค่ะ


ประวัติการขุดคลองต่างๆ

130 ความคิดเห็น โดย Lin Hui เมื่อ พฤศจิกายน 4, 2011 เวลา 0:04 ในหมวดหมู่ การจัดการน้ำ, ประวัติการขุดคลอง, เรื่องเล่าของLin Hui #
อ่าน: 3341

เป็นข้อมูลที่เพื่อนส่งมาให้ ประกอบกับการที่ได้เห็นและรับทราบข่าวจากทีวีในช่วงเวลาที่กรุงเทพเผชิญกับวิฤติน้ำท่วมในปีนี้ จึงอยากเก็บไว้ ศึกษา และแบ่งปันค่ะ
คลองแสนแสบ
เป็นคลองที่ขุดขึ้นตามพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) เพื่อเชื่อมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำเจ้าพระยา กับแม่น้ำบางปะกงเข้าด้วยกัน เมื่อปีพ.ศ. 2380 ด้วยพระราชประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งอาวุธยุทธภัณฑ์ กำลังรบและเสบียงอาหารไปยังญวน (เวียดนาม) ในราชการสงครามไทย-ญวนซึ่งใช้เวลารบนานถึง 14 ปี และมีชื่อเรียกว่า “สงครามอันนัมสยามยุทธ”

คลองมหาสวัสดิ์
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ขุด คลองมหาสวัสดิ์ ขึ้น เพื่อเชื่อมระหว่างแม่น้ำนครชัยศรีกับแม่น้ำเจ้าพระยา สำหรับใช้เป็นเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินไปนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ และเป็นเส้นทางคมนาคม โดยให้ เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ขำบุนนาค) และ พระภาษีสมบัติบริบูรณ์ เป็นแม่กองจ้างชาวจีนขุด เริ่มลงมือเมื่อวันที่ 13 กันยายนปีเดียวกัน เสร็จเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม รวมเป็นเงินค่าแรงทั้งสิ้น 1,101 ชั่ง 10 ตำลึง คลองมหาสวัสดิ์ยาว 28 กิโลเมตร ปัจจุบันคลองมหาสวัสดิ์ยังคงมีสภาพธรรมชาติที่งดงาม น้ำในคลองยังใสสะอาด สองฝั่งคลองเต็มไปด้วยสวนผลไม้ สวนกล้วยไม้ อีกทั้งนาบัวที่ผลิดอกชูช่อน่าชม กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรแห่งหนึ่งที่น่าสนใจ อ่านต่อ »


แปลงนาสาธิตบ้านใหม่อุดม

อ่าน: 2119

แปงนาสาธิต ที่บ้านใหม่อุคม ต. บ้านใหม่ อ. หนองบุญมาก ที่อาม่า และ ดร.อรรณพ วราอัศวปติ ในฐานะวุฒิอาสาธนาคารสมอง จ.นครราชสีมา ได้ขอความอนุเคราะห์จากบริษัทคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด มาช่วยทำนาดำข้าวหอมมะลิ ๑๐๕  ให้ในแปลงนา ๒ไร่ ของ แม่เสม ชำนาญพนา อาม่า และ คุณกิตติพงษ์ บุญประการ ได้ติดตามการเจริญเติบโตของข้าวในแปลงนานี้ เป็นระยะๆ มาโดยตลอด  บัดนี้ข้าวกำัลังออกรวงงดงาม พร้อมจะเก็บเกี่ยวได้ ในเดือน พฤศจิกายน ช่วงวันที่ ๑๖- ๒๐ ที่จะถึงนี้ค่ะ

อ่าม่าได้ประสานงานขอความอนุเคราะห์ไปยัง คุณครองชัย ตรีสัตย์ ผู้ช่วยผู้จัดการ-ขายภาคอีสาน บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เพื่อขอรถเกี่ยวข้าวมาช่วยเกี่ยวข้าวให้ในวันที่กำหนดเก็บเกี่ยวข้าว ส่วนวันที่จะเก็บเกี่ยวที่แน่นอนจะแจ้งให้ทราบภายหลัง เมื่อทุกอย่างลงตัวพร้อมค่ะ

อาม่าขอเชิญชวน เพื่อนพ้องน้องพี่มาดูแปลงนาสาธิตแปลงนี้ ที่อาม่าพยายามให้เกิดขึ้นในโคราช ซึ่งได้เกิดขึ้นแล้ว และกำลังจะเก็บเกี่ยวแล้ว จึงขอเชิญ ทุกท่านที่สนใจ รวมทั้งเพื่อนๆ ชวนชาวนาวันหยุดมาชมด้วย  พยายามจะจัดเก็บเกี่ยวในวันหยุดค่ะ


วัดอาม่า(ที่มาเก๊าต่อ)

138 ความคิดเห็น โดย Lin Hui เมื่อ ตุลาคม 5, 2011 เวลา 22:37 ในหมวดหมู่ มาเก๊า-ฮ่องกง, วัดอาม่า, เรื่องเล่าของLin Hui #
อ่าน: 3965

“มาเก๊า” มาจาก “อาม่า” ไม่ต้อง งงคะ อาม่าจะเล่าให้ฟังค่ะ

ชื่อ มาเเก๊า นั้น มีต้นกำเนิดมาจาก อาม่า อาจมีคำถามต่อมาว่าแล้ว อาม่า คือใคร?  ตามตำนานเล่าขานกันต่อๆมาว่า อาม่า คือ  หญิงสาวนามว่า  “หลิงม่า” เป็นเทพธิดาที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งท้องทะเลค่ะ เรื่องราวที่ทำให้ อาม่า กลายเป็นเทพธิดาศักดิ์สิทธิ์แห่งท้องทะเล ที่เป็นที่เคารพของชาวประมง ชาวเดินเรือ

มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมายาวนานว่าด้วยความเป็นมาของเทพธิดาศักดิ์สิทธิ์ “หลิงม่า” คือชื่อของหญิงสาวชาวฟูเจี้ยน(ฮกเกี้ยน)นางหนึ่ง วันหนึ่งเธอต้องการเดินทางข้ามอ่าวในคาบสมุทรดอกลิลลี่ขาว ซึ่งในภาษาจีนเรียกว่า “เอ้าเหมิน” เธอขอโดยสารมากับเรือประมงลำเล็กๆ ที่มีเจ้าของเป็นชายวัยชรา ขณะกำลังเดินทางอยู่กลางทะเล เกิดพายุรุนแรงพัดกระหน่ำอย่างรุนแรง ท้องทะเลบ้าคลั่ง คลื่นลมถาโถมเข้าใส่เรือน้อยใหญ่กลางทะเล ทำให้เรืออัปปางอยู่กลางทะเล แต่ด้วยปาฏิหารย์ ด้วยเดชะบุญญาธิการของ “หลิงม่า” ทำให้เรือประมงของชายวัยชราที่เธอขออาศัยนั่งมาด้วย รอดปลอดภัยจนเดินทางถึงฝั่ง ทันที่ ที่ “หลิงม่า” ขึ้นฝั่ง ร่างของเธอก็ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าหายลับไปกับตา ชาวประมงต่างพากันเชื่อว่าเธอคือเทพธิดาศักดิ์สิทธิ์แห่งท้องทะเล นับตั้งแต่นั้นมาดินแดนแห่งนี้ได้รับการขนานนามใหม่ว่า “อ่าวของอาม่า” หรือ “A Ma Gao ” ซึงเพี้ยนมาเป็น “มาเก๊า ” ในปัจจุบันนี้

ชาวประมงจึงร่วมใจมือร่วมใจกันสร้างวัดขึ้นไว้ในบริเวณนี้ ชื่อวัดอาม่า เพื่อกราบไหว้เทพธิดาศักสิทธิ์ และทุกครั้งที่จะออกทะเลก็จะมากราบไหว้ขอพร เพื่อไปการเดินทางออกทะเลไปทำประมงประสบความสำเร็จ

วัดอาม่า หรือศาลเจ้าแม่ทับทิม ตั้งอยู่บริเวณเขาบาร์ร่า สร้างขึ้นถวายอาม่า องค์เทพธิดาแห่งท้องทะเล ภายในมีศาลเจ้าและหินขนาดใหญ่ซึ่งแกะเป็นรูปเรือสำเภาโบราณ เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่าบริเวณนี้คือจุดแรกที่เจ้าแม่อาม่าย่างเท้าก้าวขึ้นสู่ผืนดินมาเก๊า บริเวณด้านหน้าวัดมีรูปปั้นสิงโตหิน สองตัว เชื่อว่าหากใครหมุนลูกแก้วในปากสิงโตไปทางขวาสามครั้ง พร้อมกับตั้งจิตอธิษฐานแล้วจะสมหวังในสิ่งที่ปรารถนา นอกจากนั้นยังมีความเชื่อเกี่ยวกับโชคลาภอีกมากมาย อย่างเช่น ชาวมาเก๊าจะใช้เหรียญลูบหลังเต่าแล้วทำท่าเก็บเงินเข้ากระเป๋า เพราะเชื่อว่าจะนำโชคลาภมาให้ เมื่อถึงช่วงเวลาเทศกาลอาม่า ( A Ma Festival )ในเดือนเมษายน หรือพฤษภาคมของทุกปี บรรยากาศที่นี่จะคึกคัก และมีการจัดแสดงเชิดสิงโตอย่างสนุกสนาน(ข้อมูลจากหนังสือคูมือท่องเที่ยวมาเก๊า)

วัดอาม่าถูกสร้างขึ้นมา เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวมาเก๊า บอกเล่าถึงวัฒนธรรมธรรมจีนที่หล่อหลอมอยู่ในศัรทธาแห่งลัทธิเต๋า ขงจื้อ พุทธศาสนา และความเชื่อในเทพ วัดอาม่าประกอบด้วยประตูทางเข้า

ซุ้มประตูทางเข้าศาลเจ้าซึ่งจะมีเทพเจ้าต่างๆ ที่เป็นที่เคารพนับถือของชาวจีน

ในบริเวณวัดจะมีที่ขายวัตถุมงคล และของที่ระลึกมากมาย ภายในวัดมีเทพเจ้าเจ้าหลายองค์ และมีอยู่อย่างหนึ่งที่วัดวัดอาม่า ที่มาเก๊าคือมีอ่างมังกรทองเหลืองถ้าใช้มือ 2 ข้างถูไปมาจะเห็นน้ำในอ่างโดดเต็นระบำได้  ใครที่ถูอ่างแล้วเห็นน้ำในอ่างโดดเต็นระบำ ทางศาลเจ้าก็จะบอกว่าเป็นคนมีบุญค่ะ คนที่ได้รับคำชมก็อิ่มบุญสุขใจกลับบ้านไปอย่างมีความสุขค่ะ

อาม่าเดินขึ้นเขาบาร์ร่า ตลอดเส้นทางขึ้นเขาจะมีศาลของเทพเจ้ามากมาย จนถึงจุดสูงสุดของเขา จะมีหินก้อนใหญ่สลักอักษรจีนสีแดงสองคำ “ไท้อี่”  ซึ่งชาวจีนเชื่อว่าเป็นทพเจ้าที่สถิตอยู่บนดาวเหนือ  เทพเจ้าดาวเหนือเป็นเทพสากลที่คนเดินเรือทุกชาติศาสนาเคารพนับถือ เพราะเป็นทิศหลักในการกำกับเส้นทางเดินเรือค่ะ อาม่าเข้าใจว่าน่าจะหมายถึง เทพธิดาแห่งท้องทะเล “หลิงม่า” หรืออาม่านั้นเอง (เป็นข้อสันนิฐานส่วนตัวของอาม่าค่ะ่)

ใต้ฐานหินก้อนนี้ จะมีรูปปั้นเซรามิคเจ้าแม่กวนอิม และกระถางธูปบูชาที่มีธูปและไม้ขีดไว้พร้อมค่ะ



Main: 0.075736045837402 sec
Sidebar: 0.070330142974854 sec