ประสบการณ์ที่อาจพลาดไป..ถ้าไม่..

โดย dd_l เมื่อ มกราคม 6, 2009 เวลา 7:39 (เย็น) ในหมวดหมู่ เรียนรู้ชีวิต #
อ่าน: 2125

ประสบการณ์บางอย่างผ่านเข้ามาโดยไม่ได้เชื้อเชิญ
เช่นเมื่อบังเอิญต้องพาญาติผู้ใหญ่ไปนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล
ในระหว่างเทศกาลปีใหม่ที่ใครๆ หลั่งไหลกันมาท่องเที่ยวเมืองเหนือ

เมื่อสถานการณ์ฉุกเฉินดีขึ้น ก็ทำให้ได้เริ่มฉุกคิด
ถึงการฝึกหัดเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส

 

 

นึกทบทวนว่า..หากไม่มีเรื่องเช่นนี้..
คงไม่มีโอกาสได้นั่งรถสวนทางกับขบวนรถติดยาวเหยียดหลายกิโล
ก็เป็นเพราะผู้คนเริ่มทยอยกันกลับเมืองกรุง
ทั้งอุทาหรณ์จากนักท่องเที่ยว ที่ต้องเลี้ยวมาฉีดยาในโรงพยาบาลด้วยน้องหมาฝากคมเขี้ยวไว้

 

ารนอนเฝ้าไข้ ทำให้ได้ทดสอบสมรรถภาพของร่างกายหลายข้อ
ทั้งการรอฟังเสียงจากเตียงคนไข้ เพื่อจะได้ลุกมาบริการได้ทันเวลา
ทั้งการรู้จักปิดสวิทช์หู ปิดสวิทช์ตา ในเวลาที่ต้องพัก
ได้ทบทวนวิธีการแบกรับน้ำหนัก ขยับย้าย
จนสุดท้ายได้รู้ว่าเอวและหลังไหล่ ชักจะใช้การได้ไม่เต็มที่
ทั้งได้มีโอกาส..ผิวปากได้ในขณะที่แปรงฟัน..
ให้เป็นเรื่องที่นึกขันขึ้นมาในขณะทำหน้าที่ล้างฟันปลอม ^^

 

ได้รู้ข้อดีของการใช้อารมณ์ขันในวันที่เหนื่อยหนัก
ได้รู้จักผลเสียของความเกรงใจ ด้วยต้องใช้หมอนรองขามากราบพระและหนุนนอน
กว่าจะรู้ว่าได้หมอนมาผิดประเภท คอก็ย่นไปหลายคืน..
:P
มีโอกาสได้ตื่น..ในเวลาที่ผู้อื่นยังหลับไหล..
ได้เห็นแสงไฟ ของเมืองใหญ่ในเวลาที่สงัดเงียบ

 

 

 

ได้มีโอกาสรอคอยแสงแรกในยามเช้า..
ได้เห็นแสงเงาที่สาดส่อง..
ได้เห็นความแปลกเปลี่ยน..ในมุมเดิม
ที่ช่วยเพิ่มความตระหนักรู้..ให้อยู่..ให้เป็น..เท่าทันต่อความจริงแห่งชีวิต
ซึ่งหมุนเวียนเปลี่ยนไปอยู่ทุกกาล

 

 

ได้เฝ้ามองความเป็นไปของผู้คนรอบข้าง
บ้างก็สุข สนุกกับงาน  บ้างก็ทำเพียงให้ครบเวลาที่ผ่าน
และได้เห็นการหยิบยื่นไมตรีแก่ผู้อื่น เพียงแค่ให้เวลารับฟังอย่างตั้งใจ

 

 

ได้เติมเต็มความเชื่อมั่นในมิตรไมตรี
ที่เชื่อว่าจะมีผู้ยินดีช่วยเหลือแนะนำในยามที่จำเป็น
และก็ได้เห็นในอานุภาพแห่งความคิดคำนึง
เมื่อวันหนึ่งได้รับข่าวคราวจากเพื่อนรักส่งถึงกันโดยมิได้นัดหมาย
เพียงเพราะได้ฝันถึง..ซึ่งตรงกับวันอันเหนื่อยหนักพอดี..
!!!

 

 

 

เมื่อมองย้อนกลับไป พบว่ามีแต่สิ่งที่ได้รับมากมาย..
แม้ไม่ได้ปรารถนาให้เกิดเหตุฉุกเฉินเช่นนี้กับผู้อื่น หรือเกิดขึ้นอีก
แต่เมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้  ก็ลองหัดดูใจ ดูความคิด หัดพลิกวิกฤตเป็นโอกาส
ทั้งยังได้รับความรู้สึกดีๆ จากมิตรภาพและสายสัมพันธ์อันงดงามที่มีอยู่

และอย่างน้อย..ก็ไม่พลาดที่จะได้..ผิวปากไป..แปรงฟันไป..ให้บันเทิงใจเช่นครั้งนี้..

 

 

 ขอให้มีความสุขกาย สบายใจ ทุกท่านนะคะ..

   

« « Prev : พระจันทร์เปื้อนยิ้ม

Next : ได้เวลา..รักษาใจ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

12 ความคิดเห็น

  • #1 สร้อย ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 มกราคม 2009 เวลา 8:18 (เย็น)

    เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ

    …บททดสอบสุขภาพมักเริ่มต้นจากการที่ต้องเฝ้าไข้ผู้อื่น…แล้วก็จะรู้ว่าที่ต้องรักตัวเองมากขึ้นดูแลตัวเองมากขึ้นเพราะว่ามีคนที่เรารักรอเราอยู่
    ….บททดสอบใจ…มีได้ทุกวัน แต่การเฝ้าไข้ต้องเข้มแข็งกว่าหลายเท่า เพื่อเป็นหลักไม่ให้คนไข้เสียกำลังใจ

    การจัดการหลายเรื่องราวในชีวิตในช่วงเวลาจำกัด..อาจจะมีไม่สม่ำเสมอ แต่ในยามเฝ้าไข้…มีเรื่องราวมากมายให้จัดการ…รวมทั้งการจัดสรรจัดการเวลาสำหรับตัวเองด้วย

    ดูแลสุขภาพนะอึ่งนะ มีอะไรให้ช่วยก็บอกอย่าเกรงใจเน้อ

  • #2 dd_l ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 มกราคม 2009 เวลา 8:34 (เย็น)

    อุ้ยจ๊ะ..ขอบคุณในน้ำใจไมตรี  และวิธีแก้ปัญหาด้วยอารมณ์ขัน อิฉันก็เรียนรู้มาจากอุ้ยแหละจ้ะ
    ขอบคุณนะคะเพื่อน..

    ยินดีก้บการได้รับ ปริญญาเอกระดับเกียรตินิยมของเพื่อนด้วย..ดีใจจริงๆ

  • #3 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 มกราคม 2009 เวลา 8:59 (เย็น)

    พี่เองก็มีประสบการณ์คล้ายๆกันกับน้องอึ่ง ดีที่เราได้มีจังหวะคิด คิดถึงเรื่องของชีวิต การดำเนิน และสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการรักษาชีวิต

    จริงๆชีวิตเราต้องการหยุดเพื่อทบทวนและสรุปบทเรียนชีวิตบ้าง และควรจะมีบ่อยๆด้วยนะ มิเช่นนั้นก็จะเลยเถิดไปจนสายเกินแก้ได้ในบางเรื่อง…

  • #4 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 มกราคม 2009 เวลา 9:02 (เย็น)

    ยินดีและดีใจกับน้องสร้อยด้วยครับ…
    หาก คอน ทราบก็อาจจะกล่าวว่า
    เออ ตอนนี้อุ๊ย สร้อย ต่อมอดรีนาลีนจะหลั่ง ฮอร์โมน แห่งความสุขออกมา..อิอิ

    ยินดีด้วยคนครับ 

  • #5 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 มกราคม 2009 เวลา 9:49 (เย็น)

    มาให้กำลังใจ ดูแลสุขภาพด้วยนะค่ะ นี่แหละคือคำตอบร่างกายเราฟิตหรือไม่ฟิต เป็นโอกาสได้ฝึกบทเรียนสงบสติได้มากแค่ไหน ดูแลอารมณ์ได้ดีเพียงใด พี่เคยมีประสบการณ์กับตัวเอง รู้จักตัวเองดีขึ้นก็ตอนนั้นสตินะมีอยู่ แต่เป็นสติตื้นๆที่ดูแลอารมณ์ได้แค่ตื้นๆ ยิ่งพักผ่อนน้อย ยิ่งหลุดมากยิ่งขึ้น 

    เป็นวิกฤตที่ใช้ให้เป็นโอกาสของฝึกสติ ฝึกดูแลอารมณ์ และฝึกฝนวิธีสร้างความฟิตที่ดีจริงๆค่ะ  เป็นกำลังใจให้ค่ะ

  • #6 คนชอบละเมอ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 มกราคม 2009 เวลา 10:04 (เย็น)

    ไม่นึกว่า ใน โรงพยาบาล ก็ยังหา ความสุข ได้

    อยากให้ คนไข้ กับ ญาติ เป็นอย่างนี้จัง
    ( เอ้ะ หรือ หมอ กับ พยาบาล )
  • #7 สิทธิรักษ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 มกราคม 2009 เวลา 10:22 (เย็น)

    ได้อ่านบทความอย่างนี้ก็ไม่ต้องห่วงกันมาก  ดีใจจริงๆครับ   แข็งแรง เข้มแข็ง คล่องแคล่ว คมขัน  ตลอดปีใหม่ครับผม

  • #8 dd_l ให้ความคิดเห็นเมื่อ 7 มกราคม 2009 เวลา 10:26 (เย็น)

    พีบางทรายคะ

    เวลาที่เราอยู่กับงาน บางทีก็ยุ่งๆ กับเรื่องภายนอก จนลืมสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นภายในใจของเราจริงๆ ค่ะ  แต่ก็พยายามจะ..ทันต่ออารมณ์ของตนเองให้มากอยู่เหมือนกัน  บางทีก็หลุด..แฮ่ๆ   โชคดีมีกัลยาณมิตร ทำให้ชวนกันคิด ชวนกันเริ่มต้นใหม่อยู่เรื่อยๆ

    ก็คงต้องฝึกไปชั่วชีวิตล่ะนะคะพี่

  • #9 dd_l ให้ความคิดเห็นเมื่อ 7 มกราคม 2009 เวลา 10:37 (เย็น)

    พี่ตาจ๋า..

    เอาพี่ไปซ่อนไว้หลังโรงอีกแล้ว  อาจเป็นเพราะชื่อ..สาวตา มาคอมเมนต์ที่นี่เป็นครั้งแรกนะคะ

    ตอนที่ยุ่งๆ และมีเรื่องต้องกังวลกับอาการป่วยอยู่บ้าง  คิดไว้ว่า ถ้าเหลือบ่ากว่าแรงจะโทรฯ ถึงสร้อยและพี่ตา  ซึ่งแน่ใจว่าจะได้รับความช่วยเหลือที่ดีแน่ๆ  แต่โชคดีที่ไม่มีอะไรร้ายแรงเท่าที่คิดค่ะ  แต่ในความแน่ใจนั้น..เป็นความรู้สึกที่ดีจังค่ะพี่

    ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ

  • #10 dd_l ให้ความคิดเห็นเมื่อ 7 มกราคม 2009 เวลา 10:48 (เย็น)

    สวัสดีค่ะ คุณหมอ “คนชอบละเมอ”

    ขอบพระคุณที่แวะมาเยี่ยมนะคะ   ช่วงเฝ้าไข้ และ ผู้คนก็หวังพึ่งพาว่าคงจะรู้เรื่องกว่าใครๆ ในบ้าน..(ซึ่งไม่รู้ว่าเค้าจะเข้าใจผิดหรือเปล่า..)
    บางทีก็ต้องลดความกดดันของตัวเองด้วยวิธีนี้บ้างเหมือนกันค่ะ  พอเริ่มมองอะไรๆ ก็ได้เรื่อง..อิ อิ

    ในช่วงเวลาป่วยไข้  ใจของผู้คนรอบข้างบางทีก็ป่วยตามโดยไม่ค่อยรู้ตัวนะคะ  เลยได้โอกาสฝึกฝนตนเองอยู่บ้างค่ะ

  • #11 dd_l ให้ความคิดเห็นเมื่อ 7 มกราคม 2009 เวลา 10:51 (เย็น)

    เฮียเหลียงจ๋า..

    ขอบพระคุณสำหรับความห่วงใย และ พรปีใหม่ค่ะ  ขอให้เฮียมีสุขภาพแข็งแรง ยิ้มได้ทุกวัน เช่นกันค่ะ
    บอกว่าไม่ต้องห่วงกันมาก…แต่อยากให้ห่วงอะ..ห่วงแค่สองนาทียังดีนะคะ…555

  • #12 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 มกราคม 2009 เวลา 12:13 (เช้า)

    จะชวนน้องอึ่งไปที่นี่ แต่ทำไมลิงคไม่ไปไม่รู้ซี


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.11782002449036 sec
Sidebar: 0.016463994979858 sec