เมษานี้..มีแขกมาเยือน..

โดย dd_l เมื่อ เมษายน 21, 2012 เวลา 11:53 (เย็น) ในหมวดหมู่ การศึกษา, เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 2618

ปีนี้น่าจะเป็นปีมงคลของโรงเรียน..
นับตั้งแต่สิ้นปีการศึกษา มีคุณครูทยอยลาบวชกันสามคน ทั้งครูไทยครูฝรั่ง
ได้ร่วมทำบุญงานบวชให้อิ่มใจ

พอปิดเทอมได้ไม่นานนัก..ก็ได้รับการติดต่อ คณะพระสงฆ์และฆราวาสอยากจะมาศึกษาดูงาน
ในโอกาสที่จะปรับปรุงหลักสูตรโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์
ในสังกัดมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย
รับฟังรายละเอียดเรื่องราวแล้ว นึกอนุโมทนาในศรัทธาของคณะทำงาน
ที่ตั้งใจจะทำให้ผู้คนได้นำหลักธรรมมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิต
คิดว่าหากจะมีส่วนช่วยอะไรได้บ้างก็ยินดี


นึกทบทวนว่าโรงเรียนจะมีอะไรให้ได้ศึกษา ด้วยจะมาในช่วงเวลาปิดเทอม
จึงนำเอาบันทึกในลานเวลาและเวปไซต์ของโรงเรียนส่งให้พระสงฆ์ผู้ประสานงานได้ลองดู
เพื่อจะเห็นภาพรวมของโรงเรียนอย่างคร่าวๆ
เมื่อถึงคราวได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์ จับประเด็นได้ว่าสนใจเรื่องของการพัฒนาทีม
และการจัดการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมที่ทำในโรงเรียน
จึงเรียนท่านไปว่า จะให้มาศึกษาดูงานบนพื้นฐานของความจริง
และการทำงานบนพื้นฐานของความไม่สมบูรณ์พร้อมซึ่งมีทั้งสิ่งที่ทำได้และยังทำไม่สำเร็จ
ส่วนการเรียนการสอนมีเพียงกิจกรรมในค่ายฤดูร้อนและร่องรอยของสิ่งที่ทำไว้ในภาคเรียนปกติ
มีทีมครูที่พร้อมจะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยกัน
ให้เป็นการมาดูโรงเรียนธรรมดาที่ตั้งใจพัฒนาการเรียนการสอนให้เกิดประโยชน์แก่เด็ก

นำเรื่องราวไปส่งข่าวแก่ทีม..
เห็นความยินดีที่จะได้มีประสบการณ์ที่แปลกใหม่
ทุกคนไม่ใคร่ได้ร่วมงานกับพระสงฆ์องค์เจ้าบ่อยนัก
ที่แอบกังวลใจกันกลับเป็นเรื่องจะพูดคุยกับท่านอย่างไรให้เหมาะสม..
จะสวัสดีหรือนมัสการ..จะแทนตัวว่าอย่างไร..ฯลฯ
ไม่คิดว่าเป็นเรื่องกังวลจริงจัง แต่ก็ต้องนั่งขำยามที่แนะนำตัวกันในวงประชุม
เมื่อเห็นใครบางคนเหลือบตามองโพยที่เขียนคำว่า “กราบนมัสการพระคุณเจ้า..”ไว้
เพื่อให้พูดตามที่ตั้งใจได้ถูกต้องก่อน แล้วจึงจะพูดคุยต่อได้ตามปกติ!! ^^

คณะสงฆ์ผู้ประสานงานเดินทางมาพักที่โรงเรียนล่วงหน้าก่อนคณะใหญ่จะมาถึง
ในค่ำวันที่เพิ่งจะเสร็จจากการระดมพลทั้งคนทำงานและลูกหลานเก็บกวาดกิ่งไม้ใบไม้มาตลอดวัน
ด้วยพายุพัดกระหน่ำมาก่อนหน้านั้นพอดี
มีเวลาพูดคุยเตรียมการกันเล็กน้อยและพลอยให้มีเรื่องประสานงาน
ให้ศิษย์รุ่นน้องร่วมอาจารย์จากเชียงใหม่ที่ตั้งใจจะมาร่วมต้อนรับได้รับมอบหมายหน้าที่
โดยวิธีให้งานอย่างกระทันหัน ซึ่งก็รับลูกกันเดี๋ยวนั้นด้วยสปิริตอันแรงกล้า

คณะสงฆ์เตรียมงานอย่างขันแข็ง แบ่งขั้นตอน จัดระบบงาน
เพื่อจัดประสบการณ์แก่คณะที่จะตามมาถึงกว่าห้าสิบรูป/คน
ทั้งคุณครู อาจารย์ที่มีจิตอาสาจะร่วมพัฒนาหลักสูตร ผู้ปกครองนักเรียน
รวมถึงเจ้าตัวเล็กที่ติดตามมากับคณะ ล้วนมาจากต่างถิ่นที่
จึงจัดเตรียมให้มีช่วงเวลาที่จะเสวนาระหว่างกันด้วย
เรียนคณะผู้ประสานงานก่อนนมัสการลากลับบ้านว่า
อย่าเกรงใจขอให้โรงเรียนนี้เป็นเสมือนวัดของท่าน
ต้องการดูอะไร หรือต้องการให้เรียนรู้ร่วมกันในเรื่องใดขอให้บอก

อาจด้วยเหตุนี้ ในยามเช้าที่ตั้งใจจะให้ทีมงานในโรงเรียนปรับเปลี่ยนห้องประชุมที่เตรียมไว้
ให้ได้บรรยากาศใกล้ชิดระหว่างกันมากกว่าเดิม
ได้ยินเสียงเลื่อนโต๊ะเก้าอี้ กันคึกคัก จึงโฉบไปดู นึกชมทีมอยู่ในใจว่ามากันได้เร็วดี
แต่กลับพบบรรดาหลวงพี่ยกย้ายข้าวของกันเองโดยไม่ต้องรอให้ใครบริการ ^^

เมื่อเด็กค่ายเริ่มทยอยมา หลังจากไม่ได้เจอหน้าเพื่อนหน้าครูหลายวัน
เสียงทักทายกันจ้อกแจ้กจอแจ บ้างก็ตื่นเต้นกับสภาพบ้านในค่ายที่เจอผลพวงจากพายุ
บ้างช่วยปัดกวาดเช็ดถู ซ่อมแซมบ้านของตัวที่เสียหาย
แถมยังมีพระสงฆ์มาเดินดู คุยกับคุณครู คุยกับเด็ก ดูแปลกไปจากทุกวัน
แต่ด้วยเด็กคุ้นเคยกับการพบคนแปลกหน้า จึงไม่มีปัญหากับการดำเนินค่ายไปตามปกติ
แม้เมื่อมีเสียงตามตัวว่าคณะใหญ่เดินทางมาถึงแล้ว
ก็ยังถูกหนุ่มน้อยดึงให้ไปถ่ายรูปมดที่อพยพมาอยู่ในรูไม้ที่ใช้ตกแต่งบ้าน
ให้ได้โอกาสอวด..บ้านผมมีที่เลี้ยงมดแบบใหม่..อยากให้ครูไปดูหน่อย..
ทั้งอีกหนุ่มน้อยก็คอยจะอวด..นี่ผมมีรองเท้าใหม่..ด้วยใบหน้ายิ้มซื่อใส..
จนต้องเอาใจด้วยการแวะไปดู ก่อนจะขอตัวไปรับแขก

ยามนึกถึงบรรยากาศการดูงานโดยทั่วไป
ซึ่งมักจะได้รับการต้อนรับอย่างเป็นทางการในสถานที่ที่ตกแต่งอย่างหรูหรา
นำเสนอเนื้อหาเรื่องราวด้วย power point , วิ.ดิ.โอ, แฟ้มรูปภาพ,แฟ้มงาน, บอร์ด สารพัด
มีความเห็นตรงกันกับผู้ประสานงาน ที่ไม่อยากทำเช่นนั้น
จึงจัดการต้อนรับแบบเรียบง่ายและไม่เน้นการใช้เทคโนโลยีในการนำเสนอ
หลังจากพบเจอ แนะนำตัวระหว่างผู้มาเยือนกับเจ้าบ้านกันเรียบร้อย
จึงค่อยๆ เล่าเรื่องราวของโรงเรียนให้รับรู้ภายในเวลาไม่นานนัก

ตั้งแต่ที่มาของการก่อตั้งโรงเรียน ซึ่งเริ่มต้นมาจาก
ความตั้งใจให้การศึกษาแก่บรรดาลูกหลานชาวจีนในเมืองเล็กแห่งนี้
จนมีเหตุให้ต้องเปลี่ยนแปลงจากโรงเรียนจีนมาเป็นโรงเรียนในปัจจุบัน
บอกเล่าถึงความหมายของชื่อโรงเรียนทั้งจีนไทย
จาก หวุนเจิ้ง(เจริญและเที่ยงธรรม) มาเป็น มงคลวิทยา
ที่ให้ความหมายว่า สถานศึกษาที่ให้วิชาความรู้ซึ่งนำสู่ชีวิตที่ดีงาม
ทั้งเจตนาอันดีที่เป็นจุดเริ่มก่อตั้ง และความหมายของชื่อโรงเรียน
จึงได้รับการสืบทอดและใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง

เล่าถึงแนวคิดในการจัดการศึกษาของโรงเรียนที่มุ่งพัฒนาให้เด็ก
เป็นผู้ที่เรียนรู้อย่างมีความสุขเพื่อการพึ่งตนเองได้และใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า
ทั้งการพัฒนาครูที่จะสอนด้วยความรัก ความรู้และความเป็นครูอย่างแท้จริง
บรรยากาศการทำงาน การเรียน ที่เป็นเสมือนครอบครัวใหญ่
ทั้งวิธีการเรียนที่จัดให้เด็กเรียนรู้ด้วยการปฏิบัติและได้ประจักษ์แจ้งด้วยตนเอง
ผ่านการทำกิจกรรมอย่างหลากหลาย
ให้ได้เรียนรู้ทั้งจากความสำเร็จและความล้มเหลว

บอกแหล่งข้อมูลให้รู้ สำหรับผู้อยากจะดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากเวปไซต์
และแจกจุลสารของโรงเรียนที่รวบรวมเรื่องราวที่ได้ทำในแต่ละปีการศึกษา
พอให้ได้เห็นภาพ  เพื่อจะเลือกศึกษาในประเด็นที่สนใจได้ตามสะดวก
ก่อนจะแบ่งกลุ่มแยกย้ายให้คุณครูฝ่ายเจ้าบ้านพาไปชมสถานที่และกิจกรรม

นำท่านหัวหน้าคณะไปเริ่มต้นที่ห้องครูเซี้ยง
ผู้ซึ่งวางรากฐานความเป็นครูผู้ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง สมถะ
และใช้เวลาศึกษาเรียนรู้เพื่อพัฒนาความเป็นครูจนตลอดชีวิต
ได้ชมข้าวของที่เชื่อมโยงกับการเรียนการสอนในอดีตแล้วจึงพาเดินต่อ
ลัดเลาะชมสวนผัก สวนถาด สวนครัวข้างอาคาร
ทั้งงานจัดการแหล่งเรียนรู้จากธรรมชาติ
ทั้งพืชพรรณ เป็ด ไก่ ไส้เดือน ที่เลี้ยงไว้ให้ศึกษานานาชนิด
ในโรงเรียนนี้นอกเหนือจากการเรียนรู้ที่ครูจัดเตรียมแล้ว
ยังจัดสถานที่ในโรงเรียนไว้ให้เรียนรู้โดยธรรมชาติของเด็ก
ให้เป็นเรื่องของการเล่น การสำรวจสิ่งต่างๆ ตามที่อยากรู้อยากเห็น

ชมผลงาน ร่องรอยของกิจกรรมและการเรียน ที่ทิ้งไว้
ให้ได้เห็นกระทั่งแปลงปลูกใบชะพลูที่ขึ้นอยู่หรอมแหรม
และบ่อที่กลุ่มเด็ก ม.1 ทั้งหญิงชาย ช่วยกันขุดไว้จะเลี้ยงปลา
แต่เจอปัญหาขังน้ำไม่ได้ จึงเปลี่ยนไปเลี้ยงในบ่อซีเมนต์
ได้เป็นเรื่องให้ขบขันปนสงสาร เมื่อเห็นผลงานที่นำเสนอตอนสิ้นเทอม
ก็ปลาช่อนตัวโตหลายตัวล้วนสีข้างถลอกกันถ้วนทั่ว คงอยู่กันอย่างแออัดมานาน!!

พาเดินจนผู้ชมคงเหนื่อยอ่อน จึงแวะมาดูกิจกรรมการเรียนการสอนของทั้งสองค่าย
เป็นสัปดาห์ใกล้สงกรานต์ค่ายอนุบาลจึงเรียนเรื่องการเตรียมข้าวของเพื่อดำหัวผู้ใหญ่
ซึ่งคุณครูพาเด็กๆ ไปตั้งฐานเรียนกันในที่ต่างๆ
ใต้ต้นสารภีมีป้ายติดไว้ให้ได้รู้ ว่าดอกที่ลอยอยู่ในน้ำมะกรูดส้มป่อยมาจากต้นนี้
มีฐานทำหมากสุ่มใกล้สระว่ายน้ำที่มีต้นหมากไว้ให้ลองหาลูกหมากมาประกอบกิจกรรม
ต้นกล้วยที่พี่ ม.3 ปลูกไว้ในวันพ่อปีที่แล้ว
มีมากพอที่จะพาเด็กไปดูวิธีการตัดใบตองมาใช้ในงานนี้
เสียดายที่ไม่มีเวลาพอให้ได้เห็นขั้นตอนกระบวนการของค่าย
ที่ครูพาให้เด็กๆ ได้ลงมือลองทำอะไรหลายสิ่ง คั่วข้าวตอก พับกระสวย
ผสมน้ำส้มป่อย กระทั่งสอนกันเคาะฆ้องกลองเตรียมนำขบวนกันเป็นที่สนุกสนาน
ค่ายอนุบาล ต้องค่อยทยอยทำวันละสิ่งสองสิ่ง กว่าจะครบขั้นตอนก็ครบสัปดาห์พอดี

ไม่เหมือนค่ายของพี่ประถม ที่ระดมกันทำขนมเทียนในวันนี้
โดยมีทีมครูหนุ่มๆ เป็นผู้รับผิดชอบ
จึงมีการเต้น “แร็พขนมจ็อก”ประกอบการนำเสนอให้เป็นทีฮือฮา
แถมยังพาเด็กๆ แต่ละบ้านไป “ต๊กต๋อง” “ตัดต๋อง” นวดแป้ง ห่อขนม ฯลฯ จนทันชิมในวันเดียว

พาคณะแวะชมค่ายประถม ที่นอกจากทำขนมเทียนแล้ว
คุณครูยังนำเอาผลงานจากการเรียนของเด็ก วิธีการสรุปเรื่องเรียนรู้ของเด็กๆ
นิทานร้อยขา หนังสือพิมพ์ข่าวประจำสัปดาห์ของค่าย
ที่พระท่านบอกว่าสำนวนคล้ายจะออกแนวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐมาไว้ให้ชม
สมควรแก่เวลาก็ได้เวลาเพลกันพอดี

มีเวลาพักผ่อนหลังอาหารกันพอสมควรแล้วก็เริ่มกิจกรรมยามบ่าย
ที่ได้น้องอ้อมกับน้องตี๋ซึ่งแม้มีงานกันตอนเช้าก็ยังรีบขับรถมาทันเวลาช่วยงาน
ด้วยการนำกิจกรรมผ่อนพักตระหนักรู้ ให้ทั้งครูฝ่ายเจ้าบ้านและผู้ดูงานได้ร่วมผ่อนพัก
ทั้งห้องประชุมใหญ่จึงมีเพียงเสียงหายใจอันผ่อนคลายให้ได้ยินไปทั่ว

หลังจากเติมความสดชื่นแล้วก็ถึงเวลาแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ที่เริ่มด้วยการตอบข้อซักถามเพิ่มเติมในเรื่องที่ผู้มาดูงานสนใจ
ทั้งเรื่องของการทำอย่างไรในการสร้างทีม
จุดเริ่มในการสร้างหลักสูตรที่เน้นการปฏิบัติของโรงเรียน
และวิธีในการสร้างสรรค์กิจกรรมที่นำมาใช้

โรงเรียนอยู่ได้อย่างไรโดยเน้นความร่วมมือมากกว่าการแข่งขัน
แรงกดดันที่ต้องทำคะแนน O-net, NT ให้ดีตามที่ภาครัฐกำหนดไม่มีหรืออย่างไร
เด็กที่จบไปแล้วปรับตัวได้กันบ้างหรือเปล่า
โรงเรียนได้นำพุทธศาสนามาใช้อย่างไร ฯลฯ

แม้บรรดาคุณครูรุ่นใหญ่ไม่ได้มาร่วมต้อนรับ ด้วยตรงกับช่วงเวลาที่ลูกหลานพาไปพักผ่อนประจำปี
มีเพียงครูรุ่นกลางๆ ที่ชวนกันร่วมในวงสนทนา
กลับพบว่า คำบอกเล่าที่มาจากประสบการณ์ตรงของครูช่วยทำความกระจ่าง
และเติมมุมมองของผู้ปฏิบัติได้ชัดเจน
ทั้งรายละเอียดปลีกย่อยในการอยู่กับเด็กให้เกิดผล
ทั้งระบบการบริหารงานที่หัวหน้ากลุ่มสาระบอกเล่าถึงการทำงานร่วมกับรองผู้อำนวยการโรงเรียน
ที่หากเป็นเรื่องเกี่ยวกับการสอนมีบทบาทเป็นลูกทีมของตน
แต่เมื่อเป็นเรื่องการบริหารบุคคลก็เปลี่ยนบทบาทของตนเป็นลูกทีมบ้าง
ทั้งระบบการใช้งบประมาณที่ต้องบริหารด้วยปัญญา
ต้องหาวิธีใช้ข้าวของชิ้นเดิมให้แปลกตาไปในกิจกรรมใหม่อย่างไร
ทั้งบอกเล่าถึงกระบวนการที่ถูกเคี่ยวกรำมาจนมั่นใจในวันนี้
ถึงขั้นมีสโลแกน กำกับก้าวย่างของการพัฒนาตน”เราทำได้ เราได้ทำ เราทำดี”เป็นของแถม

น้องและเพื่อนร่วมอาจารย์ ยังร่วมแบ่งปันความคิด ความเห็น
เพิ่มเติมมุมมองของผู้ที่ได้ร่วมรับรู้เส้นทางการทำงานของโรงเรียนให้มากขึ้น

เป็นบรรยากาศ..เล่าสู่กันฟัง..เพื่อ..เรียนรู้
มากกว่าการชวนดูความเลิศหรูอลังการของความสำเร็จ
สิ่งใดทำได้ก็บอกให้รู้ บางสิ่งก็ยังอยู่ในระหว่างการพยายามทำให้เป็นผล
เป็นบรรยากาศของการพูดคุยอย่างวางใจและให้เกียรติซึ่งกันและกัน
เป็นบรรยากาศของการให้ความหวังและกำลังใจที่จะก้าวไปในเส้นทางสร้างประโยชน์สุข
เป็นหนึ่งวันที่ได้ร่วมพบปะกับผู้ที่มุ่งมั่นและตั้งใจให้เกิดสิ่งดีงาม

ก่อนจาก..ท่านพระครูผู้นำคณะมาเยี่ยมเยือน
มอบของที่ระลึกทั้งพระพุทธรูปและหนังสือไว้ให้แก่โรงเรียน เป็นการขอบคุณที่เอื้อเฟื้อให้เรียนรู้
แต่สำหรับความรู้สึกของบรรดาคุณครูฝ่ายเจ้าบ้าน
คณะของท่านกลับเป็นฝ่ายได้นำบุญมาให้แก่มงคลวิทยา
ให้มีกำลัง สติและปัญญา ก้าวไปในเส้นทางของการจัดการศึกษา
เพื่อมุ่งสู่ชีวิตที่ดีงามได้อย่างมั่นคงยิ่งขึ้น..ต่อไปและต่อไปอีก..

กราบนมัสการพระครูวิสุทธิปริยัติคุณ
และคณะทำงานจิตอาสาเพื่อปรับปรุงพัฒนาหลักสูตรฯ
โรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ที่กรุณามาเยี่ยมเยือน

……..
…..

ขอบคุณ อ.วิชชุดา ฐิติโชติรัตนา ที่เชื่อมโยงให้คณะผู้มาเยือนได้พบกับโรงเรียนมงคลวิทยา
ขอบคุณ  ผศ.ดร. ธีราวรรณ  ธีระพงษ์(อ้อม), อ.สหรัฐ เจตมโนรมย์ (ตี๋), อ.อนงค์ สารีรัตน์(หมวย)
และพี่น้องมงคลวิทยาทุกคนที่ร่วมกันต้อนรับและเรียนรู้กับผู้มาเยือน

« « Prev : ปะ..ไปดูลุงบางทรายยึดลานกัน..^^

Next : ปล่อยให้รกเรื้อบ้าง..ก็ได้นะ.. » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

2 ความคิดเห็น

  • #1 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 22 เมษายน 2012 เวลา 7:53 (เช้า)

    ใช้สรรพนามสนทนากับพระตามปกติแหละ อย่าไปใช้อาตมาก็แล้วกัน อิอิ

    เป็นการดีมากที่มีผู้มาเยือน เพราะเหมือนเป็นกระจกส่องหน้าเรา เหมือนกับมีทีมมา monitoring แต่เป็นอีกบรรยากาศหนึ่ง
    โดยเฉพาะคณะสงฆ์ ที่ท่านมีฐานของธรรมเป็นมุมมอง

    แน่นอนบางเรื่องก็อาจจะเว่อร์ไปสำหรับเงื่อนไขของมงคลวิทยา แต่ก็อาจมีบางเรื่องที่ เออ..ไปกันได้นะ

    การมีผู้มา monitor ช่วยทำให้เราเห็นประเด็นหลัก รอง จุดเด่นจุดอ่อน แนวทางต่อเติม ได้อีกแยะ ในทางตรงข้ามเป็นการย้อนกลับไปว่า แนวทางที่โรงเรียนทำนั้นไปตอบโจทย์ทางสังคมมากน้อยแค่ไหน

    จะดูผลการศึกษาต้องดูกันยาวๆ กระบวนการ และวิถีโรงเรียนมงคลวิทยานั้นพยายามสร้างบรรยากาศ สาระในโรงเรียนให้เอื้อต่อการสร้างเด็ก สร้างคน แต่ครูก็ทราบดีว่า ทำดีแค่ไหนก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของช่วงชีวิตของเด็ก และเป็นส่วนหนึ่งของเวลาแห่งชีวิตของเด็ก เพราะ เขาไม่ได้อยู่โรงเรียนตลอดเวลา เขากลับไปอยู่ในวิถีบ้าน(ที่เราไม่อาจไปสร้างบรรยากาศของการเรียนรู้ได้ : อาจจะได้บ้าง) เขากลับไปอยู่วิถีสังคมใหญ่ บางเรื่องก็เอื้อ บางเรื่องก็ไม่เอื้อต่อการเรียนรู้ บางเรื่องก็จูงไปทางที่ไม่พึงประสงค์ ก็เป็นปกติ หากมองในมุมบวก ก็คือ เออ เด็กเขาจะได้ผ่านบททดสอบของจริงบ้างนะ

    ครูอาจจะตั้งประเด็นถามว่า ช่วงวันหยุดที่ผ่านมาเธอมีอะไรมาเล่าให้ครูฟังบ้าง เอาสามเรื่องนะ เรื่องที่หนึ่ง ความประทับใจ มีไหม เรื่องที่สองความไม่ประทับใจ เรื่องที่สาม ความไม่เข้าใจ และอยากถาม เหล่านี้ก็กลายเป็นหัวข้อพูดคุยประจำวัน มีจุดดีตรงที่ให้เด็กได้เป็นผู้ช่างสังเกต เก็บประเด็นของชีวิตในแต่ละช่วงของเวลา มิใช่ผ่านไปเฉยๆ หากสร้างสมนิสัยแบบนี้ได้ ก็น่าที่จะมีส่วนเสริมสร้างนิสัยการเรียนรู้ ซึ่งเชื่อว่าโรงเรียนมีสิ่งเหล่านี้อยู่แล้วครับ

    การมีคณะสงฆ์ฒาเยี่ยมเยือนถือเป็นมงคลจริงๆนะ

  • #2 dd_l ให้ความคิดเห็นเมื่อ 22 เมษายน 2012 เวลา 10:19 (เช้า)
    การมาดูงานในครั้งนี้เป็นประโยชน์กับน้องและคุณครูจริงๆ อย่างที่พี่ว่าแหละค่ะ ทำให้ได้เห็นมุมที่ผู้อื่นมองเรา และทำให้ต้องมองตัวเองว่ามีสิ่งใดที่เราทำได้ ไม่ไ้ด้ หาวิธีที่จะบอกเล่าให้ผู้ที่ไม่มีประสบการณ์แบบเราให้เห็นภาพ บางอย่างก็เป็นเรื่องที่บอกเล่าด้วยถ้อยคำลำบาก บางเรื่องก็ต้องเป็นเรื่องที่ต้องดูหลายมุมอย่างต่อเนื่องจึงจะเห็น

    การจัดการศึกษากว่าจะเห็นผลต้องใช้เวลาจริงๆ แถมในระหว่างกระบวนการที่ก้าวไปสู่ปลายทางยังมีปัจจัยแทรกซ้อนเข้ามาให้เรียนรู้ ให้ปรับเปลี่ยนไปได้เรื่อยๆ ทั้งต้องคอยระวังไม่ให้หลงทางไปกับปัจจัยแทรกซ้อนจนไม่รักษาทิศทาง รักษาแก่นของการทำงาน จะดูให้สนุก ท้าทาย ก็สนุกอยู่นะคะ

    ประทับใจกับความมุ่งมั่นของคณะทำงานด้วยค่ะ ท่านเตรียมมาดูงานอยู่สองสามโรงเรียน มีข้อมูลเบื้องต้นของโรงเรียนที่จะไปดู มีประเ้ด็น ที่จะนำมาพูดคุย สรุป และทำงานต่อ ทำเป็นเอกสารแจกทุกคน แถมยังมีการประสานงานที่ช่วยกันวางแผนกับฝ่ายเจ้าบ้านอย่างไม่ติดกรอบใดๆ สนุกคิดกันใหญ่ค่ะ สำหรับบรรดาคุณครูเอง น้องก็ได้เห็นความเติบโตของเค้า เห็นความตั้งใจที่จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างอ่อนน้อม ซึ่งก็แอบชื่นใจอยู่นะคะ^^


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.14695501327515 sec
Sidebar: 0.032288074493408 sec