โม้จนเจอดี

อ่าน: 2478


ถ้ า ห วั ง  จ ะ อ ยู่ อ ย่ า ง ส ง บ   อ ย่ า อ ย า ก ดั ง !

ผมก็ไม่ได้อยากเด่นอยากดังอะไรหรอกนะครับ ภาษิตโบราณบอกว่า..กลองอยู่เฉยๆถ้ามันดังขึ้นมาเองเขาถือว่า..กลองจัญไร แต่ถ้าดังเพราะมีคนตีตามโมงยามก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา หมู่นี้สงสัยพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก เสียงโทรศัพท์เข้ามาทั้งวันจนหูไหม้ แต่ละคนโทรยาวเยียด สาเหตุมาจากหนังสือพิมพ์มติชนรายวันฉบับวันที่ 30 นะสิครับ ไปลงเรื่องราวครูบาหราเต็มหน้า มีรูปภาพประกอบเต็มพิกัด เสนอเรื่องงานวิจัยเอาใบไม้เลี้ยงวัว ซึ่งผมก็จำไม่ได้ว่าไปขี้โม้ไว้ที่ไหนบ้าง คนที่เขามาเยี่ยมมาศึกษาดูงานก็ไม่ได้บอกรายละเอียดว่าใครเป็นใคร จะเอาเรื่องราวไปทำอะไร จนกระทั้งวันนี้ละครับ เรื่องใบไม้เลี้ยงวัวแตกดังโพล๊ะ

เรื่องวัวกินใบไม้

ยังไม่มีใครหยิบยกมาวิจัยจริงจัง

ผมจึงตั้งเป็นหัวข้อวิจัยเสนอ(วช.)

เสนอไปแล้วก็โม้สะบัดสิครับ

เอามาขยายความขยายผลผู้คนก็สนใจ

มีเกษตรกรที่เลี้ยงปศุสัตว์โทรฯถามจากทั่วราชอาณาจักร

บางท่านถามรายละเอียดแล้วยังถามถึงระยะทางที่จะมาหา

บางท่านก็จ้ำจี้นัดหมายว่าอยู่บ้านวันไหน

บางท่านขู่มาแน่..จะบอกล่วงหน้า2สัปดาห์

บางท่านบอกจะเชิญไปโม้เดือนนี้-เดือนหน้า-เดือนโน้น

มีท่านหนึ่งเป็นผอ.โรงเรียนที่สงขลา

โทรมายินดีที่ยังมีชีวีอยู่ บอกว่าติดตามงานอยู่เสมอ น้ำใจหนอน้ำใจ..

ยังคิดไม่ออกบอกไม่ได้ว่าจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร?

คงจะรีบๆเขียนต้นฉบับหนังสือ”บุรีรัมย์โมเดล” ให้เสร็จด่วนจี๋

เผื่อจะได้ส่งหนังสือเล่มนี้แทนตัวไปให้อ่านกันพลางๆ

ฝนตกขี้หมูก็ไหลมาตามๆกัน  วันนี้สภาการศึกษาแห่งชาติ โทรมาให้ไปซ้อมรับเครื่องราชฯดิเรกคุณาภรณ์เหรียญทอง ในวันที่ 14 ในช่วงบ่าย แล้วรับจริงวันที่ 15  แต่ผมไปติดรายการของสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ข้าว เชิญไปเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษ ที่กรมการข้าวจะจัดงานสัมมนา “อนาคตกรมการข้าวและการผลิตข้าวของประเทศไทย” ที่โรงแรมเฟลิกซ์ ริเว่อร์แคว จังหวัดกาญจนบุรี เวลา 10.30-12.30 น. ให้ไปโม้ในหัวข้อ “การทำเกษตรกรรมพึ่งตนเอง อย่างเพียงพอยั่งยืน” ไปชนกับวันที่ผมจะต้องมาซ้อมฯที่สภาการศึกษาในช่วงบ่าย คงต้องขอไปนอนที่เมืองกาญจนบุรีคืนวันที่ 14 ขอแซงคิวโม้เป็นคนแรกสัก 1.30 นาที แล้วเผ่นเข้าบางกอก จะทันไหมนี่ !!

ใครมีเฮลิคอปเตอร์ช่วยบินไปรับหน่อยนะครับ.. โธ่ๆๆๆ

ช่วงนี้พายุฝนกระหน่ำหนัก ขี้หมูก็ไหลเป็นพักๆ หนังสือพิมพ์คมชัดลึกแจ้งให้ครูบาไปรับรางวัล ๗๗ ต้นแบบคนดี แทนคุณแผ่นดิน ปี ๕๔ เป็นตัวแทนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดละ1คน วันที่ 10 กันยายน ที่ห้องมงกุฏเพชร โรงแรมโฆษะ กะว่าจะไปเย็นวันที่ 9 นอน1คืน ไปเสนอหน้าเสร็จก็จะรีบเผ่น เพราะมีเด็กนักเรียน 50 ชีวิตมาเข้าค่ายรอตั้งแต่เช้าแล้ว

ป้าหวาน  ออต  ท่านบางทราย แม่ใหญ่ อยู่ไหมหนอ

จะชวนดวลข้าวต้มมื้อเย็นกันจั๊กหน่อย

จบข่าว อิ..


บ้าหอบฟาง

อ่าน: 2901

คนอื่นเขาจะไปนำเสนองานวิจัยแบบไหนผมไม่รู้นะครับ แต่งานวิจัยไทบ้านนอก เตรียมขนมะพร้าวห้าวไปเต็มที่ มีของไปหลายลัง เพื่อเอาตัวอย่างงานวิจัยเล็กๆน้อยๆมาให้ผู้ที่ลงทะเบียนได้ชม คิดอยู่นาน..ว่าจะเอายังไงกับรูปแบบการนำเสนอในครั้งนี้ จะจูงวัวที่กินใบไม้ไปโชว์ก็ลำบากแย่ เพราะห้องนำเสนออยู่ชั้นที่ 22 ถึงจะเอาวัวขึ้นลิฟไปได้ ก็ไม่รู้จะไปผูกไว้ตรงไหน  ถ้าจะเอาแพะไปด้วยก็เกรงว่าจะเดินเพ่นพ่านในงาน เรื่องมาจบตรงเตรียมPowerpoint เตรียมน้ำเต้าลูกแปลกไปอวด แถมยังเอาน้ำเต้ามาประดิษฐ์เป็นของใช้สอย เช่น ทำเป็นที่ใส่อาหาร ใส่ผลไม้ ใส่ของกระจุกกระจิกตั้งโต๊ะ ทำเป็นแจกัน และรังนก ยังเอาแผ่นไม้อะคาเซียที่ปลูกและแปรรูปไปให้ชม เพื่อจะได้ทราบขั้นตอนงานวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาพันธุ์ไม้ของมหาชีวาลัยอีสาน

อ่านต่อ »


เที่ยวบินปฐมฤกษ์

อ่าน: 4473

:: มันเป็นเรื่องพิลึกกึกกือพอสมควร

ที่ได้เป็นลูกค้าคนแรกของบริษัท THAI REGIONAL AIRLINES

ในการเปิดบินไฟล์แรกของสายการบินที่ว่านี้

มีทั้งเรื่องต๊กกะใจและประทับใจ ..ไม่เล่าไม่ได้แล้ว

(ผู้โดยสารกับเจ้าหน้าที่และกัปตันเที่ยวบินปฐมฤกษ์)

อ่านต่อ »


วันที่ต้องกลับไปหาแม่

อ่าน: 2280

:: เมื่อคืนอีแร้งแก่พามาส่งที่บางกอกก่อนเที่ยงคืน

ฝนตกรถติด คลานกว่าจะถึงโรงแรม ห้องครัวก็ปิดแล้ว

โงกเหงกตัดสินใจบากหน้าไปอาศัย ร้านป้าเซเว่นดีกว่า

ซื้อนม 1 ขวด ซื้อพลาสเตอร์ปิดแก้ปวดตราเสือ 1 ซอง

จะซื้อขนมก็ใช่ที่ ดึกดื่นเพียงนี้ยังจะกินให้ปากหวานไส้หวานอีกรึ

เขาเอาขนมไหว้พระจันทร์ไส้ต่างๆยั่วน้ำย่อยกระพุ้งแก้ม

อ่านต่อ »


ผักส่วนตัวสวนครัวรอบบ้าน

อ่าน: 4469

บทที่ 3 สวนผักส่วนตัว

เมื่อวานนี้ได้ต้อนรับอาคันตุกะที่ตรงกับหัวข้อนี้ เธอไปทำงานในยุโรปหลายสิบปี กลับมาเมืองไทยรับหน้าที่เป็นประชาสัมพันธ์ของสายการบินหนึ่ง ขยันขันแข็งทำงาน เป็นหนูถีบจักรที่รับผิดชอบจนเป็นที่ชื่นชมของบริษัท ทำงานดีรายได้ก็ย่อมงอกเงยดี แต่พอพิจารณาถึงคุณภาพชีวิตและสังคม พบว่าเพื่อนรักคนที่รู้จักล้มหายตายจากไปที่ละคนสองคน ผักที่ซื้อรับประทานทุกวันก็พบว่าปนเปื้อนสารพิษสารเคมี เกิดฉุกคิดว่า..เราจะบริหารชีวิตให้สมดุลและปกติสุขได้อย่างไร เงินทองก็ไม่เดือดร้อนแล้ว ยังจะมาบ้าจำเจง๊อกๆอยู่กับที่อย่างนี้ไปอีกทำไม

ว่าแล้วก็ลาออกจากงาน

กลับไปอยู่บ้านหลังใหญ่อายุ100ปี ที่อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่

ตั้งใจว่าจะอยู่อย่างสงบสบาย

อยากจะปลูกผัก ทำกับข้าว ติดโชคอัพให้ชีวิต

อยู่กับสายลม-แสงแดด-น้ำหมอกน้ำค้างบ้าง

แ ต่ ไ ม่ รู้ ว่ า จ ะ เ ริ่ ม ต้ น อ ย่ า ง ไ ร

นี่ คื อ โจทย์ที่คุณอาของเธอพามาที่นี่

(แบ่งปันพันธุ์ผักไปปลูกที่หางดง )

อาจารย์ศุภชัย พงศ์ภคเธียร คุณอาของเธอสอนมหาวิทยาลัยมหิดล เป็นแกนสำคัญในการตั้ง โ ร ง เ รี ย น สั ต ย า ไ ส จังหวัดลพบุรี เป็นกรรมการศูนย์จิตตปัญญาศึกษา แถมยังเป็นนักศึกษาโค่ง สสสส.1 ร่วมกันอีกต่างหาก อาจารย์ติดต่อไว้หลายครั้งแต่วืดทุกที ช่วงที่ชาวสสสส.1 มาบุกสวนป่า อาจารย์ก็แห้วเพราะมีงานโป๊ะเช๊ะ คราวนี้หลานสาวสนใจจะปลูกผักเพื่อบริการกระเพาะตัวเอง จึงชวนกันดั้นด้นมาสนทนาพาที ทั้งคู่เป็นชาวมังสะวิรัติ มื้อเย็นจึงชวนรับประทานผักเป็นพื้น โฉมยงต้มเห็ด ผัดสารพัดผักให้ชิม หลังจากคุยกัน ทราบว่าคุณหลานมีพื้นที่จะทำการปลูกผักอยู่ที่อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ มีความพร้อมที่จะปลูกได้อย่างสะดวกโยธิน เพียงแต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง

ทั้งคู่ตื่นแต่เช้ามาเดินฟังเสียงนกเขาป่าขันคู ผมตื่นแล้วติดตามมาชวนชี้ชมให้ดูแปลงเกษตรแปลงผักแบบมั่วๆของที่นี่ บังเอิญช่วงฝนอย่างนี้มีผักพื้นถิ่นผักยืนต้นพื้นบ้านแตกช่อออกดอกออกเถาว์พันกันยั้วเยี้ย เดินไปตรงไหนก็เจอแต่ผักๆๆ ส่วนมากคนกรุงไม่รู้จัก ถึงเราจะบอกว่า..ไอ่นั่นก็กินได้ไอ่นี่ก็อร่อย ..ผมบอกว่าที่นี่ไม่มีแปลงผักสวยๆงามๆเรียบร้อยเหมือนที่อื่น ที่ดูรกเรื้อนี่แหละคืออาหารปลอดสารพิษทั้งนั้น

ปัญหาอยู่ที่..

ทำอย่างไรจะรู้จัก รู้รส รู้วิธีรับประทาน

ทำอย่างไรจะรู้นิสัยของผักแต่ละชนิด

ทำอย่างไรจะรู้วิธีปลูก วิธีบำรุง วิธีดูแล

ปัญหาเบื้องต้นอย่างนี้แก้ง่าย สงสัยประเด็นได้ก็ต้องลงมือทำ จึงชวนคุยเรื่อง “ความสุขที่ชิมได้” การออกแบบแปลงปลูกผักในที่จำกัดแตกต่างกับการปลูกผักในพื้นที่กว้างๆ ถามว่าเธอชอบรับประทานผักชนิดไหนมากที่สุด ก็เหมือนคนเมืองทั่วไปนี่นแหละ ผักสลัด-บล๊อกเคอรี่-ผักกาด-ผักคะน้า-ผักบุ้ง-ถั่วฝักยาว-มะเขือ-แตงกวา-มะเขือเทศ เธอพยายามมองหา.. ไม่เห็นมีสักกะอย่าง จะเห็นอย่างไรละครับในเมื่อเราไม่ได้ปลูก ผักตามฤดูกาลพวกนั้นเราจะปลูกบ้างในช่วงปลายฝนต้นหนาว แต่ช่วงฝนชุกอย่างนี้สวนป่ามีผักพื้นถิ่นเหลือเฟือ เจี๊ยะหน่อไม้ หัวปลี ผักเม็ก ผักตำลึง ตะลิงปิง มะเขือเปรอะ มะเขือพวง บวบ พริก ขมิ้นขาว เห็ดละโงก ยอดโสม ยอดอ่อมแซบ ยอดผักโขมจีน ยอดและดอกมะรุม ยอดเพกา ยอดมะตูม ยอดมะกอก ยอดเสาวรส ยอดขี้เหล็ก ยอดสะเดา ยอดชะอม ยอดมะยม ยอดมะระขี้นก ถั่วงู ถั่วพู น้ำเต้า ฯลฯ

(รอกอดส์แนะให้ปลูกเผือกปลูกมัน กอสูงใหญ่กว่าของเมืองจีนเสียอีก)

ที่นี่มีปุ๋ยมูลโคมากมายไปใส่ไปปลูกผัก

ผักที่นี่จึงงอกงาม ต้นเผือกสูงใบใหญ่ที่สุดในโลก

ผักเหล่านี้เลี้ยงทั้งคน ทั้งแพะ และโค

โฉมยงจัดเมนูทุกมื้อเธอได้ชิมผักพื้นถิ่น

ได้คุยถึงผักพื้นบ้าน

เธอสนใจมะสัง เผือก จึงแบ่งพันธุ์ไปให้ปลูก

(แม่แพะท้องใหญ่คลอดลูก 3 สาว ตายไป1เหลือ2สาวน้อยแข็งแรงดี)

เรื่องอย่างนี้มันต้องสะสมไปเรื่อยๆ ถ้าเราตั้งใจตั้งเข็มทิศให้ถูก อีกหน่อยผักสารพัดชนิดก็จะเพิ่มขึ้นตามที่ตั้งใจ ปลูกผักเป็นกิจกรรมที่คนเมืองควรจะได้มีโอกาสปลูกกันบ้าง จะได้ตระหนักว่าอาหารที่เรารับประทานแต่ละมื้อนั้น ถ้าจะให้แน่ใจก็ต้องเป็นผักที่เราลงมือปลูกเอง เธอถามถึงเรื่องโรคแมลง การป้องกัน วิธีดูแลผัก ผมบอกว่าที่นี่ไม่มีแมลงตัวไหนดื้อดึงมารุกรานผักของเรา เห็นไหม เดินๆๆดูมาตั้งนานมีแมลงตัวไหนมากินผักพื้นบ้าน ถ้าเราเข้าใจเพื่อนร่วมโลก อยู่ด้วยกันแบ่งปันได้ ผักที่แมลงรบกวนนิดหน่อย ถือว่าเป็นการวิเคราะห์ความปลอดภัยให้เราได้เป็นอย่างดี ผักสวยๆในตลาด ไม่ต่างอะไรก็อาหารอาบสารพิษ

(ตอตาลเอามาทำเป็นกระถางปลูกผักนานาชนิดเก๋ไก๋ไม่เบา)

หลังเธอกลับไป 1วัน รุ่งขึ้นผมออกแบบปลูกผักรอบบ้านแบบใหม่ จะได้อธิบายให้คนเมืองเข้าใจง่ายๆ  บอกให้คนงานเอาตอตาลที่ตัดทิ้งไว้ปีที่แล้ว ปล่อยให้ปลวกและด้วงช่วยกันเจาะใส้ในให้กลวง ถ้าเราจะเจาะเนื้อตาลตอนสดๆทำยากมาก แต่ยืมพลังแมลงจัดการอย่างนี้สบายแฮ โพรงตอตาลท่อนไหนที่เล็กๆเบาๆเราก็เอาไปทำกล่องเลี้ยงผึ้ง พวกใหญ่บึกบึนก็เอามาเรียงเป็นแถว เอาดินผสมปุ๋ยใส่ให้เต็มเนื้อที่ข้างใน หลังจากนั้นก็เอาผักสารพัดชนิดมาปลูก มีทั้งหมดร้อยกว่าท่อน คงครบเครื่องครบครันผักให้เดินเด็ดชิมสบายๆ กลางหนาวที่นี้ผักที่ว่าก็จะแตกกอออกดอกออกผลแล้วละครับ

ตอนนี้อยากจะชิมผักชนิดไหนบอกได้

พรุ่งนี้ก็จะทยอยปลูกแล้วนะจ๊ะ

อ่านหนังสือเมื่อคืนนี้ ผู้สันทัดกรณีบอกว่า ถ้าเครียด ถ้าโกรธ ถ้าเหงาเศร้า จะส่งผลกระทบต่อกลไกภายในร่างกาย ที่ไม่เจ็บป่วยก็อาจจะปั่นป่วน ที่ป่วยร่อแร่ก็มีแต่จะทำให้อาการทรุดหนักได้ ดูพฤติกรรมในลานปัญญาก็เห็นว่าพวกเรามีทางออกแตกต่างกันไป บางคนก็โอดครวญเป็นวรรคเป็นเวร บางคนก็มีเรื่องกระดี๊กระด๊าทำทั้งปี บางคนก็ยุ่งกับภาระกิจหน้าที่ งานนอกงานใน โดยภาพรวมแล้วก็เห็นว่าน่าจะพอไปวัดไปวา ยังไม่อิดหนาระอาใจกับสภาพการเมืองตอหลดตอแหลจนกินไม่ได้ถ่ายไม่ออก

ความปกติสุขในบ้านเมืองเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญ

ท่ามกลางการแข่งกันแหกค่ายมฤตยูของวิกฤติเศรษฐกิจและสังคมโลก

บ้านอื่นเมืองอื่นเขาร่วมกันสร้างบ้านแปงเมือง

แต่บ้านเรายังสาละวนสาละวันเตี้ยลง

เวียดนามแซงหน้าไทยไปแล้ว ลาวกำลังตามมาติดๆ

ไทยนั่งเกาหิด สะเก็ดกระจายว่อน


“ในสังคมที่เป็นอยู่นี้ ไม่อาจหวังว่าจะทำการใด ให้กระแสตัณหาเหือดหายไปได้ หรือจะให้วิถีของฉันทะขยายขึ้นมาเป็นใหญ่ สิ่งที่พึงทำคือเพียงดุลไว้ไม่ปล่อยให้กระแสตัณหาท่วมท้นไหลพาไปลงเหว และคอยส่งเสริมวิถีแห่งการสนองฉันทะให้ดำเนินไปได้ ..สิ่งที่ต้องทำตลอดเวลาคือ ความไม่ประมาทในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ให้ก้าวหน้าไปในการพัฒนาความสุข”

พรพรหมคุณาภรณ์

ติดตามข่าวนกเตนเอาฝนมาทิ้งบ้านเรา

ทราบว่าทางภาคเหนือตกน้ำป๋อมแป๋ม

แต่ทางอีสานใต้ท้องฟ้ามืดครึมเฉยๆ

ฝนตกแต่ละทีชำระฝุ่นสกปรกที่เกาะอยู่ตามต้นไม้ใบหญ้า

ทำให้อากาศสะอาด ชุ่มชื่นร่มเย็น

แ ต่ ฝุ่ น ผ ง ที่ ป ก ค ลุ ม สั ง ค ม บ้ า น เ มื อ ง เ ร า ม า เ ป็ น เ ว ล า น า น

มิ รู้ ที่ จ ะ เ อ า น้ำ ย า อ ะ ไ ร ไ ป ชำ ร ะ ล้ า ง ใ ห้ ส ด ใ ส แ ว ว ว า ว

สงสัยต้องขดคู้อยู่แบบตัวอ่อนด้วงเสียกระมัง

key word : ยามหนุ่มแน่นชวนแฟนปลูกต้นไม้

แก่เฒ่าไปจะได้เห็นผลต้นไม้โตร่มรื่น

: ยามวันชรา ชวนคุณป้าปลูกผักล้มลุก

จะได้สนุกกับการเก็บผักมาชื่นชิม



Main: 0.061356067657471 sec
Sidebar: 0.070655822753906 sec