โม้จนเจอดี
ถ้ า ห วั ง จ ะ อ ยู่ อ ย่ า ง ส ง บ อ ย่ า อ ย า ก ดั ง !
ผมก็ไม่ได้อยากเด่นอยากดังอะไรหรอกนะครับ ภาษิตโบราณบอกว่า..กลองอยู่เฉยๆถ้ามันดังขึ้นมาเองเขาถือว่า..กลองจัญไร แต่ถ้าดังเพราะมีคนตีตามโมงยามก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา หมู่นี้สงสัยพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก เสียงโทรศัพท์เข้ามาทั้งวันจนหูไหม้ แต่ละคนโทรยาวเยียด สาเหตุมาจากหนังสือพิมพ์มติชนรายวันฉบับวันที่ 30 นะสิครับ ไปลงเรื่องราวครูบาหราเต็มหน้า มีรูปภาพประกอบเต็มพิกัด เสนอเรื่องงานวิจัยเอาใบไม้เลี้ยงวัว ซึ่งผมก็จำไม่ได้ว่าไปขี้โม้ไว้ที่ไหนบ้าง คนที่เขามาเยี่ยมมาศึกษาดูงานก็ไม่ได้บอกรายละเอียดว่าใครเป็นใคร จะเอาเรื่องราวไปทำอะไร จนกระทั้งวันนี้ละครับ เรื่องใบไม้เลี้ยงวัวแตกดังโพล๊ะ
เรื่องวัวกินใบไม้
ยังไม่มีใครหยิบยกมาวิจัยจริงจัง
ผมจึงตั้งเป็นหัวข้อวิจัยเสนอ(วช.)
เสนอไปแล้วก็โม้สะบัดสิครับ
เอามาขยายความขยายผลผู้คนก็สนใจ
มีเกษตรกรที่เลี้ยงปศุสัตว์โทรฯถามจากทั่วราชอาณาจักร
บางท่านถามรายละเอียดแล้วยังถามถึงระยะทางที่จะมาหา
บางท่านก็จ้ำจี้นัดหมายว่าอยู่บ้านวันไหน
บางท่านขู่มาแน่..จะบอกล่วงหน้า2สัปดาห์
บางท่านบอกจะเชิญไปโม้เดือนนี้-เดือนหน้า-เดือนโน้น
มีท่านหนึ่งเป็นผอ.โรงเรียนที่สงขลา
โทรมายินดีที่ยังมีชีวีอยู่ บอกว่าติดตามงานอยู่เสมอ น้ำใจหนอน้ำใจ..
ยังคิดไม่ออกบอกไม่ได้ว่าจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร?
คงจะรีบๆเขียนต้นฉบับหนังสือ”บุรีรัมย์โมเดล” ให้เสร็จด่วนจี๋
เผื่อจะได้ส่งหนังสือเล่มนี้แทนตัวไปให้อ่านกันพลางๆ
ฝนตกขี้หมูก็ไหลมาตามๆกัน วันนี้สภาการศึกษาแห่งชาติ โทรมาให้ไปซ้อมรับเครื่องราชฯดิเรกคุณาภรณ์เหรียญทอง ในวันที่ 14 ในช่วงบ่าย แล้วรับจริงวันที่ 15 แต่ผมไปติดรายการของสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ข้าว เชิญไปเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษ ที่กรมการข้าวจะจัดงานสัมมนา “อนาคตกรมการข้าวและการผลิตข้าวของประเทศไทย” ที่โรงแรมเฟลิกซ์ ริเว่อร์แคว จังหวัดกาญจนบุรี เวลา 10.30-12.30 น. ให้ไปโม้ในหัวข้อ “การทำเกษตรกรรมพึ่งตนเอง อย่างเพียงพอยั่งยืน” ไปชนกับวันที่ผมจะต้องมาซ้อมฯที่สภาการศึกษาในช่วงบ่าย คงต้องขอไปนอนที่เมืองกาญจนบุรีคืนวันที่ 14 ขอแซงคิวโม้เป็นคนแรกสัก 1.30 นาที แล้วเผ่นเข้าบางกอก จะทันไหมนี่ !!
ใครมีเฮลิคอปเตอร์ช่วยบินไปรับหน่อยนะครับ.. โธ่ๆๆๆ
ช่วงนี้พายุฝนกระหน่ำหนัก ขี้หมูก็ไหลเป็นพักๆ หนังสือพิมพ์คมชัดลึกแจ้งให้ครูบาไปรับรางวัล ๗๗ ต้นแบบคนดี แทนคุณแผ่นดิน ปี ๕๔ เป็นตัวแทนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดละ1คน วันที่ 10 กันยายน ที่ห้องมงกุฏเพชร โรงแรมโฆษะ กะว่าจะไปเย็นวันที่ 9 นอน1คืน ไปเสนอหน้าเสร็จก็จะรีบเผ่น เพราะมีเด็กนักเรียน 50 ชีวิตมาเข้าค่ายรอตั้งแต่เช้าแล้ว
ป้าหวาน ออต ท่านบางทราย แม่ใหญ่ อยู่ไหมหนอ
จะชวนดวลข้าวต้มมื้อเย็นกันจั๊กหน่อย
จบข่าว อิ..
Next : โอ้ น้ำ น้ำ ทะลักท่วมท้นทับอกชาวนา » »
17 ความคิดเห็น
ใช้แฮนด์ฟรีแก้หูไหม้นะครับ โทรศัพท์มากๆ ไม่ดี
อิ อิ..หูตึงไปอีกนาน
ว่าจะโทรฯ แต่ไม่โทรฯมา กลัวครูบาหูไหม้ค่า ^^
[...] น้ำท่วม ไม่ได้เดือดร้อนเฉพาะคน วัวควายก็แย่ไปด้วย น้ำท่วมหญ้าเน่า วัวควายไม่มีอะไรกิน “ซะเมื่อไหร่“ [...]
แหมโปรแกรมชนกันเปรี้ยงเลย วันที่ 9 ขึ้นบ้านใหม่ลูกสาว วันที่ 10 เผ่นไปอ่างทอง รวมญาติทำบุญร้อยวัน ให้แม่ครับพ่อครูบา
ปลูกไม้โตไวใบโปร่ง …วันนี้พระเอกของผมคือ ต้น เลี่ยน (มีหลายพันธุ์) ..พีน้องกับสะเดา โตไวเหลือเชื่อ แถมต้นเปลาตรง ใบโปร่ง ทรงพุ่มแคบ แดดส่องถึงพื้นประมาณห้าสิบเปอร์เซ็นต์ นี่แสดงว่าอัตราการสังเคราะห์แสงสูงมากๆ น่าจะสูงที่สุดในโลก (ยิ่งกว่าต้นปาล์มสาคูที่ว่ากันว่าอัตราสูงที่สุด)
พอแดดส่องถึงพื้นก็ปลูกพืชแดดรำไรได้อีกมากหลาย โดยเฉพาะพระเอกของผมคือ ผักหวานบ้าน จากนั้นเลี้ยงสัตว์ แพะ แกะ วัว ให้กินผักพวกนี้เป็นอาหาร เอาสักห้าอย่างก็ได้ จะได้ครบห้าหมู่ดังว่า
ดอก ใบ เปลือก ผล ต้นเลี่ยน ล้วนเป็นยาสมุนไพร รักษาโรคได้ 200 ชนิด รวมทั้งกำจัดแมลง
เนื้อไม้โตไวเหลือเชื่อ 10 ปี ได้ ศผ.ประมาณ 30 ซม.
ขาใหญ่ร่ำๆจะชวนไปลำพูนอีก
ขอเวลาสะสางงานก่อนสักพักเดือนหน้างานเข้าจนอ่วม
ไม่รู้ว่าปลูกต้นอะไรแทนต้นมะขาม ที่ล้ม
บ่เป็นหยังครับท่านบางทราย
วันอาทิตย์ไม่ได้มีวันเดียว
ยังมีวันศุกร์ เลาร์ อีก อิ
เอาไว้ไปบางกอกจะชวนมาดวลมังสะวิรัติ อิ
ท่านจอหงวนครับ เลี่ยนก็ดี
อยากจะให้ค้นต่อว่า ทำไมคนไทยไม่สนใจปลูกเลี่ยน
แม้แต่บัญชีกรมป่าไม้เองก็ได้รับความสนใจน้อยมาก
ไม้ทุกชนิดน่าปลูกทั้งนั้น
แต่เลี่ยน ชื่อไม่เป็นมงคล
เหมือนต้นลั่นทม พอเปลี่ยนมาเป็นชื่ออื่นคนถึงยอมปลูกโครมๆ
ว่าแต่เลี่ยนจะเปลี่ยนชื่อเป็นอะไรดี
ถ้าไม่เปลี่ยน…ชวนให้ตายก็ไม่มีใครปลูกหรอก
ตั้งชื่อเป็นต้น กอด ดีไหม อิอิ
วันนี้เทวดากระซิบมา แต่แวะซื้อไม่ทันครับ ยินดีก้วยครับ :)
http://www.youtube.com/watch?v=H5NQHxH-psM
อิ อิ ครับ
อิอิ บาท่าน เปลียนมาเป็น “เลีย” ดีไหม ครับ เป็นมงคลดี หิหิ เหมาะกับสังคมไทยเราวันนี้
ผมเห็นต้นนี้เป็นครั้งแรกเมื่อไปปฏิบัติธรรม ที่ธรรมรีสอร์ทปากช่อง
ถามอาจารย์พี่เจ้าของรีสอร์ทแต่ว้นแรก พี่ท่านก็ไม่รู้ จนวันที่สามพี่เธอมาเฉลยว่าคือต้น เลี่ยน
พร้อมให้ข้อมูลว่ากิ่งมันเปราะ โดนลมแรงก็หักง่าย (เหมือนสะเดาเลย เพราะว่าเป็นพี่น้องกัน)
ต้นมันโตใหญ่เหลือเชื่ออายุ 20 ปีมีขนาด สผศ 60 ซม. สูง 20 เมตร แต่ความกว้างทรงพุ่มประมาณสัก 5 เมตร เห็นจะได้ แถมใบบางโปร่งมาก …ผมคิดแบบวิศวแล้วมันเหลือเชื่อในการถ่ายโอนพลังงานแสงแดด น่าจะดีกว่ายูคา ไผ่ หรือ กระถินณรงค์ที่ว่าดี เสียอีก (แถมได้สมุนไพรอีก 200 ชนิด โดยเฉพาะจากเปือก)
ฝากบาท่านเอาไปเป็นโจทย์วิจัยด้วยเด๊อครับ
ได้ครับ ออป.เคยปลูกเลี่ยนในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ และสวนป่าของรัฐฯในอีกหลายแห่ง ไม่ประสบผลสำเร็จ อาจจะเป็นเพราะมีโรคแมลงรบกวนหนึ่ง เป็นไม้เนื้ออ่อนหนึ่ง จึงถูกเมิน แต่มนุษย์อาจจะมีกึ๋นไม่ถึงไม้ชนิดนี้ก็ได้ เอาไว้เจอจอมยุทธป่าไม้จะถามข้อมูลอีกชั้นหนึ่งนะครับ
วันที่ 9 กันยายน อยู่ขอนแก่นค่ะ ถึงเมื่อไหร่ แจ้งด้วย ทานข้าวเย็นกันนะคะ
ขอบคุณครับแม่ใหญ่ ผมติดต่อออตไม่ได้ และยังไม่ได้ข่าวจากป้าหวานว่าจะว่างรึเปล่า
วันที่ 10 เข้ารายการรับรางวัล ฝ่ายประสานงานถามว่ามีกองเชียร์ใหม เขาจะได้เตรียมที่นั่งที่พักไว้ให้ คิดเร็วๆผมก็บอกว่ามีสายญาติอยู่ขอนแก่นจะมาร่วมประมาณ 4 ชีวิต บอกไปทั้งๆที่ยังไม่ได้รับการยืนยันจากพวกเรา
ผมไม่ทราบรายละเอียดพิธีการว่ามีอะไรบ้าง
คงมีงานเลี้ยงด้วย
แถมยังบอกว่ามีค่ารถให้กองเชียร์ท่านละ 300 บาท
เป็นงานหนึ่งที่แปลกเอาการ อิ อิ
แม่ใหญ่ทำนาเสร็จแล้วยังครับ
อิอิ มารายงานตัว เพราะได้ข่าวค่ารถกองเชียร์ 300 บาท ฮี่ๆๆๆ 555 มิได้ๆค่ะพูดเล่น ป้าหวานตั้งใจจะมาชื่นชมรางวัลชีวิตของพ่อครูตั้งแต่เมื่อวาน แต่ยุ่งๆก็เลยเพิ่งมาค่ะ ขอชื่นชมยินดีอย่างยิ่งต่อรางวัลทั้งหลายของพ่อครูค่ะ ขอส่งกำลังใจเชียร์ทั้งที่ลานและออกสื่อ ขอให้พ่อครูมีแรงเพิ่มขึ้นอีกเยอะๆและนานๆค่ะ สาธุ วันที่ 9 กากะบาทไว้เลยค่ะ ขอทานข้าวกับพ่อครูแน มีงานหรือสิ่งใด ให้ป้าหวานตระเตรียมช่วยบ้างไหมคะ
ปล.ป้าหวานไม่ได้ติดต่อแม่ใหญ่เลย อยู่ใกล้ๆกันแท้ๆ ขอประทานโทษแม่ใหญ่ด้วยนะคะ ป้าหวานเพิ่งหมดงานบุญครบ 1 ปีที่คุณย่าจากไปค่ะ
จะเอามะละกอ-หน่อไม้ ไปฝากนะป้า อิอิ