สักกี่คนที่สนใจ “ระหว่างทาง”ที่คุณเดินมา?
ไม่รู้ทำไมเราต้องแคร์นัก
กับการที่จะต้องมีผลลัพท์ดีๆไว้บอกใครสักคน
ที่เอ่ยถามด้วยความกระเหี่ยน กระหือรือ ริษยาต่อผลลัพท์จากปากเรา
ทั้งๆที่คนเหล่านั้นไม่เคยรับรู้ด้วยซ้ำ ว่าระหว่างทางเราเดินผ่านอะไรมาบ้างเราเหยียบทับอะไรมาบ้าง เรากระโดดข้ามอะไรมาได้บ้าง
อะไรที่ทิ่มตำและทำให้เราเจ็บปวดบ้าง
เรามีทั้งลำบากและสบาย มีทั้งสุขและทุกข์ แต่นั่นไม่มีผลอะไรกับคนอื่น
กับการที่จะต้องมีผลลัพท์ดีๆไว้บอกใครสักคน
ที่เอ่ยถามด้วยความกระเหี่ยน กระหือรือ ริษยาต่อผลลัพท์จากปากเรา
ทั้งๆที่คนเหล่านั้นไม่เคยรับรู้ด้วยซ้ำ ว่าระหว่างทางเราเดินผ่านอะไรมาบ้างเราเหยียบทับอะไรมาบ้าง เรากระโดดข้ามอะไรมาได้บ้าง
อะไรที่ทิ่มตำและทำให้เราเจ็บปวดบ้าง
เรามีทั้งลำบากและสบาย มีทั้งสุขและทุกข์ แต่นั่นไม่มีผลอะไรกับคนอื่น
เค้าไม่สนใจว่าเราไปถึงปลายทางได้ด้วยวิธีไหน ?
สนใจแค่ว่าเราไปถึงที่หมายหรือตายกลางทาง…เท่านั้นเอง
ช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย…แต่”ระหว่างทาง”นี่แหล่ะ ที่คุณจะเก็บเกี่ยวสิ่งที่มีคุณค่าให้กับตัวคุณเอง
เพราะสิ่งเหล่านี้มันมีค่าและเป็นบทเรียนให้กับตัวคุณแต่เพียงผู้เดียว
ไม่มีใครสนใจมันสักนิด
เพราะสิ่งเหล่านี้มันมีค่าและเป็นบทเรียนให้กับตัวคุณแต่เพียงผู้เดียว
ไม่มีใครสนใจมันสักนิด
อย่าไปแคร์…กับคนที่ผิดหวังจากผลลัพท์ของคุณ
เพราะคนพวกนั้นไม่มีส่วนร่วมรับรู้ “ระหว่างทาง” กับคุณแม้แต่น้อย
ว่าคุณเจออะไรมาบ้าง? แต่ครอบครัวของคุณต่างหาก
...ที่ร่วมทุกข์ ร่วมสุขกับคุณ
…ปลอบใจและเติมพลังให้ ยามที่คุณท้อถอย
…ยิ้มให้และพร้อมฉุดดึงในวันที่ล้มไม่เป็นท่า
…เช็ดน้ำตา ในยามที่ทุกอย่างพังทะลาย
นี่ต่างหากคือคนที่คุณควรแคร์…มากที่สุด
เพราะคนพวกนั้นไม่มีส่วนร่วมรับรู้ “ระหว่างทาง” กับคุณแม้แต่น้อย
ว่าคุณเจออะไรมาบ้าง? แต่ครอบครัวของคุณต่างหาก
...ที่ร่วมทุกข์ ร่วมสุขกับคุณ
…ปลอบใจและเติมพลังให้ ยามที่คุณท้อถอย
…ยิ้มให้และพร้อมฉุดดึงในวันที่ล้มไม่เป็นท่า
…เช็ดน้ำตา ในยามที่ทุกอย่างพังทะลาย
นี่ต่างหากคือคนที่คุณควรแคร์…มากที่สุด
.
.
.
สักกี่คนที่สนใจ “ระหว่างทาง”…ที่คุณเดินมา???