สามประสาน

2 ความคิดเห็น โดย Lin Hui เมื่อ กันยายน 29, 2010 เวลา 20:55 ในหมวดหมู่ เรื่องเล่าของLin Hui, เศรษฐกิจพอเพียง #
อ่าน: 2080

29 กันยายน 2553 ช่วงบ่ายโทรหา คุณจินดา บุษสระเกษ ผู้นำชุมชนบ้านใหม่อุดม เพราะมีงานหลายๆ อย่างที่ต้องการปรึกษาหารือกัน ไม่น่าเชื่อ คุณจินดา พร้อมคณะเข้ามาทำธุระใมตัวเมือง อาม่าจึงเชิญมาคุยที่บ้านปรึกษาหารือ เรื่องการทำงานช่วยเหลือชุมชน ร่วมกันสามประสานระหว่างชุมชน วุฒิอาสาฯ.และ เทคโนธานี

เลยถือโอกาสพาเข้าเยี่ยมชมเทคโนธานี และพบท่านผู้อำนวยการเทคโนธานี (ดร. ฉัตรชัย โชติษฐยางกูร) ซึ่งท่านให้ความเป็นกันเองมากค่ะ มาร่วมพูดคุยอย่างเป็นกันเอง และพร้อมที่จะส่งทีมงานวิชาการลงไปช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ตามที่ร้องขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ของชุมชน  ซึ่งสร้างความมั่นใจและดีใจให้กับคณะชุมชนบ้านใหม่อุดม อ. หนองบุญมากเป็นอย่างยิ่ง

มาเจอกันคราวนี้ อาม่าได้มอบอ้อยคันร่ม ที่เป็นอ้อยคู่บ้านคู่เมืองโคราช ตั้งแต่โบราณ ให้คุณจินดาไปช่วยดูแลรักษา ตั้งใจให้ช่วยอนุรักษ์พันธุ์อ้อยชนิดนี้ เพื่อการขยายผลในวันข้างหน้าค่ะ

Photo 1 of 4 Back to Album · My Photos


พระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ

12495 ความคิดเห็น โดย Lin Hui เมื่อ กันยายน 28, 2010 เวลา 15:16 ในหมวดหมู่ เรื่องเล่าของLin Hui, เศรษฐกิจพอเพียง #
อ่าน: 41401

อาม่า ในฐานะวุฒิอาสาธนาคารสมอง จ. นครราชสีมา หนึ่งในคลังสมองตามพระราชเสาวนีย์ ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ

อาม่า จะทำงานสุดความความสามารถ เพื่อสนองพระราชเสาวนีย์ฯ ค่ะ


การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้่า

4 ความคิดเห็น โดย Lin Hui เมื่อ กันยายน 28, 2010 เวลา 9:08 ในหมวดหมู่ เกษตรประณีต, เรื่องเล่าของLin Hui, เศรษฐกิจพอเพียง #
อ่าน: 2102

สติ ปัญญา ประสบการณ์ เป็นตัวช่วยค่ะ แต่ยังไม่พอ ต้องมี…..คือการทำบุญ การทำงานเพื่อประเทศชาติ สนองคุณแผ่นดินการสนองพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางฯ เพื่อสนองพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ผู้เป็นยิ่งกว่าพระมหากษัตริย์ของไทย พระองค์เป็น KING OF THE KING ปรัชญญาเศรษฐกิฐพอเพียง ที่นานาชาติได้น้อมนำไปปรับใช้กับประเทศชาติของตัวเอง จนเป็นที่รู้จักทั่วโลก ..แต่น่าเสียดายมีคนไทยทุกภาคส่วนอีกไม่น้อยไม่ใส่ใจ ไม่เข้าใจ และไม่สามารถปรับตัวได้  ก็ไม่ว่ากัน เพราะความพร้อมของคนไม่เสมอกันค่ะ


เอาเป็นว่าการทำอะไรจะประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด อย่าเพิ่งคาดหวัง ทั้งๆ ที่แจ้งล่วงหน้า ว่าต้องการใช้ อินเตอร์เน็ตประกอบการพูด บนเวที  แต่ไม่มีอินตอร์เน็ตใช้ คนแรกที่คิดถึง คือท่านเทพฯ ซึ่งเป็นที่พึ่งให้ความกระจ่างเรื่องเทคโนโลยีเสมอมา โอ้พระเจ้าช่วยทันใดนั้น มีวุฒิอาสาฯ ท่านหนึ่ง ได้ยินเสียงบ่น เรื่องไม่สามารถหาอินเตอร์เน็ตใช้ประกอบการบรรยายในโรงแรมใหญ่ๆ ในเมืองกรุงฯ ได้ ท่านรีบบอกว่าท่านนำโน็ดบุ๊คมาและบลูทูตมา ต่อเน็ตผ่านมือถือได้แต่จะช้ามาก ถ้าเอาแอร์การ์ดมาคงช่วยอาม่าได้มาก การสนทนาบนโต๊ะอาหาร จึงได้มากกว่าอาหารอิ่มท้องค่ะ เพราะอาหารสมอง และได้อาหารใจ เห็นความเอื้ออารีย์จากท่าน วุฒิฯ จากเพขรบุรี ท่าน เบญจวรรณ ยินดียม ขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ ในการขึ้นพูดของอาม่า จึงมีเน็ตใช้ถึงช้า แต่มีวิธีการฯ… ในที่สุดความร่วมแรงแข็งขยันของสามประสาน อีกท่านคือวุฒิฯ ท่าน วรรณ แสงเจริญวัฒนะ จากเพชรบุรี อีกเช่นกัน ร่วมด้วยช่วยกันคนละไม้คนละมือ จน สามารถ ทำให้ทุกคนทีเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ เห็นการประชุมที่มีการรายงานสด ผ่านอินเตอร์เน็ต ทำให้คนเห็นเครื่อข่ายของชาวลานปัญญา ที่ร่วมด้วยช่วยกัน เห็นการสื่อสารออนลายน์ข้ามทวีป ได้เห็นบันทึกการทำงานที่ เป็นรูปมธรรม และเป็นหลักฐานการทำงานในพื้นที่จริงในแต่ละชุมชน ไม่ต้องเสียเวลาในการพูดในหัวข้อ “เรื่องวิธีการทำงาน” หากแต่ที่ต้องเน้นปัญหาจริงของแต่ละพื้นที่ ซึ่งหนีไม่พ้นสองประเด็นหลัก คือ ทรัพยากรมนุษย์ ( คือปัญหาของคน )กับปัญหาของธรรมชาติ(คือทรัพยากรชาติ)ที่เป็นอยู่จริง และสภาพธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลง ตามฤดูกาล ความรุนแรงของภัยธรรมชาติ แล้วเราจะแก้ไขได้อย่างไร ทำอย่างไร เมื่อไร “ใคร” คือคนที่ควรจะต้องลงไปแก้ไข จำเป็นต้องลงไปพร้อมกันทุกหน่วยงานหรือไม่อย่างไร แล้วต้องพิจารณาต่ออีกว่าลงไปแก้ ปัญหา ไม่ใช่ไปเิพิ่มปัญหา  ทำได้หรือไม่ หากเกินกำลัง ก็ควรหาพัธมิตร มีสถาบันไหนที่จะเป็นที่พึ่งได้ หากต้องพึ่งเทคโนโลยี องค์ความรู้ที่ต้องผ่านการศึกษาวิจัยและได้ทำสำเร็จแล้ว (เพราะต้องใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง) เราก็ควรจะขอควมช่วยเหลือไปโดยตรงได้

อย่างที่อาม่าทำอยู่ในขณะนี้ คือเข้าไปทุกชุมชนที่เป้าหมาย ร่วมกับ สศช. และวุฒิอาสา ธนาคารสมองฯ จึงไม่มีข้อสงสัย เพราะเข้าใจ เข้าถึง จึงหาทางช่วยเหลือ ให้ตรงกับสภาพความเป็นจริงที่มีความแตกต่างในแต่ละชุมชน จึงได้ขอความร่วมมือยังสถาบันการศึกษา ไปยังเทคโนธานี  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี อันเป็นสถาบันการศึกษาที่อาม่า และ อ.แพนด้า เป็นอาจารย์รุ่นบุกเบิก(ลุยโคลน)   อ.แพนด้าทำงานจนเกษียณอายุที่นี่ แต่ สำหรับอาม่าไปทำงานที่ โครงการส่วนพระองค์ “โครงการอนุรักษ์พันธุ์กรรมพืช” สวนจิตลดา ตั้งแต่ 2542-2546 พอดี 60 ปี แล้ว ควรกลับมาดูแลบ้าน เพราะลูกทุกคน จบการศึกษา และมีหน้าที่การทำงานที่ต้องทำในกรุงเทพฯค่ะ

กลับมาอยู่โคราชก็คบกับปราชญ์ชาวบ้านเป็นเพื่อน อันที่จริงคบมานานแล้ว ที่เป็นปราชญ์ชาวบ้าน และ ข้าราชการบางท่านที่ลาออกมา ลงมือปฏิบัติจริง ตามพระราชดำริขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “เกษตรทฤษฎีใหม่ และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไม อาม่า มีพันธมิตร ที่หลากหลาย การลงมือทำจริงมันยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น แค่พูดอย่างเดียวคงไม่พอขอให้ลงมือ ลงแรง(ปัญญา) ลงใจ(จริง) ทำเพื่อตนเองเถอะ คือทำดีต่อแผ่นดินเกิดค่ะ


ช่วยด้วย…อาม่าขอร้อง!!!

อ่าน: 89993

เรามาร่วมด้วยช่วยกันสะท้อนปัญา ของชุมชนในชนบท ไม่ว่าจะเป็นภาคไหนๆ  เราคือคนไทย ด้วยกัน ความหลากหลายทางความคิดเป็นยอดปราถนาของอาม่าค่ะ เพื่อนำมา เป็นข้อมูลช่วยเหลือชุมชนคนชนบทให้ตรงประเด็นและทันกาล เรารอไม่ได้อีกแล้ว นับวันก็ เวลาของ สว.ก็สั้นลงๆ ต้องทำงานแข่งกับเวลาค่ะ สุดยอดของการพัฒนาคือทำให้คนชนบท กลับมามีวิถีชีวิตที่สอดคล้องกับธรรมชาติ อยู่ดีชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน

นับตั้งแต่อาม่ามาเป็นวุฒิอาสาธนาคารสมอง ทำงานสนองพระราชเสาวนีย์สมเด็จพระนางเจ้าฯ ผ่าน สนง.สภาพัฒนาฯ เป็นต้นมาก็ทำงานอย่างเต็มความสามารถ อะไรที่ทำเองไม่ได้ ก็ไปขอความร่วมมือจากหน่วยงาน ที่มีโครงการขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในการแก้ปัญาหาความยากจนของชุมชน และสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน อาม่าได้แรงสนับสนุนจากเทคโนธานี ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี อย่างเต็มที่ พร้อมลงพื้นที่เก็บข้อมูลประเด็นปัญหา และสรุปตรงกับอาม่าว่าสร้างความเข็มแข็ง คงหนีไม่พ้นความมั่นคงทางอาหาร ” เรื่องการเกษตรที่มั่นคงและพอเพียง” และสอดคล้องกับธรรมชาติแต่ละพื้นที่ค่ะ

มุมมองของอาม่า ที่ถามตัวเอง ว่าความสุขของคนอยู่ที่ไหน คงหนีไม่พ้นปัจจัยสี่ในการดำรงค์ชีพ

1.ที่อยู่อาศัย

3. เครื่องนุ่งห่ม

3. อาหาร

4. ยารักษาโรค

อาม่าจะเน้นปัจจัย อาหารเป็นหลัก หากแก้ปัญหาเรื่องปากท้อง(อาหาร)ได้  ปัญหาอย่างอื่นจะง่ายลง การทำมาหากินคงหนีไม่พ้นปากท้อง จะต้อง กินอิ่ม นอนอุ่น ครอบครัวเป็นสุขไม่วุ้น ไม่แตกสลาย  สติ ปัญญาก็พัฒนาได้สอดคล้องกับธรรมชาติแวดล้อม เป็นวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและยั่งยืน หากแต่ละครัวเรือนทำได้ จะอยู่ดีมีสุขค่ะ

ถ้าเราปล่อยให้คนหิวโหยโดยไม่ให้ความช่วยเหลือให้ทัน อะไรก็เกิดขึ้น… คงมีตัวอย่างให้เห็นเป็นประจำ จะตกเป็นเหยื่อของผู้ฉกฉวยโอกาศ…..ได้

การทำมาหาไม่พอกิน เพราะอะไร คงหนีไม่พ้นเรื่อง น้ำ ดิน สภาพดินฟ้าอากาศ ธรรมชาติที่เราแค่รู้แต่ไม่พอเพียง เราจึงบริหารทรัพยากรน้ำได้อย่างไม่พอเพียง น่าเห็นใจยิ่ง

ถ้ามีน้ำพอเพียง จะแก้ไขปัญหาความยากจนได้ ตามคำยืนยันของพ่อๆ ปราชญ์ชาวบ้านของอีสาน ที่ประสานเสียงเป็นเสียงเดียวกัน ซึ่งอาม่าลงไปสัมผัสมาด้วยตัวเอง ขอยืนยันค่ะ

เรามาร่วมด้วยช่วยกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สะท้อนปัญหาของชุมชน พ่อแม่พี่น้องของเราที่อยู่ตามชนบท ชุมชนที่ยากจน หนี้สินล้นพ้นตัว เรามาร่วมสร้างบุญทางปัญญากันเถิด….อาม่าขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ


บ้านโคกพรม

8 ความคิดเห็น โดย Lin Hui เมื่อ กันยายน 15, 2010 เวลา 22:42 ในหมวดหมู่ เกษตรประณีต, เศรษฐกิจพอเพียง #
อ่าน: 2270

วันนี้ 15 กันยายน 2553 มีนัดทำประชาคม กับชาวบ้าน ที่บ้านโคกพรม ม.5 ต.โนนไทย อ.โนนไทย จ. นครราชสีมา

นับเป็นหมู่บ้านที่สี่ ที่วุฒิอาสาธนาคารสมอง จ. นครราชสีมา ร่วมกับ สภาพัฒฯ และมหวิทยาลัยเทคโนโลยี ลงไปร่วมรับฟังปัญหา เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหา และสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน อยู่บนความพอเพียงอย่างมีความสุข โดยน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ให้เหมาะกับพื้นที่ ที่มีข้อจำก้ดของทรัพยากร การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทำความเข้าใจ ทำให้เติมเต็มซึ่งกันและกัน และเราจะพยายามช่วยในสิ่งที่เขาต้องการ และพร้อมช่วยตัวเองด้วยค่ะ จนเขายืนบนขาตัวเองได้ และในอนาคต เขาจะได้ไปช่วยคนอื่นต่อๆ ไปค่ะ



Main: 0.097267866134644 sec
Sidebar: 0.28065299987793 sec