ช่วยด้วย…อาม่าขอร้อง!!!
เรามาร่วมด้วยช่วยกันสะท้อนปัญา ของชุมชนในชนบท ไม่ว่าจะเป็นภาคไหนๆ เราคือคนไทย ด้วยกัน ความหลากหลายทางความคิดเป็นยอดปราถนาของอาม่าค่ะ เพื่อนำมา เป็นข้อมูลช่วยเหลือชุมชนคนชนบทให้ตรงประเด็นและทันกาล เรารอไม่ได้อีกแล้ว นับวันก็ เวลาของ สว.ก็สั้นลงๆ ต้องทำงานแข่งกับเวลาค่ะ สุดยอดของการพัฒนาคือทำให้คนชนบท กลับมามีวิถีชีวิตที่สอดคล้องกับธรรมชาติ อยู่ดีชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน
นับตั้งแต่อาม่ามาเป็นวุฒิอาสาธนาคารสมอง ทำงานสนองพระราชเสาวนีย์สมเด็จพระนางเจ้าฯ ผ่าน สนง.สภาพัฒนาฯ เป็นต้นมาก็ทำงานอย่างเต็มความสามารถ อะไรที่ทำเองไม่ได้ ก็ไปขอความร่วมมือจากหน่วยงาน ที่มีโครงการขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในการแก้ปัญาหาความยากจนของชุมชน และสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน อาม่าได้แรงสนับสนุนจากเทคโนธานี ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี อย่างเต็มที่ พร้อมลงพื้นที่เก็บข้อมูลประเด็นปัญหา และสรุปตรงกับอาม่าว่าสร้างความเข็มแข็ง คงหนีไม่พ้นความมั่นคงทางอาหาร ” เรื่องการเกษตรที่มั่นคงและพอเพียง” และสอดคล้องกับธรรมชาติแต่ละพื้นที่ค่ะ
มุมมองของอาม่า ที่ถามตัวเอง ว่าความสุขของคนอยู่ที่ไหน คงหนีไม่พ้นปัจจัยสี่ในการดำรงค์ชีพ
1.ที่อยู่อาศัย
3. เครื่องนุ่งห่ม
3. อาหาร
4. ยารักษาโรค
อาม่าจะเน้นปัจจัย อาหารเป็นหลัก หากแก้ปัญหาเรื่องปากท้อง(อาหาร)ได้ ปัญหาอย่างอื่นจะง่ายลง การทำมาหากินคงหนีไม่พ้นปากท้อง จะต้อง กินอิ่ม นอนอุ่น ครอบครัวเป็นสุขไม่วุ้น ไม่แตกสลาย สติ ปัญญาก็พัฒนาได้สอดคล้องกับธรรมชาติแวดล้อม เป็นวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและยั่งยืน หากแต่ละครัวเรือนทำได้ จะอยู่ดีมีสุขค่ะ
ถ้าเราปล่อยให้คนหิวโหยโดยไม่ให้ความช่วยเหลือให้ทัน อะไรก็เกิดขึ้น… คงมีตัวอย่างให้เห็นเป็นประจำ จะตกเป็นเหยื่อของผู้ฉกฉวยโอกาศ…..ได้
การทำมาหาไม่พอกิน เพราะอะไร คงหนีไม่พ้นเรื่อง น้ำ ดิน สภาพดินฟ้าอากาศ ธรรมชาติที่เราแค่รู้แต่ไม่พอเพียง เราจึงบริหารทรัพยากรน้ำได้อย่างไม่พอเพียง น่าเห็นใจยิ่ง
ถ้ามีน้ำพอเพียง จะแก้ไขปัญหาความยากจนได้ ตามคำยืนยันของพ่อๆ ปราชญ์ชาวบ้านของอีสาน ที่ประสานเสียงเป็นเสียงเดียวกัน ซึ่งอาม่าลงไปสัมผัสมาด้วยตัวเอง ขอยืนยันค่ะ
เรามาร่วมด้วยช่วยกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สะท้อนปัญหาของชุมชน พ่อแม่พี่น้องของเราที่อยู่ตามชนบท ชุมชนที่ยากจน หนี้สินล้นพ้นตัว เรามาร่วมสร้างบุญทางปัญญากันเถิด….อาม่าขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ