เมื่อปลาทองไม่สบายตอนที่ 12
อ่าน: 2652เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา 29 พ.ย. 2551 ครบกำหนดทดลอง งดให้ยาปลาทอง Lin Hui รีบพาปลาทองไปพบหมอตามนัด ขับรถเข้าเมือง ขณะทีเลาะลัดไปตามถนนทางลัดเข้าเมือง เห็นงูตัวยาวเอาการที่เดียว สี่ค่อนข้างคล้ำมาก น่าจะเป็นงูสิงกำลังเลื้อยข้ามถนน
วันนี้เป็นอะไรนะทำไมรถติดจนแปลกใจ ขับมาถึงสี่แยกไฟแดงสุดท้ายก่อนถึงโรงพยาบาลสัตว์ที่รักษาปลาทอง ตำรวจจราจรปิดถนนเข้าไปโรงพยาบาบาลไม่ได้ ต้องขับรถตามทางเส้นทางที่ตำรวจจัดให้เดินรถชั่วคราว ในที่สุดต้องพาปลาทองกลับบ้าน วันอาทิตย์สิ้นเดือนเกรงปัญหาจะซ้ำลอย เลยรอมาถึงวันจันทร์ ที่ 1 ธ.ค. 2551 หลังจากหมอตรวจเร่างกายปลาทอง เห็นสีหน้าหมอแล้วก็รู้คำตอบ หมอบอกว่าต่อมน้ำเหลืองโต คงต้องยอมรับความเป็นจริง ชัดเจนว่าปลาทองเป็นโรคร้าย ตอนที่ให้ยาแล้วต่อมน้ำเหลืองเล็กลงเป็นเพราะปลาทองตอบสนองต่อยาดี พอหยุดยากลับโตขึ้น หมอขอตัดชิ้นเนื้อเพื่องส่งไปตรวจวิเคาะห์ เพื่อให้ทราบว่าอาการของปลาทองอยู่ในขั้นไหน แต่อย่างไรเสียก็ต้องกินยาตลอดหยุดไม่ได้ ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่า ปลาทองเหลือเวลาอยู่อีกนานเท่าไร ต้องรอผลวิเคาระห์ชิ้นเนื้อ ที่ต้องส่งไปวิเคาะห์แลปที่ศูนย์ ในจ.ขอนแก่นซึ่งใช้เวลาไม่เกิน 14 วัน วันนี้ช่างเป็นวันที่ใจถูกกระทบอย่างแรงอีกหนึ่งหน หมอแนะนำให้ปลาทองนอนที่โรงพยาบาล รอต้องเจาะเลือด เพื่อตรวจสภาพร่างกายว่าพร้อมที่จะวางยาสลบเพื่อตัดชิ้นเนื้อหรือไม ต้องงดให้อาหาร จึงจำเป็นต้องอยู่ในความดูแลของหมอ Lin Hui ขับรถกลับบ้านโดยไม่มีปลาทองกลับมา น้ำตาเออล้นออกมาอยากที่จะหยุดได้ ทั้งๆ ที่พยายายามทำความเข้าใจกับธรรมชาติ แต่ก็ยังมีอารมณ์เศร้าหมอง อยู่เป็นระยะๆ คงต้องให้เวลาทำใจกับตัวเองบ้าง กลับมาถึงบ้านพยายามทำงานให้หนักกว่าเดิม เพื่อให้หยุดความคิดเรื่องปลาทอง เอาเรื่องปัจจุบันที่ควรทำให้เรียบร้อย
พรุ่งนี้ 2 ธ.ค. เป็นวันที่คุณแม่จากไปสู่สวรรค์ จึงเตรียมซื้อของทำบุญ จัดเตรียมพวกยาของจำเป็นต่างๆ เพื่อยถวายสังฆทาน น้ำหวานเจ้าของร้านโชห่วยใกล้บ้าน ช่วยจัดการจัดของที่ต้องการให้ครบถ้วนทุกอย่าง ด้วยความเอื้ออารีย์มีน้ำใจ และจะร่วมไปทำบุญถวายเพลพรุ่งนี้ ที่วัดใกล้บ้านด้วยกัน Lin Hui มาเตียมทำอาหาร เพื่อจัดปิ่นโตไปวัดพรุ่งนี้ค่ะ
คืนนี้ได้รับทั้ง ข้อความ โทรศัพท์ และเอมเอสเอน ให้แหงนมองท้องฟ้า จะเจอพระจันทร์ยิ้ม แต่ท้องฟ้าที่บริเวณบ้านมืดมิด ไม่เห็นดวงจันทร์ยิ้ม วันนี้ท้องฟ้าขมุกขมัวทั้งวันแทบไม่เห็นพระอาทิตย์ อากาศเย็นกว่าทุกๆ วัน อุณภูมิภายในบ้านทั้งวันไม่ขยับสูงขึ้นเลย สูงสุดแค่ 20 องศา ตอนเช้าประมาณ 12-14 องศา ถ้าลมแรงก็หนาวกว่านั้น ต้องสวมเสื้อกันหนาวทั้งวัน ช่างเป็นวันที่บรรยากาศแวดล้อมรุมเร้า ให้ใจแกว่งได้แรงเอาการที่เดียว รู้สึกเหงาและเศร้าชอบกล น้ำตาล่วงเผาะเอาทีเดียว คงยอมให้มันเกิด และดับไปในที่สุด นี่แหละชีวิต……
« « Prev : เมื่อปลาทองไม่สบาย ตอนที่ 11
Next : เมื่อปลาทองไม่สบายตอนที่ 13 » »
5 ความคิดเห็น
อาจารย์คะ
ส่งใจมาให้น้องปลาทอง
ส่งใจมาอยู่ข้าง ๆ อาจารย์นะคะ
อาจารย์สอนน้าอยู่เสมอ ให้ดูจิต ตามให้ทัน มันเป็นเช่นนั้นเอง
น้าอยากบอกอาจารย์เช่นนั้นค่ะ
……
กอดน้องปลาทองนะคะ
กอด กอด กอด
……
ขอบคุณน้ามากค่ะ ทำอย่างอื่นไม่ได้นอกจากทำใจค่ะ
เก๋ว่าปลาทองต้องมีกำลังใจดีๆๆๆนะค่ะ ดูอย่างคนสิค่ะ บางคนเป็นโรคร้ายยังอยู่ได้อีกเป็นสิบปี อาจารย์และปลาทองสู้ๆๆๆนะค่ะ
ขอบคุณค่ะเก๋ กำลังใจคือพลังค่ะ ทำให้สู้ต่อไปค่ะ
สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่ปริมาณของเวลา แต่เป็นคุณภาพของการได้อยู่ร่วมกัน..
การได้รู้ว่ายังมีเวลาอีกเท่าไหร่ทำให้ช่วงเวลาที่เหลือเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและความหมายค่ะพี่หลิน..กอดและกราบด้วยความเคารพค่ะ