ภาพนี้มีที่มา..
อ่าน: 5007ภาพนี้มีที่มา..
นับตั้งแต่ชักชวนกันร่วมขบวนคนชอบป้าย
เวลาไปไหน หลานก็ชักจะติดใจกับการได้เห็นป้ายที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร
วานนี้..มีโอกาสไปถนนคนเดินที่ลำปางกันทั้งคณะ
ในจังหวะที่ผู้คนสับสนวุ่นวาย ใจหายใจคว่ำกับเรื่องการเมือง
ป้ายที่หลานสังเกตเห็นจึงเป็นป้ายที่เติมรอยยิ้มให้แก่อาและหลาน
“ขออภัย งดคุยเรื่องการเมืองภายในร้าน” ช่างเป็นช็อทเด็ดที่โดนใจ
จะไม่สมานฉันท์กันได้อย่างไร หากนั่งอยู่ในร้านของป้าป๋อง
ผู้ขายของด้วยสโลแกน ..น้ำพริกแห่งความรัก..
ทั้งน้ำพริกถั่วเน่า น้ำพริกน้ำปู๋ น้ำพริกนรกปลา มีกระทั่งน้ำพริกแคนตาลูป
สารพัดน้ำพริกที่ป้าสรรมาเป็นเครื่องมือสื่อความรักจาก “กาดกองต้า”
บรรดาน้ำพริกที่ยกมาทั้งหลายล้วนส่งกลิ่นได้ขจรขจาย
อาจคล้ายละอองไอแห่งความรักที่มักอบอวลให้อบอุ่น ^^
ชื่อ กาดกองต้า เป็นภาษาถิ่นเหนือ กาด คือตลาด กอง ก็ถนน ต้า คือท่าน้ำ
เป็นตลาดที่อยู่บนถนนสายเลียบน้ำแม่วัง ที่ยังมีร่องรอยความรุ่งเรืองในอดีตให้เห็น
ชอบเมืองลำปางที่ยังมีสิ่งปลูกสร้างแบบเก่าที่รักษาไว้
เมื่อเดินเข้าไปถึงกาดกองต้าในยามค่ำคืน
จึงตื่นตาตื่นใจกับภาพของตึกเก่าๆ ที่ถูกสาดส่องด้วยแสงไฟ
ให้รู้สึกทึ่งในฝีมือของผู้สร้าง และนึกชื่นชมที่มีคนช่างคิดคงคุณค่าให้ตึกเก่าเหล่านี้
ขณะที่ผู้คนเดินชมข้าวของ แต่ตัวเองกลับมองระเบียง มองบ้าน
มีทั้งงานปูนปั้นอันอ่อนช้อย ทั้งร่องรอยแห่งกาลเวลาที่หาได้จากระเบียงไม้โย้เย้
บ้านไม้หลังเล็กที่แทรกอยู่ท่ามกลางความอลังการของงานปูน
บางบ้านปัดฝุ่นของเก่า เอามาจัดผสานกับสิ่งใหม่อย่างได้อารมณ์ศิลป์
แม้เปลี่ยนมาสนใจอาหารการกินก็ยังไม่วายจะใส่ใจกับของเก่า
ท่ามกลางสายลมหนาว เตาปิ้งข้าวควบ หรือ ข้าวเกรียบว่าวร้อนๆ ก็ชวนให้แวะ
พ่อค้าพลิกซ้าย พลิกขวา อย่างแคล่วคล่อง ให้ข้าวเกรียบพองตัวขึ้นราวกับแสดงมายากล
จนยุให้หลานลอง แต่ก็ต้องถอย ด้วยขาดความชำนาญ
ผ่านมาเจอข้าวจี่น้ำอ้อย ต้องคอยให้แม่ค้าเอาแผ่นข้าวเหนียวนึ่งสุกคลุกงา
ที่นำมาตำรวมกันจนเหนียวหนึก เป็นสูตรผสมที่บางแห่งเรียกข้าวหนุกงา
นำมาปิ้งไฟให้ร้อน จึงจะถึงตอนนำน้ำอ้อยป่นฝอยผสมงามาโรยหน้า
ม้วนเป็นแท่งกลม พันด้วยใบตอง ส่งให้ลองลิ้ม
อาหารปิ้งย่างอย่างโบราณ ยังมีเตาถ่าน ปิ้งไข่ในกระทงใบตอง
ที่มองเห็นวางเรียงอยู่เป็นแถว อาหารชนิดนี้ที่แถวบ้านเรียกไข่ป่าม
ยามเรียนเรื่องอาหารเห็นคุณครูชวนเด็กอนุบาลลองทำกันเป็นที่สนุกสนาน
คุณหลานและคุณแม่ยังได้แวะอุดหนุน ทักทายญาติ ข้างถาดขนมแห่งความหลัง
เมื่อครั้งเป็นเด็กที่ถูกเลี้ยงมาด้วยข้าวต้มมัด และขนมอีเตอะ หรือ ขนมเกลือ
เป็นขนมทำด้วยแป้งผสมเกลือ นึ่งแล้วนิ่มๆ เค็มๆ มันๆ
คุณย่าของหลาน บอกว่า บางทีก็เรียกขนมเดียะ ชื่อแปลกหูที่เพิ่งได้รู้เพิ่ม
เดินจนเริ่มหิว จึงได้เดินกันลิ่วไปหาลูกชิ้นปิ้งขนาดกำปั้นเด็กเล็ก
ทั้งลองชิมเห็ดหอมย่างซีอิ้ว อาหารเมนูหรูแต่ดูกลมกลืนเป็นอาหารชาวบ้าน
เพราะการเสียบไม้ปิ้งเรียงไว้ แถมยังได้สายไหมมาด้วยความอยากรู้และอยากขอดูวิธีทำ
เด็กๆ เดินดูของ แต่ผู้ใหญ่เฝ้ามองวิถีแห่งการทำมาหาเลี้ยงชีพ
ท่ามกลางแสงสี ก็ยังมีบ้านไม้เก่าแทรกอยู่เป็นระยะ
ภายใต้ป้ายที่เขียนง่ายๆ ว่า เอกดีไซน์เนอร์ มองเข้าไปเจอช่างวัยงามทำงานอย่างตั้งใจ
ใกล้ๆ มีโต๊ะไม้ตัวใหญ่เก่าคร่ำ บอกถึงความช่ำชองในงานของช่าง
ซึ่งแม้ในยามกลางคืน ก็ยังไม่ว่างจากลูกค้า
ประทับใจประทับตากับการหาเงินทุนของเหล่านักศึกษา
ที่พากันมาขอรับบริจาคสิ่งของไปช่วยน้องให้พ้นภัยหนาว
ได้เห็นพ่อค้าวัยเยาว์ ที่ช่วยแม่ขอดกระเพาะปลาก้นหม้อขายจนหมดเกลี้ยง
ก่อนกลับได้ยินเสียงดนตรีแว่วมา จากคุณลุงที่ก้มหน้าก้มตาดีดซึงอยู่หลังแผง
มีป้ายบอกเพียงคำว่า สืบสายลายเมือง ไม่เห็นมีเสียงเรียกให้ซื้อของ
มีแต่ทำนองเพลงที่ตั้งใจขับกล่อม
จึงทำให้เดินเข้าไปอุดหนุน เพลงบรรเลงสะล้อ ซอ ซึง มาฟังต่อ
เดินถนนคนเดิน ได้ย้อนมองอารมณ์ในการซื้อของ
บางครั้งซื้อเพราะ..อยากได้ แต่บางเวลาก็ซื้อเพราะ..อยากให้
อยากให้..แทนคำขอบคุณ ที่ช่วยค้ำจุนวัฒนธรรมให้ดำรงอยู่
อยากให้..แทนคำชื่นชม ที่ผสมผสานความคิดกับความเพียรให้เป็นสินค้า
อยากให้..แทนคำว่าขอเป็นกำลังใจให้ทำต่อ
อยากให้..ด้วยความรู้สึกกตัญญูที่ช่วยให้ได้เติบโตถึงวันนี้ ฯลฯ
เป็นอีกครั้งที่มีความสุข..กับการได้เห็น..ชีวิต..
« « Prev : มุดออกนอกกะลา..มาส่งการบ้าน..(2)
Next : พระจันทร์เปื้อนยิ้ม » »
11 ความคิดเห็น
โห พี่ครูอึ่ีง เห็นแล้วอยากไปเดินเที่ยวจริงๆ เลย แนะนำเหมือนไปเดินอยู่ด้วยเลย สุดยอดแห่งการนำเสนอ ยกนิ้วให้เลยค่ะ
แอบบุกบ้านเกิดของจอมป่วน^^ ..วันหลังไปบุกด้วยกันนะคะราณี
อิอิ ต้องให้พี่ครูอึ่งเป็นไกด์นะคะ ขอบคุณค่ะ
อิอิ…เด็กหญิงในรูปคือเด็กหญิงเสื้อสีส้มหรือเปล่า…
น่าเดินมั่กๆเลย..โดยเฉพาะขนมและของกิน…ฮี่ ฮี่…
ปะ..ราณีชวนอุ้ยเร้ววว
ไปกับสองหลานสาวเมืองเหนือ กับสองหลานสาวชาวกรุงเต้บจ้ะอุ้ย ในรูปมีแค่สามสาวเพราะสาวเล็กสุดหลุดเฟรม อิ อิ
ให้บังเอิญชอบใส่เสื้อสีส้มกันทั้งสองบ้าน เลยเป็น ด.ญ.เสื้อสีส้มกันทั้งสองคน
มีขนมข้าวแคบด้วยนะอุ้ยยย..
ทั้งอ่านทั้งดูภาพเลยทำให้น้ำลายสอเลย อิอิ….
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวๆดี ทำให้ไม่ต้องค้นคว้ามากหากจะไปเดินเที่ยว อิอิ
ทำยังไงจะได้ไปมั๊งนะ
แถวนี้เป็นบ้านเกิดคุณย่า ตอนเป็นวัยรุ่นก็มั่วสุมอยู่ที่กองต้านี่แหละครับ อิอิ
ขออภัยที่เอาท่านอัยการไปแอบอยู่หลังโรงมาตั้งวันนึงค่ะ เมื่อวานนี้ TOT เป็นพิษ อยู่ๆ ก็เตือนว่า ไม่ได้ลงทะเบียนถูกต้อง เข้าเน็ตไม่ได้เฉยเลยค่ะ
ลืมบอกไปว่า ถนนคนเดินกาดกองต้า มีวันเสาร์และอาทิตย์ ห้าโมง ถึง สี่ทุ่มค่ะ บรรยากาศยังน่ารัก ไม่พลุกพล่านจนกลายเป็นถนนคนไหล มีกลิ่นอายของอดีตและพื้นบ้าน น่าสนใจดีค่ะ
รถพร้อม..คนพร้อม..รอให้พ่อครูฯ มาช่วงวันเสาร์ หรือ อาทิตย์ค่ะ
วันหลังต้องไปแอบตูแหล่งมั่วสุม อิ อิ