วันศุกร์ที่สิบสาม
อ่าน: 2206ระหว่างเดินทางไปอบรมสัมมนาเมื่อวานนี้..
มีเสียงเปรยขำๆ ขึ้นมาว่า..วันนี้ศุกร์สิบสามนะ ฝรั่งถือใช่ไหมเนี่ย..
ย้อนตอบไปว่า ฝรั่งถือ..แต่อิฉันเชื้อสายจีนน่ะ
ไปสัมมนากับผู้คนครั้งละครึ่งพัน ทำใจให้พร้อมรับความขลุกขลักไว้เสมอ
ก็ได้เจอทั้งห้องกว้างไม่พอ ทั้งการรอคิวเข้าห้องน้ำ ซ้ำตามด้วยความผิดพลาดเรื่องอาหาร
มีทั้งคนรอด้วยความหิว และ คนมีกินไม่อิ่มท้อง ให้ต้องคอยไกล่เกลี่ยไม่ให้บาดหมาง
ด้วยเป็นคนกลางที่มีโอกาสเห็นทั้งฝั่งผู้จัดและฝั่งผู้รับการอบรม
เลิกอบรมวันแรกก็จวนเย็นย่ำ บอกคณะว่าจะตามกลับไปในภายหลัง ยังต้องอยู่ช่วยเคลียร์ของ
เห็นท้องฟ้ามืดดำมา ยังคิดว่า ฝนลงหนักอีกแล้วในวันนี้
เพิ่งจะมีน้ำท่วมที่ต่างอำเภออยู่ไม่กี่วัน ถ้ามีฝนซ้ำอีกจะเสียหายกันอีกไหมนะ
ขับรถฝ่าฝนที่ลงเม็ดหนักมาถึงกลางทาง ได้รับโทรศัพท์จากน้องที่ล่วงหน้าไปก่อน..
ถึงไหนแล้ว..ที่โรงเรียนกิ่งไม้หัก น้ำนองเต็มไปหมด นี่ต้องถอดรองเท้าเดินลุยน้ำกันอยู่
เมื่อมาถึง..เห็นกิ่งไม้หล่นเกลื่อน อ้อ..ไม่เยอะเท่าที่คิด แต่น้ำเจิ่งนองมากจริงๆ ฝนก็ยังไม่หยุด
พรุ่งนี้ ลุงภารโรงคงเหนื่อยกันหน่อย
ดีนะที่เด็ก ม.1 กลับหมดแล้ว น้องเล็กๆ ก็ไม่มีเรียนกัน ไม่งั้นบางคนคงตกใจกลัว
เลี้ยวรถเข้าไปเก็บ..จ๊ากส์ส์….เข้าบ้านไม่ได้..
กิ่งชมพู่กิ่งใหญ่หักขวางกลางนอกชานและสะพานเชื่อมเรือนครัวกับบ้าน..
ส.ว.ทั้งสองท่านอยู่เรือนครัว ที่นอกชานกิ่งไม้ ใบไม้ กองสุมอยู่กองโต
เอาละสิ..จะพา ส.ว.คนรองเข้าบ้านยังไง..
ปกติก็เดินได้แบบเตาะแตะอยู่แล้ว นี่จะต้องพาเดินลุยน้ำเชียวรึ
อ้อมไปสำรวจสถานการณ์ในบ้านที่เปียกแฉะ
ยังดี แค่ฝนสาด ไม่ถึงกับน้ำไหลเข้ามาเหมือนคราวก่อน
คุณแก้ว(สารพัดนึก)ของครอบครัวพุ่งตรงเข้าครัวก่อนด้วยความหิวจวนจะเป็นลม
เติมพลังด้วยสรรพสิ่งที่ขวางหน้า ส่วนตัวเองก็มาทำหน้าที่รีดน้ำ เช็ดน้ำในบ้านจนแห้ง
เมื่อคุณแก้วมีเรี่ยวแรงและฝนซา ก็ลากมีดมาฟันกิ่งไม้พอให้พ้นทาง เฮ้อ..พา ส.ว.เข้าบ้านได้เสียที
มีเรื่องความเสียหาย ก็มีเรื่องให้ยิ้มกริ่ม…ได้ยินเสียงคุณแก้วตะโกนเรียกอยู่กริ่วๆ
มาดูอะไรนี่เร็ว..มาดูอะไรนี่..สาวศรีคนน้อง..เก็บเห็ดฟางจากข้างบ้านได้เต็มกาละมัง
เห็ดฟางที่ขึ้นเองอยู่บนกองใบไม้หมักดอกโต และมีมากจนคนเก็บได้ยิ้มไม่หุบ
คนบ้านนี้ชอบใจกันนัก หากได้เก็บพืชผักที่หาได้ในบ้านมาทำกิน
ยิ่งเป็นของที่มีให้เก็บโดยไม่ได้ปลูกยิ่งเจือความภูมิใจที่ได้ค้นพบ
ยัง..ยังไม่หมดเรื่อง หลังอาหารเย็น เดินสำรวจบริเวณรอบๆ
กำลังหยุดฟังเสียงหรีดหริ่ง และอี่งอ่างร้องประสานเสียงกันเกรียวกราว
ก็ถึงคราวเรื่องตื่นเต้น เมื่อลุงยามตามตัวให้มาดูไฟช็อต ประกายไฟหล่นพรึบลงมาเป็นระยะ
ลมฝนที่กระหน่ำหนัก คงแทรกซึมเข้าไปในขั้วหลอดไฟที่ติดอยู่บนโครงเหล็กหลังคา
ต้องจัดการแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันไปพลางก่อน..
คงเป็นลมพายุที่แรงพอดู ต้นข่อยต้นใหญ่ที่ปลูกอยู่ในแผนกอนุบาลถึงกับฉีกขาดหักโค่น
ยังดีที่ไม่มีอะไรเสียหายร้ายแรง ไม่เหมือนโรงเรียนของญาติ
ที่แจ้งข่าวมาในยามเช้าว่า ฝ้าเพดานและหลังคาหลุดร่วงลงมาสองสามห้อง
เป็นเรื่องให้ต้อง หางบประมาณมาซ่อมแซมกันต่อ..
เอาเถอะ..บันทึกไว้ ให้เป็นปูมประวัติศาสตร์ท้องถิ่น..
ว่าวันศุกร์ที่สิบสามพฤษภาคม พ.ศ.2554 มีพายุฝนฟ้าคะนองในเมืองลำพูน
แต่ละบ้านมีเรื่องตื่นเต้น มีความเสียหาย แตกต่างกันไป..
เฮ้อ..ในที่สุด ก็ลากมาเกี่ยวข้องกับชื่อบันทึกจนได้เสียที…อิอิอิ
3 ความคิดเห็น
ฝนมาพร้อมกับเขียด/อึ่งอ่าง-ชมพู่ เห็ดดอกโต กิ่งไม้หัก พื้นแฉะ
นี่แหละครบสูตรธรรมชาติวิทยา อิอิ
ศุกร์ 13 จะไม่เกี่ยว ก็เกี่ยวจนได้นะคะ…:)