เกษียณอายุ
เรื่องนี้เกี่ยวกับคนที่ค่อนมาทางเหลาเย่แน่ๆ เรื่องวันเวลาไม่คอยท่า เผลอเมื่อไหร่กาลเวลามันกัดกร่อนด้วยนาฬิกาชีวิต อ้อ ยี่ห้อนี้ไม่เคยเสียไม่เคยซ่อม ตั้งแต่เกิดก็เดินติ๊กต๊อกๆไปเรื่อยๆ ต่อให้ผดุงหน้าตาด้วยวิธีใดสุดท้ายก็เหี่ยว ช่วงที่เหี่ยวนี่แหละสำคัญ เหี่ยวกายพอว่า เหี่ยวใจนี่น่าคิด ที่สวนป่าเคยต้อนรับครูบาอาจารย์มากหน้าหลายตา แต่ส่วนมากจะยังอยู่ในช่วงวัยทำงาน ยังรับราชการว่างั้นเถอะ เพิ่งจะมีวันนี้ละครับ ที่คุณครูอาวุโสเกษียณอายุยกทีมผู้สูงวัยชุดใหญ่ 270 ชีวิต เดินทางด้วยรถบัส2ชั้น6คันมุ่งมาสวนป่า
คุณครูทุกท่านนัดกันใส่เสื้อทีมสีฟ้า
ฟ้าเต็มป่าเลยนะนี่
มาถึงบ่นเป็นหมีกินผึ้งถนนขรุขระเข้ายาก
จะโทษใครละ..ต้องโทษตัวเองที่สอนลูกศิษย์เป็นคนไม่ดี
เรียนจบไปแล้วไปเป็นนักการเมือง
ก็เป็นนักการเมืองขี้โกง
กินหินกินกรวดปากมันแพล๊บๆๆ
ถนนพังมหาโหดยังงี้ก็เพราะลูกศิษย์อาจารย์มันไม่รักดี
เนื่องจากครูเยอะ เราไม่รับทำอาหาร เตรียมสถานที่จัดโต๊ะเก้าอี้-เครื่องเสียงให้ พวกแม่บ้านก็ขายสมุนไพร ขายหนังสือ ขายต้นไม้ ขายเมล็ดน้ำเต้า สนุกกันใหญ่ คณะนี้เขาสั่งโต๊ะจีนมาจากในเมืองสารคามโน่น น่าจะกินข้าวห่อ กินข้าวป่าแบบง่ายๆ แต่ก็ติดความหรูหราบ้าๆบอๆ จึงดูยุ่งยากทุกขั้นตอน มันก็มาจากวิธีคิดวิธีทำนี่แหละ ทำตัวทำใจให้ง่ายไม่เป็น..ต้องส่งไปเรียนกับปา-ลี-ยอน-น่าจะดี ตอนนี้ทุกคณะที่มาจะขอให้ช่วยตัวเองให้มาก ช่วยแบ่งเบาภาระ.. เจ้าของสถานที่จะทำหน้าที่โม้อย่างเดียว อิ อิ และพาเดินไปชมกิจกรรม
คณะอาจารย์ที่เกษียณมาจากหลายสำนักหลายพื้นที่
เป็นอาจารย์จากราชภัฏฯก็มี
ตอนแรกเขาโหวตกันว่าจะไปไหนดี
มีคนยกมือไปลาว 80 เสียง
มาสวนป่าร้อยกว่าเสียง
จึงพากันดั้นด้นมานี่
บ้างก็บอกว่าไม่จุใจจะขอมาใหม่เป็นการส่วนตัว
เห็นแล้วนึกถึงแม่ใหญ่..ขาลุยกว่ากลุ่มนี้เยอะ
ตกหนักก็เรานี่แหละ…รับเละ
หนังสือแห้วขายหมดเกลี้ยงหน้าตัก
ขายเป็นเทน้ำเทท่า..
บอกว่าอ่านแล้วอารมณ์ดี อายุยืน เป็นมงคลอีกต่างหาก
แหมเปิดอ่านกันใหญ่
แห้วรำพันเก่ง..คนเขาชอบตรงที่>>
ถูกบางคนหัวเราะเยาะมาแต่ไหนแต่ไรเรื่องเลือกอาชีพครู
ดีนะที่เป็นครูหน้าทน ครูเลยทนอยู่
เพียงเพราะเอะใจ กับไออุ่นที่ได้รับจากเด็กๆ และผู้คนรอบข้าง
เพิ่งจะได้อ๋อกับตัวเอง ว่าสิ่งที่สัมผัสได้แต่ไม่เคยเข้าใจจริงๆเสียที
จนเผลอหวั่นไหวจวนเจียนจะทิ้งอาชีพนี้ไปหลายครานั้น
แท้จริงแล้วคือความสุข ไม่ได้สุขเพราะตัวเงิน
ไม่ได้สุขเพราะเกียรติยศ วัตถุ ชื่อเสียง ฐานะกะโหลกกะลาทางสังคม
แต่สุขเพราะได้รู้แล้วว่า
คนจะเป็นครูได้ ต้องไม่เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาเท่านั้น
แต่ต้องเป็นให้ได้ถึงยอดมนุษย์
นี่ถ้าแจกลายเซ็นเหมือนป๋าป่าแตกแน่ๆจิบอกไห่ ไผ1ไม่รู้เหลือกี่เล่ม น่าจะมีไผ3 อุ้ย อ.แป๋ว ป้าหวาน แม่ใหญ่ ฯลฯ ยังไม่ได้นำมาลงพิมพ์ ส่วนโมเดลอีสานเขียนได้สัก*80%แล้ว ที่เหลือก็พร้อมเขียนแต่ไม่มีเวลาทำไงได้ ปั่นต้นฉบับได้คืนละครึ่งเรื่อง มีหนังสือค้างอ่าน โชคดีที่ทีวีเสีย ทำให้มีเวลาเขียนมากขึ้น อิ
วันนี้ก็มีโทรศัพท์มาชวนให้ไปประชุมเรื่องมูลนิธิสันติภาพโลก..อะไรๆทำนองนี่แหละ
เขาบอกว่าส่งหนังสือมาแต่ต้นเดือนแล้ว
เห็นเราไม่ตอบรับ..จึงโทรฯมาตามเรื่อง
อ้าว! หนังสือไม่เห็นมานี่
ไม่เห็นหนังสือไม่เป็นไร
เ ธ อ ถ า ม ว่ า จ ะ ม า ไ ด้ ไ ห ม ? ไ ด้ ไ ห ม ค ะ นะ คะ
จะ ต อ บ ว่ า จ ะ ไ ด ดี ฮึ !
ช่วง 21-23 มีค่ายครูสารคาม กับ ค่ายปูนซีเมนต์ไทย มาต่อเนื่องกัน
ใครว่าง ใครไม่มีงาน ยกมือขึ้น ! โธ่ๆๆๆ
หมายเหตุ : เรื่องหนังสือนี่นะครับ ถ้าชาวเฮช่วยกันเขียนบอกเล่าตามภาระกิจและเนื้องานตัวเอง แล้วพิมพ์ออกมา เราก็จะจัดให้ตามสาขาอาชีพ ยกตัวอย่างเช่นคณะครูมาก็เอาหนังสือของแห้ว/แม่ใหญ่/ครูอึ่ง/ครูอารามไป ถ้าเป็นกลุ่มเด็กนักเรียนก็เอาหนังสือของหนูเสื้อสีส้มไป ถ้าสายศิลปะก็เอาของออตไป ถ้าเป็นนักพัฒนาก็เอาหนังสือท่านบางทราย/ปาลียอน/อาม่า/ลานไผ่ไป ถ้าเป็นพวกนักกฎหมาย/รักหลาน ก็เอาหนังสือท่านอัยการไป ถ้าเป็นกลุ่มรักสุขภาพ ก็เอาหนังสือหมอเจ๊-เบิร์ดไป ถ้าเป็นกลุ่มนักวิทยาศาสตร์/กลุ่มองค์กรเพื่อสังคมก็เอาหนังสือของรอกอด/ปลาหมึกไป ถ้าเป็นกลุ่มพัฒนากิจกรรมองค์กร/บริหารพันธกิจเชิงรุกก็เอาหนังสือหมอจอมป่วน/อุ้ย/อ.แป๋วไป ถ้าเป็นพวกกวนใจหรืออกหัก ก็เอาหนังสือของคนถางทางไป ฯลฯ
> > >เอ๊ะ! ถ้าจะขอเอาเรื่องเด็ดตามภาระกลุ่มเรื่องราวที่ว่ามานี้ รวมเป็นเล่มไผ3จะดีไม๊ คิ คิ
” พูดเบาๆ แต่เอาจริงนะเธอ”