ฟ้าสีทองเหนือห้อง814

8 ความคิดเห็น โดย sutthinun เมื่อ 23 กรกฏาคม 2008 เวลา 20:17 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 2522

(มุมมองจากห้องพัก)

ดวงเดินทางค่อนข้างกระชั้นถี่
เมื่อคืนนี้จึงจรลีขึ้นรถทัวร์VIP.ที่สุรินทร์ตอนสามทุ่มครึ่ง มาถึงหมอชิดตีสี่ครึ่ง
หลับๆตื่นๆในเวลา7ชั่วโมง
ลากกระเป๋าขึ้นแท๊กซี่มายังห้อง814 ตอนตีห้าพอดี
วางกระเป๋า เปิดม่าน โอ้โฮ..ฟ้าสีทองผ่องอำไผ
จัดการยกกล้องมากด ฉับ ฉับ..
ได้ภาพท้องฟ้าเหนือแท่งตึกเมืองทองธานีมาอวด

อ่านต่อ »


ฐานผลิตเศรษฐกิจพอเพียง

9 ความคิดเห็น โดย sutthinun เมื่อ 22 กรกฏาคม 2008 เวลา 13:49 ในหมวดหมู่ มหาชีวาลัยอีสาน #
อ่าน: 8152

การเกษตรจบเห่เพราะต้นทุนธรรมชาติเสียหาย

ไม่ฝนแล้ง ก็น้ำท่วม ผลผลิตมวลรวมแทบวางวาย

ซังกะตายทำกินดิ้นรนไป

  

เพื่อดึงเข้าสู่การทำงานแบบประณีต

วันนี้จึงฝึกกิจกรรมภายในพื้นที่1ไร่

เช่น การเดินระบบน้ำ การใช้ปุ๋ยคอกที่มีอยู่

เอามาปลูกพืชผลต่างๆเลียบแบบการทำงานเชิงเกษตรอุตสาหกรรม

ที่เขาจัดการน้ำ-ปุ๋ย-พันธุ์พืช-มีการดูแลตลอดทุกขั้นตอน

อ่านต่อ »


สุนทรีสนทนาประสาชาวบ้าน

2 ความคิดเห็น โดย sutthinun เมื่อ 22 กรกฏาคม 2008 เวลา 6:41 ในหมวดหมู่ มหาชีวาลัยอีสาน #
อ่าน: 2550

เมื่อคืนนี้ เรานัดพ่อใหญ่แม่ใหญ่มาคุยกันก่อนนอน

ถ้าเรียกภาษาKM.ก็บอกว่า..แลกเปลี่ยนเรียนรู้

ถ้าเรียกตามกลุ่มจิตอาสา ก็บอกว่า..สุนทรีย์สนทนา

ถ้าเรียกตามภาษาพื้นถิ่นอีสาน..ก็บอกว่าโสเหล่

ผมตีความเอาเองว่า..เป็นการคุยกันตามสบายไร้เงื่อนไข

 

ที่จริงเรื่องอย่างนี้ชาวบ้านเขามีกันมาตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว

มีแต่สายราชการเรานี่แหละถูกกฎเกณฑ์รัดรึง

หรือไม่ก็อยู่ในวัฒนธรรมเจ้ายศเจ้าอย่าง

อ่านต่อ »


จราจลคนท้องไร่ท้องนา

1 ความคิดเห็น โดย sutthinun เมื่อ 21 กรกฏาคม 2008 เวลา 14:36 ในหมวดหมู่ มหาชีวาลัยอีสาน #
อ่าน: 2652

ช่วงนี้เราอบรมเกษตรกร ระดับผู้นำจาก6หมู่บ้าน จำนวน28ชีวิต  มากินนอนตะลุมบอลความคิด เพื่อจะช่วยกันคลี่คลายปัญหาเฉพาะหน้า มองเรื่องเดินหน้าพัฒนาให้ถูกทิศถูกทาง วางแผนชุมชนระยะสั้น-กลาง-ยาว โดยเอาปรากฎการณ์และสภาพการด้านเศรษฐกิจสังคมเป็นตัวตั้ง เพราะวาตะภัยจากน้ำมันนั้น โหดร้ายยิ่งกว่าสึนามิเสียอีก มีทีท่าจะป่วนไปทั้งโลก ไม่แน่นะครับ เรื่องพลังงานเชื้อเพลิงอาจจะเป็นชนวนให้มนุษย์เผชิญหน้ากันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ความละโมบที่ดีกรีรุนแรงเกินที่กว่าที่จะรับได้ จราจรก็จะเปลี่ยนป็นจราจล

  

ท่านกลางความเปลี่ยนแปลง ที่กระชั้นและฉุกละหุกเช่นนี้ ชาวไร่ชาวนาจะรับสถานการณ์อย่างไรหนอ ถ้าปัญหาออมามากๆ รายการเดินขบวนก็จะเกิดขึ้นอีก เพราะวิธีนี้ดูจะเป็นทางเลือกยอดฮิตสภาวะวิกฤติสังคมไทย ที่จำเป็นจะต้องใช้ความรู้ใหม่มายกระดับการงานอาชีพ ให้เป็นวิชาชีพและเป็นมืออาชีพ กว่าจะเกิดตรงจุดนี้ได้มันไม่ง่ายเลยพี่น้อง จะออกหัวออกก้อยก็ไม่รู้

วันนี้จึงชวนเข้าเรื่องกระบวนการคิด

แบ่งออกเป็น3 กลุ่ม

ให้ไปประมวลคำคิดเกี่ยวกับ

 (พืชผักที่สมาชิกเอามาอวดเพื่อนๆ)

  • บริบทการทำนำ
  • บริบทการเลี้ยงปลา
  • บริบทการปลูกต้นไม้

แยกกันไปนั่งคิดคำอะไรบ้างที่รู้จักหรือเกี่ยวข้องกัน  แล้วแต่ละกลุ่มเอาคำเหล่านั้นมาตรวจสอบ คำไหนซ้ำกันและต่างกันก็แยกไว้เป็นหมวดๆ คำที่ซ้ำกันมากๆแสดงว่ามีความสำคัญมาก จับมาใส่ตอนเขียนลงแผนที่ความคิด แยกระดับความสำคัญไว้เป็นแกนหลัก กลุ่มคำสำคัญรองลงไปเอาไปลงไว้ที่แกนรอง ส่วนคำกระจัดกระจายเอาห้อยไว้ปลายติ่ง

การฝึกคิดเช่นนี้บ่อยๆ  จะชี้ชวนให้ผู้นำชุมชนคิดเรื่องแผนการทำงานอย่างเป็นระบบได้คมชัดมากขึ้น ต้นทุนจากประสบการตรงชาวบ้านมีอยู่แล้ว การพิจารณาการสังเกตุก็พอมีบ้าง ถ้าเราชวนถอดความคิดออกมาเป็นตัวหนังสือแล้วโยงให้ดูกัน ก็จะเห็นวิถีการทำงานเชิงบูรณาการ ว่าในที่สุดแล้วสิ่งที่มีชีวิตล้วนเอื้อโยงถึงกันและกัน มนุษย์ไม่รู้เรื่องสายใยธรรมชาติ.. ไปแยกส่วนจัดกิจกรรมเป็นกระจุก ทำให้พลังธรรมชาติที่เคยเป็นตัวช่วยที่สำคัญสูญเสียไป..

สรุป แผนการยกระดับวิถีชีวิต การทำนา-เลี้ยงปลา-ปลูกต้นไม้-ในจุดเริ่มต้นที่จะทำให้ประณีตให้ดี คุ้มค่า กับเวลาและหยาดเหงื่อแรงงาน รวมทั้งคิดถึงการปูทางไปในอนาคตด้วย ทำอย่างไรจะอยู่ได้ อยู่ดี อยู่ไหว ไปรอด ..เดินมาถึงทางหลายแพร่งแล้วพี่น้องเอ๋ย..จะเป็นเกษตรกรหรือกรรมกรก็อีตอนนี้.

บ่ายนี้ได้คำตอบโผล่มาแล้ว 1 เรื่อง

  • การลดรายจ่าย
  • การทำงานให้พอดีกับปัจจัยพื้นฐานของครอบครัว
  • คิดก่อนทำ
  • ทำไปปรับปรุงไป
  • ทำทุกเรื่องอย่างมีเหตุมีผล
  • จัดระเบียบงานให้สัมพันธ์กัน
  • ทำบัญชีครัวเรือน
  • คิดแล้วลงมือทำให้ได้จริงๆ
  • มีความมุ่งมั่นสูง
  • ใช้วิชาความรู้
  • ทำกิจกรรมที่หลากหลาย

 

——————————————————————–


วิ่งสู้ฟัดที่สวนป่า

6 ความคิดเห็น โดย sutthinun เมื่อ 20 กรกฏาคม 2008 เวลา 22:17 ในหมวดหมู่ Uncategorized #
อ่าน: 4980

       (4สาวกรุงเข้าป่า มองหาอะไร?)

ช่วงหยุดยาวเครือญาติสาวมาเยี่ยม ความดีใจนั้นไม่ต้องพูดถึง มีเรื่องที่จะขอร้องให้ช่วยให้ทำมากมาย จึงวางแผนล่วงหน้า..โชคดีไม่มีกิ๊กไม่มีนัด ไม่ไปไหน ใครๆเข้าวัด เราเข้าบล็อก เพื่อเร่งรีบเรียนรู้ระบบใหม่..ยิ่งกว่าวิ่งสู้ฟัดเสียอีกนะจะบอกไห่..  เวลาแต่ละนาทีนั้นมีความหมายมากนัก บังเอิญว่าผมนอนเป็นขยักๆ..จึงตื่นมาหาครูสอนได้เป็นระยะๆ ก็ได้ผลสมประสงค์ในระดับหนึ่ง อยู่ในขั้นพอกล้อมแกล้มเขียนลงข้อความลงรูปได้ แต่ยังไม่ถึงขั้นสมบูรณ์นัก มือใหม่หัดเขียนก็เป็นยังงี้แหละขอรับ

   

(ปลาดุกเลี้ยงไว้แกงฉุ่ฉี่ ลาบ ตำน้ำพริก เดี๋ยวนี้ปลาดุกยักษ์เบียดปลาดุกบ้านตกบ่อไปแล้ว)

อากาศช่วงนี้แปรปรวนเหลือเกิน ร้อนๆ อบอ้าว ประเดี๋ยวประด๋าวฝนตกหยิมๆ แบบเยี่ยวจั๊กกะจั่น แทนที่จะเย็นกลับร้อนชื้นหนักเข้าไปอีก คนเราก็เข้าร่ม อาบน้ำ ประแป้ง กินกาแฟ  เปิดแอร์ พัดลม ผมเห็นร้อนๆก็ล่อแตงโมสิครับ ช่วงนี้หวานกรอบดี มีคนช่วยชิม เจ้าเหมยหนิงพาคุณแม่มาเยี่ยม ยังหิ้วแตงโมลูกเบ้อเร่อเบ้อร่ามาฝากอีก ..จะเหลือรึครับ วันๆล่อแตงโมจนน้ำเต็มพุง

       

(ปลาเผาะ ปลาบึก เนื้อเอาไว้แกงเลี้ยงชาวบ้าน ขายบ้าง ส่วนหัวเอาไว้ต้มยำรสแซ่บ อร่อยเหอะ )

การบริโภคไม่ดูตาม้าตาเรือ และไม่บันยะบันยัง ก็เดี๊ยงสิครับ โรคไอเลิฟยูประจำตัวก็ปะทุขึ้นมา ไอหัวสั่นหัวคลอนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ต้องเจ้นไปฉีดยา กินยา อาการถึงค่อยทุเลา แต่ก็โดนราณีขีดเส้นตาย ห้ามเตะแตงโม 1 สัปดาห์ ..และก่อนหน้าคืนที่จะกลับ เขาเอาแตงโมลูกโตมาผ่าโชว์ชิมต่อหน้าต่อตาเรา..ฝากไว้ก่อโอราฬ..หายไอเมื่อไหร่พ่อจะฟาดให้พุงปลิ้น ฮึ ฮึ ..

นอนไม่พอ แถมยังไอโขลกๆ สังขารก็ยอบแยบสิครับ ทรมานสังขาร เกรงหวัดจะติดสาวๆด้วย จึงจำเป็นต้องโด๊บทุกรูปแบบ วันนี้แอบนอนกลางวันนานขึ้น กินยาสมุนไพรป้าจุ๋ม แม่ครัวหัวป่าต้มศรีษะปลาบึก เฉพาะหัวน้ำหนัก4กก. บุบพริกขี้หนู ปรุงรสแซ่บ ยกมาร้อนๆ ..นับเป็นยาโด๊ปที่อร่อยพิเศษ เมื่อวานก็ชวนลูกหลานกินต้มหน่อไม้ใส่ไก่บ้าน ปรุงน้ำซุปดีๆซดกันระเบิด เกลี้ยงชามซุปจริงๆด้วย.. 

: ข้อมูลดิบ

ปลาเผาะ ปลาโมง หรือมีชื่อในภาษาอังกฤษว่า Pangasius เป็นปลาที่มีถิ่นกำเหนิดอยู่ในน้ำโขง อยู่ในตระกูลเดียวกับปลาสวาย ชาวอีสานรู้จักมานาน นำมาประกอบอาหารหลากหลายเมนู ปลาเผาะ หรือปลาพังก้า เป็นปลาที่น่าสนใจ น่าจะเลี้ยงเชิงเศรษฐกิจได้ดี เป็นสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ที่ส่งออกได้  สถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม จังหวัดนครพนม และหน่วยงานต่างๆลงนามความร่วมมือทำโครงการนำร่องส่งเสริมการเลี้ยงปลาเผาะเพื่อการส่งออก โดยเลือกพื้นที่อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนมเลี้ยงเพื่อการส้งออกระยะแรก400,000 ตัว  พบว่าปลาเผาะ เป็นปลาที่ได้รับความนิยมสูงจากผู้บิโภคในต่างประเทศ เนื่องจากมีเนื้อสีขาว รสชาติดี มีคุณค่าทางอาหารสูง ในขณะนี้มีเพียงประเทศเวียตนามเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ ตลาดยุโรป สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น รัสเซีย นิยมเอาเนื้อปลาไปทำสเต๊กปลาเผาะ ในแผนงานจะจัดตั้งโรงงานอาหารปลา แปรรูปปลาที่อำเภอมหาชัย จังหวัดสมุทรปราการ..

คงไม่มีใครเอาหัวปลาเผาะไปทำสเต๊ก

ผมชอบต้มยำหัวปลา

จะไปซื้อก็ไกล ไม่สด ไม่สะดวก

เลี้ยงเอง เอาเนื้อต้มเลี้ยงชาวบ้าน

ส่วนหัวเอามาต้มยำใส่เครื่องปรุงรสแซ่บ

ถ้าจัดการลักษณะนี้คงจะสมประโยชน์ทุกฝ่าย

ตอนนี้..ที่ลานสวนป่า ลงมือเลี้ยงแล้วนะขอรับ

ปีหน้า..มาดวลต้มยำหัวปลาเผาะกันไม๊ละขอรับ อิ อิ

………………………………………………………………………….



Main: 0.072403907775879 sec
Sidebar: 0.17677402496338 sec