วิ่งสู้ฟัดที่สวนป่า

โดย sutthinun เมื่อ 20 กรกฏาคม 2008 เวลา 22:17 ในหมวดหมู่ Uncategorized #
อ่าน: 4990

       (4สาวกรุงเข้าป่า มองหาอะไร?)

ช่วงหยุดยาวเครือญาติสาวมาเยี่ยม ความดีใจนั้นไม่ต้องพูดถึง มีเรื่องที่จะขอร้องให้ช่วยให้ทำมากมาย จึงวางแผนล่วงหน้า..โชคดีไม่มีกิ๊กไม่มีนัด ไม่ไปไหน ใครๆเข้าวัด เราเข้าบล็อก เพื่อเร่งรีบเรียนรู้ระบบใหม่..ยิ่งกว่าวิ่งสู้ฟัดเสียอีกนะจะบอกไห่..  เวลาแต่ละนาทีนั้นมีความหมายมากนัก บังเอิญว่าผมนอนเป็นขยักๆ..จึงตื่นมาหาครูสอนได้เป็นระยะๆ ก็ได้ผลสมประสงค์ในระดับหนึ่ง อยู่ในขั้นพอกล้อมแกล้มเขียนลงข้อความลงรูปได้ แต่ยังไม่ถึงขั้นสมบูรณ์นัก มือใหม่หัดเขียนก็เป็นยังงี้แหละขอรับ

   

(ปลาดุกเลี้ยงไว้แกงฉุ่ฉี่ ลาบ ตำน้ำพริก เดี๋ยวนี้ปลาดุกยักษ์เบียดปลาดุกบ้านตกบ่อไปแล้ว)

อากาศช่วงนี้แปรปรวนเหลือเกิน ร้อนๆ อบอ้าว ประเดี๋ยวประด๋าวฝนตกหยิมๆ แบบเยี่ยวจั๊กกะจั่น แทนที่จะเย็นกลับร้อนชื้นหนักเข้าไปอีก คนเราก็เข้าร่ม อาบน้ำ ประแป้ง กินกาแฟ  เปิดแอร์ พัดลม ผมเห็นร้อนๆก็ล่อแตงโมสิครับ ช่วงนี้หวานกรอบดี มีคนช่วยชิม เจ้าเหมยหนิงพาคุณแม่มาเยี่ยม ยังหิ้วแตงโมลูกเบ้อเร่อเบ้อร่ามาฝากอีก ..จะเหลือรึครับ วันๆล่อแตงโมจนน้ำเต็มพุง

       

(ปลาเผาะ ปลาบึก เนื้อเอาไว้แกงเลี้ยงชาวบ้าน ขายบ้าง ส่วนหัวเอาไว้ต้มยำรสแซ่บ อร่อยเหอะ )

การบริโภคไม่ดูตาม้าตาเรือ และไม่บันยะบันยัง ก็เดี๊ยงสิครับ โรคไอเลิฟยูประจำตัวก็ปะทุขึ้นมา ไอหัวสั่นหัวคลอนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ต้องเจ้นไปฉีดยา กินยา อาการถึงค่อยทุเลา แต่ก็โดนราณีขีดเส้นตาย ห้ามเตะแตงโม 1 สัปดาห์ ..และก่อนหน้าคืนที่จะกลับ เขาเอาแตงโมลูกโตมาผ่าโชว์ชิมต่อหน้าต่อตาเรา..ฝากไว้ก่อโอราฬ..หายไอเมื่อไหร่พ่อจะฟาดให้พุงปลิ้น ฮึ ฮึ ..

นอนไม่พอ แถมยังไอโขลกๆ สังขารก็ยอบแยบสิครับ ทรมานสังขาร เกรงหวัดจะติดสาวๆด้วย จึงจำเป็นต้องโด๊บทุกรูปแบบ วันนี้แอบนอนกลางวันนานขึ้น กินยาสมุนไพรป้าจุ๋ม แม่ครัวหัวป่าต้มศรีษะปลาบึก เฉพาะหัวน้ำหนัก4กก. บุบพริกขี้หนู ปรุงรสแซ่บ ยกมาร้อนๆ ..นับเป็นยาโด๊ปที่อร่อยพิเศษ เมื่อวานก็ชวนลูกหลานกินต้มหน่อไม้ใส่ไก่บ้าน ปรุงน้ำซุปดีๆซดกันระเบิด เกลี้ยงชามซุปจริงๆด้วย.. 

: ข้อมูลดิบ

ปลาเผาะ ปลาโมง หรือมีชื่อในภาษาอังกฤษว่า Pangasius เป็นปลาที่มีถิ่นกำเหนิดอยู่ในน้ำโขง อยู่ในตระกูลเดียวกับปลาสวาย ชาวอีสานรู้จักมานาน นำมาประกอบอาหารหลากหลายเมนู ปลาเผาะ หรือปลาพังก้า เป็นปลาที่น่าสนใจ น่าจะเลี้ยงเชิงเศรษฐกิจได้ดี เป็นสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ที่ส่งออกได้  สถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม จังหวัดนครพนม และหน่วยงานต่างๆลงนามความร่วมมือทำโครงการนำร่องส่งเสริมการเลี้ยงปลาเผาะเพื่อการส่งออก โดยเลือกพื้นที่อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนมเลี้ยงเพื่อการส้งออกระยะแรก400,000 ตัว  พบว่าปลาเผาะ เป็นปลาที่ได้รับความนิยมสูงจากผู้บิโภคในต่างประเทศ เนื่องจากมีเนื้อสีขาว รสชาติดี มีคุณค่าทางอาหารสูง ในขณะนี้มีเพียงประเทศเวียตนามเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ ตลาดยุโรป สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น รัสเซีย นิยมเอาเนื้อปลาไปทำสเต๊กปลาเผาะ ในแผนงานจะจัดตั้งโรงงานอาหารปลา แปรรูปปลาที่อำเภอมหาชัย จังหวัดสมุทรปราการ..

คงไม่มีใครเอาหัวปลาเผาะไปทำสเต๊ก

ผมชอบต้มยำหัวปลา

จะไปซื้อก็ไกล ไม่สด ไม่สะดวก

เลี้ยงเอง เอาเนื้อต้มเลี้ยงชาวบ้าน

ส่วนหัวเอามาต้มยำใส่เครื่องปรุงรสแซ่บ

ถ้าจัดการลักษณะนี้คงจะสมประโยชน์ทุกฝ่าย

ตอนนี้..ที่ลานสวนป่า ลงมือเลี้ยงแล้วนะขอรับ

ปีหน้า..มาดวลต้มยำหัวปลาเผาะกันไม๊ละขอรับ อิ อิ

………………………………………………………………………….

« « Prev : ใจอาสา

Next : จราจลคนท้องไร่ท้องนา » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

6 ความคิดเห็น

  • #1 ning.dss ให้ความคิดเห็นเมื่อ 20 กรกฏาคม 2008 เวลา 23:46

    ว้ายพ่อขา…
    หนิงทำให้พ่อไอเพิ่มขึ้นหรอเนี่ย…
    ขอโทษนะคะ นึกว่าจะเป็นผลไม้เย็นๆช่วยคลายร้อนอ่ะค่ะ

  • #2 kamolwan ให้ความคิดเห็นเมื่อ 21 กรกฏาคม 2008 เวลา 7:47

    พ่อครูหายเร็วๆ นะคะ ป่าป๊าที่บ้านก็เป็นโรคชอบไอตอนกลางคืน มีเสมหะมาก ทำให้นอนไม่ต่อเนื่องเหมือนกันค่ะ
    อ้อ..ทั้งพ่อกับแม่ยังคิดถึงที่สวนป่านะคะ ฝากความระลึกถึงมาด้วยค่ะ โดยเฉพาะข้าวสารจากสวนป่า ที่บ้านเวลาซื้อข้าวยังอดเปรียบเทียบกับข้าวจากสวนป่าไม่ได้เลยค่ะ

  • #3 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 21 กรกฏาคม 2008 เวลา 11:06

    ไม่มีอะไรหรอกเม่ยหลิง ช่วงไอ เขาห้ามกินแตงโม เราก็ไม่รู้ ร้อนด้วยเลยเจี๊ยะเต็มที่ อิอิ

  • #4 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 21 กรกฏาคม 2008 เวลา 11:08

    ไม่ทราบอาจารย์กลับจากต่างประเทศแล้วยัง
    ช่วงนี้สังขารคนแก่แย่หน่อย
    แต่อาจารย์ก็ดูแลคุณพ่อ-แม่ได้เยี่ยมมากๆ
    คงสบายไม่มีอาการอะไรมากกระมั๊งครับ

  • #5 Lin Hui ให้ความคิดเห็นเมื่อ 21 กรกฏาคม 2008 เวลา 12:19

    คารวะท่านครูบาฯ แตงโมเป็นของเย็น ถ้าภานในร่างกายร้อนจัด แล้วเอาของเย็นเข้าไปสู่ร่างกาน
    ก็เกิดการปรับเปลี่ยนอุณหภูมิในร่างกายทันที่ ก็เกิดอาการต่างกัน พอดีไอเลิฟอยู่มาจอคิวอยู่
    เจอวอเตร์อเมลอน ก็ไอ ไอ ไอ … อย่าว่าแต่คนเลย เหล็กเอย หินเอย ร้อนๆ
    เอาน้ำลาดยังแตกยังแปรสภาพเลยค่ะ
    สว.ควรพิจารณา เวลาร้อนจัดๆ ไม่ควรทานของเย็นๆ ค่ะ ควรทานน้ำที่อุณภุมิห้อง
    ถ้าจะทานแตงโมต้องรอให้อุณภูมิในร่างกายลดลงก่อนค่ะ คิคิคิ

  • #6 rani ให้ความคิดเห็นเมื่อ 21 กรกฏาคม 2008 เวลา 20:59

    สวัสดีค่ะพ่อครู
    สัญญานะคะ 1 อาทิตย์ ห้ามทาน จนกว่าจะหายขาด ดื่มแต่น้ำอุ่น ห้ามน้ำเย็นเด็ดขาด ตามมาเยี่ยมอิอิ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.25472497940063 sec
Sidebar: 0.08287787437439 sec