สุนทรีสนทนาประสาชาวบ้าน
อ่าน: 2550เมื่อคืนนี้ เรานัดพ่อใหญ่แม่ใหญ่มาคุยกันก่อนนอน
ถ้าเรียกภาษาKM.ก็บอกว่า..แลกเปลี่ยนเรียนรู้
ถ้าเรียกตามกลุ่มจิตอาสา ก็บอกว่า..สุนทรีย์สนทนา
ถ้าเรียกตามภาษาพื้นถิ่นอีสาน..ก็บอกว่าโสเหล่
ผมตีความเอาเองว่า..เป็นการคุยกันตามสบายไร้เงื่อนไข
ที่จริงเรื่องอย่างนี้ชาวบ้านเขามีกันมาตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว
มีแต่สายราชการเรานี่แหละถูกกฎเกณฑ์รัดรึง
หรือไม่ก็อยู่ในวัฒนธรรมเจ้ายศเจ้าอย่าง
แบกหัวโขน แบกซี ต้องมีขั้นมีตอนมีสถานะ เรียกรวมๆว่ามีหน้ามีตา
พูดภาษาไม่รื่นหู..ก็บอกว่าเจ้ายศเจ้าอย่าง
จะทำอะไรก็ใส่พิธีการลงไปให้มันยุ่งเข้าไว้
สิ่งที่สังเกตได้จากวงโสเหล่เมื่อคืนนี้
- ชาวบ้านคิดและคุยในภาษาเดียวกัน
- อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่เป็นปัญหาคล้ายกัน
- ที่สำคัญไม่ใช่เรื่องสมมุติ ที่หยิบยกมาคุยนั้นสาระเนื้อๆทั้งนั้น
- มีที่ไปที่มา ..มีต้นตอ
- เป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าถึง
- ทุกคนรับรู้ร่วมกัน
- มีความกระหายใคร่รู้
- มีประสบการณ์ตรงมาถ่ายทอด
- หลายเรื่องสดๆร้อนๆ
- มีเรื่องตาหลกสุดฮามาสอดแทรก
- บรรยากาศการคุยมีจุดร่วมที่น่าสนใจ
- อยู่ภายใต้วัฒนธรรมชาวบ้าน
- สถานะไม่ห่างไกลกัน
- กล่าวถึงกัน ให้เกียรติกัน
- มีความจริงใจ มีความปรารถนาดี
- ไม่ยกตนอวดอ้าง ชื่นชมยกย่องกันด้วยความสุจริตใจ
- ไร้ขั้นตอน ไร้กรอบ แต่ดำเนินไปตามที่เห็นสมควร
- มีจุดพอเหมาะพอดี
: ยกตัวอย่างเรื่องเล่าเคล้าฮา
อาจารย์ทอง เป็นข้าราชการครูเกษียณ
เป็นตัวแทนผู้นำกลุ่มผู้เลี้ยงปลาบ้านหนองแคน
ได้เล่าเรื่องการปลูกต้นไม้ริมทางหลวงว่า
..สังเกตุเห็นเขาเอารถแมคโคมาพูนดินเนื้อที่ประมาณ 1 ตารางเมตร
เนินดินที่ว่านี้วางเป็นระยะเป็นระเบียบ
ที่สูงที่ต่ำก็ทำอย่างเดียวกันหมด
มีจุดหนึ่งไปตรงกับจอมปลวกซึ่งสูงอยู่แล้ว
เจ้าคนขุดแมคโคก็ยังเอาดินไปพูนให้สูงขึ้นตามแบบใบสั่ง
อาจารย์ทองสงสัยจึงไปถามว่า..ตรงจุดนี้สูงอยู่แล้ว แกยังเอาดินไปพูนให้สูงขึ้นทำไม?
เจ้าเถรตรงตอบว่า..เขาสั่งให้ขุดตามจำนวน ถ้าไม่ครบเบิกเงินไม่ได้นะสิครับ!
..เรื่องอย่างนี้ละครับ จะฮาดี หรือร้องไห้
อาจารย์ทองยังสะท้อนว่า
พื้นที่ลุ่มที่ต่ำพูนดินนั้นสมควรแล้ว
แต่ที่สูงยังทะลึ่งไปพูนดินให้เสียเงินทำไม
เรื่องการปลูกต้นไม้สองข้างทางหลวงนี้ จะเห็นว่าพวกนี้มีงบประมาณปลูก แต่ไม่มีการดูแล ถนนสายเดียวปลูกแล้วปลูกอีก 10 ปี ยังไม่มีต้นไม้โผล่ เจ้าแมคโคคันเก่านั่นแหละมาพูนดินประจำ เป็นหน่วยงานที่ขยันปลูกต้นไม้มากที่สุดในโลก บางแห่งไปปลูกไม้โตเร็วตรงกับแนวสายไฟฟ้า จึงมีเรื่องตาหลกซ้ำซ้อนกรมทางหลวงปลูกต้นไม้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคตัดยอดไม้
เรื่องนี้อธิบายได้ว่า
- สองหน่วยงานนี้ไม่มีการจัดสุนทรีย์สนทนา
- หลับหูทำตามหน้าที่ ไม่ดูตาม้าตาเรือ
- การกำหนดนโยบายโหล้ยโท้ย
- สูญเสียงบประมาณระดับล้างผลาญโดยไม่สมควร
- โง่แล้วยังทะลึ่งมาปลูกต้นไม้
- เกิดวิกฤติศรัทธา ถูกชาวบ้านประเมินว่าเซ่อถาวร
« « Prev : จราจลคนท้องไร่ท้องนา
Next : ฐานผลิตเศรษฐกิจพอเพียง » »
2 ความคิดเห็น
สวัสดีครับ ครูฯ
เรื่องนี้อธิบายได้ว่า
สองหน่วยงานนี้ไม่มีการจัดสุนทรีย์สนทนา
หลับหูทำตามหน้าที่ ไม่ดูตาม้าตาเรือ
การกำหนดนโยบายโหล้ยโท้ย
สูญเสียงบประมาณระดับล้างผลาญโดยไม่สมควร
โง่แล้วยังทะลึ่งมาปลูกต้นไม้
เกิดวิกฤติศรัทธา ถูกชาวบ้านประเมินว่าเซ่อถาวร
ครูฯ ได้อธิบายจัดเจนครับ ทุกอย่างทางการไม่ได้มีจิตวิญญานร่วมกับชุมชน หน่วยงานรัฐเพี่ยงแต่ทำงานไปวันๆ
ตามคำสั่ง ตามกำลังเงินเดือน งบประมาณ
ขอบคุณมาครับ
โสเหล่ ทางสุราษฎร์ธานี เรียก โจ๊ะ ครับ อิอิ