ใจอาสา

4 ความคิดเห็น โดย sutthinun เมื่อ 20 กรกฏาคม 2008 เวลา 12:12 ในหมวดหมู่ Uncategorized #
อ่าน: 1879

พวกเราจะคุ้นชินกับคำว่า “จิตอาสา”

แต่ถ้าเป็นเครือข่ายลานปัญญาจะตระหนักตรงกันเรื่อง“ใจอาสา”

ถามว่า ต่างกันอย่างไร? บ่ฮู้!!

คำว่า..“ใจสั่งมา”  “มาด้วยใจ” ไม่ได้พูดกันเล่นๆ แต่มันเป็นเช่นนั้นจริง

สิ่งที่ว่านี้เมื่อมันเกิดมันมีมันจึงเป็นคุณค่าที่ประเมินมูลค่าไม่ได้

การทำงานเพื่อสังคมยุคนี้ลำบาก ถ้าไม่มีฐานเครือข่ายใจมารองรับ

ดังนั้น..เมื่อมันจุติได้แล้วควรจะทะนุถนอมไว้ให้ดี

พยายามหลอมให้เป็นกองทุนรวมพลังสรรสร้างสังคม

“ประเภทตัวจริงเสียงจริง” นั้นมีไม่มากนักในสังคมที่ผิดปกติในปัจจุบัน

ที่ยึดมั่นถือมั่นไม่เหลียวแลสังคมนั้นมีปะเลอะปะเต๋อ

ผมโชคดีที่มีเครือญาติใจสั่งมาทุกภูมิภาครุ่นเล็กรุ่นใหญ่

คราใดมีปัญหา หัวหมู่ทะลวงฟันบุกบั่นฝ่ามรสุมมาสงเคราะห์ทั้งทางตรงและทางอ้อม

ถ้าใจไม่ถึงใจ ก็ยากจะประสานใจไปกันได้

หน้าที่นี้ไม่มีใบสั่ง ไม่มีตัวช่วย ต้องพึ่งพาตัวเองและพื่งกันเอง

เป็นแรงบวกเสริมให้กันและกัน

เพราะเป็นวิถีอิงระบบ..

สิ่งสำคัญคือการจัดสรรเวลาให้ยืดหยุ่น

เสียสละทุนทรัพย์

เสียสละวิชาความรู้

ที่พูดมีแต่เสียๆๆๆ  แล้วสิ่งที่ได้คืออะไร

คงยากที่จะมีผู้ตอบแทนใครได้

เป็นการทำบุญทำทานอย่างหนึ่ง

ซึ่งไม่ได้วัดกันที่ตัวเงิน แต่วัดกันที่น้ำใจและจิตใจ

ใครมีจิตใจใสสะอาดใส่ลงในงานย่อมประสบผลลัพธ์ที่ประทับในใจแห่งตน

ลองถาม3สาวชาวลานปัญญาดูสิว่า..

มาสวนป่าแล้วได้อะไร?

ได้หัวเราะ ได้ไปเที่ยวโบราณสถาน ได้ลุยสวน เก็บผัก ทำอาหาร ปลูกกล้วย

ได้แนะนำการเขียนบล็อก

ได้การบ้านไปคิดต่อ

ได้มากอด กอด และกอด

ได้หัวใจพองโต หรือหัวโตกลับไป

..วันนี้เดินทางกลับกันแล้ว ..โชคดี ปลอดภัย นะอี่นางน้อยทั้ง3

จริงเท็จประการใดหาวิธีสืบทราบกันเอาเองเถิด

ข้าน้อยขอรายงานแต่เพียงเท่านี้ อิ อิ


พลังเทคโนโลยีถ้าคู่คี่กับพลังใจจะไปโลด

6 ความคิดเห็น โดย sutthinun เมื่อ 20 กรกฏาคม 2008 เวลา 8:50 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 1870

หมู่นี้ถ้าใครหลงเข้ามาในลานปัญญา

จะเห็นอาการโอดโอยของมือBlogทั้งหลายอึงคะนึง

ตอนแรกนึกว่าเจออุปสรรคจะถอย

ที่ไหนได้..รุกประชิดติดพันแบบกัดไม่ปล่อย

อาจารย์หลินฮุ่ย ลุยใส่ภาพอย่างมุ่งมั่นทะลุทะลวง

อดตาหลับขับตานอนอยู่ค่อนคืน

เมื่อทำได้สำเร็จจะจดจำ ไม่ต้องจดๆจ้องๆ อีกต่อไป

จำได้ ทำได้ ภูมิใจน้อยเสียเมื่อไหร่?

  

การเรียนรู้แบบพอกะเทินของผม

ต้องทุ่มเทพลังใจ..เอาใจใส่หมดหน้าตัก

ต้องจูนศักยภาพที่เป็นต้นทุนเดิมออกมาปัดฝุ่น

แล้วจัดช่องว่างใส่สิ่งใหม่ๆเข้าไป เรียงให้เป็นระบบระเบียบตามวิธีปฎิบัติของระบบเทคโนโลยี

ดูผิวเผินอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องใหม่ หรือยุ่งยากซับซ้อน

ที่จริงมันก็เป็นเรื่องธรรมดา ในธรรมชาติก็จัดวางระบบไว้เป็นขั้นเป็นตอนเหมือนกัน

ไปสั่งเกตดูดอกไม้ก็ได้ กลีบที่ซ้อนกันเป็นแฉกๆ หรือออกกาบดอกที่หุ้มห่อเป็นชูช่อ

จะมีลำดับขั้นไม่แทรกแซงแก่งแย่งกันให้ยุ่งขิง

 

การเรียนยุคนี้  ถ้าเราเป็นผู้เรียนจะมีเรื่องท้าทายใหม่ๆมาให้ปะลองฝีมืออยู่เสมอ เดี๋ยวคนโน้นก็มาบอกว่ามีโปรแกรมใหม่ โปรแกรมเด็ด ช่วยเหลือการทำงานให้ดีและสะดวกกว่าเดิม ผู้มีบล็อกอยู่ในหัวใจหรือจะรั้งรอ เข้าไปเรียนรู้อย่างเมามัน บางคนถึงขั้นลงแดงหรือไม่ก็หมดเรี่ยวหมดแรง โรคภัยของมนุษย์ยุคใหม่ จะเพิ่มมากขึ้นเพราะผลพวงของการคลุกอยู่กับหน้าจอนี่เอง 

ดังนั้นกลุ่มแซ่เฮ จึงวางแผนจัดรายการทัวร์ไปเยี่ยมยามกันในภูมิภาคต่างๆ 

ตอนนี้ก็มีกระเซ็นกระสายออกมาแล้วว่า  เราจะบุกเชียงราย

ญาติโกชาวBlogสายเชิงดอยต่างๆ 

เสนอข้อมูลได้นะครับ  ว่าเราควรจะมีกิจกรรมอะไรบ้าง

“ไปเฮเมืองเหนือกันเต๊อะ”

 

 


ไม่ยากหร๊อก ใส่ภาพ ..กดให้ถูกก็จบ อิ อิ

4 ความคิดเห็น โดย sutthinun เมื่อ 20 กรกฏาคม 2008 เวลา 5:35 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 2200

 

2-3วันช่วงเทศการเข้าพรรษา พวกบ้าบล็อกอย่างเราก็เข้าบล็อกสิครับ!

ทุกอย่างเหมือนกับมือใหม่หัดเขียน

การเรียนเชิงประจักษ์ด้วยการลองกด ลองผิด ลองถูก!

ก็ไม่มีอะไรมาก

กดถูกก็เฮ กดผิดก็ฮา ฮาๆๆๆๆๆ

ควรถือคติว่า ..ผิดก็ได้เรียน ถูกก็ได้เรียน

ตรงกับคำโบราณว่า..รู้ไว้ใช่ว่าใส่บาแบกหาม

เพียงแต่..อะไรที่ผิดก็จำไว้เป็นครู ขืนผิดบ่อยๆ คนสอนก็จะรำคาญใจ

หาว่าสอนเท่าไหร่ไม่จำ บางทีครูก็ลืมว่า..ลูกศิษย์ชอบจำแต่เรื่องผิดๆ อิ อิ ..

 

ผมโชคดีที่ครูสอนใจดี

ไม่ได้เป็นประเภท ..ใส่แว่นหนา หน้าโบราณ ให้การบ้านเยอะ

แต่เป็นครูใจถึง บึ่งรถมาจากเมือง 2 แคว มาอดตาหลับขับตานอน

สอนคืนยังค่ำ วันยังรุ่ง ง่วงมาก็ปูเสื่อนอนกลิ้งอยู่ข้างๆคอมฯนี่เอง

เราเรียนกันถึงเพียงนี้

ไม่รู้ ทำไม่ได้ ข้าน้อยก็สมควรตาย ต๊าย ตาย อิ อิ ..

กองเชียร์สบายใจได้ งานนี้ถือคติพวกนักกีฬายกน้ำหนัก

สู้ตายโว้ย!!!


ทำเป็นไหมเรื่องกล้วยๆ

4 ความคิดเห็น โดย sutthinun เมื่อ 20 กรกฏาคม 2008 เวลา 1:52 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 19692

กล้วย  อยู่ในวิถีไทยมานาน

เด็กๆเมื่อก่อนโตมาเพราะกล้วยบด

วัยวิ่งเล่น ก็ขี้ม้าก้านกล้วย

พอเป็นหนุ่มกระทง ก็ชวนสาวๆไปลอยกระทงหลงทาง

เรียกว่าเกิดจนแก่ก็หนีไม่พ้น

กล้วยยังตามมาบริการแทบทุกเรื่อง

บ้างก็บอกว่า กินกล้วยแช่น้ำผึ้งกำลังวังชาดังกับโคถึก

แม้กระทั้งตายกล้วยก็ยังเป็นกล้วยบวชชี!

ในสังคมชนบทไทย ไม่มีหมู่บ้านไหนไม่ปลูกกล้วย สังคมเกษตรกรบ้านเรา จะเลือกพืชยอดฮิตในการปลูกประจำ เช่น กล้วย อ้อย มะม่วง ขนุน มะพร้าว มะนาวเป็นหลัก นอกนั้นก็ปลูกพืชผลพืชผักตามรายภาค เช่น การปลูกทุเรียน ลำใย ลองกอง สับปะรด น้อยหน่า ถึงฤดูกาลจังหวัดที่รณรงค์ปลูกพืชประจำจังหวัด พากันจัดงานเทศกาลลำใย เงาะ ทุเรียน ฯลฯ บางทีก็แถมประกวดธิดาโน่นนี่เข้าไปให้เกิดบรรยากาศประชาสัมพันธ์ หรือไม่ก็ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน ที่เรียกว่าสินค้าโอท็อป ที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องกล้วยเห็นจะเป็นจังหวัดพิษณุโลก

ปลูกกล้วยทำไม?

เพราะเห็นว่าปลูกง่าย ทนแล้ง ใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน หน่อ-ใบ-ปลีก-ผล-ต้น ไม่ทิ้งแม้แต่นิดเดียว เป็นได้ทั้งอาหารคนอาหารสัตว์ เป็นได้ทั้งอาหารคาวของหวาน ภูมิปัญญาไทยได้ค้นคิดเรื่องกล้วยไว้เป็นกระบุงโกย ..กล้วยตาก กล้วยอบ กล้วยฉาบ กล้วยทอด ฯลฯ  แต่ก่อนที่จะมามีผลิตภัณฑ์ที่ว่านี้ อันดับแรกก็ต้องมีผลกล้วย จะเป็นการซื้อมาหรือปลูกเองก็หนีแหล่งที่ปลูกไม่ได้ ประเด็นนี้จึงแตกย่อยลงไปถึงคุณสมบัติ

ถ้าจะปลูกขายใบต้องปลูกกล้วยพันธุ์อะไร บางแห่งก็จะเน้นสายพันธุ์ที่เหมาะกับสภาพพื้นที่ จังหวัดกำแพงเพชรปลูกกล้วยไข่ บางจังหวัดปลูกกล้วยหอมทองเพื่อการส่งออก ทางใต้ใครไปเที่ยวก็อย่าลืมชิมกล้วยเล็บมือนาง ทางอีสานยืนพื้นกล้วยน้ำหว้าเป็นหลัก ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา หรืองานประจำหมู่บ้านอย่างน้อยก็จะได้ชิมข้าวต้มมัดใช่ไหมละครับ ใครไปแถวตลาดนางเลิ้ง กรุงเทพฯ จะเห็นเด็กถือถุงกล้วยทอดเร่ขายให้รถที่ผ่านไปมา เรียกว่าดังแซงเด็กขายพวงมาลัยได้นี่ไม่ธรรมดาเลยนะขอรับ

กล้วยกับกิจกรรมฝึกอบรม

ในช่วงที่เราฝึกอบรมเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ประเด็นเรื่องกล้วยจะถูกหยิบยกมาอธิบายให้เห็นคุณค่าและมูลค่าอยู่เนืองๆ เพราะเป็นเรื่องที่ทุกคนมีพื้นฐานเป็นที่รู้จักกันอยู่แล้ว บางกลุ่มที่สนใจเรื่องนี้เราก็จะให้ช่วยกันคิดคำว่ากล้วย ว่าเรารู้จักบริบทของกล้วยอย่างไรบ้าง คิดได้แล้วเขียนออกมาดูสิ แล้วจัดให้ตัวแทนกลุ่มมานำเสนอ จุดนี้จะแทรกลูกเล่นลูกฮาก็ว่ากันไป ในฐานะผู้จัดการความรู้ ก็จะเอาความรู้พื้นฐานที่ชาวบ้านสะท้อนออกมา มานั่งออกแบบที่จะต่อยอดขยายความรู้ชุมชนให้มีประสิทธิผลมากขึ้น เช่น กล่าวถึงเคล็ดลับต่างๆ

  • การปลูกกล้วยให้ตกเครือไปในทางเดียวกัน
  • การทำฮอร์โมนจากหน่อกล้วย
  • การผ่าเหง้ากล้วยเป็นชิ้นๆปลูกแทนการปลูกด้วยหน่อ
  • การเพาะเนื้อเยื้อ
  • การคัดเลือกและปรับปรุงพันธุ์
  • การทำวิจัยเรื่องกล้วย

ข้อสุดท้าย

การทำวิจัยเรื่องกล้วย จะประมวลระดับการจัดการความรู้ไว้ ว่าวันนี้เรามีความรู้เรื่องกล้วยระดับไหนอย่างไร เอาเข้าจริงเรื่องกล้วยๆก็ไม่ได้กล้วยอย่างที่คิดหรอก ว่ากันตั้งแต่วิธีขุดหลุมปลูกกล้วย การปรับปรุงพันธุ์  การเลือกพันธุ์ที่ป้องกันโรคระบาดในพื้นถิ่น เมื่อเย็นวาน ผมชวน3สาวทดลองปลูกกล้วยในแปลงวิจัย เพื่อให้เห็นกระบวนการและเคล็ดลับในการปลูกกล้วย ตามสไตล์ทำเรื่องธรรมดาให้เป็นเรื่องพิเศษ..

ผมให้รถแมคโคขุดหลุม1ลูกบาทก์เมตร แล้วเอาเศษผงถ่าน ขี้วัว ผสมรองก้นกลุม เอาหน่อกล้วยมาปลูกกลางหลุม แล้วขุดดินกลบโคนกล้วย แต่งขอบหลุมให้เป็นรูปกรวยกระทะในรัศมี1เมตร ฝนมาน้ำจะได้ไหลลงหลุมนี้ เศษใบไม้/วัชพืชต่างๆจะได้หล่นลงไปปกคลุมหน้าหลุม ตามมุมหลุมเราเอาเมล็ดผักจำพวกไม้เลื้อยเช่น ฟักแฟง น้ำเต้า ฟักทอง แตงโม แตงไทย ถั่วพุ่ม พริก มะเขือ เอาไปหยอดไว้ได้ทั้งนั้นละครับ เพื่อเป็นการใช้ประโยชน์ที่ดิน มีพืชคลุมดิน และได้รับผลด้านพืชผักล้มลุกไปเป็นรายได้ระยะต้น จะได้ไขปริศนาว่า..ปลูกกล้วยพ่วงฟักแฟง แตงโม แข่งกับการซื้อเหล้าแถมเบียร์ของคุณหมอคนชอบวิ่งยังไงละขอรับ

มหาชีวาลัยอีสาน และกลุ่มลานเฮฮาทั้งหลาย จะทำแปลงขยายพืชผลพันธุ์ดีไว้ในจุดที่มีความพร้อม ดังนั้นจุดที่ตั้งไข่ที่นี่จึงวางแผนทำแปลงพืชผลพันธุ์ดีไว้กระจายพันธุ์ไปทั่วภูมิภาค เช่น

  • ปลูกไผ่พันธุ์ดี เป็นอาหาร รายได้เสริม และไม้ใช้สอยประจำครัวเรือน
  • ปลูกไม้เอกมหาชัย สำโรง เป็นพืชพลังงานทดแทน
  • ปลูกกล้วยพันธุ์ดี เพื่อนำไปสู่ความพอเพียง
  • ปลูกต้นกระสัง เพื่อเสียบยอดไม้ตระกูลส้ม
  • ปลูกผักยืนต้นพืชเมือง ผักริมรั้ว
  • ปลูกไม้เศรษฐกิจ ไม้ยูคาลิปตัสเพื่อกลั่นน้ำมัน ปลูกอินทผาลัม
  • ปลูกสมุนไพรต่างๆ ปีนี้มีคนบริจากพันธุ์ขมิ้นขาวหลายร้อยกิโล

ทุกเรื่องของการเรียนรู้ ปิดหน้าสุดท้ายไม่ลง

ต้องขึ้นหน้าสารบัญใหม่ไปเรื่อยๆ

สรุปว่าไม่มีวันจบการศึกษา ปริญญาเรื่องกล้วยจึงยังหาคนมารับไม่ได้


กว่าจะได้เข้าลาน แทบคลานเลยล่ะขอรับ

8 ความคิดเห็น โดย sutthinun เมื่อ 19 กรกฏาคม 2008 เวลา 7:05 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 2137

หนึ่งวันที่ดำเนินไป..

ท่านคงได้อ่านเรื่องราวแล้วว่า ในระยะนี้ 3สาวชาวฮาได้มาทำอะไรกันบ้าง จากบล็อกเจ้าตัวทำการบ้าน ที่ได้ที่เกิดจากความคิดคำนึง เหมือนได้เติมความแก่พรรษาให้ชีวิต ..ถามว่าทุกคนเหนื่อยไหม มาถึงไม่ได้พัก อดหลับอดนอนกับการสอนวิธีเขียนบล็อกสไตล์ใหม่ ที่เปรียบเสมือนเปลี่ยนจากถีบจักรยานมาเป็นขี่มอเตอร์ไซด์ ถึงจะไม่เอวหวานเหมือนการหัดถีบรถครั้งแรก แต่ความเร็วความแรงเครื่องยนต์ก็เป็นเรื่องควรมัดระวังอุบัติเหตุ จะให้ดีและสนุกต้องเรียนตามอัธยาศัย ตามทฤษฎีปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ดู ช่างสร้างบ้านกับเจ้าบ้านควรจะได้เข้ารายการกระบวนการคนค้นคน

หลังจากกินข้าวต้มมื้อเช้าเอาแรงแล้ว ผมชวน3สาวออกตระเวน จุดแรกพาไปไหว้พระพุทธรูปโบราณ หวังว่าจะไปพบประเพณีเข้าพรรษาวัดชนบทห่างไกล แต่แล้วก็ใจฝ่อ เราไม่พบใคร หรืออาจจะเป็นเพราะเราออกไปสาย และพระพุทุธรูปที่ตั้งใจมากราบไหว้ ถูกโบกด้วยปูนแทนสบงจีวร เศร้าจนไม่หยิบกล้องถ่ายรูป

น้าบุญธรรมขับรถผ่านทุ่งมาเขียวขจีไต่ตามชายขอบทุ่งกุลาร้องไห้ มีหลายที่ทำนาแบบบัวแล้งน้ำ ฝนไม่แวะมาปล่อยโปรยละออง ทำให้ต้นข้าวกล้าแห้งเหลือง ชี้ให้ดูว่านี่ไงผลกระทบจากวิกฤติโลกร้อน ชาวนาก็มีทุกข์ร้อนแบบชาวนา ในสภาฯก็ร้อนแรงแบบสภา ถือคัมภีร์คนละฉบับ คนไหนอยู่กรุงเทพได้ขึ้นรถเมล์ฟรีก็ขอแสดงความยินดี พวกรถ2แถวส่งแอ๋วเรียนราม ได้อะไรกับมาตรการ6ห่วง6กระทรวงนี้ก็บอกด้วยจะช่วยเฮ

G666890 

จุดที่2เราไปเที่ยวปราสาทศรีขรภูมิ ในบรรยากาศที่เย็นสบายน่าปูเสื่อนอนใต้ร่มไม้ โบราณสถานเล็กๆแห่งนี้ได้รับการดูแลอย่างดี พระอาจารย์ศรีศักดิ์ วัลลิโภดมเคยเล่าว่ามีประวัติน่าทึ่งมาก หน้าบันแกะลวดลายพระศิวะร่ายรำสวยงาม คณะเราลงไปชมและถ่ายรูปกันตามสมควรแก่เวลา จึงบึ่งไปหาข้าวกินในตัวจังหวัดสุรินทร์ อิ่มอร่อยแล้ว คุณญาติของหนูราณีมารับไปเยี่ยมบ้าน

เราพบความดีงามของคำว่าเครือญาติ ประทับใจกับเวลาแห่งความยินดี ที่ได้เห็นการลำดับญาติด้วยประจุไมตรีเบิกบาน  ความหลังพรั่งพรูจากคุณอาคุณน้าคุณป้าคุณหลาน ขนมตะโก้หวานหอมถูกลำเลียงมาให้ชิม พวกนักชิมก็ยิ้มแก้มปริสิครับ แถมยังได้ห่อเป็นของฝากมาถึงสวนป่าด้วย ความอร่อยพิเศษนี้ทำให้คุณสาวๆจะเอาต้นเตยหอมจากสวนป่าไปปลูก อาจารย์ลินหุ่ยแนะนำให้เด็ดใบมาใส่น้ำร้อนจิบแทนน้ำชา จะได้ประโยชน์แถมยังอร่อยและชุ่มชื่นยิ่งนัก

G99987602 

คุณญาติทราบว่าคุณหลานราณีจะมา ได้จองบ้านพักรับรองที่ห้วยแสนง ซึ่งเป็นสถานีเพราะเลี้ยงปลาประมงน้ำจืดที่สวยงามของอีสาน จุดนี้เป็นคุณค่าทางสังคมที่ชาวเฮฮาศาสตร์ได้รับได้รู้ได้ตระหนักถึงอานุภาพของวัฒนธรรมตะวันออก

กลับมาสวนป่า ทุกคนตรงดิ่งนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ เพื่อเรียนการเขียนบล็อกสไตล์ลานปัญญา ได้เวลาก็ชวนกันกินข้าวเย็น คุณปิ๋วคุณนางแม่ครัวกิตติมศักดิ์เตรียมเมนูไข่ลูกเขย แกงขี้เหล็ก น้ำพริกกะปิ ไว้ให้อย่างอร่อย

ผมชวน3สาว เอาตะกร้ากับไฟฉายไปเก็บไข่ไก่ต๊อกในพุ่มหญ้ารก แปลกมากที่ไก่2แม่มานั่งเบ่งไข่ใกล้กัน เราได้ไข่มาเต็มตะกร้าเล็ก จะแบ่งไปให้คุณหลานที่หาดใหญ่ หนูฟ้าหนูฟางลองเพาะฟักอีกครั้งหนึ่ง บางส่วนจะเอาเข้าเครื่องฟัก และจะแบ่งไปให้ชาวมงคลวิทยาเมืองลำพูนอีกชุดหนึ่ง เป็นรางวัลที่เสนอบทเรียนเรื่องต๊อกน้อยได้เต็มเปี่ยมวิชากรุณาปราณี

 ……………………………………………………………………………..

หมายเหตุ

สืบเนื่องจากเรื่อง :http://gotoknow.org/blog/sutthinun/194447

: ท่านสมาชิกครับ ถ้ามีบริบทหรือกรณีศึกษาเกี่ยวกับการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นลด/แก้ไขข้อขัดแย้ง กรุณาบริจาคผมด้วยนะขอรับ

: ท่านบางทรายกรุณาส่งมาแล้ว และจะทยอยสิ่งมาอีก

: ของท่านอื่นกำลังตั้งตาคอย ว่างเมื่อไหร่กรุณาหยอดประสบการณ์ให้ด้วยนะครับ



Main: 0.047949075698853 sec
Sidebar: 0.090005874633789 sec