จดหมายรักครูสุ

อ่าน: 2240

(คนน่องหวานเป็นที่หมายตาของคมเขี้ยว)

ครูสุที่รัก

ผมไม่มีทางทราบมาก่อนเลย ว่าครูสุเคยได้รับจดหมายรักมาแล้วกี่หมื่นฉบับ เพราะไม่ใช่เรื่องที่สมควรจะไปจู้จี้ถาม แต่มั่นใจว่าถ้าเขียนขึ้นในตอนนี้ จดหมายนี้อาจจะเป็นฉบับล่าสุดก็ได้ อิ อิ.. ช่วงนี้ได้ข่าวครูสุถูกสัตว์อารมณ์หงุดหงิดงับน่อง จากการเขียนเล่าแบบขำขัน ผมอ่านแล้วก็เผลอขำไปด้วย แต่มารู้สึกที่หลังว่า..นี่แหละสไตล์ครูสุเขาละ เจ็บปวดแทบตายก็ยังสื่อให้ดูเป็นเรื่องจิ๊บจ้อย แถมยังบอกอีกว่าหายเมื่อไหร่..จะเอาคืน  ช่างอารมณ์ระรื่นอะไรเช่นนั้น ทราบจากคุณหมอจอมป่วนว่ายกทีมไปเยี่ยมแล้วก็คลายใจ การอนาทรดูแลน่องอย่างนี้ถือว่าวิเศษนัก

ยามปกติก็ใช้สอย ยามน่องห้อยก็ดูแล อ่านต่อ »


เตรียมทำการบ้านสิจ๊ะถึงได้สะได้สวย

อ่าน: 1847

 

(ทำเป็น กินเป็น ก็คิดเป็นเองแหละ)

ฝนตกช่วงบ่าย เปลี่ยนอากาศอบอ้าว ..เย็นชื่นระรื่นระรวยริน บรรยากาศอย่างนี้น่านอนเสียจริง แล้วจะยึกยืออยู่ทำไมละ ว่าแล้วก็เอนนอนบนเก้าอี้ฮ่องเต้ ฟังเสียงฝนเพลิน แป๊บเดียวก็หลับสบายไปนานพอสมควร ตื่นมาแดดออกรำไร ยังไม่ลุกไปล้างหน้า อาจารย์ภูคา ผู้ที่มีกล้วยไม้อยู่ในหัวใจนั้นแหละ ทรมาชวนให้ไปคุยกับนักศึกษามหาวิทยาลัยนเรศวร ในหัวข้อจิตสาธารณะ วันที่ 27 สิงหาคม ผมนะว่างอยู่แล้ว ประกอบกับมีแรงบวกอยากจะไปเจอตาหวาน หนูนีน่า ท่านจอมป่วน และโรตีเจ้าเก่า ผมก็รีบตกลงนะสิครับ อ้อ ใครจะไปด้วยยกมือขึ้น! อิ อิ..

อ่านต่อ »


อิ อิ แอะ แอะศาสตร์

อ่าน: 5414

อาม่าโทรมาถามด้วยความห่วงใย เห็นเงียบไปนึกว่าเสร็จเจ้าไวรัส2009เสียแล้ว..เหนื่อย..แต่หัวใจยังรื่นเริงอยู่นะครับ อิ อิ เมื่อวานนี้ได้รับหนังสือ เรียนนอกฤดู จากลูกชายที่อยู่ชายขอบทุ่งกุลาร้องไห้ ที่มีนามกรว่า แผ่นดิน บิดากุมารจุกที่พี่ป้าน้าอาไล่กอดนั่นแหละ ราคาเล่มละ 125 บาท มีเรื่องราวเกี่ยวกับการจัดค่ายบัณฑิตอาสาพัฒนาชนบทที่ทำร่วมกับมหาชีวาลัยอีสาน พนัส ปรีวาสนา เขียนเองพิมพ์เอง รายได้นำไปสมทบกองกิจกรรมนักศึกษามหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นหนังสือนำร่องให้ท่านที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาเชิงรุกได้ดีมาก เป็นหนึ่งนิยามของการเรียนรู้ีชีวิต และอีกหนึ่งนิยามของหนุ่มสาวชาวมหาลัยสะดืออีสาน หนังสือเขาดีจริง ๆ อ่านแล้วเหมือนได้กินไอติมกลางทะเลทราย ช่วงที่หวาดหวั่นไข้หวัด 2009 นอนอยู่บ้านอ่านหนังสือเรื่อง “เรียนนอกฤดู”สุโขที่สุด อิ อิ..

อ่านต่อ »


สิ่งที่หายไป

อ่าน: 5182

>> ตื่นเช้าเดินไปคุยกับน้าสังข์แม่ครัวหัวป่าส์ประจำสำนัก พบว่ากำลังหุงข้าวด้วยเตาถ่านด้วยหม้ออลูมิเนียมขนาดใหญ่ เพราะต้องเลี้ยงแขกมื้อละ 60 คน เห็นหม้อข้าวเดือดปุด ๆ ไอขึ้นโขมง ทำให้นึกย้อนไปสมัยเด็ก นึกในใจ..เอ๊ะ! ทำไมยุคนี้ไม่เห็นต้องรินน้ำข้าวทิ้ง น้าสังข์อธิบายว่า.. สมัยก่อนเขามีวิธีหุงข้าวแบบใส่น้ำเยอะ ๆ  ไม่กะน้ำให้พอดีรับกับจังหวะข้าวสุก เมื่อใส่น้ำมากจึงต้องรินน้ำข้าวทิ้ง น้ำข้าวที่ทิ้งส่วนใหญ่ก็ทิ้งจริง ๆ ปล่อยให้หมูหมามาเลียตามอัธยาศัย ผมกำพร้านม ดูดหูยายแทนนม ยามเช้าตรู่ยายจะเอาน้ำข้าวใส่เกลือพอปะแล่ม ๆ มาให้ซด แถมด้วยกล้วยและเผือกเผาไข่ไก่หมกขี้เถ้า ไม่มีนมผง ไม่มีอาหารเสริมอะไร ไม่มีขนมไม่มีของเล่นหรอกนะครับ เกิดมาในสภาพเศรษฐกิจพอเพียงขนานแท้

อ่านต่อ »


ขออนุญาตประชุมผ่านลานปัญญา

อ่าน: 3502

เมื่อได้คิด จึงคิดได้

จะขออนุญาตไม่ไปประชุมที่กรุงเทพฯวันพรุ่งนี้

แต่จะขอส่งการบ้านผ่าน E-mail และผ่านลานปัญญาแทน

เมื่อคืนคนหัวโตบอก..จะช่วยสร้างเว็บไซต์มหาชีวาลัยอีสาน

แหมถ้ามีเว็บไซต์ก็เด็ดสะระตี่เลยแหละ

ขอ อิอิ ล่วงหน้า>>

อ่านต่อ »



Main: 0.022027969360352 sec
Sidebar: 0.06784200668335 sec