กว่าจะเป็นโมเดลบุรีรัมย์

อ่าน: 2294

พี่น้องครับ ผมต้องใช้เวลาปั้นดินทรายที่แห้งแล้งให้เป็นป่าผืนเล็กๆขึ้นมา ด้วยการใช้เวลาไปมากกว่าค่อนชีวิต ที่แทบไม่ได้ทำอย่างอื่นอย่างใดกับใครเขาเลย ก้มหน้าก้มตาสะเปะสะปะในพื้นที่ปลูกต้นไม้ ไ ม่ มี อ า ชี พ อื่ น แ ล ะ ก า ร ง า น อื่ น ด้ ว ย น ะ .. ผมเหนียมอายที่จะตอบว่ามีอาชีพอะไร? ครั้นจะตอบว่า..มีอาชีพปลูกสร้างสวนป่า ตามที่ระบุไว้ในโล่รางวัลเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติสาขาปลูกสร้างสวนป่า ที่ได้รับพระราชทานจากพระหัตถ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และรับเหรียญรางวัลของFA0. ก็ยังไม่กล้าที่จะพูดเต็มปากเต็มคำ..เพราะพูดไปก็ยากที่ใครจะทำความเข้าใจได้ แม้แต่สถาบันการเงินก็ยังไม่มีมาตรการเงินกู้เกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรง

ก า ร นำ พ า ค ร อ บ ค รั ว อ อ ก น อ ก ลู่ น อ ก ท า ง ก ร ะ แ ส สั ง ค ม

มั น เ จ็ บ ตั ว จ น ห นั ง กำ พ ร้ า ถ ล อ ก ป อ ก เ ปิ ก อ ย่ า ง นี้ แ ห ล ะ

ทำไงได้..ในเมื่อเรากำหนดเอง ก็ควรรับเละรับทุกอย่างเอง

มาวันนี้..วันที่สรุปบทเรียนฉากใกล้สุดท้าย ซึ่งไม่ง่ายเลยถ้าไม่มีคุณชายและลูกสาวขันอาสา มาระดมพลังทำงานแบบหัวชนฝา ที่มีเรื่องลุ้นระทึกทุกๆ3เวลาก่อนอาหาร เ มื่ อ คื น ค น ทำ ห นั ง สื อ ยั ง อ ด ห ลั บ ขั บ ต า น อ น เ ขี ย น สิ่ ง ที่ เ รี ย ก ว่ า ถ อ ด บ ท เ รี ย น แหม..นึกว่าจะเข็ดหลาบรึอ่อนเพลียจนแผ่สองสลึงหลับนอน ยังมารำพึงรำพันต่อเสียยืดยาว แล้วให้ผมคอมเมนท์ ..เอาละสิ..ค น ที่ จุ ก จิ ก ก ว น ใ จ คุ ณ เ ธ อ ทั้ ง ห ล า ย ใ น เ รื่ อ ง ค อ ม เ ม น ท์ . . คราวนี้ โ ด น ย้ อ น ศ ร ใ ห้ ค อ ม เ ม น ท์ เ สี ย เ อ ง . .

ผมอยากจะบอกว่า ..นี่ไงมหากาพย์แห่งการทำหนังสือ ฉบับที่ได้ประมวลผลคนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่เรียกว่ากองบรรณาธิการ ที่ต้องทำงานแบบสุดลิ่มทิ่มประตู ยอมทุ่มเททุกอย่าง ทุกอย่างที่เหมารวมถึง-กำลังกาย-กำลังใจ-กำลังสติปัญญา มีเท่าไหร่โป๊ะลงหมดหน้าตัก..ท่ามกลางความบีบคั้นที่มาจากรอบทิศทาง

คณะทำงานโดนบีบ บีบ ๆๆ จนเหลือแต่หัวกะทิ ..

ผมอยากให้ท่านผู้อ่านหนังสือเล่มนี้ ได้รับทราบอะไรที่อยู่เบื้องหลังบ้าง เพื่อจะได้สัมผัสวิถีความดีของคนดีที่เรารู้จัก ว่าที่เขาทำอย่างนี้ได้เพื่ออะไรเพราะอะไร ..กว่าจะจับตัวอักษรออมาจากป่ามาร้อยเรียงได้นั้น ต้องชำระคราบไคลไปกี่ครั้ง แม้แต่ตอนท้ายๆที่จับอาบน้ำทาแป้งก่อนจะส่งขึ้นแท่นพิมพ์ ก็ยังดึงมาส่องกระจกจนเวียนหัว..

ผมอยากให้ “แม่หยิบ” และท่านที่อุปการคุณหนังสือเล่มนี้ได้รับรู้เรื่องหลังโรง ว่าที่ท่านช่วยกันอ่านสะดวกสบายนั้น คนที่ทำถูกกดดันจนอ้วกแตก! แต่เขาหายเหนื่อยจนปลิดทิ้งถ้าเห็นหนังสือโมเดลบุรีรัมย์ไปอยู่ในมือของท่าน ..เมื่อทุกอย่างเดินหน้าได้ทันครรลองของลิขิตฟ้า.. สามารถนำเสนอในงานที่โผล่ขึ้นมาแบบฟ้าผ่า!

เราจะไปเปิดตัวหนังสือเล่มนี้ที่ตึกสันติไมตรีครับผม..

และที่สำคัญโดยบังเอิญหรืออย่างไรก็สุดอธิบายได้

การประชุม r2r ครั้งที่ 5 “วิถี R2R: เรียบง่าย คุณภาพ ครบวงจร

การประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากงานประจำสู่งานวิจัย(R2R)ครั้งที่5
วิถีR2R:เรียบง่าย..คุณภาพ..ครบวงจร
10-12กรกฎาคม2555
ศูนย์การประชุมอิมแพ็คฟอรั่มเมืองทองธานี
จัดโดยสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขและภาคีเครือข่าย R2R

คือ…การร่วมวงสุนทรียสนทนากับปราชญ์แห่งชีวิตสองท่านคือ…

วันพุธที่ 11 กค. 2555 เวลา 10.30 - 12.00 น.

ห้องGrandDiamondBallroom:
ใครๆ ก็ทำ R2R กัน”

วิทยากร: ปราชญ์พ่อสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ อำเภอสตึก จ.บุรีรัมย์ (Sutthinun Pratchayapruet )
อาจารย์วิเชียร ไชยบัง ผู้อำนวยการโรงเรยนลำปลายมาศพัฒนา จ.บุรีรัมย์ (
โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา)

ซึ่ง..ประเด็นแห่งสุนทรียสนทนานี้…นำไปสู่การเรียนรู้ในประเด็นที่ว่า…

1.อยากให้เล่าบริบทในงานของตัวเองก่อนว่าทำงานด้านไหน เมื่อเกิดปัญหาแล้วแก้ยังไง โดยใช้แนวคิดเชิงวิจัย (R2R) อย่างไร เช่น วิธีตั้งคำถาม การเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล

2.จากการทำงานนี้ เกิดการเรียนรู้ในชุมชน/องค์กรอย่างไร มีการนำความรู้นี้ไปใช้ในทางปฏิบัติอย่างไร มีการกระจายไปภาคอื่นๆ หรือไม่อย่างไร

**อยากให้เน้นที่กระบวนการเรียนรู้ของบุคลากร/องค์กร และการสนับสนุนที่ให้นี้ ทำอย่างไรในเชิงโครงสร้าง จึงเกิดขึ้นมาได้

และสิ่งที่ข้าพเจ้าคาดหวังก็คือว่า…อยากให้ผู้เข้าร่วมฟังได้เกิดการเรียนรู้ในวิธีคิด และการเรียนรู้จากวิทยากรทั้งสองท่านค่ะว่า ตลอดชีวิตแห่งการงานนั้น มีสิ่งใดบ้างที่เกิดเป็นประเด็นแห่งการเรียนรู้เกิดขึ้น …

ใน เวทีนี้ … คิดว่านี่เป็นโอกาสอันดีที่หลายๆ ท่านจะได้รับโอกาสที่ดีที่ร่วมฟัง เรื่องราว เรื่องเล่า…ผ่องถ่ายจากประสบการณ์ถือเป็นความงดงามแห่งชีวิตการงาน

ท่านคงเห็นโจทย์บนเวทีวันที่ 11 .. แล้วใช่ไหมครับ ผมไม่ทราบว่าประเด็นหลักๆมันมาจ๊ะกันได้ยังไง ถึงตอนผมโม้..ผมก็จะบอกว่าเรื่องมันยาว..ฟังที่เล่าบนเวทีมันเป็นแค่น้ำจิ้ม..ถ้าอยากได้มหานทีคุณพี่ต้องอ่าน ..”โมเดลบุรีรัมย์” จึงจะได้คำตอบครบถ้วนตามที่ผู้ดำเนินการสนทนาจุดประเด็น อนึ่งผมทราบว่าเครือญาติคนสวยชาวFB.หลายท่านจะไปพบปะกัน ขอลายเซ็นคุณชายและคณะบรรณาธิการ นับเป็นมหาโอกาสดีเหลือเกิน ที่เราจะได้ให้กำลังใจ

ค น ที่ เ สี ย ส ล ะ สุ ข ส่ ว น ตั ว มา เ พิ่ ม ค ว า ม สุ ข ใ ห้ ส่ ว น ร ว ม ..

ความเหนื่อยยากเดินทางมาถึงป้ายจอด เราสามารถเก็บความรู้สึกที่เรี่ยราดตามรายทางระหว่างทำงานให้ทันเวลา เพื่อจะมาบอกเล่าหมายเหตุแห่งชีวิตต่อหน้าผู้คนที่ลงทะเบียน 2,000 คน เรื่องนี้มันไม่ง่ายเลยแม้แต่จุดเดียว การสรุปบทชีวิตของชาวป่าที่ผ่านมา30ปี ทีมีแต่น้ำลายกับกำปั้นเป็นปัจจัย ดิ้นรนทำงานบนฐานความไม่พร้อม พอถึงตอนถอดบทเรียน บ ท ที่ ว่ า นี้ มั น ติ ด เ ชื้ อ ค ว า ม ย า ก ลำ บ า ก ป ะ ป น ม า กั บ จ น ถึ ง อั ก ษ ร ตั ว สุ ด ท้ า ย

จ ง ภู มิ ใ จ เ ถ อ ะ คุ ณ ช า ย

ถอนลมหายใจ ร ะ บ า ย ค ว า ม ห นั ก ใ จ อ อ ก ไ ป ใ ห้ ห ม ด

เ ปิ ด รั บ ค ว า ม ห นั ก แ น่ น ใ ห้ ก ลั บ ม า อ ยู่ ใ น ตำ แ ห น่ ง เ ดิ ม

ค ว ร ห ลั บ พั ก ย า ว ๆ อ ย่ า ง อิ่ ม สุ ข

ขอบคุณมากมาย..จ น ไ ม่ รู้ จ ะ เ ขี ย น ว่ า ยั ง ไ ง

รวบรวมแรงไว้ไปเซ็นชื่อให้คนที่รักหนังสือเล่มนี้ก็แล้วกัน

อิ อิ ..


งกไปก็เท่านั้น

อ่าน: 3122

ไม่มีมนุษย์ตนใด สามารถเอาทรัพย์สมบัติของโลกนี้ไปได้แม้แต่เท่าเม็ดทราย เรื่องนี้ผ่านการพิสูจน์มาหลายยุคสมัยและหลายอารยะธรรม มนุษย์พยายามสร้างสิ่งที่คิดว่ามั่นคงถาวรเท่าที่จะคิดทำได้ ดูง่ายๆจากปิรามิดฝังพระศพของกษัตริย์อียิป หรือสุสานหลวงในประเทศจีน อุตส่าห์ปั้นหุ่นสรรพกำลังทั้งกองทัพลงไปด้วย สร้างกำแพงเมืองจีนยาวหลายแสนลี้ ล้วนแล้วแต่พยายามยุ่งกับทรัพย์ยุ่งกับกิเลศ แต่สุดท้ายมันก็ไอ้แค่นั้นแหละต๋อย เสียดายเวลาเสียดายแรงความคิดที่ทุ่มทำเรื่องโง่ๆ ถ้าเอาพลังเหล่านั้นพลิกกลับมาสร้างโลกให้น่าอยู่ มีความคิดที่จะให้ที่จะตอบแทนที่จะสำนึกบุญคุณ เธอคิดดูเถิดโลกนี้จะเป็นสวรรค์บนดินสักเพียงไหน เท่าที่ย้อนหลังไปดูตั้งแต่เกิดมีมนุษย์ขึ้นมา พวกกะโหลกหนาเหล่านี้มีแต่พากันเปลี่ยนแปลงโลกทำลายโลก แล้วเรียกสิ่งนั้นว่าพัฒนาและเจริญ บ า ง ก ลุ่ ม ยั ง ท ะ ลึ่ ง ใ ช้ คำ ว่ า โ ช ติ ช่ ว ง ชั ช ว า ล ด้ ว ย น ะ

ขณะนี้โลกกำลังเน่าเหม็นบูดมากขึ้น เธอก็รู้สึกได้นี่

ทุกคนต่างก็มีประเทศ มีญาติ มีลูกหลาน

แ ต่ ไ ม่ มี ใ ค ร เ ล ย ที่ จ ะ นั บ ญ า ติ กั บ โ ล ก ใ บ นี้

พวกลูกอีช่างโกย ก อ บ โ ก ย เ อ า ท รั พ ย์ ข อ ง โ ล ก ม า ไ ว้ กั บ ตั ว

เพื่อเป็นเหยื่อให้คนอยู่ข้างหลังสืบสันดานโกยต่อไป

ผมไม่เข้าใจว่าพวกนี้ ไ ป เ รี ย น วิ ช า ม อ ม เ ม า วิ ธี คิ ด จ า ก สำ นั ก ไ ห น

บางคนเข้าวัดเข้าวาท่องปาฎิโมกข์ได้คล่องปรือ

แต่ มันก็แค่นั้นแหละต๋อย

มีตำรับตำรา ครูบาอาจารย์ พระสงฆ์องค์เจ้า และผู้รู้อยู่ไม่น้อย ที่พยายามฉุดรั้งเรื่องของกูตัวกู พวกขี้โกงนี่ก็เข้าวัดนะ ก็ไปนั่งทำหน้าซื่อตาใสยังงั้นแหละ เผลอเมื่อไหร่ก็คืนร่างเป็นลูกอีช่างโกยเหมือนเดิม แล้วโลกในอนาคตมันจะเป็นยังไงละครับ ในเมื่อคนทำลายมันตายจากไปโดยไม่รับผิดชอบอะไรเลย แถมลูกหลานหว่านเครือก็ไม่รู้ร้อนรู้หนาว เกรงไอ้ขี้โลภจะน้อยใจ ยั ง ทำ พิ ธี ก ง เ ต๊ ก ส่ ง ไ ป ใ ห้ อี ก แ น๊ ะ เอาเข้าไปทั้งที่ยังมีชีวิตและไร้วิญญาณ อีตอนลงไปขุมนรก ก็ไม่รู้ว่าจะกอบโกยอะไรที่นั่นอีกหรือเปล่า

ทั้งหมดนี้ทำเพื่อสืบสันดานตามความเชื่อของชนเผ่าต่างๆ ซึ่งนับว่าแปลกแตกต่างกว่าสัตว์อื่นทั่วไป ถ้าสัตว์พูดได้มันคงหัวเราะจนเยี่ยวเล็ด นี่หรือสัตว์ประเสริฐ คิดได้เท่านี้สติปัญญามีแค่นี้รึ ผมไม่เคยเห็นสัตว์กลุ่มไหนสะสมทรัพย์สมบัติไว้อย่างเอาเป็นเอาตายเหมือนมนุษย์ ดูๆไปแล้วในก้อนกะโหลกบรรจุด้วยความคิดที่เป็นพิษไม่น้อย บางคนใช้เวลาทั้งชีวิตกอบโกยวัตถุจนไม่เป็นอันทำอะไร วันๆคิดแต่จะแสวงหาทรัพย์จนหน้ามืด ไม่ได้ทางตรงก็ทางอ้อม เกิดมาเพื่อจะกอบและโกย ท่านมหาตะมะคานธี บอกว่า ทรัพย์สินในโลกนี้มีให้มนุษย์ใช้อย่างสุขสบายถ้าแบ่งปันกัน แต่ถ้าคิดกอบโกยเมื่อไหร่มันไม่พอแม้แต่จะให้ไอ้ขี้โลภคนเดียว ผู้นำทุกศาสนาต่างเห็นหายนะของกิเลศ ได้พยายามออกข้อบัญญัติกำกับและควบคุมกิเลศ ไม่ทราบว่าถูกหรือผิดนะครับ ผมรู้สึกว่ามันหนักข้อขึ้นทุกที ใครมีทรัพย์มากจะได้การยอมรับจากวงการมนุษย์ด้วยกัน ถ้าร่ำรวยจากความสามารถก็ดีหรอก แต่ส่วนใหญ่ทำมาหาได้จากกลโกง สังคมยอมรับได้ โกงเข้าไว้โกงสำเร็จ ถือว่าเป็นฮีโร่

ไม่รู้มีกี่ร้อยประเทศนะครับ ที่ผู้นำมันขี้โกง มีประธานาธิบดีนายกรัฐมนตรีตกเป็นข่าวทุกปี เข้าซังเตก็เยอะ ไอ้ผมก็ใช้ภาษาไม่สลวย คำว่าโกงฟังดูไม่ระรื่นหู เดี๋ยวนี้เขาใช้คำว่า “คอรัปชั่น” พวกผู้นำโกงได้มากเพราะมีอำนาจ สามารถเบี่ยงเบนวิธีอุบอิบให้ดูเนียน ผู้นำบางคนใจร้อนถึงกับหาทางเปลี่ยนกฎหมาย เปลี่ยนกติกาก็มี เมื่อประชากรในประเทศไหนเห็นผู้นำโกงเก่งโกงได้สำเร็จ พลเมืองในประเทศนั้นๆก็โกงตามสิครับ โ ก ง ทั้ ง แ ผ่ น ดิ น สร้างระบบใต้โต๊ะบนโต๊ะตบตาตอแหลจนเป็นเรื่องปกติ บางคนมันโกงแม้กระทั้งของพี่น้องด้วยกันเอง คงไม่ต้องยกตัวอย่างกระมัง อยู่ใกล้ๆตัวเรานี่แหละ 

ถ้า วั ฒ ธ ร ร ม ขี้ เ กี ย จ  เอ๊ย ขี้โกงแพร่ระบาดไปเรื่อยๆ

เธอคิดดูสิว่าแผ่นดินนั้นจะเป็นอย่างไร

ขยับอะไรนิดหน่อยต้องจ่ายภาษีเถื่อน

ถ้าเธอเป็นพลเมืองของประเทศนั้นๆจะมีความสุขไหมละ

เธอเชื่อหรือว่าการใช้วิธีโกงจะเป็นการสร้างชาติให้เจริญรุ่งเรืองได้

ยกตัวอย่างมาให้ดูสักประเทศหน่อยเถอะ

ถ้ า สั ง ค ม ม นุ ษ ย์ ส ร้ า ง ก ร ะ แ ส ต ร ง กั น อ ย่ า ง นี้

ค ว า ม ส ง บ สุ ข จ ะ ไ ป ห า ไ ด้ ที่ ไ ห น

สุดท้ายต่างก็ใส่หน้ากากหากัน ทำอะไรเชิงพิธีการให้ดูดี เคลือบมลพิษไว้ให้มิดชิด หลังจากนั้นก็ปร๋อแสดงละคร เล่นบทโจรใส่เสื้อนอก เรียนวิชาหลอกกันมาเป็นชั้นๆ พอกกิเลศเข้าไปทุกวัน อยู่กันอย่างถูลู่ถูกัง อมทุกข์อมโศกกันไปตามยะถากรรม ไม่รู้ว่ามีเวลาฉุกคิด มีเวลาอยู่กับตัวเองบ้างหรือเปล่า เคยถามตัวบ้างไหม ว่าเกิดมาทำซากอะไร? ผมละชอบใจคำนี้นัก ที่พระอาจารย์ไร้กรอบชูประเด็นไว้ในหนังสือ “เจ้าเป็นไผ” ถ้ายังไม่เคยอ่าน ก็รีบๆอ่านเสียก่อนที่วาสนาจะชำรุดไปกว่านี้

คนที่โกงคนอื่นได้เพราะไม่มีความละอาย หน้าหนาหลายชั้นนัก หัวจิตหัวใจเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ได้ คงไม่เคยคิดถึงคำตอบสุดท้ายเลยสิท่า ที่หน้าด้านหน้าทนคดโกงได้มานั้นจะเอาไปไว้ที่ไหน เอาไปทำอะไร เอาไปให้ใคร มรดกบาปจะเป็นมรดกดีไปได้อย่างไร ไม่มีสารวิเศษชนิดไหนฟอกบาปได้หรอกนะเธอ

เรื่องเงินๆทองๆเป็นของบาดใจ

มี เ งิ น เ ข า นั บ ว่ า น้ อ ง   มี ท อ ง เ ข า นั บ ว่ า พี่

ถ้า มี ทั้ ง เ งิ น ทั้ ง ท อ ง เ ข า นั บ เ ป็ น คุ ณ พี่  อิ อิ

แต่บางทีทองก็ไม่ไม่ค่าเท่ากับผัวฉัน เ อ า อ ะ ไ ร ม า แ ล ก ก็ ไ ม่ ย อ ม  โช๊ดโช้

พักนี้เรามักจะไม่ได้ยินคำว่าอดออม ประหยัด

คำขวัญที่บอกว่า “มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท” หายไปไหนก็ไม่รู้

ยุคสมัยนี้เขาพลิกแพลงง่ายๆ แปลงหนี้ เป็น เครดิต

ฟังดูดีกว่ากันเยอะเลย

ผมละสงสารพวกตั้งกองทุนตัวจริงเหลือเกิน เช่นกองทุนที่คลองเปรี๊ยะ กองทุนวันละบาท ที่เขาเข้าใจเรื่องพวกนี้อย่างถึงแก่น กองทุนชุมชน กองทุนครัวเรือน เขาหมายถึงการระดมทุนในหมู่กันเอง ไม่ได้เที่ยวไปร้องแรกแหกกระเชอขอมาจากใคร แต่ก็นั่นแหละเธอ สมัยห่วยแตกอะไรๆก็พลิกผันได้ มีคนเอาเรื่องนี้ไปพลิกโผเป็น “กองทุนหมู่บ้าน” ซึ่งหมายถึงการเอาทุนไปแจกทุกครัวเรือน เกิดเป็นกองทุนแตกลูกหลานออกไปจนนับไม่ถ้วน ซึ่งกรณีนี้น่าจะตั้งชื่อใหม่ว่า “กองทุนเคาะกะลา” การที่มาตั้งชื่อซ้ำซ้อนกับของชาวบ้านคิด แล้วทำตรงกันข้าม สิ่งที่จอมยุทธทางภาคใต้ ครูชุบ ยอดแก้ว ที่เคารพรักของผม ทำถูกทำดีมาแล้ว แต่เมื่อมาเจอกองทุนเถื่อนอย่างนี้เข้า ครูชุบจะเดินหน้ายังไงต่อละ ใ น เ มื่ อ มี ทุ น ใ ห้ เ ป ล่ า ๆ บ้ า ๆ บ อ ๆ ม า ยั ด เ ยี ย ด ใ ห้ ส ม า ชิ ก ทั่ ว ป ร ะ เ ท ศ จะห้ามไม่ให้ชาวบ้านเอา เด๊๋ยวก็เป็นหมาหางด้วนได้ง่ายๆ

หลังจากทำเละเทะมาได้พักหนึ่ง ก็ทำท่าจะเปลี่ยนเป็นเงินให้เปล่า

ออกระเบียบชดเชยเงินพวกนี้แทนชาวบ้าน ทำให้เป็นหนี้ศูนย์

ไอ้เรื่องอย่างนี้ ทำ ไ ม ช ะ ล อ ห ลั ง ย า ว จ ะ ไ ม่ ช อ บ ล ะ ค รั บ

เป่าปากหวิีดว๊ายกระตู้วู๊กันครึกครื้น

โดยหารู้ไม่ว่าในที่สุดแล้ว กองทุนหมู่บ้าน ก็คือ กองทุกข์หมู่บ้าน นั้นเอง

ก า ร ดึ ง  จ มู ก ค น จ น นั้ น ส นุ ก เ ข า ล ะ

ยังจะมี ก อ ง ทุ น อ ก อี แ ป้ น แ ต ก อะไรจะตามมาอีกก็ไม่รู้

นี่ก็เพิ่งแจกเงินสัมนาคุณที่มาตายในสนามม๊อบไปรายละ ๖-๗ ล้าน

ผมไม่ได้มองเหมือนคนอื่นนะ ผ ม ว่ า มั น จ่ า ย น้ อ ย ไ ป

น่าจะแจกศพละ ๕,๐๐๐ ล้าน

ในโลกนี้ไม่มีคนจนคนรวยหรอกนะเธอ จ ะ ตี ร า ค า ชี วิ ต ข อ ง เ ธ อ กี่ บ า ท ให้สักพันล้านแล้วขอให้ตัดคอมาขาย เธอจะยอมไหมละ ราคาของชีวิตประเมินไม่ได้หรอก เอาทรัพย์ทั้งโลกมาแลกเธอก็ไม่ยอม แล้วเธอจะเป็นคนจนได้อย่างไร

· คนที่มีประเทศเป็นของตนเอง

· คนที่มีศาสนาเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ

· คนที่มีพระมหากษัตริย์ให้เคารพเทิดทูน

· จ ะ เ รี ย ก ว่ า ค น จ น ไ ด้ อ ย่ า ง ไ ร ?

เมื่อเธอไม่ได้เป็นคนจน เธอก็เป็นมหาเศรษฐีนะสิ ท่านมหาเศรษฐีครับ อานุภาพในตัวตนของท่านนั้นไม่ธรรมดาหรอกนะครับ ปลดสัมภาระรุงรังออกเสียบ้าง แล้วลงมือลงแรงสร้างโลกใบนี้ให้น่าอยู่ดีไหมครับ อย่างน้อยท่านก็จะได้ภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่พลเมืองดีของโลก อย่าห่วงไอ้พวกเวรตะไลขี้โกงเหล่านั้นเลย กรรมใดใครก่อคนนั้นก็ต้องได้รับอยู่แล้ว ก่อนตื่นนอนพรุ่งนี้เช้า ถามตัวเองสักหน่อยว่า ท่านจะทำความดีคืนให้แก่โลกอย่างไรได้บ้าง การคิดบวกคิดดีนั้นมีกุศลติดปลายนวมแน่นอน มันรู้สึกดีตั้งแต่ได้คิด เมื่อคิดได้ก็ยิ่งภูมิใจกับตัวเอง และเมื่อเอาความคิดนั้นมาปฏิบัติ ก็จะเกิดผลดีต่อตนเองและต่อโลก ใครก็ไม่ทราบพูดว่า “คิดให้ไกล ไปให้ถึง” แสดงว่า ท่านมีกัลยาณมิตรร่วมเดินทางแน่นอน ถ้าท่านทุ่มเทใจทำสิ่งที่ดีด้วยพละกำลังของท่านเอง ถ้าท่านเป็นคนจริง คิดจริงทำจริงจะเกิดความกล้า จะไม่สงสัย จะไม่เสียเวลาอยู่กับคำว่า “ใช่” หรือ “ไม่ใช่”

ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น

เธอเคยคิดรักจริงหวังแต่งบ้างไหม

ลองมาแต่งงานกับโลกใบนี้ชีวีเธอสุดแสนจะวิไล

อิ อิ


เล่นสงกรานต์กับนางเมฆขลา

อ่าน: 1871

ทั้งๆที่ไม่ออกจากเคหาไปเล่นสงกรานต์ที่ไหน
นอนเฝ้ากระต๊อบน้อยกลอยใจอยู่โด่เด่

อาบน้ำทาแป้งอ่านหนังสือ
แต่งกลอน นอนกลางวัน
อยู่เหมือนมาปิกนิคทุกวัน..
ไม่สะดวกสบายจนเว่อร์
แต่ได้รสชาติของชีวิต

รึ อาจจะเป็นเพราะติดเชื้อลูกชาวไร่ชาวนาก็ได้
เห็นธรรมชาติแล้วจะชอบๆๆ..นอนสัมผัส ไม่ได้คิดเรื่องยากลำบากอะไร
หุงข้าวหม้อเล็กๆ ต้มบ้างผัดบ้างตำน้ำพริกบ้าง แค่นี้ก็อร่อยจนไม่รู้จะยังไงแล้ว
การได้อยู่ง่ายๆกับธรรมชาตินี่แหละ ..ของขวัญที่เรามอบให้ตัวเอง

• อยากจะชมเดือน..แสงเดือนก็มาเยือนส่องหล้า
• อยากจะแก้ผ้-..ฝนก็ตกลงมาให้อาบ
• อยากจะอาบแดด..พระอาทิตย์ก็โผล่มาโลมไล้
• อยากจะกินผักผลไม้..ก็เดินไปเด็ดฉับๆ..
• อยากจะไปไหน..ก็ไม่เปลืองน้ำมัน ไม่ต้องติดไปแดง
• อยากจะนั่งจะนอนจะเดินเหิร ..ก็สะดวกสบายไม่วุ่นวายเหมือนข้างนอก

ชักสงสัยว่า..ทำไมคนเราถึงชอบกระเสือกกระสนก็ไม่รู้นะ
แทนที่จะปลูกคะน้า พริก มะเขือ กินเอง
เปล่า! วิ่งโร่เข้าบางกอกไปทำงานง๊อกๆ..เพื่อหาเงินมาซื้อมะเขือฉีดยาฆ่าแมลงกิน
ท่าจะบ้า..ไหมเล่า..

บ่ายแก่ๆมีลูกหลานชาวบ้านเอามะพร้าวอ่อน/ดอกไม้/มาขอพร ก็คุยกันตามประสาคนอยู่ในพื้นถิ่นเดียวกัน ถามไถ่เรื่องทำมาหากิน ปัญหาทั่วไป จุใจก็หน้าแฉล้มกลับไป..กำลังจะตัดสินใจไปรดน้ำผักดีหรือไม่ดี ถ้าขี้เกียจก็ชะลอได้อีกหนึ่งวัน เพราะพื้นดินยังพอชุ่มชื้น ถ้าโชคดีมีฝนมาก็ต่ออายุความชุ่มฉ่ำไปได้อีกหลายวัน
ผมสังเกตเห็นว่าปีนี้ฤดูฝนขยับมาเร็วขึ้น เดือนมีนาเมษาพระพิรุณก็มาเยือนหลายครา บางหมู่บ้านก็เจอลมหอบหลังคาไปไว้กลางกอไผ่ เมื่อคืนจังหวัดตราดลมกวาดสวนยางพาราไปหลายขนัด อายุใกล้จะได้กรีดยางแล้ว
อาชีพเกษตรกรรมมันก็มีความเสี่ยงยังงี้แหละพี่น้อง
ไม่มั่นคงเหมือนอาชีพปั้นน้ำเป็นตัวอย่างท่านผู้ทรงเกียรติหร๊อกนะ

ระหว่างยี่ยักยี่หย่อนจะเอายังไงดี ก็นึกขึ้นได้ว่าอาหารมื้อเย็นยังไม่ได้วางแผน แต่เล็งไว้แล้วว่ามะเขือยาวออกลูกหนักจนต้นโงนเงน ทำท่าจะแก่มากเกินที่จะเก็บเมล็ดพันธุ์ ใบโหระพาก็กำลังงาม อย่ากระนั้นเลย..ผัดมะเขือยาวใส่ไข่ เจี๊ยะกับซุปผักสดดีกว่า..อร่อยหรือไม่อร่อยก็ไม่รู้จะบอกใคร เพราะโฉมยงเขาก็ขี้เกียจเดินมากินข้าวที่กระต๊อบด้วย เขาไม่ได้รังเกียจรังงอนอะไรหร๊อก เป็นแต่บางวันเขาก็ไม่กินข้าวมื้อเย็น ลมพัดลมเพเอาแน่เอานอนไม่ได้

ใครหิวก็เชิญแสดงฝีมือโชว์เสน่ห์ปลายจวักตามอัธยาศัย
นึกขึ้นได้ว่าเจ้าแห้วก็ชอบผัดมะเขือยาว
กะว่าจะถ่ายรูปไปอวดให้ชักดิ้นชักงอสักหน่อย

เพียงแค่คิดเสียงฟ้าก็ร้องครืนๆ ลมพัดอู้ๆ มองดูยอดไม้..พัดแรงเอาการเหมือนกัน ต้นกล้วยจะหักพับอีกกี่ต้นก็ไม่รู้ หลังจากลมผ่านไป..ฝนก็ตกมาสิครับ ตกหนักมากประมาณครึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นก็ตกยิมๆให้ยายฉิมไปเก็บเห็ด แต่ก็ไม่แน่นะ คืนนี้อาจจะเทลงมาอีกกะทอกก็ได้ อากาศเย็นฉ่ำ กะว่าบันทึกนี้แล้วจะไปอาบน้ำฝน

 

เทวดามาชวนเล่นสงกรานต์แล้วนี่ คราวนี้คงนุ่งผ้าขาวม้าทะมัดทะแมง เพราะจะไล่ปล้ำนางเมฆขลา แข่งกับรามสูรย์ที่โกรธเกรี้ยวขว้างขวานอยู่ครืนๆ ดูท่าคืนนี้จะเล่นเกมส์ยาวเสียแล้ว เมฆหนายังลอยต่ำ ลมก็สงบนิ่งเสียด้วย
ไม่ต้องไปเที่ยวรดน้ำ-ถนนข้าวสาร-ข้าวเหนียว-ข้าวปุ้นที่ไหนหร๊อก

เล่นสงกรานต์ถนนข้าวนอกนาที่นี่แหละ ..แฉะทั้งกายและใจ !


ขอจีบได้ไหม ไม่เปลืองใจหรอก

อ่าน: 2253

ถ้าเราใคร่ครวญดูสังคมไทยในขณะนี้ จะเห็นรูปรอยของการแบ่งแยกแบ่งพรรคแบ่งพวกชัดเจนมากขึ้น ใครจะไปสังกัดหมู่ไหนขึ้นอยู่กับความชอบ-ความคิด-ความต้องการแห่งตน ส่วนเหตุผลนั้นมีร้อยแปดพันประการที่จะยกมาแจกแจง ดูๆไปแล้วเหมือนคนไทยแห้งแล้งน้ำใจต่อกันเหลือเกิน หลังจากนั้นก็ระดมพลระดมพลังกัน คนที่คิดเห็นใกล้เคียงกัน ก็มักจะเกิดความฮึกเหิมกระเหี้ยนกระหือที่จะเรื้อโครงสร้างสังคมบ้านเมือง โดยอ้างว่าจะช่วยนำไปสู่ความเจริญแบบก้าวกระโดด

เรื่องของคนหมู่มากไม่ได้ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ
เพราะเรื่องหัวจิตหัวใจคนนั้นยากนักที่จะหลอมรวมไปในทิศเดียวกัน
ถ้าทำด้วยความไม่บริสุทธิ์ใจด้วยแล้วอ๊อฟเตอร์ช๊อกก็จะตามเป็นละลอก
เราจึงเห็นบ้านเมืองเดือดปุดๆในแต่ละเดือน

ในเมื่อแต่ละกลุ่มไม่มีหางเสือสติกำกับ..จะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น

ถ้าเอ็กซเรย์เข้าไปดูชัดๆ จะเห็นกลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการของค่ายหนึ่งค่ายใด ไม่ต้องการที่จะเป็นเบ้เป็นพรรคเป็นพวกกับใคร ยังมีจุดยืนที่มั่นคงเป็นของตนเอง เชื่อใจตัวเอง มากกว่าจะหลงตามคำโอ้โลมชวนเชื่อของนักก่อการกลุ่มต่างๆ ผมไม่ทราบว่าท่านใดบ้างที่ยืนอยู่จุดนี้ จึงเป็นที่มาของการขอจีบในครั้งนี้ไงละจ๊ะ..

ผมไม่ได้ชักชวนมาตั้งกลุ่มตั้งแก็งค์อะไรหรอก
แต่อยากจะขอชวนให้มาสร้างสัมพันภาพกันอย่างญาติ
ตามที่วัฒนธรรมของสยามเมืองยิ้มแต่เก่าก่อน
ยึดโยงกันแบบร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน
มีความรู้ความรักก็มาแชร์กัน
ปรึกษาหารือกันได้ทุกเรื่องโดยไม่มีผลประโยชน์ใดๆ
มีผลตอบแทนเป็นเพียงดอกเบี้ยของความรักที่แบ่งปันให้เพื่อนร่วมโลก

ปีนี้สวนป่ากำลังเดินหน้าเรื่องสร้างหมู่บ้านโลก
หมู่บ้านโลกก็คือเจตจำนงตั้งแต่แรกเริ่มของมหาชีวาลัยอีสาน
ที่มีคำอธิบายว่า..คือยาข้มหม้อใหญ่ ที่ปรุงแต่งขึ้นมาเพื่อรักษาไข้ใจของคนอีสาน
ยาขมหม้อใหญ่ก็คือชุดความรู้และกระบวนการเรียนรู้
ที่จะแสวงหาแนวทางการดำรงวิถีชีวิตให้อยู่รอดอยู่ดีกินอิ่มนอนอุ่น
พัฒนาพื้นที่ให้ศักยภาพของธรรมชาติกลับมาทรงพลัง

เพื่ออธิบายให้คนภายนอกเห็นว่า..
ถ้าไม่จับประเด็นตรงที่การเสริมสร้างสภาพแวดล้อมฯให้กลับคืนมา
ภาคการเกษตรก็จะแถกไถไปสู่ความแร้นแค้นด้วยหนี้สินที่พอกพูน
ทำแทบตาย กลับไม่ได้อะไร แถมยังทำลายต้นทุนธรรมชาติจนเหลือแต่ซาก
ประเทศเรานั้นเป็นสวรรค์ชั้นเยี่ยมของโลก
ไม่อย่างนั้นเราจะได้ชื่อว่าแผ่นดินทอง แหล่งผลิตอาหาร และครัวโลกรึ
ที่ได้รับการขนานนามสวยหรูดังกล่าวนี้
ถ้าต้องแลกมาด้วยต้นทุนธรรมชาติจนวิบัติมันก็ยากที่จะรับได้

เราจะทำยังไงกันดีละ
ผมคิดว่าคนที่คิดดีคิดทำเพื่อบ้านเมืองมากมาย
ถ้าจะเพิ่มเสริมหนุนอีกหนึ่งกลุ่มก็น่าจะบรรเจิด
ทำใจ ทำบ้าน ทำการงาน ให้เขียวระบัด
ลงขันความรู้อยู่กับความจริงไม่ทอดทิ้งสังคม

ตกลงจะยอมให้จีบไหมนี่
ถ้าคนดีเห็นด้วยเอามือลง..
จะจีบจริงๆนะ ..

ตั้งใจจริงจีบจริงนะแก้มขาว
ไม่ได้เขียนเพลงยาวมาล่อเล่น
อยากจะชวนแก้มใสใจเย็นๆ
มาช่วยเป็นสะพานให้ได้ไหมเธอ

รู้จักใครมีไมตรีที่ซี๊แหง๋
ส่งตาแลยิ้มหวานหว่านเสนอ
หลักการที่ชวนคนดีมาเจอะเจอ
ดีกว่าเพ้อกว่าพร่ำอยู่เดียวดาย

มาลงขันความคิดติดเทอร์โบ
มาร่วมโชว์แอนด์แชร์กันง่ายๆ
มาร่วมเรียนร่วมรู้แบบสู้ตาย
มาผ่องถ่ายชีวีวิถีไทย

เดี๋ยวนี้เลิกตีกลองประชุมแล้ว
ผู้ใหญ่ลีกินแห้วหมดสมัย
การสื่อสารผ่านเร็วด้วยWIFI
ส่งสิ่งใดทันใจเสมอเลย

นอนในมุ้งก็ใช่จะยุ่งยาก
ไม่ลำบากอยู่ไหนใคร่เฉลย
เสนอแนะสิ่งใดแสนเสบย
อย่าละเลยคอมเมนท์เป็นได้การ

เอาแต่อ่านไม่คอมเมนท์ก็เป็นหมัน
ความรู้มันติดกับนอนพับฐาน
ไม่แตกหน่อปัญญาวิชาชาญ
แม่ตาหวานรู้ไว้แก้ไขเอย..


ชวนฮันนี่มูลจนแก่งั๊ก

อ่าน: 1446

ผมชอบตามใจคนอื่นมากพอๆกับตามใจตัวเองนั่นแหละ

มันจะได้สมดุลย์กันยังไงละครับ

อกเขาอกเรา..เอาใจกันบ้างก็ไม่เห็นเสียหายอะไรนี่ครับ

ถ้ารู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเราละเยี่ยมเลย

ปัญหาอยู่ที่ว่า..ถ้าเป็นคนใจแคบ..

หนทางมันคับแคบจะสอดใส่อะไรมันฝืดเคืองไปหมด

แต่ถ้าใจกว้างเป็นแม่น้ำ..ก็อาจจะออกอ่าวไปเลยก็ได้

ทางสายกลาง..ทางสายที่สมดุลย์นี่แหละที่เราต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน

 

เมื่อวานนี้ทำให้ลูกศิษย์สาววิ่งฝุ่นตลบ

เพราะใช้คำผิด ระหว่างเต้าหู้ กับเต้าเจี้ยว

2 ตัวนี้เป็นพี่น้องกัน ..บังเอิญมาใช้คำว่า..เต้าหู้เม็ด ..นี่สิ

เธอยังคิดบวก..ว่ามันอาจจะเป็นนวัฒกรรมใหม่

รึญี่ปุ่นเขาค้นคิดได้เต้าหู้ชนิดเม็ด..555..

วันนี้จึงขอไถ่บาปลงภาพประกอบให้ชม

และเล่าเรื่องเป็นของแถม..

หลังจากที่ผมมาปักหลักปลีกวิเวกอยู่กระต๊อบน้อยชายป่า ของหนุ่มใหญ่ใจผ่องแผ้ว รู้สึกสงบสงัดสงบสูขมาก เพราะเป็นการย้อยรอยไปสู่อดีตสมัยเด็กๆ ยุคมราเตี่ยแม่มาบุกเบิกป่าทำไร่ทำสวน ยุคนั้นปัจจัยสมัยใหม่อย่างทุกวันนี้ไม่มีหรอก จะทำอะไรสักอย่างต้องพึ่งพิงจากธรรมชาติทั้งหมด ตัดไม้เนื้อแข็งมาปักเป็นเสาเรือน พื้นใช้ไม้กระดานบ้างฝากไม้ไผ่บ้าง จะมุงที่อยู่อาศัยไปเกี่ยวหญ้าคามากรองเป็นแผ่นๆมุงทับซ้อนกันด้วยตอกไม้ไผ่ กันฝนกันร้อนกันลมได้อย่างดีเชียวละ ของใช้ไม่สอยมีเท่าที่จำเป็น ทำชั้นวางบ้าง เอาแขวนไว้ตามเสาบ้าง ฝาบ้านเต็มไปด้วยตัวเลขยึกยือที่ใช้ถ่านเขียนเตือนความจำ

ทุกอย่างมันลงตัวพอเหมาะพอเจาะยิ่งกว่าสมัยนี้ ที่อ้างว่ามีความพร้อมทุกด้าน แต่อะไรมันก็ไม่แน่ไม่นอนหรอกนะเธอ..ช่วงที่น้ำท่วมใหญ่ประเทศไทย ทำให้อุปกรณ์และช่างฝีมือขาดแคลนอย่างมาก

  • คนกรุงก็เร่งซ่อมแซมบ้าน
  • คนต่างจังหวัดที่อยู่บางกอกก็กลับมาสร้างบ้านสำรองไว้
  • วัดวาอารามก็มีงานขยายศาลาสร้างโบถส์กันอีก
  • คนที่ได้เขยฝรั่งก็สร้างบ้านอวดกันใหญ่โต
  • ทุกหมู่บ้านอย่างน้อยๆจะมีบ้านใหม่ผุดขึ้นไม่น้อยกว่า5หลัง

มิน่าละ..บริษัทขายอุปกรณ์ก่อสร้างชื่อดัง ถึงยกทัพมาปักหลักเปิดบริการขายอุปกรณ์กันอย่างคึกคัก ต้องการเครื่องแต่งบ้านระดับไหนไม่ต้องสั่งมาจากบางกอกหร๊อกก. ไปซื้อสั่งเอาในห้างใหม่บ้านเรานี่ แต่..ดูผิวเผินอาจจะเห็นว่ามีสินค้ามากมายก่ายกอง พอกดปุ่มเรียกช่างมาคุย พบว่าปัญหาเหนือความคาดหมายมีเยอะเลย

เช่น วัสดุที่ใช้กันมาก บล็อกซีเมนต์ อิฐแดง ของขาดอย่างเหลือเชื่อ บางทีต้องรอเป็นสัปดาห์ ของมาก็ต้องไปแย่งไปแบ่งกันอีก เหตุการณ์คล้ายกับคนกรุงแย่งซื้อมาม่า-ไข่-น้ำดื่ม จนขาดตลาด ตอนน้ำท่วมใหญ่นั่นแหละ แต่ปัญหาที่ยากจะจัดการก็คือช่างก่อสร้าง คงจะอีนุงตุงนังกันไปอีกนาน

เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็นนี่แหละ

..ที่คนสร้างบ้านต้องเข้าคิวรอช่างรับเหมา

ผมรู้จักช่างในพื้นที่พอสมควร

แต่ติดต่อไปหาช่างคนไหน..ไม่มีใครว่างเลย

  • ทีมพวกรับปากเลื่อยไม้ซอยไม้ยังมาขอโยกไปหลังสงกรานต์
  • ทีมสร้างเสริมบ้านใต้ดินก็ต่อรองไปหลังสงกรานต์
  • ทีมที่จะสร้างกระต๊อบมีมีสกุลถาวรก็ขอหลังสงกรานต์
  • ทีมTOT.บอกให้ใช้WIFI.ทดลองไปพลางๆก่อน หลังสงกรานต์จะมาปรับให้ใหม่

คำว่าหลังสงกรานต์..หมายถึงวันที่หายอ่อนหล้าจากน้ำเมาแล้วนะ

ยังดีที่ทีมสร้างโครงไม้ปลูกผักพยายามเร่งรุดให้เสร็จก่อนสงกรานต์

 

ปุ่มที่กด..อ่อนแรงเพราะเหตุเหล่านี้เอง

ผมก็บ่ฮู้จะทำฉันใด

อยากจะทำเร็วๆ..ก็ส่ออาการ..แต่ช้าแต่เขาแห่ยายมา..

อีกหน่อยฝนลง..ช่างก็จะไปลงไร่ลงนา..เว้นวรรคงานไปอีกหลายเดือน

จะรออาศัยอาสาสมัครมันก็งานคนละระดับกัน

 

เช้านี้ลองแวะร้านสตึกมินิมาชท์

เจ้าของเป็นชายหนุ่มทำหน้ายู่ยี่..ทั้งๆที่ไม่ได้เปิดขายตลอด24ชั่วโมง

แกเล่าว่า..หาพนักงานยากเหลือเกิน

เปิดรับสมัครมาเป็นเดือนแล้วยังไม่ได้..

  

เด็กรุ่นใหม่สมัยนี้ไม่คิดทำงาน

ชอบเกาะพ่อแม่กิน..ติดนิสัยมาจากสมัยเรียน

ที่พ่อแม่ไม่ต้องการให้ลูกทำงานช่วยงานอะไร

ทุกอย่างแม่ขออาสาหมด..

ไล่ลูกไปเรียนไปติวบ้าๆบอๆอย่างเดียว

เด็กรักดีมีความสนใจรักการเรียนประมาณ 30%

อีก70%เป็นพวกไม่เรียนไม่ทำอะไร..

เฮไหนเฮนั่นวันยังค่ำ อยู่ร้านเกมส์ได้ตลอด24ชั่วโมง

 

พันธกิจหลักมี3อย่าง

1 แบมือขอเงินไปฟื้นฟูชีวิตให้ซู่ซ่าส์

2 ขี่รถ/แข่งรถมอร์เตอร์ไซด์เลียนแบบเด็กแว๊นในกรุงเทพฯ

3 ยกพวกตีกัน ระดับหมู่บ้าน ระดับตำบล และระดับอำเภอ

ใช้เกรดเดียวกับสินค้าโอท๊อปเลยนะเธอ

 

เรื่องนี้ไม่ได้ยกเมฆมากระแหนะกระแหนหรอกนะจ๊ะ

ว่างๆของเชิญมาแหกเนตรดูได้

ว่าบ้านนี้เมืองนี้มันเสื่อมถอยจนไม่รู้จะไถลไปยังไงแล้ว

 

ใครที่กำลังแต่งงาน หรือแต่งงานใหม่ๆ

อย่าเพิ่งมีลูกเลยนะครับ

ดูทีหนีทีไล่ให้ดี..ถ้าไม่มั่นใจว่าจะเลี้ยงลูกได้ดี

ก็อย่ามีลูกเสียเลยดีกว่า..

ฮันนีมูนไปเรื่อยๆจนแก่งั๊ก !

สงสารเด็กที่ต้องเกิดแปดเปื้อนสังคมห่วยแตก

ถ้าเป็นไปได้..อย่าแต่งงานเป็นดีที่สุด

เอาตัวอย่างหลวงพี่หลวงน้าหลวงลุงก็ได้นี่..

เหตุผลรึ..เอาไว้คุยกันนอกรอบ…

 

  • อยู่ในป่าห่างไกลผู้คน แทบไม่ได้คุยกับใคร เมื่อวานหลังสั่งงานแล้วไม่ต้องพบปะหน้าใครเลย มีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครในหมู่บ้านมาแจกซองผ้าป่า และขอไม้ไปใช้ช่วงทำบุญ..ก็เท่านั้น..
  • คนสมัยนี้ไม่ค่อยได้พบหน้า ไม่ค่อยได้คุยซึ่งหน้า
  • เอาแต่บ่นๆๆๆและบ่นงึมงำเป็นหมีกินผึ้ง
  • เอ้า! อ่านเรื่องที่บ่นคลายร้อนไปก่อนนะตัวเอง
  • ส่วนปัญหาใจที่กริ่นไว้ข้างบน
  • ถ้าสนใจก็คงจะต้องวางแผนมาสลายคลื่นใจ ชิมิ ชิมิ//

 



Main: 0.068181037902832 sec
Sidebar: 0.055346012115479 sec