ชวนฮันนี่มูลจนแก่งั๊ก
ผมชอบตามใจคนอื่นมากพอๆกับตามใจตัวเองนั่นแหละ
มันจะได้สมดุลย์กันยังไงละครับ
อกเขาอกเรา..เอาใจกันบ้างก็ไม่เห็นเสียหายอะไรนี่ครับ
ถ้ารู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเราละเยี่ยมเลย
ปัญหาอยู่ที่ว่า..ถ้าเป็นคนใจแคบ..
หนทางมันคับแคบจะสอดใส่อะไรมันฝืดเคืองไปหมด
แต่ถ้าใจกว้างเป็นแม่น้ำ..ก็อาจจะออกอ่าวไปเลยก็ได้
ทางสายกลาง..ทางสายที่สมดุลย์นี่แหละที่เราต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน
เมื่อวานนี้ทำให้ลูกศิษย์สาววิ่งฝุ่นตลบ
เพราะใช้คำผิด ระหว่างเต้าหู้ กับเต้าเจี้ยว
2 ตัวนี้เป็นพี่น้องกัน ..บังเอิญมาใช้คำว่า..เต้าหู้เม็ด ..นี่สิ
เธอยังคิดบวก..ว่ามันอาจจะเป็นนวัฒกรรมใหม่
รึญี่ปุ่นเขาค้นคิดได้เต้าหู้ชนิดเม็ด..555..
วันนี้จึงขอไถ่บาปลงภาพประกอบให้ชม
และเล่าเรื่องเป็นของแถม..
หลังจากที่ผมมาปักหลักปลีกวิเวกอยู่กระต๊อบน้อยชายป่า ของหนุ่มใหญ่ใจผ่องแผ้ว รู้สึกสงบสงัดสงบสูขมาก เพราะเป็นการย้อยรอยไปสู่อดีตสมัยเด็กๆ ยุคมราเตี่ยแม่มาบุกเบิกป่าทำไร่ทำสวน ยุคนั้นปัจจัยสมัยใหม่อย่างทุกวันนี้ไม่มีหรอก จะทำอะไรสักอย่างต้องพึ่งพิงจากธรรมชาติทั้งหมด ตัดไม้เนื้อแข็งมาปักเป็นเสาเรือน พื้นใช้ไม้กระดานบ้างฝากไม้ไผ่บ้าง จะมุงที่อยู่อาศัยไปเกี่ยวหญ้าคามากรองเป็นแผ่นๆมุงทับซ้อนกันด้วยตอกไม้ไผ่ กันฝนกันร้อนกันลมได้อย่างดีเชียวละ ของใช้ไม่สอยมีเท่าที่จำเป็น ทำชั้นวางบ้าง เอาแขวนไว้ตามเสาบ้าง ฝาบ้านเต็มไปด้วยตัวเลขยึกยือที่ใช้ถ่านเขียนเตือนความจำ
ทุกอย่างมันลงตัวพอเหมาะพอเจาะยิ่งกว่าสมัยนี้ ที่อ้างว่ามีความพร้อมทุกด้าน แต่อะไรมันก็ไม่แน่ไม่นอนหรอกนะเธอ..ช่วงที่น้ำท่วมใหญ่ประเทศไทย ทำให้อุปกรณ์และช่างฝีมือขาดแคลนอย่างมาก
- คนกรุงก็เร่งซ่อมแซมบ้าน
- คนต่างจังหวัดที่อยู่บางกอกก็กลับมาสร้างบ้านสำรองไว้
- วัดวาอารามก็มีงานขยายศาลาสร้างโบถส์กันอีก
- คนที่ได้เขยฝรั่งก็สร้างบ้านอวดกันใหญ่โต
- ทุกหมู่บ้านอย่างน้อยๆจะมีบ้านใหม่ผุดขึ้นไม่น้อยกว่า5หลัง
มิน่าละ..บริษัทขายอุปกรณ์ก่อสร้างชื่อดัง ถึงยกทัพมาปักหลักเปิดบริการขายอุปกรณ์กันอย่างคึกคัก ต้องการเครื่องแต่งบ้านระดับไหนไม่ต้องสั่งมาจากบางกอกหร๊อกก. ไปซื้อสั่งเอาในห้างใหม่บ้านเรานี่ แต่..ดูผิวเผินอาจจะเห็นว่ามีสินค้ามากมายก่ายกอง พอกดปุ่มเรียกช่างมาคุย พบว่าปัญหาเหนือความคาดหมายมีเยอะเลย
เช่น วัสดุที่ใช้กันมาก บล็อกซีเมนต์ อิฐแดง ของขาดอย่างเหลือเชื่อ บางทีต้องรอเป็นสัปดาห์ ของมาก็ต้องไปแย่งไปแบ่งกันอีก เหตุการณ์คล้ายกับคนกรุงแย่งซื้อมาม่า-ไข่-น้ำดื่ม จนขาดตลาด ตอนน้ำท่วมใหญ่นั่นแหละ แต่ปัญหาที่ยากจะจัดการก็คือช่างก่อสร้าง คงจะอีนุงตุงนังกันไปอีกนาน
เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็นนี่แหละ
..ที่คนสร้างบ้านต้องเข้าคิวรอช่างรับเหมา
ผมรู้จักช่างในพื้นที่พอสมควร
แต่ติดต่อไปหาช่างคนไหน..ไม่มีใครว่างเลย
- ทีมพวกรับปากเลื่อยไม้ซอยไม้ยังมาขอโยกไปหลังสงกรานต์
- ทีมสร้างเสริมบ้านใต้ดินก็ต่อรองไปหลังสงกรานต์
- ทีมที่จะสร้างกระต๊อบมีมีสกุลถาวรก็ขอหลังสงกรานต์
- ทีมTOT.บอกให้ใช้WIFI.ทดลองไปพลางๆก่อน หลังสงกรานต์จะมาปรับให้ใหม่
คำว่าหลังสงกรานต์..หมายถึงวันที่หายอ่อนหล้าจากน้ำเมาแล้วนะ
ยังดีที่ทีมสร้างโครงไม้ปลูกผักพยายามเร่งรุดให้เสร็จก่อนสงกรานต์
ปุ่มที่กด..อ่อนแรงเพราะเหตุเหล่านี้เอง
ผมก็บ่ฮู้จะทำฉันใด
อยากจะทำเร็วๆ..ก็ส่ออาการ..แต่ช้าแต่เขาแห่ยายมา..
อีกหน่อยฝนลง..ช่างก็จะไปลงไร่ลงนา..เว้นวรรคงานไปอีกหลายเดือน
จะรออาศัยอาสาสมัครมันก็งานคนละระดับกัน
เช้านี้ลองแวะร้านสตึกมินิมาชท์
เจ้าของเป็นชายหนุ่มทำหน้ายู่ยี่..ทั้งๆที่ไม่ได้เปิดขายตลอด24ชั่วโมง
แกเล่าว่า..หาพนักงานยากเหลือเกิน
เปิดรับสมัครมาเป็นเดือนแล้วยังไม่ได้..
เด็กรุ่นใหม่สมัยนี้ไม่คิดทำงาน
ชอบเกาะพ่อแม่กิน..ติดนิสัยมาจากสมัยเรียน
ที่พ่อแม่ไม่ต้องการให้ลูกทำงานช่วยงานอะไร
ทุกอย่างแม่ขออาสาหมด..
ไล่ลูกไปเรียนไปติวบ้าๆบอๆอย่างเดียว
เด็กรักดีมีความสนใจรักการเรียนประมาณ 30%
อีก70%เป็นพวกไม่เรียนไม่ทำอะไร..
เฮไหนเฮนั่นวันยังค่ำ อยู่ร้านเกมส์ได้ตลอด24ชั่วโมง
พันธกิจหลักมี3อย่าง
1 แบมือขอเงินไปฟื้นฟูชีวิตให้ซู่ซ่าส์
2 ขี่รถ/แข่งรถมอร์เตอร์ไซด์เลียนแบบเด็กแว๊นในกรุงเทพฯ
3 ยกพวกตีกัน ระดับหมู่บ้าน ระดับตำบล และระดับอำเภอ
ใช้เกรดเดียวกับสินค้าโอท๊อปเลยนะเธอ
เรื่องนี้ไม่ได้ยกเมฆมากระแหนะกระแหนหรอกนะจ๊ะ
ว่างๆของเชิญมาแหกเนตรดูได้
ว่าบ้านนี้เมืองนี้มันเสื่อมถอยจนไม่รู้จะไถลไปยังไงแล้ว
ใครที่กำลังแต่งงาน หรือแต่งงานใหม่ๆ
อย่าเพิ่งมีลูกเลยนะครับ
ดูทีหนีทีไล่ให้ดี..ถ้าไม่มั่นใจว่าจะเลี้ยงลูกได้ดี
ก็อย่ามีลูกเสียเลยดีกว่า..
ฮันนีมูนไปเรื่อยๆจนแก่งั๊ก !
สงสารเด็กที่ต้องเกิดแปดเปื้อนสังคมห่วยแตก
ถ้าเป็นไปได้..อย่าแต่งงานเป็นดีที่สุด
เอาตัวอย่างหลวงพี่หลวงน้าหลวงลุงก็ได้นี่..
เหตุผลรึ..เอาไว้คุยกันนอกรอบ…
- อยู่ในป่าห่างไกลผู้คน แทบไม่ได้คุยกับใคร เมื่อวานหลังสั่งงานแล้วไม่ต้องพบปะหน้าใครเลย มีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครในหมู่บ้านมาแจกซองผ้าป่า และขอไม้ไปใช้ช่วงทำบุญ..ก็เท่านั้น..
- คนสมัยนี้ไม่ค่อยได้พบหน้า ไม่ค่อยได้คุยซึ่งหน้า
- เอาแต่บ่นๆๆๆและบ่นงึมงำเป็นหมีกินผึ้ง
- เอ้า! อ่านเรื่องที่บ่นคลายร้อนไปก่อนนะตัวเอง
- ส่วนปัญหาใจที่กริ่นไว้ข้างบน
- ถ้าสนใจก็คงจะต้องวางแผนมาสลายคลื่นใจ ชิมิ ชิมิ//
« « Prev : อยากจะติดล้อที่หัวใจแห้วเป็นบ้า
Next : เผือกยักษ์แม่เอ๊ยยย » »
3 ความคิดเห็น
กว่าจะหาทางเข้าลานเจอ ต้องถือเคล็ดนุ่งผ้าขาวม้าพิมพ์ มันเป็นยังไงกันนะ อิอิ
ใครที่กำลังแต่งงาน หรือแต่งงานใหม่ๆ
อย่าเพิ่งมีลูกเลยนะครับ
ดูทีหนีทีไล่ให้ดี..ถ้าไม่มั่นใจว่าจะเลี้ยงลูกได้ดี
ก็อย่ามีลูกเสียเลยดีกว่า..
ฮันนีมูนไปเรื่อยๆจนแก่งั๊ก !
สงสารเด็กที่ต้องเกิดแปดเปื้อนสังคมห่วยแตก
ถ้าเป็นไปได้..อย่าแต่งงานเป็นดีที่สุด
เอาตัวอย่างหลวงพี่หลวงน้าหลวงลุงก็ได้นี่..
เหตุผลรึ..เอาไว้คุยกันนอกรอบ…
กด Likeeeeeeeeeeeee…เลยก๊าบบบบ
ไม่ต้องนอกรอบหรอกพ่อ คุยมันกลางลานนี่แหละ เรื่องนี้ไม่ค่อยมีคนเปิดเวทีคุย หนูล่ะเสวนากันทุกวันในที่ทำงาน ครอบครัวเดี่ยวที่มีลูกอยู่ในเมืองกรุงนี่ก็ทุกข์กันถนัดนัก ต้องผลัดกันหยุดเลี้ยงลูกบ้าง ต้องแว่ปไปแอบดูคนที่จ้างเลี้ยงบ้างว่าจะทุบตีลูกเหมือนในทีวีหรือเปล่า จะฝากลูกไว้กับย่ายายต่างจังหวัดก็กลัวคนแก่ทำลูกตกบ้าน
เฮ้อ… ยิ่งโตก็ยิ่งกังวลกับปัญหาใหม่ ๆ ที่ลูกอาจต้องเจอ คนมีลูกดีไว้สืบสกุลนี่เหมือนถูกหวยรางวัลที่ 1 ซึ่งมีน้อยมาก เป็นความกังวลที่ยาวนาน เผลอ ๆ ยาวนานกว่าชีวิตของตัวเองเสียอีก หนูจึงสารภาพไปเลยว่าไม่สามารถเป็นอย่างยิ่้งที่จะแบกรับความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นได้ มีเพื่อนคู่คิดคู่ใจไว้ดูแลกันยามแก่เฒ่าก็ดี ถ้าเป็นไปไม่ได้มาคนเดียวก็ไปคนเดียวแล้วกัน ระหว่างอยู่ก็เตรียมการสักหน่อย หัดทำตัวเป็นผู้ใหญ่ที่น่ารักสักนิด เผื่อหลาน ๆ จะหันมาแลดูตอนท้าย ๆ ของชีวิตบ้าง เอวัง ^^
เป็นเรื่องที่คุยมากเรื่องหนึ่งในสังคมงานรับเงินเดือนแบบคนเมืองส่วนใหญ่นี้ครับ