ถูกล่าหารักครั้งอดีตชาติ
: ตอนขอสมาโทษ
: เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีควรอยู่ในดุลพินิจผู้ปกครอง อิ อิ..
เรื่องนี้ฮากระจายจริงนะขอรับ ถือเป็นเรื่องแก้เหงาในช่วงนี้ก็แล้วกัน.. วันนี้ขอชวนย้อนไปยังอดีตกาลอันไกลโพ้น คิดกันเล่น ๆ ว่าถ้าเราระลึกชาติได้จริง นอกจากจะทำให้เกิดความอยากรู้อยากเห็นแล้ว ยังมีส่วนให้พึงระวังการกระทำ ที่จะส่งผลกรรมในชาติภพต่างๆ จะทำให้เรายั้งคิดในการทำเรื่องร้ายๆต่อผู้อื่นและสิ่งรอบข้าง คนเราทำสิ่งใดย่อมได้สิ่งนั้น ทำดีได้ดี ทำไม่ดีจะดีได้จะได..
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ถ้าระวังก็ไม่ต้องมีปัญหาอโหสิกรรม ไม่ฟื้นฝอยหาตะเข็บมันก็จบ ผลกรรมบางทีมาช้าบางทีก็มาเร็วอย่างน่าใจหาย แต่ที่แน่ ๆ ถ้าเราคิดไม่ดีทำไม่ดี เรานั่นแหละเป็นคนแรกที่ตระหนักรู้ว่าทำอะไรลงไป ส่วนมากคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย มักง่ายตามสภาวะอารมณ์ ไม่ตระหนก ฝืนเกลียวบาปไปเรื่อย ๆ ตามจริตแห่งตน ทำบุญบ้าง บาปบ้าง รู้เท่าไม่ถึงการณ์ยังน่าเห็นใจ แต่รู้ทั้งรู้แล้วยังทำนี่สิ น่าคิด.. ที่จริงผมก็ไม่ต่างกับคนทั้งหลายหรอกนะ มีคนบอกว่าไม่ค่อยได้ทำกุศลอะไร ชอบทำแต่เรื่องห่างตัวห่างใจ มิน่าละชีวิตจึงลุ่มๆดอนๆ เหมือนนกขมิ้นเหลืองอ่อนอกหัก อิ อิ..
ในช่วง2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แม่ลำไยวนเวียนเข้าออกสวนป่าดังที่เกริ่นไปบ้างแล้ว ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยรู้จักมักจี่กันมาก่อน แม่ลำไยแนะนำตัวว่ามีนิวาสสถานอยู่ที่จังหวัดเลย ได้รักษาสภาพธรรมชาติไว้อย่างดี มีพันธุ์ไม้และสมุนไพรที่อุดมสมบูรณ์ มีอาจารย์จากแม่โจ้และจุฬาฯ ไปทำการศึกษาอยู่เนื่องๆ นักศึกษาจากต่างประเทศไปอยู่ด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดไปเยือน ได้รับเชิญให้เข้าเฝ้าสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตต์ฯ ในฐานะผู้ดูแลสิ่งแวดล้อม ช่วงที่ว่างงาน แม่ลำไยเดินสายให้ความรู้เกี่ยวกับสมุนไพร รวมทั้งได้สร้างแบบแผนการถ่ายทอดไว้ให้แก่เด็กๆในโรงเรียน
แม่ลำไยมีความเป็นอยู่อบอุ่นพอเพียง มีบุตรชาย2 คน ลูกชายลูกสะใภ้คนเล็กดูแลรีสอร์ตใกล้บ้าน ส่วนลูกชายลูกสะใภ้คนโตไปทำงานกับบริษัทญี่ปุ่นที่ระยอง ปัจจุบันอยู่กับพ่อบ้าน2 คน มีความสุขสบายตามอัตภาพ พ่อบ้านเป็นคนชอบทำงานในเรือกสวนไร่นา ส่วนแม่ลำไยชอบไปจำศีลทำบุญตั้งโรงทาน ถ่ายทอดวิทยาทานให้กับเครือข่ายหลายจังหวัด
แม่ลำไยอายุ 55 ปี เป็นสุภาพสตรีที่ดูดีมีสง่าสมวัย สุขภาพกายสุขภาพใจอิ่มเอิบแจ่มใส ยังทำนาด้วยแรงกายตัวเอง รับประทานอาหารสมุนไพรในธรรมชาติเป็นประจำ ชุดความรู้ที่มีเกิดจากการสะสมภูมิปัญญาพื้นที่ถิ่นที่พึ่งตนเองด้านสุขภาวะชุมชน ตัวเนื้อแท้ของความรู้เกิดจากการปฏิบัติ จึงชัดเจนต่อการใช้ความรู้สมประสงค์
แม่ลำไยเล่าว่า จากการสะสมผลบุญตลอดระยะเวลา 30 กว่าปี ได้สอบทานความรู้กับเกจิอาจารย์ที่เคารพนับถือ ทราบถึงอดีตชาติตัวเอง หลังจากนั้นก็ตระเวนไปค้นหาญาติทีละคน จนกระทั้งได้มาเจอกับแม่เขียวซึ่งอยู่ในหมู่บ้านห่างจากสวนป่า 12 กม. แม่เขียวเป็นผู้อาวุโสในหมู่บ้าน เป็นที่เคารพนับถือในฐานะคนเข้าวัดรักษาศีล คุยกันไปมาก็ทราบว่าในอดีตชาตินั้นแม่เขียวเป็นพี่สาวของตนเอง เมื่อมาเจอก็สนิทสนม ต่างเย้าเยือนไปมาหาสู่นับถือกันเป็นญาติสนิท
ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน แม่ลำไยมาเยี่ยมแม่เขียว แล้วเกิดนิมิตเกี่ยวกับสวนป่า >> มันเหมือนกับมีสิ่งชักจูงให้เข้ามาที่นี่ ทั้งอยากรู้ทั้งหวั่นวิตกในใจต่าง ๆ นานา จดจ้องอยู่หลายวัน สงบจิตสงบใจได้แล้วให้ลูกหลานมาส่ง.. พบกันวันแรก ในระหว่างนั่งคุยกัน แม่ลำไยมีอาการสะเทิ้นดั่งสาวรุ่นรักแรกพบ คิ คิ..
หลังจากทักทายกันพอสมควรแล้ว แม่ลำไยบอกว่าอยากจะมาขอสมาโทษที่เคยมีด้วยกันในอดีต แม่ลำไยเล่าว่า ในอดีตชาติท่านเป็นแม่หญิงคนใหญ่ของอาจารย์(สรรพนามที่เรียกผม) ต่อมาป่วยอัมพาตนั่งๆนอนๆอยู่กับหมอนสามเหลี่ยม จึงยกน้องสาวให้ทำหน้าที่ภรรยาแทนตน ระหว่างที่พิการ สามีไม่ได้ทอดทิ้ง ยังดูแลด้วยความเห็นอกเห็นใจ ด้วยความดีครั้งกระโน้น ทำให้แม่ลำไยต้องการมาขอสมาโทษในชาตินี้
ฟังครั้งแรกก็งงๆ จะมาขอโทษเรื่องอะไร และเป็นไปได้ยังไง ผมนะมึนแปดตลบ เข้าใจไม่ได้จึงทำเป็นเฉยๆเสีย หันไปชวนคุยเรื่องอื่น แม่ลำไยเล่าว่า ..วันนั้นกลับไปนอนร้องไห้ทั้งคืน เกิดความหม่นหมองค้างคาใจ ให้แม่เขียวโทรมาบอกว่า แม่ลำไยจะขอมานอนค้างสวนป่าสักคืนหนึ่ง หลังจากนั้นแม่ลำไยมีธุระต้องเดินทางเข้ากรุงเทพ แต่ก็รีบกลับ เช้าวันที่ 8 แม่ลำไยบุกสวนป่าอีกครั้งหนึ่ง มาพูดเรื่องเดิม ขอทำพิธีสมาโทษ ผมไม่สามารถตัดสินใจได้ นั่งฟังเฉยๆ ทำให้แม่ลำไยผิดหวังกลับไปเป็นครั้งที่2 ไม่ใช่จะไต่ความยาวสาวความยืดนะครับ แม่ลำไยอาจจะระลึกเห็นอะไรๆก็ได้ จึงซาบซึ้งกับสิ่งที่ตนเองรับทราบ ส่วนผมกิเลศหนาไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับเรื่องในอดีต จึงรับลูกไม่ค่อยจะทัน บรรยากาศช่วงแรกมันจึงประดักประเดิด ต่อมื่อค่อยๆเรียงลำดับความที่น่าจะเป็น ก็ค่อยๆปรับอาการให้เข้าร่องเข้ารอย อิ อิ..
คืนก่อนนอนดึก ตอนบ่ายจึงแอบไปงีบจนตะวันตกดิน แม่หวีมาเคาะประตูบอกว่าแม่ลำไยมาขอพบ เอาละสิ ..ผมขออาบน้ำก่อนก็ไม่ยอม.. แม่ลำไยเข้านั่งข้างล่างเตียง ก้มกราบแล้วยื่นพานดอกไม้ให้ เอาถังใส่น้ำอบน้ำหอมมาวาง ขอเอาเท้าลงล้าง..เช็ดให้แห้ง แล้วยกเท้าไปวางบนศีรษะ ก้มกราบเป็นเสร็จพิธี ..แม่ลำไยคงคิดว่าขออนุญาตถึง2 ครั้งยังไม่ยอม ครั้งที่ 3 บุกเข้ามารวบรัดทำพิธีเลย หลังจากนั้นดูแม่ลำไยอารมณ์ดี ยิ้มแย้มสบายใจ บรรลุวัตถุประสงค์แล้วจะได้กลับบ้านเสียที ยังบอกว่ากลับไปจะทำบุญอุทิศส่วนกุศล เพื่อช่วยบรรเทาโรคหัวใจคลอนแคลนให้อีกต่างหาก อิ อิ
หมายเหตุ
ด้วยรัก แห่งรัก พิลึกพิลั่นที่ตามมาแต่ครั้งอดีตกาลนี่เอง ที่ทำให้คนหัวโต ป้าจุ๋ม และใคร ๆ อยากจะบุกเมืองเลย เผื่อจะเจอทำเลตั้งหมู่บ้านเฮฯ แม่ลำไยบอกว่ายินดีมากถ้าคณะเราไปเที่ยวกุ้ยหลินเมืองไทย ยังบอกอีกว่ามีของดีในอดีตกาลจะให้ชม แหมเรื่องพิสดารอย่างนี้มีหรือที่เราจะถอย..โปรดติดตามตอนต่อไปด้วยความระทดระทวยใจ คิ คิ..
« « Prev : ป้าหวานบุกสวนป่า อิ อิ..
Next : เมื่ออดีตกาลเจ้าเป็นไผ คิ คิ » »
10 ความคิดเห็น
อิอิอิ และ 555555 แหมเป็นเรื่องระทึกระทวยน่าดูเลยล่ะค่ะพ่อ มาขโมยคอมพ์ฯห้องคนอื่นใช้จะหัวเราะดังก็ไม่ได้ ^ ^
รอติดตามตอนต่อไป เพราะรู้ว่าครูบาเล่าไม่ครบ…มีอีกๆๆๆๆ….อิอิ
ตื่นเต้น เร้าใจ น่าติดตามครับ เสียงในฟิล์มด้วย สำเนียงเลยแบบแปลกๆ บางคำฟังไม่รู้เรื่อง
แต่ที่ฮากันครืนนี่ เต็มๆ ครับ เหมือนจริงๆ อิอิ
มาอิอิ ด้วยค่ะ คนน่ารักนะคะ ใครๆๆก็อยากแอบอิงค่ะ
อย่าลืมอย่าพลาด ตอนต่อไปหวาดเสียวที่ซู๊ด คิคิ
ขนลุกอะค่ะ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ อิอิ
ผมมานั่งเงียบๆอยู่ข้างๆนี่แล้วนะครับ คอยฟังครับ
คนที่โดนด้วยคนเองจะขนาดไหน
รายการนี้น่าจะชื่อเจ้าเป็นไผในอดีตชาติที่แล้ว เหอๆๆๆๆ
-Theme เจ้าเป็นไผ2 อาจต้องเปลี่ยนกระทันหัน…เพราะดูท่า “เจ้าเป็นไผในอดีตชาติท่าจะHotกว่าแน่ๆ…อิอิ
-ขอเข้ามายืนยันอีกคนว่าตื่นเต้น เร้าใจและน่าติดตามจริงๆจ้า…
โอ้โฮ !
สุดยอดครับ .. ไปเลยเมื่อไหร่จะไปด้วยให้ได้ .. อยากถามแม่ลำใยว่า ครั้งกระโน้นผมไปทำอะไรเขาไว้นักหนา ถึงได้มีรางวัลมาแบบตั้งรับไม่ค่อยทัน .. แต่คิดอีกที ไม่ถามก็ได้ เพราะคุณค่ามากมายอันเกิดจากเรื่องเลวร้ายที่เจอ .. มันเป็นเครื่องทดสอบที่แสนวิเศษสำหรับวัดอะไรบางอย่างในความเป็นตัวเราได้ดีจริงๆ