จดหมายรักอุ้ย

อ่าน: 1418

 

ผมไม่อายที่จะบอกรักใคร

รักแล้วไม่ลังเลที่จะรีบบอก

จะไปรอบอกตอนผง๊าบ ๆ ก็ไม่แน่ว่าจะได้บอก

การที่เรารักใครไม่ต้องไปขออนุมัติ พรวดพราดรักได้เลย

 

ผมนะรักอุ้ยมานานแล้ว อิอิ

เหมือนได้แถมแม่ยายอีกต่างหาก

อุ้ยมีส่วนสงเคราะห์ให้รักอย่างมาก

เป็นผู้ที่เราวางใจได้ว่าจะไม่หย่าเราแน่

ผมหมายถึงว่ายังไง ๆ ก็จะไม่เป็นหม้ายไมตรีของอุ้ย

อุ้ยส่งหนังสือดี ๆ มาให้อ่าน

ให้ข้อแนะนำดี ๆ

กุลีกุจอเป็นธุระพาแอ่ววัดทั่วเมืองเหนือ

มากรุงเทพฯ ยังพาตระเวณเที่ยววัดทั่วลำน้ำเจ้าพระยา

เจออุ้ยนี่นะ..มีแต่กำไรชีวิต

แล้วคนรักอย่างอุ้ยหาง่ายที่ไหนละ

นับเป็นวาสนาที่โลกนี้มีอุ้ยให้รัก

อาเหลียงมีอาหยง ผมก็มีอาอุ้ย คิ คิ

บางคนแย่หน่อยเจอแต่รักพลาสติก

แห้ง ๆ แข็งทื่อ ๆ ไม่มีน้ำจิตน้ำใจ เอะอะก็จะงอน ๆๆๆ ร่ำไป..


นาฬิกาถูกบังคับให้เดินไปข้างหน้าอย่างเดียว

เส้นทางเดินเป็นวงกลม จึงมาบรรจบจุดเก่าแต่นับเวลาใหม่

ถ้านาฬิกาเดินเป็นเส้นตรง เราคงวิ่งนับเวลาเหนื่อยน่าดู

มนุษย์นี่เก่งจริง ๆ

เราไม่ทราบว่า สัตว์อย่างอื่นนับเวลาอย่างไรกัน

มีวันเวลาเป็นสว่างกับมืด หรือเป็นร้อนกับเย็น หรือนับเป็นฤดูเป็นเทศกาลรัก

 

มนุษย์สร้างรถยนต์ให้มีเกียร์ถอย เอาไว้เผื่อมีปัญหา

คนเราเดินถอยหลังได้ แต่ส่วนมากจะเดินเลี่ยงออกด้านข้าง

ไม่สะดวกไม่มีตาหลัง ไม่มีกระจกมองข้างเหมือนรถยนต์

มนุษย์..เรียนวิธีคิดวิธีมองอย่างล้ำลึก

มองไม่ชัดก็ไปตัดแว่นสายตา

มองไม่ละเอียดก็ไปสร้างกล้องจุลทรรศน์ขึ้นมา

มองไม่ไกลก็ไปสร้างกล้องดูดาวแบบพิเศษขึ้นมาส่อง

 

อยากเห็นหัวใจเต้นตุ๊บ ๆ เอาเครื่องมาสแกน แล้ว..ยังสอดกล้องเข้าไปส่อง ถ้ามันเสียหายมากก็ผ่าหัวใจออกมาเปลี่ยนใหม่..เหลืออย่างเดียวที่มนุษย์ไม่เก่งพอ ยังไม่มีเครื่องมือมองทะลุจิตใจ และยังหาวิธีผ่าความในใจไม่ได้ แต่คนเก่ง ๆ เขาก็มีวิธีมองนะ ยกตัวอย่างอุ้ยจันตาเรานี่แหละ สะท้อนคิดให้เห็นมุมมองที่สนุกน่าสนใจ อุ้ยมักจะปล่อยทีเด็ดออกมาให้สังคมฉุกคิดเสมอ

โยนโจทย์การประชุมได้ไหมคะครูบา อยากโยนว่า

ตัดไม้เป็นแล้ว ปลูกเป็นหรือเปล่า
เรียกร้องเป็นแล้ว รับฟังเป็นหรือเปล่า
ขอเป็นแล้ว ให้เป็นหรือเปล่า
บอกว่าเคยจนแล้ว ช่วยคนอื่นให้หายจนเป็นหรือเปล่า

เดินขบวนตามความคิดคนอื่นเป็นแล้ว

เดินด้วยความคิดของตัวเองเป็นหรือเปล่า

สร้างเต็นท์กลางถนนคอนกรีตเป็นแล้ว

สร้างกระท่อมพอเพียงอุ๊ยจั๋นตาเป็นหรือเปล่า….อิอิ

อุ้ยกระตุกคิดว่า ..เดินขบวนตามความคิดคนอื่นแล้ว เดินด้วยความคิดตนเองได้หรือเปล่า ที่จริงสังคมลานปัญญา อุดมด้วยนักคิดขาจรที่เดินดุ่มเข้ามาหาเพื่อนคู่คิดมิตรคู่ใจ เพราะอาจจะยึดถือคำว่า..คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตายก็เป็นได้ ถ้าเราช่วยกันบริหารบรรยากาศการขบคิดให้สนุก ๆ  เราจะได้เคี้ยวความรู้อร่อย ๆ ด้วยกัน

หลายวันมานี่ คนข้างกายไปเก็บเอาใบบัวบก ใบมะยม ใบรางจืด ใบกระวานฮ๊อก ใบโหระพา ใบหญ้าปักกิ่ง ใบคาวตอง หัวกระชาย น้ำผึ้ง เอามาปั่นจนละเอียด กรองกากออกเหลือแต่น้ำ รินใส่แก้วใส่หลอดดูดเอามาเสิร์ฟ ดูดจ๊วบแรก ..ต้องรีบตอบคำถามเป็นชุด .อร่อยไหม เป็นยังไงบ้าง รสพอดีไหม พอบอกว่าอร่อยใช้ได้เท่านั้นแหละ ตามมาอีกเป็นเหยือก ไม่ตาเหลือกเพราะน้ำปั่นสมุนไพรก็ดีเท่าไหร่แล้ว ไม่ทราบว่าเป็นอุปทานหรือเปล่านะครับ ผมรู้สึกสบายท้อง พุงไม่แน่น แข็งแรงขึ้น คิดถึงคนอื่นมากขึ้น รักอุ้ยมากขึ้น

อุ้ยบอกว่าอีก 2 เดือนจะมาใหม่

จะทำอย่างไรได้ นอกจากยกนิ้วขึ้นมานั่งนับรอคนรักจะมา

คราวที่แล้วอุ้ยกับครูอึ่ง อาราม มาปลูกมะรุมไว้

วันนั้นผมผ่ากระป๋องเมล็ดฟักทอง โยนเมล็ดลงหลุม

ไปเดินดูวันนี้มีต้นเล็ก ๆ งอกแล้ว

..ถ้าฟักทองเป็นใจนะอุ้ย..

เราคงได้ชิมยอดฟักทองผัดไฟแดง

ยำยอดฟักทอง

แกงฟักทอง

นึ่งฟักทอง

มีแต่ทอง ทอง ทอง เต็มท้อง

อลังการกว่าคนห้อยสร้อยทองเยอะเลย

จึงฝากเตือนความจำอุ้ยว่า

อย่าลืมนะอุ้ย ..ฟักทองคิดถึง

อิ อิ

 

« « Prev : จดหมายรักน้าอึ่งอ๊อบ

Next : ตอบการบ้านพระอาจารย์ HANDY » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

8 ความคิดเห็น


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.59701681137085 sec
Sidebar: 0.30648016929626 sec