ตำนาน ตำใจ

อ่าน: 4674

ตอนผมเรียนอยู่ชั้นม. 2 เป็นประธานยุวกสิกร ประกอบกับเป็นลูกชาวไร่ชาวนา ได้เป็นตัวแทนจังหวัดบุรีรัมย์ ไปร่วมประชุมยุวกสิกรแห่งชาติ ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน สมเด็จพระบรมโอรสสาธิราชยังเยาว์วัย เสด็จมาเป็นองค์ประธานเปิดงาน มีดอกดินกัญญามาลย์ กับคุณอรสา มาร้องเพลงด้นสดๆ เหตุไฉนรถไฟจึงวิ่งบนราง..เหตุไฉน ..เหตุไฉน..ว่าไปเรื่อยๆด้วยทักษะศิลปินชั้นครู เรียกความประทับใจไม่เบา แต่เพลงประจำของชาว 4 . นั่นก็ไม่ธรรมดานะ

: เกษตรนี่หล่อจริงๆ ผู้หญิงเขาอยากรู้จัก

เกษตรนี่หล่อยิ่งนัก ถ้าใครรู้จักกินผักฟรีๆ

เรื่องนี้มีความเป็นไปได้สูง

ช่วงที่กลับบ้าน ถ้าขึ้นมากทม.ก็จะหิ้วผักมาฝากญาติแซ่เฮ

ครั้งล่าสุดนี่..แห้วศรีถามว่า..พ่อเอาผักอะไรมาฝากมั่ง

ปล่าว ! ไม่ได้ถือมาสักอย่าง เพราะตระเวนโค้งมาจากศีรสะเกษ

เอาไว้คราวหน้าจะแบกน้ำเต้าลูกเท่ากระสอบถ่านมาให้ อิ อิ

งานชุมนุมยุวกสิกรแห่งชาติปี 2508 มีเยาวชนจากทั่วประเทศเดินทางมาพบปะกัน แต่ละจังหวัดคึกคักกันทั้งนั้น โดยเฉพาะจังหวัดใหญ่ๆจะมีจำนวนเยาวชนมามาก บุรีรัมย์ไปกัน 2 คน ทั้งเหงาทั้งจ๋อง ไปสมัครกรรมการยุวกสิกรแห่งชาติตำแหน่งอะไรก็สู้เขาไม่ได้ คู่แข่งเก่งมาก เธอชื่อน้ำอ้อย เป็นลูกสาวสายสกุล ณ เชียงใหม่ อีกคนน่าจะมาจากลำพูน เธอชื่อเยาวเรศ ณ ลำพูน ไม่เจอกัน 40 กว่าปีแล้ว ป่านฉะนี้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ ที่ติดต่อกันเรื่อยมาตั้งแต่ครั้งกระโน้นก็มีนะ เธอเป็นสาวสวยสันป่าตอง ที่โดนแซวว่ากิ๊กครูบานั่นแหละ วันที่ 19-20 กิ๊กที่ว่าก็จะมาให้ชาวเฮกอด เธอรับปากแล้วว่าจะชวนลูกสาวไปปลูกต้นไม้ที่วัดพระบาทห้วยต้มด้วย ตัวคุณแม่นะผมไม่หวงหรอก แต่ลูกสาวเพื่อนพ่อ ชื่อน้อง.. หนุ่มๆอย่าป้อมาใกล้ มองห่างๆพออนุญาตให้ได้ อิ อิ

(ขออนุญาตเอาภาพอุ้ยมายืนยัน)

ในทีมของจังหวัดเชียงใหม่ มีกุลสตรีนางหนึ่งสวยซึ้งตลึงจิต เพ่งพิศวงหน้ารูปไข่ระบายยิ้มอารมณ์ดี เจอหน้าครั้งแรกใจสะดุดคะมำ เธอสมัครในตำแหน่งต้นเสียงแห่งชาติ คนที่สมัครตำแหน่งนี้ก็ต้องเสียงดีใช่ไหมละครับ ความสามาถเธอเป็นนักร้องอาชีพได้สบาย เสียงไพเราะเซาะซึ้งตรึงใจไอ้หนุ่มทุ่งกุลายิ่งนัก เก็บมาเพ้อถึงคะนึงหา วันต่อๆมาช่วงที่ผมเดินไปขอคะแนนเสียงจากเพื่อนๆ มีโอกาสคุยกัน เธอเรียกตัวเองว่าพี่แดง มาจากโรงเรียนสตรีวัฒนโนทัยพายัพ ทราบภายหลังว่าเป็นโรงเรียนเก่าน้าอึ่งกับอุ้ยจันตา โรงเรียนนี้ฝึกช่างฟ้อนฝีมือดี  ผมเคยได้รับภาพฟ้อนเล็บมาเก็บไว้ ..ไก่แจ้จากแดนอีสานกอร่อกอติ๊กไปเมียงมองอยู่เรื่อย คนสวยนี่นะใครๆก็อยากจะเสวนาด้วย สมัยนั้นไม่มีการแจกบัตรคิว ต้องดูทีหนีทีไล่ ไม่งั้นโดนแซงคิวอยู่หางแถวตลอด แต่แล้วก็มีเหตุฟ้าบันดาลหรือสวรรค์เป็นใจก็ไม่รู้นะ..

: มีโอกาสได้นั่งคุยกัน

เธอมาแสดงความเสียใจที่ผมพลาดตำแหน่งกรรมการยุวฯ

สวยรวยน้ำใจมาปลอบน้องชายคนนี้

ถามว่าสวยแค่ไหน..หน้าละม้ายคล้ายดาราทีวีคนหนึ่ง

ผมยังได้รับเลี้ยงไอติมจากเธอด้วย

ดังนั้น..ท่านที่ชวนผมกินไอติมทุกครั้ง

โปรดทราบด้วยเถิดว่า..

ผมเห็นท่านเป็นใครคนหนึ่ง

ที่เคยเลี้ยงไอติมถ้วยอร่อยแห่งความทรงจำ

ไม่ว่าจะรสมะเกี๋ยง รสมะนาว หรือรสมะดัน

ก็ยังอาลัยอาวรณ์ถึงมิเว้นวาย

หลังจากนั้นเราก็เขียนจดหมายติดต่อกันเรื่อยมา เก็บสะสมไว้ได้ 2 ลัง ในระยะเวลา 8 ปีเต็ม ขึ้นต้นด้วยคำว่าพี่แดงที่เคารพ หลายปีผ่านไปมีโอกาสสารภาพบาปกับเธอว่า..ปากเรียกพี่แต่ใจคิดตรงกันข้าม บอกเธอว่าทุกคนที่ไปร่วมชุมนุมกันคราวนั้นล้วนคุยกันเป็นเพื่อน จะขอลดตำแหน่งพี่มาเป็นเพื่อนได้ไหมละ พี่เกิดเดือนอะไร พ..ไหนไล่กันดูสิ อ้าว ! เราเกิดปีเดียวกัน แล้วผมเป็นพี่หลายเดือน ถ้าอย่างนั้นจะต้องมาปรับกันใหม่ให้ถูกต้อง ผมจึงพลิกวิกฤติเป็นโอกาสเรียกเธอว่าน้องแดงตั้งแต่บัดนั้น

บ้านเธออยู่ถนนราชมรรคา เป็นบ้านชั้นเดียวหลังเล็กๆ หน้าบ้านมีชานยื่นออกมา ปลูกดอกไม้รายรอบรั้วบ้าน คุณแม่ตัดเย็บเสื้อผ้าและเปิดเสริมสวย คุณพ่อและเธอทำงานบริษัทแห่งหนึ่ง เชียงใหม่ยุคนั้นเงียบสงบ ตอนเช้าๆแดดอ่อนๆหมอกลอยอ้อยอิ่ง อากาศเย็นสบายสดชื่น ..เธอเดินออกมาใบหน้าสดใสระบายยิ้ม พูดเสียงเบาๆเจ๊าๆให้เราแทบละลานใจ เท่าทุกวันนี้ใครพูดเจ๊ากับผมก็หวลคิดไปถึงเธอ คุณแดงชวนผมไปไหว้พระวัดพระสิงห์ ไหว้ครูบาศรีวิชัยประจำ ไปทุกครั้งผมก็จะเลี้ยงข้าวเธอที่ร้านถนอมโภชนา ส่วนเธอจะเลี้ยงข้าวใกล้ที่ทำงาน เป็นร้านข้าวซอยที่ฟ้าฮ่าม จนเป็นโรคติดข้าวซอยมาเท่าทุกวันนี้ ไปเชียงใหม่ใครจะเลี้ยงอาหารอร่อยยังไง ผมก็ยังโหยหาข้าวซอย กินคราใดก็อิ่มเอมใจในคราวนั้น มีอาการเดียวกับอาเหลียงโหยหาโรตีนั่นแหละ เลือดหมูเมืองพิษณุโลกที่แสนอร่อย ก็ยังไม่ติดใจเท่าข้าวซอย เพราะใจเราโดนสอยไปเสียแล้ว อิ อิ..

เราติดต่อกันเรื่อยมาตั้งแต่เด็กจนเข้าสู่วัยที่มีการมีงานทำแล้ว ผมเปิดร้านขายของอยู่คนเดียว รูปไม่หล่อพ่อไม่รวยหรอกนะ แต่มีผู้ใหญ่แถบนั้นส่งแม่สื่อมาแนะนำหลานสาวไม่เว้นวาง ผู้ใหญ่เขาอาจจะเห็นว่าผมเป็นเด็กค้าขายเป็น แถมยังทำคนเดียวอยู่คนเดียวได้ จึงเมตตาอยากจะหาวิธีเอาไปเป็นลูกเขย ..แต่ถึงจะโดนรุมมะตุ้มยังไงผมก็เฉยๆนะ ในขณะเดียวกันคนสวยเชิงดอยสุเทพของผม ก็มีคนมาจีบหัวกะไดบ้านไม่แห้ง ใครมาจีบเธอก็จะเล่าให้ฟัง ใครมาสู่ขอเธอก็บ่ายเบี่ยง

: ใครที่คิดว่าสาวเหนือใจง่าย ผมขอเอาคอเป็นประกัน

ใจเธอมั่นคงดั่งขุนเขา

แต่ทียังลงเอยไม่ได้สักกะทีเรื่องมันยาว

ผมนะหอบสินสอดไปขอหลายรอบแล้ว

แต่..วืด วืด วืด และวืด

ตอนนั้น อุ้ย น้าอึ่ง ครูอึ่งก็ไม่รู้ไปอยู่ไหน

จะได้อาศัยพาไปลุยกับว่าที่แม่ยายสักกะหน่อย

อิ อิ

« « Prev : โง่แล้วโงหัวลำบาก

Next : ทุเรียนก้านสั้น » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

11 ความคิดเห็น

  • #1 dd_l ให้ความคิดเห็นเมื่อ 31 พฤษภาคม 2009 เวลา 7:48

    อิอิ..มาขอแก้ข่าว.. อุ้ยค่ะ..อุ้ย..ที่จบวัฒโนทัยพายัพน่ะค่ะ

  • #2 krupu ให้ความคิดเห็นเมื่อ 31 พฤษภาคม 2009 เวลา 8:10

    คึดฮอดพ่อแต๊ๆๆๆๆๆๆ เจ้าาาาาาา
    ใจละลายยังค่ะ พ่อขา 
    (^______^)

    ขอบคุณพ่อมาก ๆ ค่ะ ที่มอบรอยกรุ้มกริ่มที่แสนจะยิ้มอิ่มเอมให้
    ในวันหยุดที่ยังต้องลุยงานแบบนี้
    บันทึกพ่อเหมือนไทม์แมชชีน พาพวกเราย้อน….กลับไปในอดีต
    ให้ได้วิเคราะห์ทางเดินแห่งชีวิตว่าได้าผ่านอะไรมา ได้รับรู้อะไรบ้าง
    ได้เรียนรู้ยังไง ได้เคยรู้สึกแบบไหน เพื่อจะสามารถคาดเดาและวางแผน
    กับอนาคตได้อีกด้วยค่ะ 

    ช่วงนี้หนูอ่านเจ้าเป็นไผของแต่ละท่าน ซ้ำไปซ้ำมาวันละหลาย ๆ รอบ
    รู้สึกเหมือนได้ดูหนังเลยค่ะ  แต่มันน่าตกตะลึงพรึงเพริดตรงที่มันเป็นเรื่องจริง
    เจ้าของมาเอง เปิดฉายฟิล์มม้วนที่ถ่ายทำด้วยตนเองพร้อมคำอธิบาย ตั้งอกตั้งใจ
    ให้ผู้อ่านได้สัมผัสความรู้สึกและการรับรู้นั้น ๆ ได้ใกล้เคียงกับเจ้าของมากที่สุด

    โอย… ใครอ่านเจ้าเป็นไผแล้วบอกไม่ชอบ ไม่ประทับใจ
    หนูจะยอมพาไปเลี้่ยงทุเรียนเมืองนนท์เลยเอ้า
    กั่กๆๆๆๆๆ
    :P

  • #3 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 31 พฤษภาคม 2009 เวลา 9:51

    ตามอ่านเจ้าเป็นไผ ภาคตำนาน ที่ต่อเนื่องมาหลายตอนด้วยความรื่นรมย์อย่างยิ่งยวดเชียวค่ะพ่อ
    แหม …น่ารวมเล่มพิเศษ แถมกับเล่มสองเลยดีมั้ยคะ อิอิอิ

  • #4 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 31 พฤษภาคม 2009 เวลา 10:12

    อ้าว จำผิดอีกแล้ว เห็นรูปอุ้ยแต่งช่างฟ้อนแล้วสะดุ้ง ความหลังนี่หนอ..

  • #5 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 31 พฤษภาคม 2009 เวลา 10:13

    ฝนตกออกไปไหนก็เลอะเทอะ
    ไม่รู้จะทำอะไร มานั่งเขียนเรื่องเลอะเลือนในอดีตให้อ่าน นะปูเอ๊ย

  • #6 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 31 พฤษภาคม 2009 เวลา 10:16

    เบิร์ดอย่ายุนะ
    แต่ถ้าจะอาสาทำหน้าที่ สะสางถูกต้องตามพิธีการพิมพ์ได้
    ก็อย่าช้า ลงมือเลือกแกะตอนที่ลงภาพขาวดำนั่นแหละ
    คาดว่าจะมี 12 ตอน
    ตอนที่อ่านอยู่นี้เหมือนทุเรียนดิบ
    ต่อๆไปก็จะเป็นทุเรียนสุก แล้วก็ทุเรียนเน่า อิอิ

  • #7 sompornp ให้ความคิดเห็นเมื่อ 31 พฤษภาคม 2009 เวลา 12:31

    โอ๊โอว…..
    2508  น้ากำลังลืมตาดูโลก พ่อก็มาสร้างตำนานรักซะแว้ว
    แต่ก็ดีใจที่ในตำนานรักมีโรงเรียนที่น้าได้ไปเรียนด้วย
    โรงเรียนสตรีประจำจังหวัด “วัฒโนทัยพายัพ” ในปัจจุบัน
    เป็นโรงเรียนที่เป็นที่ฝใ่ฝันทุกคนแยากเข้า แต่น้าได้เข้าเพราะแรงฮึด
    เพราะครูที่โรงเรียนเดิมบอกว่าถ้าสอบไม่ได้อย่างเธอฉันก็ไม่รับเข้ามาเรียนที่เดิม
    น้าก็เลยบอกไปว่า ถ้าหนูสอบไม่ได้หนูก็ไม่กลับมาเรียนที่เดิม (ก๊ากส์….พูดทีหลังดังกว่า)
    แล้วก็ดังจริง ๆ เพราะกลับไปบอกครูว่า “หนูไม่กลับมาที่เดิมหรอก เพราะหนูสอบได้แล้ว” อิอิอิ

  • #8 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 31 พฤษภาคม 2009 เวลา 13:49

    วันนี้คุยกับแป๊ด..เรื่องแก็งค์เด็กใต้ อีก 2-3 ปี โตขึ้น พี่ป้าน้าอาคงกระเจิง

  • #9 พี่นิด ให้ความคิดเห็นเมื่อ 31 พฤษภาคม 2009 เวลา 13:53

    08 หนูได้ 2 ขวบจ้ะพ่อ  บันทึกนี้หวานฉ่ำ ชวนติดตามแล๋วคะพ่อครู ค่ะ
    ลูกฮึด ของน้าอึ่งก็สุดยอด ด้วยจ้ะ

  • #10 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 31 พฤษภาคม 2009 เวลา 14:05

    คิคิ ..คนแก่ก็ต้องเล่าเรื่องเก่า

  • #11 จันทรรัตน์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 31 พฤษภาคม 2009 เวลา 20:54

    ตามมาเชียร์…..ขออ่านอีกๆๆๆ

    (เอ๊ะ เพิ่งเห็นว่ารูปอุ๊ยก็สวยดีนะ…อิอิ)


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.83609890937805 sec
Sidebar: 0.065181016921997 sec