ครั้งแรกในชีวิต
เรื่องราวของการเดินทางจากโคราชไปมหาสารคามโดยรถโดยสาร ป. ๑ ที่ได้ที่นั่งพิเศษนำมาเล่าไปแล้วนั้น สถานีแรกที่รถจอดแวะหลังจากเดินทางจากโคราชคือ ที่เมืองพล ทีแรกเมื่อรถเลี้ยวเข้าสู่ถนนที่จะไปยัง สถานี บขส. เมืองพล ก็คิดว่าจะไปจอดที่ บขส. เพื่อให้ผู้โดยสารลงหรือขึ้น รวมทั้งการลงเวลาเหมือนที่เคยเดินทางครั้งอื่น ๆที่ผ่านมา แต่ผิดอีกแล้วครับสำหรับรถของ บริษัทนี้ ก่อนจะถึง ขบส. รถเลี้ยวเข้าถนนอีกเส้นแล้วจอด กระปี๋ประกาศว่า รถจอด ๑๕ นาที เพื่อทำความสะอาดห้องน้ำ (ถ้าได้ยินไม่ผิด) ปรากฏว่าเมื่อผู้โดยสารลงจากรถ ส่วนหนึ่งก็เดินไปเข้าร้านมินิมาร์ท เพื่อซื้อหาของรับประทาน เพราะช่วงนั้นคือเวลาประมาณ เที่ยงเศษ ๆ เป็นร้านมินิมาร์ทที่มีอยู่ร้านเดียวของบริษัทและหน้าร้านก็มีของกินต่าง ๆ ขายอยู่อีกหลายชนิด ผู้โดยสารอีกส่วนหนึ่งก็เดินไปเข้าห้องน้ำที่แยกชายหญิงที่อยู่ติดกันกับมินิมาร์ท โดยต้องจ่ายค่าใช้บริการคนละ ๓ บาท เรียกว่าผูกขาดเบ็ดเสร็จครับ
ในโอกาสแวะพักนี้หลังจากผมจ่ายค่าบริการ ๓ บาทเพื่อเข้าห้องน้ำ (ซึ่งความสะอาดสู้ตามปั้มน้ำมันไม่ได้) แล้ว ก็แวะไปซื้อน้ำดื่มในมินิมาร์ทหนึ่งขวดเล็กราคา ๑๐ บาท และมายืนรอขึ้นรถ และก็บังเอิญเจอเพื่อนร่วมเดินทางที่ได้นั่งชั้นพิเศษด้านหน้าด้วยกันยืนอยู่ใกล้ ๆ กัน เลยคุยกัน ชายคนนั้นเล่าให้ฟังว่า เขาใช้บริการรถ ป. ๑ มาก็หลายบริษัทยังไม่เคยเจอแบบนี้ ซื้อตั๋วเต็มราคาและถามพนักงานขายตั๋วเพื่อยืนยันแล้วว่ามีที่นั่งแน่นอนแล้ว แต่ต้องมานั่งที่พื้นรถแทน เขาเล่าต่อไปว่า เขาได้โทรศัพท์ไปร้องเรียนเรื่องนี้แล้ว (ซึ่งที่จริงช่วงที่เขาโทร ตั้งแต่ช่วงรถออกมาจาก สถานี บขส. โคราชใหม่ ๆ ผมก็พอได้ยินอยู่บ้าง เพราะเขาพูดโทรศัพท์ดังพอสมควร และ คุยค่อนข้างนาน) เขาพูดต่อไปว่าการที่รถไม่ไปจอดที่ บขส. เมืองพล แต่มาจอดรถในที่ของบริษัทเฉพาะแม้จะอยู่ใกล้กับ บขส. ก็ผิดกฏหมาย แถมยังหารายได้ด้วยการขายของต่าง ๆ จากมินิมาร์ทและค่าบริการใช้ห้องน้ำอีกด้วย เขาบอกว่า นี่เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่เจอแบบนี้
ผมก็เล่าให้เขาฟังจากประสบการณ์ที่เคยใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ ป. ๑ มาหลายสายว่า เคยเจอแบบนี้มาก่อนแล้ว เรื่องบริษัทมีที่จอดรถของตนเองเพื่อแวะให้ผู้โดยสารได้ใช้ห้องน้ำและซื้ออาหารรับประทานหรือซื้อของฝาก โดยมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน รวมทั้งรถ ป. ๒ บางสายก็มีที่จอดรถของตนเองเช่นเดียวกัน ตามความคิดของผมคิดว่าทาง บริษัทขนส่ง (บขส.) คงทราบเรื่องนี้ด้วย แต่เรื่องการใช้ห้องน้ำที่ต้องเสียค่าบริการครั้งละ ๓ บาทนี่ ผมก็เพิ่งเจอของบริษัทนี้เป็นบริษัทแรกครับ บริษัทอื่น ๆ จะให้ใช้บริการฟรี เช่นเดียวกับในสถานีของ บขส. ส่วนใหญ่ที่เคยเห็นครับ
สำหรับเพื่อนร่วมเดินทางชั้นพิเศษอีกสองคนที่นั่งต่อจากผมไปซึ่งเป็นวัยรุ่นครับ ดูเหมือนเขาทั้งสองจะเดินทางด้วยอารมณ์สงบมากครับ ต่างจากชายคนที่เล่าข้างบนมากที่โทรศัพท์ฟ้องด้วยอารมณ์ที่ไม่ดี วัยรุ่นคนหนึ่งคุยโทรศัพท์กับเพื่อนด้วยความสนุกสนาน แต่มีสิ่งที่เหมือนกันอย่างหนึ่งก็คือการใช้โทรศัพท์นานมาก ตั้งแต่รถเริ่มออกจาก บขส. โคราช จนเกือบถึง อำเภอพล ซึ่งนานเกินกว่า ๑ ชั่วโมงครับ สำหรับวัยรุ่นอีกคนนั่งนิ่งมากครับ สังเกตเห็นมีหูฟังเสียบอยู่ เข้าใจว่าคงมีความสุขกับการฟังเพลงหรืออะไรสักอย่างผ่านการใช้หูฟังอย่างสงบนิ่ง….ก็เป็นการได้เรียนรู้การใช้ชีวิตที่แตกต่างกันในระหว่างเดินทางครับ
เผลอแป๊บเดียว หลังจากผ่านบริเวณขายมันแกว ข้างทางของ อ. บรบือ ก็เลี้ยวซ้ายสู่ อ. เมือง จังหวัดมหาสารคาม เราก็เดินทางมาถึงสี่แยก แก่งเลินจาน ก่อนถึงตลาด อ. เมือง มหาสารคาม ถ้าต้องการเดินทางไปยัง มหาวิทยาลัยมหาสารคามหรือ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม โดยไม่ต้องผ่านเมือง ก็ให้เลี้ยวซ้ายตามป้ายที่ชี้บอกที่สี่แยกนี้ครับ และสำหรับรถโดยสารของเราก็ตรงไปจากสี่แยกนี้ไม่ไกล เราก็เดินทางถึง บขส. มหาสารคาม ในเวลาประมาณบ่ายสองโมงครับ หลังจากนั้นผมก็เดินทางต่อไปยัง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.ใหม่) ด้วยรถประจำตำแหน่ง (หมายเลข 4660) ที่จะจอดรอรับอยู่ที่บริเวณใกล้ ๆ ตู้โทรศัพท์สาธารณะดังภาพข้างล่าง….เป็นการจบรายงานการเดินทางโคราช-มมส. คร๊าบ…อิอิ
« « Prev : พลิกวิกฤติเป็นโอกาส
Next : วันนั้นไม่เหมือนวันนี้ » »
6 ความคิดเห็น
โส น่า น่า โอ้ยไม่ใช่ โถน่าสงสาร ถือว่ากำไรชีวิต ฮาๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
วันนี้เรียนวิถีชีวิตหมีครับ อยู่บ้านเดียวกัน คุยกันผ่านบล็อก แว๊บบบบ……
อยู่คนละถ้ำครับ….อิอิ….เหมือนตัวที่ เชียงใหม่….555
ตามอ่านมาตั้งแต่แรกออกเดินทางครับ แต่ไม่ได้ทิ้งร่องรอยไว้
นึกถึงตอนนั่งรถทัวร์มาจากหาดใหญ่ไม่ถึงกับขนาดของท่านอาจารย์ แต่จากกระบี่มาถึงภูเก็ตแอร์ไม่ทำงาน จนเข้ามาถึงเขตภูเก็ต ผู้โดยสารที่อยู่ใกล้ๆไปบอกคนขับนึกว่าคนขับปิดแอร์ แต่ปรากฎว่าแอร์เสีย แต่วัยรุ่นหญิงที่นั่งข้างหลังโทรศัพท์ไปหาเพื่อนผู้ขายตอนประมาณตีสอง พูดเสียงดังว่า “ร้อนฉิบ..วย รถแอร์วีไอพี เอี้ย..อะไร รู้งี้กูนั่งรถทัวร์ธรรมดายังเย็นกว่าอีก…@#!%$&*” โดยไม่สนใจผู้โดยสารคนอื่น นึกในใจว่าประเทศชาติจะเป็นอย่างไรถ้าสังคมเรามีแต่คนแบบนี้
ตามมาบ่นกับอาจารย์ครับ อิอิ