สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๔

โดย Panda เมื่อ 31 ธันวาคม 2010 เวลา 21:34 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา, สุขภาพ การแพทย์ และ สุขภาวะ #
อ่าน: 2294

     ในโอกาสขึ้นปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๕๔ นี้ขออาราธนาสิ่งศักดิ์ทั้งหลายในโลก รวมทั้งดวงวิญญาณของท่านท้าวสุรนารีหรือย่าโมของชาวโคราช จงดลบันดาลให้ทุกท่าน จงมีความสุขในปีกระต่ายนี้ทุกท่านเทอญ

       เมื่อถึงเทศกาลปีใหม่ในแต่ละปี ประชาชนต่างก็จะมีกิจกรรมเกี่ยวกับการฉลองและส่งความสุขให้แก่กันในรูปแบบต่าง ๆ  รวมทั้งการส่งบัตรอวยพรปีใหม่ที่เรียกกันว่า บัตร ส.ค.ส. ให้แก่กันด้วย  บัตร ส.ค.ส. แบบหนึ่งที่เป็นที่นิยมก็คือ รูปถ่ายหรือรูปวาด ของสถานที่ ที่ได้ไปอยู่หรือไปเยี่ยมที่ประทับใจ สำหรับลูกช้างหรือนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ในรุ่นแรกในปี พ.ศ. ๒๕๐๗ เมื่อ ๔๖ ปีที่แล้วก็เช่นเดียวกัน ภาพตึกและสถานที่สำคัญของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยในส่วนภูมิภาคแห่งแรกของประเทศไทย จึงถูกใช้เป็นบัตร ส.ค.ส. เช่นเดียวกัน

 

       ภาพ ส.ค.ส. สำหรับปี ๒๕๐๘ สถานที่สำคัญใน มช.  ที่ถ่ายและจัดทำทำโดย ประธานชุมนุมถ่ายรูปของนักศึกษารุ่นแรก (นายสุรศักดิ์ เหล่าสุวรรณ) ที่ผมยังมีเก็บไว้แผ่นหนึ่ง จะประกอบด้วยรูปของ ศาลาธรรม ซึ่งเป็นอาคาร ๒ ชั้น ทรงไทย ตั้งอยู่ด้านหน้ามหาวิทยาลัย ตัวอาคารประกอบด้วยห้องโถงกว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๒๐ เมตร สร้างเสร็จเมื่อวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๐๗ ต่อมาได้มีการต่อเติมตัวอาคารด้านหลังและทำซุ้มเพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปซึ่งเป็นพระพุทธรูปประจำมหาวิทยาลัย ในระยะแรกศาลาธรรมเป็นสถานที่จัดพิธีไหว้ครูของนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อศาลาอ่างแก้วสร้างเสร็จจึงได้ประกอบพิธีพระราชทานปริญญาบัตรและพิธีไหว้ครู ณ ศาลาอ่างแก้ว มหาวิทยาลัยจึงใช้ ศาลาธรรมเป็นสถานที่เปลี่ยนฉลองพระองค์ และประทับพักพระอิริยาบถของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และพระบรมวงศานุวงศ์ในคราวเสด็จพระราชดำเนินมาพระราชทานปริญญาบัตร  บริเวณด้านหน้าของศาลาธรรม  จะเป็นที่ตั้งของ ศาลพระภูมิ ที่ได้จัดตั้งขึ้น เมื่อวันอังคารที่ ๒๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๗ ศาลพระภูมิของมหาวิทยาลัยเป็นเสมือนศูนย์รวมจิตใจของนักศึกษามหาวิทยาเชียงใหม่
       อีกบริเวณหนึ่งที่เป็นที่รวมของชาว มช. ก็คือ บริเวณอ่างแก้ว ที่เป็นอ่างเก็บน้ำของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่  ซึ่งนอกจากจะใช้กักเก็บน้ำเพื่อใช้ทำน้ำประปาเพื่อการใช้สอยภายในมหาวิทยาลัยแล้วยังเป็นสถานที่สวยงามและเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของลูกช้าง มช. และผู้คนรอบ ๆ อีกด้วย

      สำหรับนักศึกษาโดยเฉพาะนักศึกษารุ่นแรก ตึกที่พวกเราใช้เวลาอยู่มากที่สุดก็คือตึกที่เรียกว่า วิทยาลัยที่ ๑ หรือ หอพักนักศึกษานั่นเอง ตึกนี้เป็นอาคาร ๓ ชั้น ชั้นล่างเป็นสำนักงาน ห้องทำกิจกรรม และห้องอาหาร ที่เรียกกันว่า คาเฟตทีเรีย (Cafeteria) ในปีการศึกษาแรกเนื่องจากมี หอพักหลังเดียว นักศึกษาทั้งหมดจึงพักอยู่ที่นี่ทั้งหมด โดยชั้น ๒ เป็นห้องพักสำหรับนักศึกษาชาย ส่วนชั้น ๓ เป็นห้องพักสำหรับนักศึกษาหญิง  ห้องพักจะมีด้วยกันสองแบบ คือห้องพักแบบอยู่ ๒ คน กับ แบบอยู๋ ๓ คน ต่อห้อง ที่ปีกหนึ่งของแต่ละชั้นจะเป็นห้องที่เรียกว่า Study Room ไว้สำหรับให้นักศึกษาที่ต้องการมาศึกษาและทำการบ้านร่วมกัน ส่วนอีกปีกหนึ่งจะเป็นห้องสำหรับการซักผ้า นอกจากนั้นยังมีห้องสำหรับการออกกำลังและห้องกีฬา อยู่ที่ชั้นใต้ดินอีกด้วย ตึกวิทยาลัยที่ ๑ นี้จึงอาจจะเรียกได้ว่าเป็นตึกที่นักศึกษา มช. รุ่นแรกจดจำได้ดีที่สุด เมื่อขึ้นปีที่ ๒ วิทยาลัยที่ ๒ ที่สร้างอยู่ติดกับ อ่างแก้ว จึงสร้างเสร็จ ใช้เป็นหอพักสำหรับนักศึกษาหญิง ด้วยเหตุนี้ วิทยาลัยที่ ๒ นี้จึงถูกเรียกอีกอย่างว่า “หออ่างแก้ว”  ดังภาพข้างล่าง

 

       นอกจากการใช้รูปภาพเป็นบัตรอวยพรปีใหม่แล้ว หลายท่านยังนิยมใช้คำสอน คำกลอน หรือ คติต่าง ๆ มอบให้แทนคำอวยพร อย่างเช่นกลอน ส.ค.ส. ปีใหม่ ของท่านพุทธทาสดังต่อไปนี้ที่ใช้ได้ตลอด เป็นต้น 

ส.ค.ส. 

ปีใหม่มี สำหรับดี กว่าปีเก่า 

พืชมีเหง้า ครบปี ทวีหัว 

ทั้งขนาด และจำนวน ล้วนเกินตัว

แต่คนชั่ว กลับถอยถด ดีลดลง

คือปีหน้า เลวลงกว่า ในปีนี้

ไม่กี่ปี จะหมดดี เพราะมีหลง

รู้สึกตัว ละชั่ว  เพราะเห็นตรง

ดีจะคง ดีขึ้นไป ชื่นใจเอย

 

        เนื่องจากเป็น สว. แล้ว วันนี้นอกจาก ส.ค.ส. แล้วเลยขอถือโอกาส  นำ หลักการปฏิบัติตนของผู้สูงอายุเพื่อการมีสุขภาพดี ด้วย 5อ  ตามคู่มือการดูแลส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ ของสำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข  มาบอกกล่าวกันคือ

 

          1. อาหาร “กินอาหารให้หลากหลาย ได้สัดส่วนเพียงพออิ่ม”

          2. ออกกำลังกาย “ออกกำลังกายทุกส่วนสัด กระตุ้นจังหวะการเต้นของหัวใจ”

          3. อารมณ์ “อารมณ์รื่นเริงยินดี ชีวีสดใสด้วยรอยยิ้ม”

          4. อดิเรก “สร้างสรรค์งานอดิเรก เพิ่มคุณค่า เกื้อกูลสังคม”

          5. อนามัย “อนามัยดี ชีวีมีสุข นำพาอายุยืนยาว”

 

   และขอแถมด้วย  ”แผนที่ชีวิต สู่วัยร่มเย็น” ที่ท่านพุทธทาส บรรยายไว้ตั้งแต่เมื่อ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๔  ที่หน้ากุฏิสวนโมกข์ ไชยา แก่นักศึกษาและผู้สูงอายุ  เพื่อประโยชน์สุขของทุกท่านด้วย

ท่านพุทธทาส กำหนดชีวิตมนุษย์ เป็น 4 วัยคือ วัยเรียน วัยรัก วัยรวย และวัยร่มเย็น

        มนุษย์วัยเรียน ต้องเรียน พุทธิศึกษา วิทยาการทันโลก เรียนจริยศึกษา ปฏิบัติ มนุษยธรรม คุณธรรม วัฒนธรรมและศาสนา เรียนพลศึกษา ปฏิบัติเพื่อสุขภาพกาย สุขภาพจิต และการอยู่ในสังคมด้วยความสงบเย็น และเรียนอาชีวศึกษา เพื่อการดำรงชีวิตด้วยสัมมาอาชีวะ

        มนุษย์วัยรัก ต้องรักตนเอง และปฏิบัติตนให้ถูกต้องโดยธรรม ต้องรักครอบครัว ดำรงครอบครัวให้เป็นปึกแผ่น มั่นคง และก้าวหน้า ต้องรักชุมชน จรรโลงสังคม ไม่เป็นคนรกโลก และต้องรักทุชีวิตในโลก เขาเหล่านั้นคือเพื่อน เกิด แก่ เจ็บ ตาย

        มนุษย์วัยรวย ต้องสร้างตนเอง ทำความดีความงามให้ปรากฏ ต้องสร้างครอบครัว นำครอบครัว ลูก หลาน ให้ชีวิตอยู่ในธรรม ต้องสร้างสั่งสมบารมี คุณความดี มีบทบาทในสังคม และต้องสร้างสิ่งดีงามไว้ในโลก คือตอบแทนบุญคุณโลก

        มนุษย์วัยร่มเย็น  พอ พอใจ เพื่อจักเป็นอิสระชน พ้นแล้วโว้ย เพื่อจักได้กินบุญ (กรรม) ที่ได้สั่งสมมา เพื่อจักได้เกื้อกูลสังคม ด้วยพรหมวิหาร เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา และที่สุดคือ ได้เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้โลก ให้ลูก ให้หลาน นิรันดรฯ”

       แผนที่ชีวิตนี้  คิดว่าใช้ได้สำหรับทุกคน ไม่ว่าท่านจะมีอายุเท่าไหร่  อายุไม่ใช่เป็นตัวบ่งบอกว่าท่านกำลังอยู่ในวัยไหนตามแผนชีวิตข้างบนนะ  เพียงแต่มีความสัมพันธ์กันบ้างเท่านั้นตามวัยของทางร่างกาย ที่ทั่วไปแบ่งกันเป็น วัยเด็ก วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ และ วัยชรา

      ถ้าท่านเรียนรู้และปฏิบัติจากวัยเรียน วัยรัก วัยรวย จนเข้าสู่วัยร่มเย็นได้ ก็เชื่อได้ว่า ท่านจักเป็น อิสระชน พ้นแล้วโว้ยอย่างที่ท่านพุทธทาสแนะนำไว้อย่างแน่นอน

        และในโอกาสนี้ ขอแสดงความยินดีกับชาว มช. โคราช ทุกท่าน ที่ชมรมศิษย์เก่า มช. โคราช มีความเจริญรุ่งเรืองและเป็นปึกแผ่นขึ้น จนสามารถพัฒนามาเป็น สมาคมศิษย์เก่า มช. โคราช เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ นี้

« « Prev : อาม่าเล่าเรื่อง (๑๘) จองบ้านให้อาม่า

Next : เรียนจากปฏิทิน ๒๕๕๔ : ทรงพระเจริญ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

7 ความคิดเห็น

  • #1 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 31 ธันวาคม 2010 เวลา 23:51

    สวัสดีปีใหม่ของ อ. แพนด้านี่หลากหลายรส หลากหลายอารมณ์จริงๆ อิอิ ขอบคุณหลาย …….

  • #2 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 มกราคม 2011 เวลา 1:10

    เปิดศักรราชปีใหม่ด้วยการอ่านบันทึกที่ยอดเยี่ยมมากของพระจารย์ แพนด้า
    เป็นการรับความสุขที่หาได้ในบล็อกลานปัญญานี่เอง
    ขอคาระ 3 จอก
    ขอบารมีเง๊กเซียนฮ่องเต้ดลบันดาลให้พระอาจารย์ให้อายุมั่นขวัญยืนเป็นเสาหลักให้กับลานปัญญา
    ไปอีกหมื่นปี

  • #3 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 มกราคม 2011 เวลา 5:32

    ก๊อบข้างบนค่ะพี่แพนด้า

    เป็นความงามของสคส.อีกรูปแบบหนึ่งจริงๆค่ะ กอดข้ามฟ้าไปด้วยความเบิกบานยิ่งนะค้า

  • #4 Panda ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 มกราคม 2011 เวลา 13:41
    สวัสดีปีกระต่าย คุณหมอจอมป่วน และขอบคุณหลายเด้อครับเด้อ ที่ชม (คิดเอาเอง)…..อิอิ
  • #5 Panda ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 มกราคม 2011 เวลา 13:44
    คารวะ พ่อครูฯ ๔ จอก และ ขออาราธนาสิ่งศักดิ์ทั้งหลายในโลก รวมทั้งดวงวิญญาณของท่านท้าวสุรนารีหรือย่าโมของชาวโคราช จงดลบันดาลให้ท่านและครอบครัว จงมีความสุขในปีกระต่ายนี้ครับ
  • #6 Panda ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 มกราคม 2011 เวลา 13:46
    กอดข้ามฟ้ากลับไปที่เชียงรายเป็น สามเท่า ครับ น้องเบิร์ด เมื่อไหร่จะได้มีโอกาสกอดตัวจริงอีก….5555
  • #7 pukaorchid ให้ความคิดเห็นเมื่อ 4 มกราคม 2011 เวลา 19:14

    สวัสดีปีใหม่ครับ อาจารย์ มีความสุขมาก ๆ สุขภาพแข็งแรง ครับ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.77074289321899 sec
Sidebar: 0.20851016044617 sec