108 วิธีช่วยลดโลกร้อน (6) ใช้จักรยานแทนรถยนต์มากขึ้น
เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาลูก ๆ กลับมาเยี่ยมบ้าน เลยถือโอกาสสอบถามเรื่องรถจักรยานสองล้อของลูกที่เก็บอยู่ในห้องเก็บของว่า สามารถปรับอานและแฮนด์รถได้อย่างไร ? จะได้เอาออกมาขี่ออกกำลังและขี่ไปธุระใกล้ ๆ บ้าน เช่นไปซื้อของตลาดนัด ไปซื้ออาหารกลางวัน หรือต่อไปอาจจะใช้สำหรับออกกำลังตามที่ตั้งใจจะทำให้บ่อยขึ้น ลูก ๆ ดีใจรีบช่วยกันเอาออกมาเช็ดฝุ่นทำความสะอาด การปรับอานรถทำได้ไม่ยากเพราะมีมือจับเป็นคันโยกอยู่ใต้อานชัดเจน แต่การปรับแฮนด์ต่างไม่แน่ใจ ลองขยับแหวนตรงคอให้หลวมแล้วลองขยับแฮนด์ดู ก็พบว่าไม่สามารถขยัยได้ จึงคิดกันว่าน่าจะต้องปรับตรงหัวน๊อตแบบหกเหลี่ยมที่ตรงแกนกลางแฮนด์ จากการไปค้นหาประแจหกเหลี่ยมในกล่องเครื่องมือก็พบมีตัวที่มีขนาดพอดีที่จะใช้ได้อยู่ จึงลองนำมาเพื่อจะปรับดู แต่พยายามอยู่หลายครั้งก็ไม่สามารถขยับได้ และไม่แนใจว่าต้องหมุนไปในทิศทางใดแน่ จึงมีข้อเสนอปว่า น่าจะเอาไปให้ร้านซ่อมจักรยานยนต์ที่อยู้ใกล้บ้านช่วยทำให้ เมื่อเอาออกไปให้ช่างดูเขาให้เด็กที่ร้านจัดการให้อย่างง่ายดาย โดยการคลายหัวน๊อตหกเหลี่ยมที่ตรงแกนกลางแฮนด์ตามที่เราคาดหมายนั้นถูกต้องแล้ว ที่เราทำไม่ได้เพราะเราแรงไม่พอและไม่แน่ใจว่าหมุนไปทางใดจึงจะถูกต้อง จึงไม่กล้าออกแรงมาก ๆ สรุปว่าการคลายน๊อตจะต้องหมุนทวนเข็มนาฬิกาครับ นอกจากนั้นยังมีทริ๊กหรือจุดสำคัญอีกอย่างที่เราอาจจะขยับแฮนด์ไม่ได้แม้คลายหัวน๊อตแล้ว นั่นก็คือเมื่อคลายหัวน๊อตให้หลวมแล้วจะต้องใช้ฆ้อนเคาะเบา ๆ ที่หัวน๊อตให้ต่ำลงก่อนจึงจะสามารถขยับแฮนด์รถให้ขึ้นขึ้นหรือต่ำลงได้ ก็จะเป็นทริ๊กหรือวิธีทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ถ้าเราไม่รู้ก็อาจจะทำให้ไม่สามารถทำการปรับระดับแฮนด์รถจักรยานได้อย่างถูกต้องครับ….ก็ถือว่าได้เรียนรู้เรื่องวิธีการปรับระดับแฮนด์รถจักรยาน เป็นเรื่องง่าย ๆ สำหรับคนที่รู้ แต่สำหรับคนที่ไม่รู้ก็อาจสร้างปัญหาได้เหมือนกัน โชคดีที่มีร้านซ่อมรถจักรยานยนต์อยู่ใกล้ ๆ บ้าน แม้ว่าบางครั้งเขาจะสร้างเสียงรบกวนเราบ้าง แต่ในบางโอกาสอย่างเช่นกรณีที่เล่ามา เขาก็สามารถช่วยเราได้เหมือนกัน…..ขอบคุณมากครับสำหรับความช่วยเหลือต่าง ๆ
การพยายามใช้จักรยานแทนการใช้จักรยานยนต์หรือการใช้รถยนต์ ให้มากขึ้นก็จะการประหยัดการใช้พลังลง ก็จัดได้ว่าเป็นวิธีช่วยลดโลกร้อนได้ อีกวิธีหนึ่งนะครับ ที่ผมพยายามจะทำให้มากขึ้นเรื่อย ๆ
« « Prev : วันแม่ลูก
2 ความคิดเห็น
อยากเห็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัย ใช้จักรยาน
แต่เยาวชนยุคนี้คิดไม่เหมือนเรา
ในหมู่บ้าน/ชุมชนต่างจังหวัดยังสะดวกใช้จักรยาย แต่ก็ไม่เป็นที่นิยม
มองเรื่องความสะบาย มากกว่าความเหมาะสม/สมประโยชน์
ความคิดของคนต่างยุคต่างสมัยก็มักจะแตกต่างกัน ตามพื้นฐานการเรียนรู้และสิ่งแวดล้อมที่ตนเองพบมา
คนส่วนใหญ่จึงมักจะถูกเหนี่ยวนำโดยสิ่งแวดล้อม เรื่องความสะดวกสบายก็เป็นสิ่งธรรมดาที่แทบทุกคนชอบครับ
แม้แต่เรื่องจักรยานก็จะเห็นว่ามีการเพิ่มความสะดวกสบายขึ้นตามยุคตามสมัยเหมือนกัน
ในรูปข้างบนจะเป็นจักรยานที่ซื้อในช่วงเวลาที่ต่างกันประมาณ 25 ปี
คันที่อยู่ด้านหน้า เป็นรถที่ผมซื้อให้ลูกสมัยยังเรียนอยู่ชั้นอนุบาล ตอนแรกมีล้อเสริมเล็ก ๆ อีกสองล้อ เพื่อกันล้มในช่วงหัดขี่ เป็นรุ่นที่เรียกว่า Panther เพราะช่วงนั้นหนังการ์ตูนชื่อ Pink Panther กำลังดัง ไม่รู้ว่าเป็นต้นกำเนิดของจักรยานเสือภูเขาในปัจจุบันหรือเปล่า ? ตอนนั้นซื้อให้ลูกขี่ก็ถือว่าเป็นรุ่นใหม่สุด ๆ ในตอนนั้น โครงเนโลหะผสมอลูมิเนี่ยม น้ำหนักเบา ไม่เป็นสนิม จึงคงทนมาถึงทุกวันนี้ แต่ก็เป็นระบบไม่มีเกียร์ เพื่อช่วยผ่อนแรงตอนขึ้นเนิน ไม่มีระบบโช๊คอัพ เพื่อลดแรงสั่นสะเทือน ซึ่งต่างจากคันที่อยู่ด้านหลัง ที่ลูกซื้อเองในตอนที่เรียนจบปริญญาตรีและทำงานแล้ว จะเห็นว่ามีความสะดวกเพิ่มขึ้นหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องระบบเกียร์มีถึง 5 ระดับ อานที่นั่งมีระบบโช๊คอัพ และแม้แต่ล้อหน้าก็มีโช๊คเช่นเดียวกัน เพื่อให้ขี่ได้นิ่มขึ้นเป็นต้น เป็นจักรยานชื่อดังในยุคเมื่อสามสี่ปีก่อน