ความมั่นคงทางอาหาร 5
ในฐานะเป็นวุฒิอาสาธนาคารสมอง จ. นครราชสีมา อาม่าได้พยายามช่วยเหลืองานวุฒิอาสาธนาคารสมองมาตลอดหนึ่งปีเต็มๆ
ในปีแรกที่เข้ามาเป็นวุฒิอาสาฯ ยังมองไม่เห็นทิศทางการทำงานที่ชัดเจน อย่ากระนั้นเลย อาม่ามองเห็นปัญหาช่องว่างด้าน เทคโนโลยี ไอซีที ก่อให้เกิดปัญหาความไม่เข้าใจลูกหลาน พ่อแม่-ลูก ปู่ย่า-ตายาย กับลูกหลานนับวันยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่ม และอาชกรรมที่ตามมาติดๆ กับเทคโนโลยีฯ สมัยๆ จึงหาทางลดช่องว่าง ด้วยการทำโครงการ “รู้ทันชีวิต ในยุคไอที” เพื่อเป็นการฝึกอบรมปฏิบัติการ การใช้คอมพิวเตอร์ และให้รู้ทันเทคโนโลยี ไอซีที และสามารถใช้เทคโนโลยี ได้อย่างมีความสุข เพื่อปรับตัวลดช่องว่างความรู้ความเข้าใจเรื่องนี้ จะได้พูดคุยกับลูกหลานรู้เรื่องในยุคนี้ นอกจากนั้นยังสามารถช่วยลูกหลานค้นหาข้อมูล ช่วยงานกราฟฟิค ทำรูปได้อย่างสวยงาม ช่วยด้านการเรียนของลูกหลาน สร้างสัมพันธภาพที่ดี สามารถติดต่อพูดคุยกับลูกหลานที่อยู่ห่างไกล โดยมีเทคโนโลยีเป็นสื่อกลาง
ในการทำโครงการนี้ อาม่า และหมียักษ์เหนื่อยมากค่ะขอบอก การฝึกอบรมผู้สูงอายุให้ใช้คอมพิวเตอร์ อย่างน้อยที่สุด ใช้อินเตอร์เน็ตได้ ใช้อีเมล์เป็น ค้นหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตได้ ทำงานกราฟฟิคทำรูปเป็น เขียนบล็อกได้ สมัครใช้โซเชี่ยนเน็ตเวิร์คเป็น มันเกินความคาดหมาย เพราะผู้สูงวัยสนใจและขยัยมาก ไม่ยอมเลิกแม้หมดเวลา จนแลปคอมพิวเตอร์ปิดจึงยอมกลับ ในที่สุดก็ประสบความสำเร็จ สามารถจัดฝึกอบรมได้สองรุ่น รวม 47 ท่าน เมื่อปลายเมษายน- กลางพฤษภาคม 2553 ตอนนี้หลายคนเป็นบล็อกเกอร์ที่โด่งดัง หลายคนอยู่ในโซเชี่ยนเน็ตเวิร์ค หลายคนไปพัฒนาต่อยอดอีกมากมาย ผู้สูงวัยไม่กลัวคอมพิวเตอร์แล้ว แต่สิ่งที่เกินความคาดหมาย คือปู่ย่าตายายเป็นเพื่อนกับลูกหลานได้อย่างเหลือเชื่อค่ะ
ในปีที่สอง(2554) อาม่ามีตั้งใจทำโครงการสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับชุมชน 4 ชุมชน ใน4 อำเภอของ จังหวัด นครราชสีมา ชุมชนแรกที่อาม่าทำโครงการนี้ให้คือ บ้านใหม่อุดม ต.บ้านใหม่ อ.หนองบุญมาก ซึ่งมีผู้นำชุมชนที่เข้มแข็ง เป็นหญิงแกร่ง ทำงานแบบจิตอาสาเป็นที่ประทับใจอาม่ามาก คุณจินดา บุษสระเกศ ที่อาม่าตั้งให้เป็นด็อกเตอร์ในดวงใจอาม่า ทำงานรวดเร็ว มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล เข้าใจกลไกการทำงาน ทั้งของภาครัฐ ภาคเอกชน ได้ใจคนในชุมชน เพราะการทำงานที่ไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย พัฒนาชุมชนจนเป็นที่กล่าวขานทั้งในระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ นอกจากทำงานเก่งแล้วยังนำเสนองานได้อย่างไม่มีที่ติ หาไม่ได้ง่ายๆ เลยค่ะ
วันนี้อาม่ามอบพันธุ์ข้าวหอมมะลิแดง ให้คุณจินดาไปสองถุง เพื่อนำไปปลูกขยายเมล็ดพันธุ์ข้าว ให้เพียงพอต่อการทำนาข้าวพันธุ์ที่มีคุณภาพสูงในชุมชน พร้อมทั้งจัดฝึกอบรม การใช้แหนแดงและปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ ในระบบข้าวต้นเดี่ยวแบบประณีต ( Azolla & BOF - System of Rice Tntensification, SRI) โดยทีมงานจากเทคโนธานี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ที่มี ศ.เกียรติคุณ ดร.นันทกร บุญเกิด เป็นผู้ลงมาฝึกอบรมให้ถึงพื้นที่เลยค่ะ
จัดการฝึกอบรมที่ อบต.บ้านใหม่อุดม ในวันที่ 9 กพ. 2554 เวลา 9.00 น.เป็นต้นไป หลังการฝึกอบรมจะลงพื้นที่ เพื่อเลือกแปลงปลูก และปฏิบัติการทันที่ค่ะ วันนี้วุฒิอาสาฯ ประมาณ 15 ท่าน ขอสมัครเข้ารับการฝึกอบรมในครั้งนี้ด้วยค่ะ
นอกจากอม่าให้ข้าว (คาร์โบไฮเดรต) ที่เปี่ยมด้วยคุณค่าทางโภชนาการแล้วยังเสริม โปรตีน จากถั่วไปด้วยค่ะ คือถั่วครกค่ะโดยมอบ เมล็ดถั่วครกไปปลูกเพื่อขยายพันธุ์ให้พอเพียงต่อชุมชน เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารค่ะ
สรุปข้อดีของการปลูกข้าวต้นเดี่ยวร่วมกับการใช้แหนแดงและปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ
1.ใช้เมล็ดพันธุ์น้อย คือ อัตรา 1 กิโลกรัม/ไร่
2.สามารถลดต้นทุนการผลิตจากการใช้ปุ๋ยเคมี โดยการใช้แหนแดงแทน
3.สามารถเพิ่มปริมาณอินทรีย์วัตถุในดินจากการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ และแหนแดง
4.เพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ดินที่มีประโยชน์โดยเฉพาะจุลินทรีย์กลุ่มส่งเสริมการเจริญเติบโต
5.ประหยัดน้ำเพราะใช้น้ำปริมาณน้อยในการเพาะปลูก(ระดับน้ำลึก 2-5 เซนติเมตร)
6.สามารถกำจัดวัชพืชได้ง่ายและทั่วถึงในระหว่างแถวปลูก และลดปริมาณวัชพืชจากการใช้แหนแดง
7.อายุการเก็บเกี่ยวเร็วกว่าปกติ 10-15 วัน
8.จำนวนการแตกกอ(รวง/กอ) สูงกว่าวิธีปรกติ 2-3 เท่า
9.เปอร์เซนต์การสูญเสียจากข้าวลีบน้อยกว่าวิธีการผลิตแบบปรกติ
10.ผลผลิตข้าวเพิ่มขึ้น 50-70%
กรณีมีวัชพืชเกิดขึ้นในแปลงให้รีบกำจัดภายใน 15วัน หลังปักดำข้าว
(ข้อมูลจากคลินิคเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี)