อยู่แฟลตก็สุขได้…ง่ายๆ…เรียบๆ

9668 ความคิดเห็น โดย มิสเตอร์สะตอฯ เมื่อ 26 กรกฏาคม 2010 เวลา 10:03 (เช้า) ในหมวดหมู่ Uncategorized, การเกษตร, ธรรมชาติ, แนวคิด ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 90836

สวัสดีครับทุกท่าน

สบายดีกันนะครับ วันนี้หยุดวันสำคัญทางพุทธศาสนาครับ ไม่ได้กลับบ้านครับเพราะต้องเร่งจัดการงานที่ผ่านมาแล้วและกำลังจะเกิดขึ้นต่อไปครับ แต่ก็ขอพักสักหน่อยด้วยการเขียนบันทึกสักนิดครับ ช่วงนี้สบายใจกับระเบียงป่า ให้ระเบียงพึ่งพาตนเอง ใส่ปุ๋ยให้ตนเอง พึ่งพาและเลื้อยเองตามธรรมชาติ นกทำรัง มาขับร้องเพลงในตอนเช้าๆ เพื่อปลุกให้ตื่นก่อนหกโมงเช้าครับ ใบไม้ตกลงมาก็เก็บๆ ไปใส่ไว้ในกระถางต่อให้เค้าย่อยของเค้าเป็นแบบนั้น ผมสนับสนุนในช่วงนี้เฉพาะระบบน้ำยี่ห้อแฮนดี้แมนซึ่งก็ทำงานได้ดีมากเลยครับ มีเมล็ดพืชบางชนิดไม่ได้รับเชิญก็ขึ้นอีกหลายต้น ก็ปล่อยให้งอกอย่างนั้นละครับ เพราะคำว่าป่าเราคงไม่ต้องไปถอนหรือถางเค้า เก็บกินเอาเฉพาะที่มี ช่วงนี้ต้นแปะกำปึง เค้าบอกว่าบำรุงหัวใจ ก็ใช้แก้ขัดได้ละครับเวลาไม่มีผักเหนาะครับ ผมเคยนิยามไว้ว่า ผักสวนครัว ระเบียงกินได้ มาถึงวันนี้ระเบียงก็กินได้ครับ มีขนุนด้วยสองต้นครับ แต่คงไว้ที่ระเบียงไม่ได้เว้นแต่จะทำระบบกระถางใหม่ครับ เพิ่งถอยโมกมาใหม่สองต้น ถอยมาได้ก็ตั้งไว้ปากทางเข้าประตูบ้านแต่แสงน้อย พร้อมกับไม่อยู่ไปภูเก็ตห้าวัน ก็เลยยกไปไว้ที่ระเบียง อยู่ได้สามวันเจ้าของต้นไม้ตัวจริงก็มาทำรังทันที เค้าทำแบบไหนไม่แน่ใจเร็วจริงๆ ไว้โอกาสหน้าผมจะตั้งกล้องวีดีโอไว้ ทำสารคดีนกที่ระเบียง อิๆๆๆ และซื้อมะกรูดมาสองต้น และส้มจี๊ดหนึ่งต้นครับ

อ่านต่อ »


The Cherry TeamWork Algorithm

อ่าน: 8223

สวัสดีครับทุกท่านครับ

เมื่อวานไปทดสอบสมรรถภาพความเป็นลิง…. เลยได้อัลกอริทึมใหม่มาอีกชื่อนึงครับ

ท้ายสุดได้มาหนึ่งกะละมังครับ ทิ้งให้ลืมต้นสักหน่อยเดี๋ยวหวานกว่านี้ครับ เลยเอามาแบ่งๆ ชาวลานปัญญากันนะครับ

สิ่งที่เรียนรู้ อ่านต่อ »


ปรัชญาในนา…หน้าแล้ง…

713 ความคิดเห็น โดย มิสเตอร์สะตอฯ เมื่อ 17 มกราคม 2009 เวลา 10:11 (เช้า) ในหมวดหมู่ Uncategorized #
อ่าน: 4949

กราบสวัสดีครับทุกท่าน
เมื่อย่างเข้าหน้าแล้ง น้ำในนาเริ่มแห้งลงไปทุกๆวัน ประชากรในนาก็ต้องปรับตัวใหม่ เหล่าปลาทั้งหลายในน้ำก็ต้องปรับตัวเพื่อรับกับสภาพของสังคมนา ไม่ว่าจะแหล่งทำมาหากินจะขัดสน ระดับน้ำก็ลดลงเรื่อยๆ จนไปอยู่ที่ต่ำสุดของที่ลุ่มในนา แต่ปลามีปลาหลายประเภท บางประเทศก็โต้แย้งกันใหญ่ว่าทำไมน้ำลด แหล่งหากินไม่เพียงพอ ต่างโทษฟ้าฝนสภาพอากาศ ปลาส่วนหนึ่งก็ยอมรับสภาพ ปลาส่วนหนึ่งก็เตรียมตัวอยู่แบบพอเพียงตามสภาพที่ทำได้ บางประเภทก็รอเตรียมตัวฝังตัวเองและจำศีล เพื่อรอน้ำใหม่ บางกลุ่มก็รอความสงบเพื่อจะลดเสียงโกลาหลในแหล่งน้ำในนา ยิ่งน้ำน้อยเสียงก็ยิ่งกังวาล

จนน้ำแห้งขอดนา ปลาที่เตรียมตัวไม่ทันในการจะฝังตัวในโคลนก็ลงไปกระจุกกันอยู่ในหลุม รอให้ชาวนาเดินผ่านมาจับไปปล่อยในสระน้ำแหล่งใหม่ บ้างก็รอนกกระยางนกกระสามาจิกกินอย่างอิ่มหนำสำราญ บ้างก็ต้องนอนร้อนแผดเผาอยู่เพื่ออาบแสงแดดแล้วตัวเกรียมรอมดมากัดกิน และอื่นๆ

หากจำลองนาแปลงนี้เป็นประเทศไทย ปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม เสมือนภาวะแห้งแล้ง เราจะเลือกเป็นปลาหรือสิ่งมีชีวิตแบบไหนอย่างไรกัน???

ด้วยมิตรภาพ

เม้ง


เสาะหา”ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน” ทุ่มงบฯอุดหนุนสืบสานภูมิปัญญาตามรอย”ศิลปินแห่งชาติ”

2175 ความคิดเห็น โดย มิสเตอร์สะตอฯ เมื่อ 12 มกราคม 2009 เวลา 10:47 (เช้า) ในหมวดหมู่ Uncategorized #
อ่าน: 26929

สวัสดีครับทุกท่าน

ใครไม่รู้ครับ ส่งข่าวนี้มาให้ผม

เสาะหา”ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน” ทุ่มงบฯอุดหนุนสืบสานภูมิปัญญาตามรอย”ศิลปินแห่งชาติ”

เพื่อส่งเสริมบุคคลที่มีความสำคัญด้านศิลปวัฒนธรรมของชาติ รัฐบาลในยุคก่อนจึงยกย่องเชิดชูบุคคลเหล่านี้ด้วยการแต่งตั้งเป็น”ศิลปินแห่งชาติ”สาขาต่างๆ ด้วยการจัดงบประมาณสนับสนุนด้านสวัสดิการและชีวิตความเป็นอยู่เป็นประจำจำนวนหนึ่ง

ด้วยแนวความคิดเดียวกัน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เห็นว่า เกษตรกรรมเป็นรากฐานดั่งเดิมและมีความสำคัญต่อประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศที่มีพื้นฐานด้านเกษตรกรรม จึงต้องการยกย่องเชิดชู”ผู้ทรงภูมิปัญญาด้านการเกษตร” จึงมีการตรา”ระเบียบกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่าด้วยการส่งเสริมและการจัดสวัสดิการสำหรับปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน พ.ศ. 2551 “ประกาศใช้ในราชกิจานุเบกษาเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2552 ที่ผ่านมาโดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาและพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านการเกษตรของประเทศ………….

คุณสมบัติปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน มีดังต่อไปนี้
(1) มีสัญชาติไทย
(2) ไม่เคยมีความประพฤติเสื่อมเสีย
(3) เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ และผลงานเกี่ยวกับด้านการเกษตรอันเป็นประโยชน์ต่อสังคม
(4) เป็นผู้มีประวัติและวิถีชีวิตที่มีคุณธรรมมีความเอื้อเฟื้อเกื้อกูล
(5) เป็นแบบอย่างด้านการประพฤติปฏิบัติอยู่ในหลักศาสนา และครรลองแห่งวัฒนธรรมไทย
(6) เป็นผู้ที่มีจิตใจและการประพฤติที่แสดงถึงการอุทิศตน เวลา ความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ต่อเกษตรกร แวดวงการเกษตรในชุมชน หน่วยงานราชการ และประชาชนทั่วไป

………

ตามอ่านได้เต็มๆ ที่นี่ครับ….

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1231677945&grpid=01&catid=05

ท่านคิดเห็นกันอย่างไรครับ….. ทำให้ผมนึกถึงการสนทนากับท่านครูบาฯ เมื่อปีก่อน ว่าด้วยเรื่องการสวมหมวกให้ปราชญ์ ขึ้นมาตะหงิดๆ

ใครจะช่วยกันเสาะหาบ้างไหมครับ… ท่าทางบ้านเมืองเรามีน้อยมากๆ เลยครับ ถึงขั้นต้องเสาะหากันเลยครับ ผมคิดอีกมุมนึงคือ ทำไมเราไม่ทำให้ทุกคนเป็นปราดครับ ปราดเปรื่องในเรื่องที่อยากให้เค้ารู้ ปราดก่อนจะเป็นปราชญ์ และมีอีกคำถามคือ เมื่อสวมหมวกให้ปราชญ์แล้ว ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นกับปราชญ์เหล่านั้นบ้าง…. อิๆ

กราบขอบพระคุณมากคร้าบ

เม้ง


เก็บโลกเอาไว้ให้คนอื่นเสพสุขบ้างดีไหมครับ…

9118 ความคิดเห็น โดย มิสเตอร์สะตอฯ เมื่อ 10 มกราคม 2009 เวลา 11:31 (เช้า) ในหมวดหมู่ Uncategorized #
อ่าน: 74390

สวัสดีครับทุกท่าน

สบายดีกันนะครับ…สวัสดีปีใหม่ สบายใจเบิกบาน ยิ้มรับกับสิ่งที่เกิดไม่ว่ามันจะดี ปานกลาง หรือทางลบก็ตามครับ วันนี้อยากจะระบายเรื่องโลกของเราสักหน่อยครับ พื้นผิวโลกเรามีทั้งพื้นผิวที่เป็นน้ำ และเป็นหินดิน หรือเป็นน้ำแข็งปกคลุม หากเราคิดพื้นที่ผิว แล้วเราจะเอาจำนวนคนที่มีในโลกนี้ไปเป็นตัวหาร จะได้พื้นที่เฉลี่ยต่อคนว่ากันไปว่ากี่เอเคอร์ กี่ไร่ กี่ตารางกิโลเมตร แล้วแต่ว่าใครในแต่ละพื้นที่จะใช้หน่วยอะไรวัด ถามว่ามันยุติธรรมแล้วหรือ เราไม่ได้ไปนับจำนวนสัตว์ป่า แมลง ต้นไม้ มาหารด้วยเหรอครับ?

ทุกวันนี้เราเกิดมา ส่วนใหญ่เน้นหาครอบครองพื้นที่กันอย่างไม่มีวันหยุด ไม่ว่าจะครอบครองพื้นที่ด้วยอิทธิพลหรือครอบครองด้วยเงินทอง หรือครอบครองด้วยกฏหมาย หรือครอบครองด้วยการขอที่ซุกหัวนอนจากธรรมชาติก็ตาม แต่นั่นก็ไม่ได้มีความยุติธรรมใดๆ หรอกครับ การครอบครองจึงขึ้นกับปัจจัยต่างๆ มากมาย

อ่านต่อ »


เสน่ห์ใน มอ.

1422 ความคิดเห็น โดย มิสเตอร์สะตอฯ เมื่อ 3 มกราคม 2009 เวลา 8:26 (เช้า) ในหมวดหมู่ Uncategorized #
อ่าน: 7648

สวัสดีครับทุกท่าน

ปีใหม่ปีนี้ผมเองไม่ได้กลับบ้าน ทำหน้าที่เฝ้ามหาวิทยาลัยให้กับทุกคนที่กลับบ้านกันครับ แล้วค่อยหาโอกาสกลับในยามอื่นครับ ดูเหมือนว่าจะเสียสละนะครับ จริงๆ ต้องเร่งเคลียร์งานที่ค้างๆ ไว้นะครับ ประกอบกับเพิ่งกลับไปเยี่ยมบ้านตอนต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมาแล้วครับ การได้อยู่พร้อมหน้ายังไม่เท่าการได้อยู่กันพร้อมใจ ครับ การได้อยู่พร้อมหน้าต้องไปเจอกันใช่ไหมครับ แต่การได้อยู่กันพร้อมใจอยู่ที่ไหนก็ถึงกันใช่ไหมครับ ช่องทางในการติดต่อทุกวันนี้มีมากมายกว่าเมื่อก่อนมาก

เมื่อวานผมได้รับทราบว่ามีฝูงนกกระยางลงมาหาอาหารและใช้ชีวิตใน มอ. เป็นแหล่งพักพิง ถือว่าเป็นบ้านร่วมกันกับพวกเรา ผมก็เล่นปั่นจักรยานพร้อมเครื่องมือนการจับนกกระยางไป พอไปปั๊บจอดรถปั๊บบินหมดทั้งฝูงเลยครับ ผมเลยไปติดตามไปอีกที่นึงที่เค้าบินไปลงคราวนีละครับ ผมก็จับได้เพียบเลยครับ (คิดกันไปถึงไหนแล้วครับ จินตนาการ)

นี่คือรูปที่ผมได้จับไว้ได้นะครับ การจับของผมเป็นการจับแบบไม่ทำลายครับ อาจจะตกใจบ้างเล็กน้อยครับ นั่นคือการจับด้วยกล้องถ่ายรูปนั่นเอง….. นี่คือสวิงไอที ถ่ายได้ทุกอย่างทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็นครับ

การได้มีโอกาสทำงานที่หนึ่งที่ใดสักที่ หากเราเห็นจุดเด่นจุดแข็งของที่นั้นๆ เราจะทำงานอย่างมีความสุข แน่นอนปัญหามีแน่ แต่ปัญหานั่นมันไม่ใช่ปมประเด็นแห่งการเปลี่ยนที่ทำงานใหม่ เพราะพื้นฐานที่สำคัญคือ ทำที่ไหนก็เพื่อไทยเช่นกัน หรือแม้ว่าจะย้ายไปทำที่ไหนก็ยังทำงานเพื่อไทยเช่นกัน

การสร้างความอบอุ่นให้เกิดในองค์กรจึงสำคัญมาก การบริหารงานด้วยหัวใจจึงสำคัญทึ่สุด สำคัญกว่าการบริหารแบบสมอง ความอบอุ่นเกิดจากหลายองค์มารวมกัน อบอุ่นตอบได้ด้วยหัวใจ

ผมนำภาพพระราชบิดามาฝากทุกท่านครับจากภาพด้านบนนะครับ ซึ่งผมคิดว่าพระองค์ท่านคือแบบอย่างที่ดีที่สุด ท่านยืนมองออกไปในทะเลอย่างสง่าตลอดเวลาไม่ว่าจะแดดออกฝนตกลมแรง

แล้วชีวิตของเราละอดทนและสู้กับปัญหาอย่างไร? ครับ

เสน่ห์อยู่ที่มุมมอง…หามุมมองไม่เจอฤาจะเห็นเสน่ห์

ขอให้ทุกท่านมีความสุขในการได้อยู่ร่วมและได้สร้างสรรค์สิ่งดีงามตลอดไปครับ

ด้วยมิตรภาพ

เม้ง


N กลวิธีในการสอนให้สมองเด็กใหม่สดเสมอ….

786 ความคิดเห็น โดย มิสเตอร์สะตอฯ เมื่อ 2 มกราคม 2009 เวลา 11:43 (เช้า) ในหมวดหมู่ Uncategorized #
อ่าน: 6237

สวัสดีครับทุกท่าน

             สบายดีกันนะครับ ช่วงนี้หยุดยาว หลายๆคนพักผ่อนกาย พักผ่อนใจ พักผ่อนสมอง เหนื่อยกายเค้าบอกให้พักกาย เหนื่อยใจเค้าบอกให้ทำใจ หนักสมองเค้าให้ผ่อนคลาย หากเรามองธรรมชาติ ธรรมชาติพยายามสร้างสิ่งต่างๆ ด้วยองค์ประกอบที่เหมาะสมเสมอ หากคนเราประกอบไปด้วย ดิน น้ำ ลม ไฟ จริง แสดงว่าธรรมชาติฉลาดมากๆ เพราะท่านพระธรรมชาติจะทราบได้อย่างไร ว่าอายุเท่านี้ จะใส่ดินกี่กิโลกรัม น้ำกี่ลิตร ลมกี่กรัม ไฟกี่องศา แล้วเด็ดดวงจิตฝังไว้ในตัวตนให้เติบโตไปด้วยกัน ทั้งธาตุสี่ จิตวิญญาณและช่องว่าง (หรือว่าธาตุ 6) แต่เรื่องการเรียนรู้นี่ซิครับ พระธรรมชาติคงปล่อยให้เติบโตกันเอาเอง แล้วแต่ว่าใครจะขวนขวายใส่หัวสมองของเราเอง บางคนก็อยากเรียนรู้มากๆ ก็รู้เยอะหน่อย บางคนขี้เกียจเรียนรู้ บ่นปวดหัว (หา…ดีกว่า) ก็มีอิสระในการทำครับ

วันนี้ผมเลยอยากจะนำเสนอ N กลวิธีในการสอนให้สมองเด็กใหม่สดเสมอ ครับ คำว่าใหม่สดเสมอ คือยังไม่ได้ใช้งาน ตามที่คนเค้าล้อๆ กันว่า สมองพี่ไทยราคาสูงที่สุด (เค้าตอบว่า เพราะมันยังไม่ได้ใช้งาน ฮ่าๆๆๆ) แต่สมองใหม่สดแบบนี้ อาจจะไม่มีคนรับเข้าทำงานหลังจากเรียนจบนะครับ

อ่านต่อ »


ครูไฟแช็ค—เช็คไฟครู

486 ความคิดเห็น โดย มิสเตอร์สะตอฯ เมื่อ 21 พฤศจิกายน 2008 เวลา 8:56 (เช้า) ในหมวดหมู่ Uncategorized #
อ่าน: 6210

สวัสดีครับทุกท่าน

สบายดีกันไหมครับ หลังจากกลับมาจากเยอรมันก็ลุยงาน ลุยสิ่งที่ต้องทำและวางแผนงานวิจัยไปด้วยครัีบ ที่สนุกมากก็คือการได้เรียนรู้กับเด็กในห้องเรียน แนะแนวทางการเรียน จะเรียกว่าสอนก็คงไม่เต็มทั้งร้อย คงต้องผลัดกันสอนระหว่างผู้เล่าและผู้ฟัง ผมเน้นการเรียนในห้องแบบไม่อยากให้ครูกับเด็กมีช่องห่างกันมาก ผมเชื่อว่าหากเราสอนแล้วเด็กไม่ตอบเลย ตรงนี้หมายความว่าอะไร แนวทางหนึ่งที่เป็นอุปสรรคในการเรียนรู้ของคนเราก็คือการตั้งกำแพง กำแพงที่ว่านี้เป็นกำแพงที่เราคิดขึ้นมาเองโดยเอาความรู้สึกของเราภายใน ไม่่ว่าจากความกลัวหรือเหตุัปัจจัยใด มากั้นไม่่ให้เราเดินเข้าหาสิ่งใหม่ๆ เหล่านั้นได้ นี่คืออุปสรรคที่แท้จริง ความยากง่ายของสิ่งใหม่ๆ เหล่านั้นเป็นเพียงแค่ข้ออ้างของเราเท่านั้น แต่ปัญหาหลักอยู่ที่ว่าจะลดกำแพงได้อย่างไร

อ่านต่อ »


แผ่นดินไทย - ธนาคารต้นไม้ (Tree Bank)

854 ความคิดเห็น โดย มิสเตอร์สะตอฯ เมื่อ 16 ตุลาคม 2008 เวลา 8:31 (เช้า) ในหมวดหมู่ Uncategorized, ธรรมชาติ, แนวคิด ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 13078

สวัสดีครัีบญาติมิตรทุกท่าน

เมื่อคืน (15 ต.ค. 2551) ผมได้ดูรายการแผ่นดินไทย จากช่อง ไทยพีบีเอส ว่าด้วยเรื่องธนาคารต้นไม้ ซึ่งก่อตั้งโดยคุณไสว แสงสว่าง และคุณพงศา ชูแนม

อำเภอพะโต๊ะ ร่วมกับ ธกส สาขาพะโต๊ะ - หลังสวน และหน่วยอนุรักษ์และจัดการต้นน้ำพะโต๊ะ ได้ร่วมกันจัดทำโครงการธนาคารต้นไม้ โดยวางหลักการให้ ประชาชนที่ปลูกต้นไม้สามารถนำข้อมูลไปจดทะเบียนกับทาง ธกส โดย ธกส จะให้สิทธิในการนำต้นไม้ไปเป็นหลักประกันสินเชื่อเสมือนเป็นหลักทรัพย์ และจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกปี ขณะนี้ได้เพาะกล้าไม้ไว้ที่บ้านคลองเรือเพื่อเป็นการนำร่องกว่า 1 แสนกล้าแล้ว ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการติดต่อได้ที่ ธกส.พะโต๊ะ และหน่วยอนุรักษ์จัดการต้นน้ำพะโต๊ะ (คัดลอกจาก http://treebank.multiply.com/)

คุณพงศา ชูแนม เล่าว่าให้ชาวบ้านเป็นผู้เพาะพันธุ์กล้าไม้เอง ดูแลเอง แล้วทำให้ได้ผลในการเลี้ยงดูได้ดีกว่าองค์กรรัฐเลี้ยงดูอีก เพราะมีกรณีทีชาวบ้านเลี้ยงดูแล้วต้นกล้าสูงกว่า เจริญเติบโตดีกว่าด้วย การปลูกต้นไม้ ก็เริ่มปลูกในพื้นที่ของตัวเองซึ่งอาจจะเริ่มปลูกที่บริเวณเขตแดนของพื้นที่ของชาวบ้้านเอง พอต้นไม้สูงระดับหนึ่งจะตีราคาต่อต้น ต้นละ 100 บาท และจะมีการมานับเพื่อตรวจสอบจำนวนต้นและเมื่อต้นไม้โตขึ้นก็จะตีราคาต่อต้นสูงขึ้นครับ สำหรับต้นไม้ก็มีหลายชนิดเช่น พันธุ์ไม้สาขาบ้านในเหมือง จ.ชุมพร ได้แก่ ต้นมะฮอกกานี ต้นตะเคียนทอง สะเดาเทียม กิ่งพันธุ์ยอดเหลียง ต้นจิก ต้นเทพทาโร (ไม้จวง) ไม้ทัง ต้นธัมมัง ฯ นั่นคือ แต่ละพื้นที่ก็จะมีการกำหนดกันว่าต้นไม้ที่เข้าจดทะเบียนกับ ธนาคารต้นไม้ได้นั้น ก็จะมีการกำหนดตามแต่ละจังหวัดจะตกลงกัน

อ่านต่อ »


วันสำคัญในดวงใจ

411 ความคิดเห็น โดย มิสเตอร์สะตอฯ เมื่อ 24 กันยายน 2008 เวลา 5:59 (เย็น) ในหมวดหมู่ Uncategorized #
อ่าน: 9943

สวัสดีครับทุกท่าน

สบายดีนะครับ วันนี้ทุกท่านคงทราบว่าเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งครับ 24 กันยายน ของทุกปีเป็นวันมหิดลครับ อีกหนึ่งวันในใจผมครับที่ยึดถือตลอดมาครับ เมื่อเช้าได้มีโอกาสดีมาก ได้ไปใส่บาตรอาหารแห้งและร่วมฟังพระตลอดจนการวางพวงมาลาครับหน้าลานพระรูปครับ เป็นโอกาสดีของผมอีกเช่นกันที่ได้เจอญาติมิตรที่ไม่ได้เจอกันนานนับทศวรรษ เป็นความผูกพันทางใจที่มีและมอบให้กันมาครับ

ไม่มีอะไรจะเล่ามากครับ เอาภาพมาฝากกันครับผม

มีคณะองค์กร หน่วยงานต่างๆ ใน มหาวิทยาลัยและจังหวัดมาร่วมถวายพวงมาลา เต็มลานพระรูปเลยครับ

อ่านต่อ »



Main: 0.11729693412781 sec
Sidebar: 0.037466049194336 sec