ยิ่งกั้น ยิ่งสูง ยิ่งแรง ยิ่งแทง ยิ่งพัง น้ำท่วม น้ำใจ น้ำไหล น้ำบ่า น้ำตา

3799 ความคิดเห็น โดย มิสเตอร์สะตอฯ เมื่อ 19 ตุลาคม 2011 เวลา 6:45 (เช้า) ในหมวดหมู่ การศึกษา, คณิตศาสตร์, เทคโนโลยี #
อ่าน: 34597

หยุดคิดที่จะเอาชนะธรรมชาติได้แล้วครับ

ลองมองน้ำเป็นเพื่อนร่วมโลกดูครับ แล้วเข้าใจน้ำเค้าเยอะๆ ว่าเค้ามีข้อดีอย่างไรบ้าง มีนิสัยอย่างไรบ้าง ยิ่งกั้นคันสูงยิ่งเสี่ยงสูง ซึ่งน้ำภาคกลางไม่ใช่น้ำป่าไหลหลากนะครับ เป็นเพียงแค่น้ำท่วมทุ่ง ท่วมลานกว้าง เพราะฉะนั้นน้ำจะไหลปรับระดับไปเรื่อยๆ น้ำก็ไหลไปเรื่อยๆ ตามที่ไหลได้ แต่พอไปเจอคันกั้นสูง น้ำก็จะสูงขึ้น มีพลังงานสะสมพร้อมที่จะแตก ยิ่งด้านนึงน้ำสูง อีกด้านน้ำไม่มี หากพังลงมาก็จะกลายเป็นน้ำหลากในตรงนั้น นั่นคือ น้ำหลากจะเกิดจากคนทำเอง การเอาดินใหม่ไปถมก็เหมือนกับการเอาน้ำพริกไปละลายแม่น้ำ เพราะดินเหล่านั้นก็จะไหลไปกับน้ำครับ พอขาดพลังงานเยอะคราวนี้ก็ท่วมแล้วไหลได้เร็วขึ้นในช่วงนั้นครับ ปัญหาก็เกิดต่อกระทบกับพื้นที่ทางใต้คันกั้นน้ำครับ แต่หากมีคันธรรมชาติอยู่แล้วที่สร้างมานานแล้วดินแน่นแล้วก็พอไหวครับ สิ่งสำคัญตอนนี้คือ ทำอย่างไรให้ระดับน้ำไหลไปตามที่ควรจะเป็น กั้นได้ในบางจุด การบริหารจัดการน้ำควรจะมองในภาพใหญ่หน่อยครับ

ยิ่งกั้น ยิ่งสะสมพลังงาน ยิ่งแรง ถามว่าถุงทรายช่วยได้ไหม ตอบว่าช่วยได้ครับ แต่ศึกษาพื้นที่ให้ดีครับ โดยเฉพาะคันดินใหม่ครับ ตอนนี้เป็นแค่เพียงเริ่มต้นเองนะครับ ยังมีปริมาณน้ำรอที่จะมาและผ่าน กทม.อยู่ทั้งทางซ้ายและขวาของ กทม.หรือไม่ก็ผ่ากลาง

สิ่งที่รัฐควรจะทำผมว่า รัฐควรมองที่การให้ความรู้กับประชาชนให้มากที่สุด สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น ให้ข้อมูลความจริงจากสถานการณ์ต่างๆ ผมว่าให้ข้อมูลความจริงดีกว่าปกปิดหรือกลัวว่าคนจะตกใจ เพราะนี่เป็นน้ำท่วม เรายังลอยคออยู่ได้ครับ แค่บททดสอบในเบื้องต้นที่เราพึงจะต้องเรียนรู้ร่วมกัน โดนน้ำมาด้วยกัน แล้วในที่สุดเราจะได้มาวางแผนร่วมกันเพราะเราร่วมลอยคอกันมาด้วยกัน

ขอเป็นกำลังใจนะครับผมบอกนักศึกษาที่เรียนกับผมว่า ถ้าเธอจะมาเรียนเล่นๆ กับผม อย่ามาเรียนเลยมันเสียเวลา หากจะเรียนกับผมต้องเรียนเอาจริง เราจะได้ใช้ความรู้พวกนี้ได้ ใช้ได้เป็น นำไปใช้ร่วมกับคนอื่นได้ในยามคับขัน

หากวันหนึ่งเธอตื่นขึ้นมา พบกว่าน้ำท่วมคอพวกเราทุกคน พระเจ้าที่เรานับถือกันลอยลงมาจากฟ้า พวกเราแหงนหน้าฟังท่าน ท่านบอกว่าหากลูกๆ ทุกคนจะผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ ลูกๆ ต้องใช้ความรู้ที่มีอยู่ด้วยกันในการแก้ปัญหาแล้วน้ำจะค่อยๆ ลดลง หรือลูกๆ จะแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกับทรัพยากรที่เหลืออย่างจำกัดกันดี แต่สุดท้ายก็ตายอยู่ดี คราวนี้หากพวกเราจะใช้ความรู้แก้ปัญหา เราจะใช้ความรู้อะไรในหัวเราที่มีอยู่ เรามีความรู้อะไรบ้างที่จะเอาไปร่วมใช้กับเพื่อนๆ ของเรา นี่ละที่เธอต้องตั้งใจเรียนรู้ศึกษาให้เก่งกว่าครู ดังนั้นเรียนเล่นๆ พ่อแม่เธอจะจ่ายเงินให้เธอแล้วจะคุ้มค่าได้อย่างไร

แล้วตอนนี้ละประเทศไทยเรา ใช้องค์ความรู้อะไรในการแก้ปัญหาน้ำท่วมครั้งนี้ เรามีบุคลากรพอแล้วจริงเหรอในการจะช่วยวิเคราะห์น้ำ หรือว่าวิเคราะห์กันโดยไม่ดูตาม้าตาเรือเลยว่าน้ำจะไหลไปทางไหน จะร่วมผ่านวิกฤตเหล่านี้อย่างไรร่วมกันดีครับที่ผ่านมาไม่ว่าจะเรือดันผิวน้ำ หรือแพไม้ไผ่ ช่วยได้แค่ทางจิตวิทยานะครับ ผมว่าเอาเวลาไปให้คนพร้อมที่จะพึ่งตนเองได้ในเบื้องต้น จัดการลดการเกิดภัยที่อาจจะเกิดได้ก่อนครับ อพยพคนในพื้นที่อาจจะเสี่ยงภัยก่อน

น้ำจะรักษาความเสมอภาค หากผิวน้ำไม่เสมอกัน ปล่อยทิ้งไว้น้ำจะปรับระดับให้เสมอภาคเองเพราะธรรมชาติสร้างน้ำมาทำหน้าที่นี้

ไม้ไผ่ปล่อยให้เค้าช่วยดูดน้ำในดินสู่ชั้นบรรยากาศจะดีกว่านะครับ เพราะต้นไม้คือเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ทำงานทั้งกลางคืนและกลางวัน ดวงอาทิตย์ช่วยได้แค่กลางวันเท่านั้นครับ น้ำที่ต้นไม้ดูดเข้าไป 99% เพื่อสูบขึ้นชั้นบรรยากาศนะครับ จะไว้ใช้สังเคราะห์อาหารแค่ 1% เท่านั้น แพไม้ไผ่จึงไม่น่าจะจำเป็นสำหรับเวลานี้ ผมยังนิยมเสื้อชูชีพขวดน้ำที่พี่น้องอาสาฯ หลายๆ กลุ่มทำกันครับหลังจากนี้ ทุนวิจัยจะออกมาเกลื่อนเพื่อให้วิจัยกันเรื่องน้ำท่วม การบริหารจัดการน้ำ การเปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งก็คือการหารอยเท้าวัวหลังจากที่โดนขโมยซึ่งก็ต้องทำ แต่ทำไมเราไม่เตรียมคนให้ไปเรียนในแต่ละด้านให้มันสอดคล้องกับสภาพของประเทศละครับ ไม่ใช่เรียนในสาขาที่เป็นแฟชั่นอย่างเดียว เราจะทำอย่างไรกันต่อไป น้ำท่วมครั้งนี้จะแปลงวิกฤตเหล่านี้มาสร้างความเข้มแข็งทางกาย ทางใจ ทางสติความคิดอย่างไร ไม่อย่างนั้น เราก็เดินวนๆ กันในอ่างน้ำนี่ละครับ พอภารกิจล้างเมืองมาทีก็สูญเสีย ประเมินค่ากันไม่ได้อยู่ตลอดไป

เศรษฐกิจเสียหาย น้ำยังขังท่วมยาวนาน แล้วเราจะทำอย่างไร กับปล่อยน้ำให้ปไปในทางที่ควรไป ตามใจน้ำ สุดท้ายก็ลงทะเล น้ำมีเป้าหมายคือที่ต่ำ มาจากที่สูงไหลลงที่ต่ำ แต่คนเราจะขึ้นไปนั่งที่สูง
ธุรกิจจะเสียหายกี่แสนพันล้านก็ตาม หากสุดวิสัยผมว่าก็ควรจะต้องเข้าใจบริบทครับ แต่อย่าให้คนเสียชีวิตมากเกินไปก็เกินคุ้มแล้วครับระบบการวิเคราะห์น้ำ ถ้ากระทรวง ICT ทำข้อมูลให้เป็นระบบ นักวิจัยสามารถจะเข้าถึงข้อมูลได้แล้วนำมาช่วยกันวิเคราะห์ได้ คันน้ำตรงนั้น ตรงนี้แตก ผมก็อยากจะช่วยจำลองให้นะครับ ว่าน้ำจะไหลไปทางไหนได้บ้าง แต่ไม่รู้จุดพิกัด นักข่าว คนลงพื้นที่ ควรจะมี GPS ติดตัวไปด้วย เก็บข้อมูลไปด้วยช่วยเหลือคนไปด้วย เอาข้อมูลมาวางแผนกันต่อ ใครช่วยได้ก็ช่วยกัน ผมอยู่ปัตตานี อยากช่วย แต่ผมช่วยได้มากกว่าการไปช่วยขนกระสอบทรายประกอบกับมีภารกิจอื่นๆ หากข้อมูลเป็นระบบก็จะมีข้อมูลได้ตรงกัน ก็จะช่วยได้มากขึ้น บทเรียนครั้งนี้ ก็คงไม่เหมือนครั้งไหน เพราะต่างกันที่เวลาและบริบทครับ

สุดท้ายก็ได้ระบายแล้วหลังจากดูมายาวนาน ดูการแก้ปัญหามาพอสมควร จริงๆ อยากจะขอข้อมูลจากสำนักข่าวที่ออกๆ ทีวีกันนะครับ ว่าคันนั้นคันนี้ มีข้อมูลให้เอามาจำลองได้บ้างไหม ติดต่อไปขอกับใครกันดี

ลักษณะน้ำจากวันที่ 16 ต.ค. 2554 ครับ ขอบคุณแหล่งข้อมูลจากพี่คอนดักเตอร์ จากลานซักล้าง และเว็บ http://cernunosat05.cern.ch/gp/flex/tha/

น้ำท่วม น้ำตา น้ำไหล น้ำใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน แต่เราไม่ควรปล่อยให้เรื่องเหล่านี้เงียบไปอีก การตระหนักเตรียมได้จากประสบการณ์ที่เคยประสพจริง แล้วตระหนักจะเกิดมากกว่าตระหนก

ขอเป็นกำลังใจครับ

ด้วยมิตรภาพจากคนใต้


อยู่แฟลตก็สุขได้…ง่ายๆ…เรียบๆ

9661 ความคิดเห็น โดย มิสเตอร์สะตอฯ เมื่อ 26 กรกฏาคม 2010 เวลา 10:03 (เช้า) ในหมวดหมู่ Uncategorized, การเกษตร, ธรรมชาติ, แนวคิด ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 90475

สวัสดีครับทุกท่าน

สบายดีกันนะครับ วันนี้หยุดวันสำคัญทางพุทธศาสนาครับ ไม่ได้กลับบ้านครับเพราะต้องเร่งจัดการงานที่ผ่านมาแล้วและกำลังจะเกิดขึ้นต่อไปครับ แต่ก็ขอพักสักหน่อยด้วยการเขียนบันทึกสักนิดครับ ช่วงนี้สบายใจกับระเบียงป่า ให้ระเบียงพึ่งพาตนเอง ใส่ปุ๋ยให้ตนเอง พึ่งพาและเลื้อยเองตามธรรมชาติ นกทำรัง มาขับร้องเพลงในตอนเช้าๆ เพื่อปลุกให้ตื่นก่อนหกโมงเช้าครับ ใบไม้ตกลงมาก็เก็บๆ ไปใส่ไว้ในกระถางต่อให้เค้าย่อยของเค้าเป็นแบบนั้น ผมสนับสนุนในช่วงนี้เฉพาะระบบน้ำยี่ห้อแฮนดี้แมนซึ่งก็ทำงานได้ดีมากเลยครับ มีเมล็ดพืชบางชนิดไม่ได้รับเชิญก็ขึ้นอีกหลายต้น ก็ปล่อยให้งอกอย่างนั้นละครับ เพราะคำว่าป่าเราคงไม่ต้องไปถอนหรือถางเค้า เก็บกินเอาเฉพาะที่มี ช่วงนี้ต้นแปะกำปึง เค้าบอกว่าบำรุงหัวใจ ก็ใช้แก้ขัดได้ละครับเวลาไม่มีผักเหนาะครับ ผมเคยนิยามไว้ว่า ผักสวนครัว ระเบียงกินได้ มาถึงวันนี้ระเบียงก็กินได้ครับ มีขนุนด้วยสองต้นครับ แต่คงไว้ที่ระเบียงไม่ได้เว้นแต่จะทำระบบกระถางใหม่ครับ เพิ่งถอยโมกมาใหม่สองต้น ถอยมาได้ก็ตั้งไว้ปากทางเข้าประตูบ้านแต่แสงน้อย พร้อมกับไม่อยู่ไปภูเก็ตห้าวัน ก็เลยยกไปไว้ที่ระเบียง อยู่ได้สามวันเจ้าของต้นไม้ตัวจริงก็มาทำรังทันที เค้าทำแบบไหนไม่แน่ใจเร็วจริงๆ ไว้โอกาสหน้าผมจะตั้งกล้องวีดีโอไว้ ทำสารคดีนกที่ระเบียง อิๆๆๆ และซื้อมะกรูดมาสองต้น และส้มจี๊ดหนึ่งต้นครับ

อ่านต่อ »


เก็บโลกเอาไว้ให้คนอื่นเสพสุขบ้างดีไหมครับ…

8755 ความคิดเห็น โดย มิสเตอร์สะตอฯ เมื่อ 10 มกราคม 2009 เวลา 11:31 (เช้า) ในหมวดหมู่ Uncategorized #
อ่าน: 66336

สวัสดีครับทุกท่าน

สบายดีกันนะครับ…สวัสดีปีใหม่ สบายใจเบิกบาน ยิ้มรับกับสิ่งที่เกิดไม่ว่ามันจะดี ปานกลาง หรือทางลบก็ตามครับ วันนี้อยากจะระบายเรื่องโลกของเราสักหน่อยครับ พื้นผิวโลกเรามีทั้งพื้นผิวที่เป็นน้ำ และเป็นหินดิน หรือเป็นน้ำแข็งปกคลุม หากเราคิดพื้นที่ผิว แล้วเราจะเอาจำนวนคนที่มีในโลกนี้ไปเป็นตัวหาร จะได้พื้นที่เฉลี่ยต่อคนว่ากันไปว่ากี่เอเคอร์ กี่ไร่ กี่ตารางกิโลเมตร แล้วแต่ว่าใครในแต่ละพื้นที่จะใช้หน่วยอะไรวัด ถามว่ามันยุติธรรมแล้วหรือ เราไม่ได้ไปนับจำนวนสัตว์ป่า แมลง ต้นไม้ มาหารด้วยเหรอครับ?

ทุกวันนี้เราเกิดมา ส่วนใหญ่เน้นหาครอบครองพื้นที่กันอย่างไม่มีวันหยุด ไม่ว่าจะครอบครองพื้นที่ด้วยอิทธิพลหรือครอบครองด้วยเงินทอง หรือครอบครองด้วยกฏหมาย หรือครอบครองด้วยการขอที่ซุกหัวนอนจากธรรมชาติก็ตาม แต่นั่นก็ไม่ได้มีความยุติธรรมใดๆ หรอกครับ การครอบครองจึงขึ้นกับปัจจัยต่างๆ มากมาย

อ่านต่อ »


จุดอ่อนคือจุดแข็ง จุดแข็งคือแข็ง แข็งหรืออ่อนสะท้อนการพัฒนา

254 ความคิดเห็น โดย มิสเตอร์สะตอฯ เมื่อ 24 ธันวาคม 2008 เวลา 5:58 (เช้า) ในหมวดหมู่ ธรรมชาติ, ลานปัญญา, แนวคิด ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 4095

สวัสดีครับทุกท่าน

     สบายดีกันไหมครับ (สบายดีจ้า) สามสี่วันที่ผ่านมาได้คลุกคลีอยู่กับคำว่าจุดอ่อนจุดแข็งครับ ทำให้ผมคิดถึงน้ำ น้ำนี่สุดยอดมากๆ ครับ อ่อนก็ได้มีจุดหลอมเหลว แข็งก็ได้มีจุดเยือกแข็ง เป็นไอได้(ไม่ใช่ไอค่อกไอแค่กๆ นะครับ) เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ มิใช่ว่าแข็งแล้วอ่อนไม่ได้ หรืออ่อนแล้วแข็งไม่ได้ หรืออ่อนแล้วเป็นไอไม่ได้ นี่คือการบูรณาการของการปรับตัวของน้ำ ซึ่งเป็นบทเรียนชีวิตให้กับสิ่งมีชีวิตได้มองและเรียนรู้ครับ

อ่านต่อ »


เอามาฝากเพราะห่างหาย…คลายความคิดถึง…

7443 ความคิดเห็น โดย มิสเตอร์สะตอฯ เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2008 เวลา 10:06 (เช้า) ในหมวดหมู่ การเกษตร, ธรรมชาติ #
อ่าน: 78219

สวัสดีครัีบทุกท่าน

เมื่อเช้าได้คุยกับคุณหมอจวนป่อมครัีบ พอดีเก็บภาพที่ห้องพักไว้เยอะครับ ในห้องรกครับ เลยถ่ายภาพจากระเบียงมาฝากครัีบ อยู่แบบไร้ชีวิตรอบกายมันเหมือนชีวิตไร้ชีวิตนะครับ มีต้นกล้วยบัวครัีบ จริงๆ เอาหน่อมาปลูกกลายเป็นต้นกล้วยแคระไปเฉยเลยครับ (ก็สภาพมันจำกัดครัีบ) ปลูกต้นทับทิมต้นแรกครัีบ ได้เห็นดอก ตอนแรกงงคิดว่าเอ ทำไมมันมีผลโดยไม่มีดอก พออยู่ๆ ไปจากที่ว่าผลก็กลับกายเป็นดอกครัีบ น่าเอ็นดูจริงๆครับ ต้นตำลึงก็น่าเอ็นดูครัีบ ได้มาตอนแรกไม่งอกไมเลื้อยครับ มาที่นี่ตอนนี้ยาวกว่าสองเมตรแล้วครัีบ ถั่วพูก็น่าเอ็นดูได้มาหนึ่งฝัก สิบเอ็ดเมล็ดงอกหมดเลย แมลงไม่ยุ่งด้วยครับ ส่วนทับทิมมีสี่ดอกโดนแมลงใจร้ายเจาะหมดเลย ไม่เหลือไว้ให้แบ่งเขาแบ่งเรากันบ้างเลยครับ กล้วยไม้ก็น่าเอ็นดูครัีบปลูกอยู่ในเปลือกหอยยังอุตส่าห์ออกดอกอีกครับ เฟื่องฟ้าให้เฟื่องฟูและค้นคว้าวิจัยต่อไปเจริญก้าวหน้าครับ มีโมกด้วยครับ แต่ว่าเอาไว้โอกาสหน้ายามคิดถึงรอบใหม่ครับ

เมื่อวานไปร่วมงานถวายดอกไม้จันทน์ที่จังหวัดจัดครัีบ ได้เห็นอะไรหลายๆ อย่าง ได้เจอเพื่อนสมัยเรียน ป.ตรีด้วยกันด้วยครับ ตอนช่วงถวายดอกไม้จันทน์นั้นอบอุ่นมากๆ ครับ อบอุ่นมากๆ ครับ เพราะคนแน่นเห็นน้ำใจของคน เห็นรอยยิ้มของคน รอยยิ้มจากภายในที่ส่งถึงกันครัีบ

ดูถ่ายทอดทางทีวี ในช่วงเช้าและกลางคืน เราจะพบความงดงามในแผ่นดินไทย คำว่าประเพณี วัฒนธรรม ความคิด ศรัทธา ความเชื่อ ทำนุบำรุง เห็นใจ และอื่นๆ ตามมาครับ

ท้ายสุดขอฝากกับตัวเองไว้ว่า ใจเขาใจเรา เข้าใจร้อยครั้งสุขใจร้อยครั้ง ครับ

ขอให้ทุกท่านมีความสุขและเจริญในหน้าที่การงาน และภูมิใจในความเป็นไทยครัีบ


มารู้จัก … หินเหล็กไฟ เป็น…

830 ความคิดเห็น โดย มิสเตอร์สะตอฯ เมื่อ 9 พฤศจิกายน 2008 เวลา 3:15 (เย็น) ในหมวดหมู่ ธรรมชาติ #
อ่าน: 6059

สวัสดีครับทุกท่าน

สบายดีกันไหมครับ ตอนนี้ผมได้เข้ามาทักทายกับพี่น้องไม่ถี่เลยครับทั้งๆ ที่มีคอมพ์อยู่สามสี่ตัวครับ พอกลับมาภารกิจที่ต้องทำก็มีตามรูปแบบครับ ประกอบกับการยังไม่ลงตัวในการสอน และการเตรียมตัวสำหรับภารกิจอื่นๆ ต่อไปครับ หวังว่าทุกท่านยังสบายดีกันอยู่ทุกคนนะครับ ได้เข้ามาอ่าน แต่ไม่ค่อยได้บรรเลงครับ

อ่านต่อ »


คนไทยจะแก้ปัญหา น้ำท่วมซ้ำๆ ฝนแล้งซากๆ ได้อย่างไรหนอ.

102 ความคิดเห็น โดย มิสเตอร์สะตอฯ เมื่อ 21 กันยายน 2008 เวลา 6:59 (เย็น) ในหมวดหมู่ ธรรมชาติ, แนวคิด ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 3114

กราบสวัสดีครับทุกท่าน

สบายดีกันไหมครับ วันนี้ได้ดูข่าวน้ำท่วมแล้วน่าสงสารประชาชนของพระองค์ท่านจริงๆ ครับ ฝนตกซ้ำๆ ติดต่อกัน ก็ท่วมทันที พอฝนแล้งไปอีกไม่นานก็แห้งแล้งทันที ดูๆ แล้วเหมือนกับว่า วงจรทางธรรมชาติบกพร่องๆ ตัวเชื่อมฟ้าดินวงจรขาดหรือเปล่า

นี่มาดูอีกที พายุลูกบะเอ้ง ทั้งๆ ที่ลูกก่อนหน้านี้ซัดไปแล้วหนึ่งรอบ นี่จะซ้ำรอยเดิมอีกหรือครับ แบบนี้ก็แย่ซิครับ

อ่านต่อ »



Main: 0.66427206993103 sec
Sidebar: 0.26436686515808 sec