สะเก็ดธรรม

โดย มิสเตอร์สะตอฯ เมื่อ 25 พฤษภาคม 2010 เวลา 1:28 (เย็น) ในหมวดหมู่ แนวคิด ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 128777

เจริญพรโยม

เช้าวันนี้ตื่นตอนตีห้า ปลุกพระกุฏิที่อยู่ใกล้กันเสร็จออกไปกรวดน้ำแล้วก็อาบน้ำเพื่อเตรียมตัวออกบิณฑบาตตอน 6.00 น. ก็เดินออกไปจากวัดผ่านหน้าโรงเรียนวัดควนเกย ก็เลยเจอของดีเข้าเต็มๆ มีผู้ทดสอบอารมณ์ตั้งแต่ต้นทางเลยนะวันนี้ เพราะก่อนหน้านี้ก็มีผู้มาทดสอบมาก่อนแล้วเมื่อสองวันก่อน แต่ก่อนหน้านี้ที่โดนทดสอบนั้นไปเจอตอนทางเข้าบ้านโยมแม่ ตรงบริเวณที่เคยโดนปลวกสองตัวกัดที่ฝ่าเท้า ก็เลยพาอารมณ์นั้นกลับวัดแล้วค่อยมาชำแหละกันที่วัดสำหรับสะเก็ดแรก

แต่มาวันนี้เจอสะเก็ดธรรมอีกชนิดที่มองไม่เห็น เพราะเดินบนผิวถนนลาดยางเรียบ จะเดินพิจารณาอย่างไรก็คงยากที่จะเห็นได้ แน่นอนว่าลองหยุดพิจารณาหลังเหยียบแล้วเอานิ้วชี้กวาดบริเวณที่ปวดแล้วก็ไม่เจอแสดงว่าสะเก็ดธรรมได้ฝังลงในเนื้อแล้ว ทำได้ก็แค่สภาวะรู้เท่านั้น ให้เสร็จกระบวนการก่อนแล้วค่อยพิจารณา เดินไปเรื่อยๆ โดยมีตัวสติเพิ่มขึ้นมาอีกตัวที่ไม่ทิ้งให้สติหลุดไปอยู่ที่อื่น

แล้วก็อาจจะตอกย้ำอีกครั้งเมื่อเหยียบลงบนก้อนหินตรงบริเวณนั้นต่อ ก็ถือว่าพอไหวละ เดินไปได้ครึ่งของระยะทางทั้งหมด ก็เดินสวนทางกับโยมตาท่านนึง ท่านก็ทักขึ้นมาว่า หมาใสเกือกหม้ายน้าน (ไม่สวมรองเท้าหรือนั่น) อาตมาก็ตอบว่า เจริญพร ไม่นะโยม พอเดินไปใกล้จะถึงบ้านหลักแรกโยมก็ถามอีกว่า เจ็บเท้าไหมต้น (ปวดเท้าไหมหลวงพี่)  ก็ตอบไปว่า นิดหน่อยนะโยมเป็นธรรมดา ก็เดินไปปกติ จนความรู้สึกปวดหายไปและเฉยๆไปเอง ตั้งเอาไว้ว่า ร่างกายคงจัดการเรื่องนี้ของเค้าเอง เช่นการสร้างเซลห่อหุ้มตรงสะเก็ดธรรมนั้นเอง หรือไม่ก็เขี่ยออก แต่คงพิจารณายากหน่อยว่าอยู่ตรงไหน เพราะคิดว่าคงเป็นอะไรที่มองไม่เห็นตัว

พอมาถึงวัด เอาข้าวที่บิณฑบาตกับแกงเผ็ดไปถวายพระอาจารย์ ก็มาที่กุฏิแล้ววางทุกอย่างลงเสร็จ ก็ต้องล้างเท้าเป็นประจำแต่วันนี้ก็ต้องพิจารณาหน่อย ปกติจะล้างเท้าโดยให้เท้าล้างเท้าของเท้าเอง แต่วันนี้ใช้มือในการล้างเท้าเพิ่มขึ้นมาด้วย ก็มองไม่เห็นว่าตรงไหนที่จะเป็นแผล แต่ก็วางไว้แล้วว่าหากมีปัญหาร่างกายจะแก้ของร่างกายเอง โดยยินดีต้อนรับหรือไม่ยินดีต้อนรับสะเก็ดธรรมนี้

จนมาถึงตอนหลังฉันเพล ก็นั่งคุยกันเล็กน้อยกับพระร่วมวัด ว่าวันนี้เจอของดี พระก็เลยแนะนำให้เขี่ยออก อาตมาก็เลยยกเท้ามาพิจารณาดู พระเพื่อนก็บอกว่านั่นละต้น อยู่ตรงนั้นเลย ใช่จริงด้วยร่างกายบอกออกมาแล้วว่าตรงนี้คือเป้าหมาย เพราะเมื่อเช้ายังไม่เห็นแล้วก็เลยไปหยิบเข็มมา แล้วเขี่ยๆ ดู เปิดปากแผลเสร็จแล้วก็พบว่า อืมฝังอยู่ข้างในนั่นละ แต่จะเห็นได้อย่างไรหนอ

เปิดปากแผลเสร็จก็เลือดไหลแล้วละคราวนี้ คงยิ่งลำบากแน่ๆ เพราะคงมองเห็นยากมากขึ้น ก็เลยบอกว่าท่าจะหมดหวังไม่งั้นคงต้องเขี่ยลึกลงไปอีก พระเพื่อนบอกว่าต้องเอาใบมีดตัดออกมาให้ลึกอีกหน่อย  อาตมาก็เลยป้ายเลือดออกแล้วก็เอาหัวแม่โป้ง กดบริเวณแผลรอบๆ แล้วก็ทิ้งไว้ หลังจากนั้นทิ้งไว้หน่อยนึงคุยกันเล่นๆ ว่าเท้านี้น่าจะไปชกมวยเลยนะ เท้าแข็งพอดีเพราะเมื่อก่อนนิ่มมาก แล้วก็เอาปลายเข็มเขี่ยๆ ดู ก็เห็นเหมือนเนื้อหลุดขึ้นมากับเลือด พอเอามาพิจารณาดู ออ นี่ละ สะเก็ดธรรมที่ว่า

ตอนที่เจอสะเก็ดแล้ว ก็เลยคิดว่า ถ่ายรูปไว้สักหน่อยดีกว่า เอาไว้เตือนสติ

ออกมาแล้วที่ปลายเข็มนี่ละ ตอนแรกจินตนาการไม่ออกว่าจะรูปร่างอย่างไร ท้ายที่สุดก็หน้าตาคล้ายๆ ดาบ หรือจานบิน

นี่ละสะเก็ดธรรมในวันนี้ หากไม่เจอไม่โดนก็ไม่ได้เห็นสภาวะนี้ แต่เจอบ่อยๆ ก็คงไม่ดีนัก

ที่ก้าวคือประสบการณ์ในการฝึก ลืมบอกไปว่าเมื่อวานเดินไปแผ่นเมตตาแทนการทำพุทโธแทนลมหายใจ ให้กับจิตทุกดวงในบริเวณที่เดินไป เดินไปผ่านไปได้ครึ่งทาง ก็มีเสียงเหมือนเด็กวิ่งตามหลังมา พอเดินไปได้อีกก็เหมือนวิ่งตามมาอีก พอผ่านช่วงหนึ่งไปก็หายไป อาจจะคิดและปรุงแต่งไปเอง ก็รู้สึกดีที่แผ่เมตตาแทนการทำพุทโธอย่างวันปกติ เพราะปกติจะแผ่เมตตาเป็นช่วงๆ ไม่ได้ต่อเนื่อง

ฝึกให้รู้จักวางของสภาวะของอารมณ์ที่เกิด มองเห็นความเป็นธรรมดาของมัน ไม่ไปยึดหรือให้กิเลสมันมาทำให้ทะเลทุกข์ซัดอยู่ตลอดเวลาก็พอแล้ว ลดได้บ้างก็ยังดี ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป

เจริญพร อายุ วัณโณ สุขัง พะลังฯ

กตปุญโญ

« « Prev : ธรรมะของหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี

Next : คติธรรม สะกิดใจ - ห้ามปิดทองหน้าพระ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

14434 ความคิดเห็น