แลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่หมู่บ้านปางจำปี จ.เชียงใหม่ ตอนที่ 1

9145 ความคิดเห็น โดย ลูกหว้า เมื่อ 28 ธันวาคม 2008 เวลา 0:06 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 53078

วันที่ 24 ธ.ค. 51 ที่ผ่านมาได้มีโอกาสพานักศึกษาปริญญาโทสาขาการจัดการประยุกต์ไปศึกษาดูงานที่จังหวัดเชียงใหม่   สำหรับที่แรกคือ หมู่บ้านปางจำปี หมู่ 7 ต.ห้วยแก้ว อ.แม่ออน  จ.เชียงใหม่   ประกอบด้วยกัน 5 กลุ่มบ้านคือ ป๊อกปางจำปี  ป๊อกหล่ายน้ำ   ป๊อกท่าทราย  ป๊อกปางตะเคียน ป๊อกบ้านพร้าว   มีครัวเรือนรวม 87 ครัวเรือน  ประชากร 279 คน มีอาชีพส่วนใหญ่คือรับจ้าง หาของป่า  ทำการเกษตร

สำหรับที่มาของชื่อ “ปางจำปี” คือ มาจากลักษณะของหมู่บ้านที่แต่เดิมมีต้นจำปีต้นใหญ่ขึ้นอยู่กลางหมู่บ้าน  แล้วเวลาใครเดินทางมาก็มักจะมาแวะพักที่ต้นจำปี   แต่ปัจจุบันต้นจำปีได้ถูกตัดไปแล้ว  เนื่องจากหมู่บ้านนี้อยู่บนพื้นที่สูง ไม่สามารถประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้มากนัก  ทำให้ต้องเข้าไปหาของป่า  ล่าสัตว์   ในห้วยแม่ลายน้อย ซึ่งถือว่าเป็นแม่น้ำสายหลักของชุมชน   ทั้งเป็นแหล่งอาหารและนำมาซึ่งรายได้ให้กับครอบครัว

จากการได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับวิทยากรซึ่งเป็นคนในชุมชน 3 ท่าน ท่านแรกคือ พ่อหลวงสุจิตต์  ใจมา (คนที่นี่เรียกผู้ใหญ่บ้านว่า “พ่อหลวง”)  ท่านที่สองคือนายสวัสดิ์ ขัติยะ และท่านที่สามคือนายบุญเสริฐ  โจมขัน(ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน)

พ่อหลวงได้เล่าถึงปัญหาต่างๆในชุมชน  อย่างที่กล่าวถึงข้างต้นเกี่ยวกับอาชีพของคนในหมู่บ้านนี้ หาของป่า(ทุกอย่าง)  ล่าสัตว์  ต้มเหล้าเถื่อน    ทำไร่เลื่อนลอย  ทำเรือนขาย (ท่านวิทยากรเรียก”บ้านแดดเดียว”) หมายถึงบ้านที่ชาวบ้านนำไม้ที่ตัดมาสร้าง  แล้วทำให้ดูเก่าแล้วขายยกหลัง   เรียกว่าในอดึตตัดไม้กันทั้งหมู่บ้าน  ในสมัยก่อนต้นไม้ใหญ่หนึ่งต้นใช้เวลาประมาณครึ่งเดือนในการตัด  แต่ต่อมามีเลื่อยยนต์ใช้เวลาเพียง 5 นาที  ในหมู่บ้านมีเลื่อยยนต์ถึง 30 เครื่อง   ชาวบ้านมีรายได้จากการตัดไม้วันละ 1,500 -2,000 บาท/วัน/คน (ต่างจากสมัยก่อนวันละ 100-200 /วัน/คน  ยิ่งมีการสัมปทานป่าไม้  ทำให้ไม้ใหญ่แทบจะไม่เหลือ

นอกจากนี้ชาวบ้านเริ่มพัฒนาการจับปลาแบบเดิมๆมาเป็นการใช้ปูนขาวโรยเพื่อเบือปลา  ใช้ระเบิดปลาจากหม้อแบตเตอรี่รถมอเตอร์ไซด์  ทำให้ปลาตายหมด  หลังจากนั้นเริ่มมีปัญหาตามมามากมาย ในปี 2543-2544 ไฟไหม้ป่า  น้ำในห้วยแห้ง  อากาศร้อน  มีแต่ความแห้งแล้ง กันดาร  จึงเป็นที่มาให้เกิดการรวมตัวกันขึ้น  ซึ่งจะขอเล่าในบันทึกถัดไปค่ะ



Main: 0.017822980880737 sec
Sidebar: 0.046369075775146 sec