เรื่องเรียนรู้ของครูเอก

โดย dd_l เมื่อ เมษายน 7, 2009 เวลา 4:53 (เย็น) ในหมวดหมู่ เรียนรู้ชีวิต #
อ่าน: 2615

หลังกลับจากสวนป่าครั้งล่าสุด..รู้ตัวว่ามีการบ้าน
แต่การงานก็ทำให้ไม่ได้เขียนบันทึก
แต่เมื่อได้อ่านบันทึกของคุณครูที่ไปด้วยกัน
จึงมีเรื่องราวที่นำมาแบ่งกันอ่านค่ะ

บันทึกการไป สัมมนา ที่บุรีรัมย์
ระหว่างวันที่ 25 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม 2552

       หลังจากได้รับคำสั่งว่า ต้องไปสัมมนาที่สวนป่า จังหวัดบุรีรัมย์ ผมก็เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับสวนป่า สอบถามจากผู้ที่มีประสบการณ์ ก็ได้รับคำบอกเล่าหลายประการ แต่ที่แน่ ๆ ความรู้สึกอย่างหนึ่ง เกิดขึ้นในใจ ก็คือ ไม่อยากไป (แต่ก็ต้องไป)

        วันแรกที่ไปถึง ผมก็รู้สึกไม่ค่อยสบายจากอาการไข้หวัด เพราะว่าระหว่างเดินทางต้องเจอทั้งอากาศร้อน และเย็น หลังจากรับประทานอาหารเย็นกับท่านครูบาสุทธินันท์เสร็จแล้ว ผมก็ทานยาแล้วก็พักผ่อน เก็บแรงไว้สู้กับวันพรุ่งนี้ต่อไป

        วันพฤหัสบดี ที่  26 กุมภาพันธ์ 2552  วันที่สองของการอยู่ที่สวนป่า ในตอนเช้า ท่านครูบาสุทธินันท์ ก็พาเที่ยวชมที่สวนป่า ท่านก็ได้ให้แนวคิดที่ว่า การจะใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติอย่างถูกต้อง ต้องทำอย่างไร เพราะว่าธรรมชาติให้อะไรกับเรามากมาย   

     พอช่วงบ่าย ผมก็มานอนพักที่ห้อง เพราะอาการไข้หวัดยังไม่ค่อยหายดี  ตกเย็นความรู้สึกนี้ก็มาอีกแล้ว ผมอยากกลับบ้าน ผมถามตัวเองว่า ผมมาทำอะไรที่นี่ ซึ่งผมก็ยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ซักที

        มีสมาชิกของคณะเฮฮาศาสตร์ ทยอยกันมาที่สวนป่ามากขึ้นเรื่อย ๆ  อาจเป็นเพราะด้วยบุคลิกส่วนตัวของผมที่เป็นคนไม่ค่อยพูด (โดยเฉพาะกับคนแปลกหน้า) ทำให้ผมเกิดความรู้สึกว่าเป็นส่วนเกินของที่นี่  ทำให้ความรู้สึกอยากกลับบ้านมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งผมก็ไม่ได้รู้สึกเพียงคนเดียว ท่านอาจารย์บันดาล ก็รู้สึกเหมือนกัน  พอตอนเย็น ผมกับอาจารย์บันดาลย์ได้เล่นดนตรี ให้กับทางคณะฯ และท่านครูบาฟัง ผมดีดซึง  ท่านครูบาชอบมาก ทุกคนรู้สึกประทับใจในเสียงซึงมาก

       ผมรู้สึกดีที่ได้แสดงความสามารถให้ทุกคนเห็น แต่ ความรู้สึก “มาทำไม” ก็ยังคงอยู่ ความคิดที่ว่ากลุ่มคนพวกนี้มาทำอะไร..เขามารวมตัวกันเพื่ออะไร..ทำไปแล้วพวกเขาจะได้อะไร..ผมยังไม่เจอคำตอบ   ผมรู้ว่าเขาจะจัดกิจกรรม แต่ยังไม่รู้ว่ารูปแบบของกิจกรรมเป็นอย่างไร  ผมจะต้องทำอะไรบ้าง

       ผมเกิดความรู้สึกกลัวสารพัด กลัวทำไม่ถูก กลัวตอบไม่ได้  ผมคุยกับอาจารย์บันดาลย์ ทำให้ทราบว่าอาจารย์บันดาลย์ ก็รู้สึกเหมือนกับผม ส่วนท่านผู้อำนวยการโรงเรียนมงคลวิทยา ท่านก็ไม่ได้ให้คำตอบอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ ท่านให้เพียงหนังสือชีวประวัติของท่านครูบา “สุทธินันท์” หนึ่งเล่มซึ่งให้ก่อนที่ผมจะมาที่นี่ ซึ่งผมอ่านจบแล้ว ผมก็ยังไม่ได้คำตอบอยู่ดี

        วันศุกร์ ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2552  ตอนเช้า ยังไม่มีกิจกรรมอะไรมากนัก พอตอนบ่าย ท่านผู้อำนวยการโรงเรียนมงคลวิทยา ท่านก็บอกว่า ท่านจะไปโคราช อยากพาผมไปด้วย   ความรู้สึกแรกที่ได้ยิน ดีใจมากเหมือนเด็กจะได้ไปเที่ยว แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะท่านพ่อครูบา จะให้เล่นดนตรีเพื่อต้อนรับคณะนักศึกษาสถาบันพระปกเกล้า 

       ผมรู้สึกเหมือนโดนปล่อยเกาะ แต่ผมก็คิดได้ว่า เราต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง แต่ความกังวลของผมก็ยังไม่หมด ในการเล่นดนตรีผมไม่รู้ว่ากลุ่มผู้ฟังจะเป็นกลุ่มใด แล้วผมต้องเล่นดนตรีแนวไหน เขาจะชอบเสียงซึงของผม เหมือนท่านครูบาหรือไม่

       โชคดีของผม วันนั้นผมได้รู้จักกับ คุณสายลม ชายผู้ที่รักในเสียงดนตรีเหมือนกัน จึงคุยกันอย่างถูกคอ ได้แลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างเครื่องดนตรีของทางภาคเหนือ กับเครื่องดนตรีของภาคอิสาน ผมและคุณสายลมได้แลกเบอร์โทรศัพท์ และอีเมล์ กันไว้เพราะคงได้คุยกันอีกในฐานะที่เป็นคอดนตรีเหมือนกัน คุณสายลมได้พาผมไปรู้จักกับใคร ๆ อีกหลายคน

       ผมได้คุยกับท่านพ่อครูบา เรื่องที่จะเล่นดนตรีต้อนรับคณะนักศึกษาสถาบันพระปกเกล้า ท่านบอกว่าให้เล่นในแบบของเรา ไม่ต้องวิตกกังวลใด ๆ ทั้งสิ้น ท่านจะให้เล่นหลังจาก ทางคณะฯรับประทานอาหารเสร็จ ให้เล่นดนตรีโหมโรง ก่อนที่ท่านจะกล่าวต้อนรับ

       พอถึงตอนเย็นทางคณะก็เดินทางมาถึงพร้อมกับศิลปินในดวงใจของผม  พี่ปู พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์ ผมได้คุยกับคุณปู และขอถ่ายรูปเก็บไว้(เอาไว้อวดชาวบ้านครับ)หลังจากที่รับประทานอาหารเย็นกันเสร็จ คุณปูก็ได้บรรเลงเพลงของคุณปู 7 เพลง ให้กับทางคณะได้รับฟัง โดยใช้กีตาร์ของผมเอง ประทับใจมากครับ พอคุณปูเล่นเสร็จ ผมก็เล่นต่อ ซึ่งทางคณะฯ ประทับใจเสียงซึงของผมมาก พอ ๆ กับคุณพ่อครูบาเลย

       หลังจากคุณปู พงษ์สิทธิ์ เล่นเสร็จก็กลับ ก่อนจะกลับผมขอให้คุณปูเซ็นต์ชื่อที่กีตาร์ให้ จะได้เอาไว้อวดชาวบ้าน(อีก) คุณปูได้เล่าถึงเพลงของเขา ว่าเพลงบางเพลงสามารถเปลี่ยนชีวิตของเราได้ อย่างเพลงผีโรงเย็น เขาแต่งตอนอยู่ ป.6 แล้วเพลงนี้ก็สร้างชื่อให้คนได้รู้จัก ปู พงษ์สิทธิ์ และใช้ทำมาหากินจนทุกวันนี้ เพลงเดียวสามารถเปลี่ยนชีวิตของเราได้ ผมประทับใจมากครับ

        วันเสาร์ ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2552 “วันแห่งความสุข” ตอนเช้า คุณพ่อครูบา ให้เล่นดนตรี (อีกแล้วครับท่าน) เล่นเปิดงาน ผมเล่นเพลงของคุณจรัล  มโนเพชร 3 เพลง มีคนขอเพลง ค้างคาวกินกล้วย ถนัดเลยครับเพลงนี้ จัดให้ครับ จากนั้นก็เป็นกิจกรรมของเฮฮาศาสตร์ ผมมีความสุขมาก

 

        ผมเจอคำตอบหลายคำตอบที่ผมหามาตลอดระยะเวลาที่มาอยู่ที่นี่ เป็นการจับประเด็นเรื่องที่เขาพูด ผมได้แนวคิด หลากหลายแนวคิด ได้ความรู้ ประสบการณ์ จากกิจกรรม ได้รู้ว่าผมมาทำไม ได้รู้ว่าเขาทำอะไรแล้วได้อะไร ประทับใจท่านอาจารย์ที่ขึ้นพูดทุกคน บุคคลเหล่านี้เป็นคนที่ “รู้จริง” ในเรื่องที่เขาศึกษาและสามารถถ่ายทอดได้เป็นอย่างดี ดังคำกล่าวของท่านพ่อครูบาที่ว่า “รู้ไม่จริง พัฒนาอะไรไม่ได้หรอก ความรู้ครึ่ง ๆ กลาง ๆ ทำได้แค่…ท่าดีทีเหลว อย่างเก่งก็แค่สร้างภาพ สวยแต่รูป จูบไม่หอม” 

ระหว่างที่ทานข้าว ผมก็ได้บรรเลงเพลงของทางภาคเหนือให้กับคณะนักศึกษาสถาบันพระปกเกล้า ฟัง และได้เล่นกีตาร์ให้คุณทิพวรรณ ปิ่นพิบาล  ลุงเอก และใครอีกหลายคนในคณะฯได้ร้องกันอย่างสนุกสนาน คนเล่นก็สนุก คนร้องก็สนุก ประทับใจไปตาม ๆ กันครับ

        มาที่สวนป่าครั้งนี้ ผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างมาก เรียนรู้โดยประสบการณ์ตรง เรียนรู้เอง(ไม่มีพี่เลี้ยง) ได้แนวคิดที่หลากหลาย จากผู้ที่รู้จริง ได้รู้ว่าความรู้มีอยู่ทุกที่ อยู่ที่ว่าคุณจะมองเห็นหรือไม่ การที่เราได้มีส่วนร่วมในกิจกรรม ได้แสดงความสามารถ ได้ทำตนให้มีประโยชน์ ทำให้ได้เห็นคุณค่าของตนเอง

        ความประทับใจของผมยังไม่หมดแค่นี้นะครับ ผมรู้สึกชื่นชม คณะเฮฮาศาสตร์มาก ดีใจมากที่มีคนกลุ่มหนึ่ง ที่มองการศึกษาอย่างเข้าใจ และรวมตัวกันเป็นเครือข่ายพลังความคิด เพื่อที่จะผลักดันให้ทุกคนได้มองเห็น ผมคิดว่าทางคณะเฮฮาศาสตร์ เปรียบคล้ายกับธุรกิจเครือข่าย (Network Marketing) มีแม่ข่ายตัวหลัก คือท่านครูบา และคณะเฮฮาศาสตร์ เป็นทีมงานที่ต้องหาเครือข่ายให้ขยายเพิ่มมากขึ้น

       เป็นธุรกิจเครือข่ายทางความคิด เพียงแต่มีข้อแตกต่างกันก็คือ ธุรกิจเครือข่ายทั่วไป ทำแล้วได้ผลตอบแทนเป็นเม็ดเงิน แต่ธุรกิจเครือข่ายทางความคิดของคณะเฮฮาศาสตร์ ใช้หัวใจทำ ทำเพื่อเด็กไทย ทำเพื่อผลักดันการศึกษาไทย ได้ผลตอบแทนเป็น เม็ดความสุข เม็ดความคิด

       ซึ่งตัวผมเองไปครั้งนี้ ผมได้มา หนึ่งแสนความสุข หนึ่งแสนความคิด หนึ่งแสนความประทับใจ และหนึ่งแสนความภูมิใจ (โดยประมาณ) ผมได้หลากหลายแนวคิดที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ทั้งในด้านการทำงาน และในชีวิตประจำวัน

ผมนึกถึงคำของพ่อครูบาที่ว่า

“เรียนในห้อง…ได้ความรู้
เรียนนอกห้อง…ได้ความจริง

เอาความรู้บวกกับความจริง
เราได้…ความรู้จริง”

       สุดท้ายนี้ขอให้ธุรกิจเครือข่ายของ เฮฮาศาสตร์ เจริญรุ่งเรือง และประสบความสำเร็จ สร้างเครือข่ายได้ทั้งประเทศ ชี้ทางสว่างให้การศึกษาไทย ที่หลงทางอยู่ได้ลืมหูลืมตาเสียที ขอบคุณ ท่านผู้อำนวยการโรงเรียนมงคลวิทยา มากครับที่พาผมไปเปิดโลกทัศน์ใหม่ ทำให้ผมได้เห็นอะไรที่ไม่เคยเห็น ได้รู้อะไรที่ไม่เคยรู้ ขอบคุณจริง ๆ ครับ มีโอกาสคราวหน้า ขอพาครอบครัวไปด้วยนะครับ..

 ครูเอก..วีระชัย  ยะธะนะ

« « Prev : บันทึกในวันแห่งความรัก

Next : เรื่องเรียนรู้ของครูเต๋ย.. » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

12 ความคิดเห็น

  • #1 จันทรรัตน์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 7 เมษายน 2009 เวลา 5:04 (เย็น)

    ครูเอกเขียนเก่ง

    …ครูใหญ่ให้ครูเอกทำการบ้านแล้ว ครูใหญ่อย่าลืมทำการบ้านโตยเน้อ…อิอิ

  • #2 dd_l ให้ความคิดเห็นเมื่อ 7 เมษายน 2009 เวลา 5:20 (เย็น)

    หมู่นี้..เดินไปไหนไม่ค่อยไหว..  ดินพอกหางก้อนใหญ่เชียวจ้าอุ้ย…5555
    อ้อ..บันทึกครูเต๋ยมีอ้างอิงอุ้ยด้วยนะจ๊ะ

  • #3 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 7 เมษายน 2009 เวลา 5:36 (เย็น)

    สวัสดีครับ

    ฝากข้อความถึงครูเอก ด้วยครับว่า เขียนบันทึกได้สุดยอดมาก

    ดนตรีเป็นสื่อที่ทำให้คนรักกันก็ได้ ทำร้ายกันก็ได้ แต่ถ้าเราเลือกจะให้ดนตรีสื่อสันติสุข เรามีหลายวิธีการ เหมือนกับที่เฮฮาศาสตร์ใช้วิธีการต่างๆหลากหลายรูปแบบทำให้คนอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข อย่างน้อยก็ในกลุ่มเฮฮาศาสตร์ที่มีผู้ที่มีความรู้ด้านต่างๆมาพบปะพูดคุยเสวนากัน ใครติดขัดอะไรก็บอก ผู้มีความรู้ในกลุ่มเฮฮาศาสตร์ก็จะมาช่วย ทำให้แก้ปัญหาได้เป็นอย่างดี แล้วเราก็ขยายกลุ่มออกไปเรื่อยๆ พูดกันแต่เรื่องดีๆจะได้ไม่หมองใจกัน สังคมหากเป็นอย่างนี้มันก็มีความสุข

    ดีใจที่ครูเอกเข้าใจ จะได้สร้างความเข้าใจให้ลูกศิษย์ต่อไปครับ

  • #4 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 7 เมษายน 2009 เวลา 6:26 (เย็น)

    แหมเขียนดีขนาด
    แบบนี้น่าจะชวนมาอีก พวกเราจะได้หน้าบานไปตามๆกัน
    ..จะเห็นว่าทุกอย่างสวรรค์มีตาบันดาลให้
    จู่ๆ พงษ์สิทธิ์ก็มาร่วมกับเรา
    ที่จริงอาจารย์ 2 คนก็เล่นเพลงได้ไพเราะอยู่แล้ว
    เพียงแต่โปรแกรมมันเยอะไปหน่อย เจาะเวลาหาช่องว่างยากนิดหนึ่ง
    แต่ก็ดีใจ ที่พวกเราได้ร่วมกันทำความดีแบบง่ายๆสนุกๆ
    วันหลังจะไปบุกเมืองละปูนฟังเพลงสดๆ นะครับ อิอิ

  • #5 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 9 เมษายน 2009 เวลา 11:02 (เช้า)

    ครูเอกเขียนเก่งแล้ว  ครูใหญ่ไม่ต้องเขียนก็ได้  ฮ่าๆๆๆๆๆ  ฮิ้ว……….

  • #6 dd_l ให้ความคิดเห็นเมื่อ 9 เมษายน 2009 เวลา 12:02 (เย็น)
    ขอบคุณท่านอัยการที่แวะมานะคะ  ได้อ่านบันทึกของครูเอกแล้ว ได้เห็นความเข้าใจบางอย่างที่เพิ่มขึ้น  และเหมือนกับได้ก้าวข้ามข้อจำกัดบางอย่างของตนเอง  ก็อยากนำมาเผยแพร่   ครูเอกรักและตั้งใจในการสอนดนตรีมาก   เมื่อกลับมาก็พยายามทำอะไรใหม่ๆ มากขึ้นค่ะ

    ต้องขอบคุณชาวเฮฮาศาสตร์ทุกท่านสำหรับประสบการณ์ของครูเอกด้วยค่ะ

  • #7 dd_l ให้ความคิดเห็นเมื่อ 9 เมษายน 2009 เวลา 12:04 (เย็น)
    มีคุณครูอยากไปสวนป่ากับหลายคนค่ะ  จะให้ครูบาบุกลำพูนก่อนดี หรือ ให้ชาวลำพูนบุกสวนป่าก่อนคะ
  • #8 dd_l ให้ความคิดเห็นเมื่อ 9 เมษายน 2009 เวลา 12:06 (เย็น)
    เย้…จอมป่วนบอกไม่ต้องทำการบ้าน..^^
    ไม่ต้องเขียนก็ได้มั้งคะ..  ปกติก็เขียนเองอ่านเองอยู่แล้ว…55555
  • #9 krupu ให้ความคิดเห็นเมื่อ 9 เมษายน 2009 เวลา 6:28 (เย็น)

    โอย เพิ่งหาลานพี่ครูอึ่งเจอ
    ครูเอกเขียนดีจัง เสียดายไม่มีเวลาได้คุยกันเลยค่ะ
    คราวหน้าไม่พลาดค่ะ ไม่พลาด อิอิ
    คึดฮอดแต๊เน่อ ^_^

  • #10 dd_l ให้ความคิดเห็นเมื่อ 9 เมษายน 2009 เวลา 10:10 (เย็น)
    น้องครูปูจ๋า..
    ลานของพี่หายาก เพราะนานๆ เขียนทีอะ  ว่าจะ..ว่าจะ..แต่แล้วก็ไม่ได้เขียนสักที
    แถมช่วงก่อน เข้ามาลานตัวเอง ก็เห็นตัวหนังสือต้วเบ้งๆ  รกหูรกตา  แก้ไม่ได้  เลยไม่ค่อยอยากโชว์ตัว..อ้าว..^^

    กลับจากสวนป่าได้พักบ้างหรือยังน้อ…
    กึ๊ดเติงหาเช่นกันค่ะ

  • #11 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 เมษายน 2009 เวลา 10:40 (เย็น)

    เอาตัวมาให้กระบี่ใช้งานจนเหนื่อยนะ หายเหนื่อยรึยัง คิดถึงจังเลย  คราวหน้าไปกระบี่หาเวลาไว้หลายวันหน่อยเน้อ จะได้สัมผัสกระบี่ให้มากมุมขึ้นอีกจ๊า

    รักครูใหญ่จริงๆ โอ๊ะๆๆๆ ลืมไป ว่าไม่ให้เรียกครูใหญ่

  • #12 ลานเวลา » คิดถึงสวนป่า..คิดถึงเฮฮาศาสตร์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 31 พฤษภาคม 2009 เวลา 10:17 (เย็น)

    [...] ทั้งยังทำให้คุณครูผู้ร่วมทีมมีประสบการณ์ที่ได้ก้าวผ่านข้อจำกัดของตน และได้เห็นผลการพัฒนา เมื่อกลับมาทำงาน ได้เห็นการงอกงามในความเชื่อมั่น เห็นการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้แก่เด็ก จากจุดเริ่มต้น ในเรื่องเล็กๆ  จึงก่อเกิดก้าวใหม่ได้อีกหนึ่งก้าว [...]


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.23363494873047 sec
Sidebar: 0.11667394638062 sec