ทฤษฎีหญ้าเจ้าชู้
พู(รังแรกเจอภัยพิบัติน้ำฝนถล่มเมื่อคืนสามารถซ่อมแซมได้รวดเร็ว)
ดถึงหญ้าเจ้าชู้พวกเราจะรู้จักไหมนะ ในเมื่อสมัยนี้มีหญ้าพันธุ์ใหม่ๆระบาดไปทั่ว หญ้าพื้นเมืองพื้นถิ่นกลายเป็นหญ้านอกสายตา ใครๆเห็นแล้วรำคราญ มองไม่ระรื่นตาเหมือนหญ้าญี่ปุ่น หรือหญ้านวลน้อยหญ้ามาเลฯที่ปลูกประดับสนามหน้าบ้าน อาการหมั่นไส้หญ้าเกิดขึ้นกับเกษตรกรรุ่นใหม่ เจอเป็นไม่ได้วิ่งโร่ไปหายาฆ่ามาฉีดๆๆให้สูญพันธุ์ ทำไมเป็นยังงั้นก็ไม่รู้นะครับ ชาวไร่ชาวนาสมัยก่อนไม่เห็นมีใครอาฆาตมาดร้ายหญ้าเท่าคนสมัยนี้ หญ้าชนิดไหนก็ใช้เลี้ยงวัวควายได้ รึหันมาใช้ควายเหล็กให้กินน้ำมันแทนหญ้า หญ้าก็เลยหมดความหมายหนักเข้าไปอีก เกิดเป็นหญ้านี่น่าน้อยใจ ใครๆก็จ้องทำลาย
สมัยหนึ่งมีเรื่องฮากันที่สุรินทร์
หัวหน้าพิธีกรรมจัดงานเกี่ยวกับประเพณีของจีน
ได้กล่าวต้อนรับผู้ว่าราชการจังหวัดสมัยโน้น
“ผู้ ว่ า เ ป รี ย บ เ ห มื อ น ส้ น ตี น น น น น”
“พ ว ก ผ ม เ ป รี ย บ เ ห มื อ น ย อ ด ห ญ้ า”
“ถ้ า ส้ น ตี น เ ห ยี ย บ ห ญ้ า ห ญ้ า ก็ แ บ น แ ต๊ ด แ ต๋”
· ถ้าท่านเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดไปเป็นประธานเปิดงานนี้ ท่านจะกล่าวตอบยังไงดีละครับ ถ้าเริ่มต้นตรงที่ซ่นตีนรับทราบข้อนี้ดี คงจะมันส์พิลึก สิ่งที่กล่าวรายงานไม่ได้เกิดอคติใดๆ อุตส่าห์กลั้นกรองออกมาจากจิตใจบริสุทธิ์ เพราะกรรมการพ่อค้าท่านนี้เป็นคนดีมาก คนรักทั่วเมือง แต่พูดอะไรก็จะพูดตรงๆเช่นนี้ ไม่ได้มีความหมายไปในทางที่แอบแฝงใดๆ
· คราวนี้มาถึงบทบาทหญ้าเจ้าชู้บ้าง โดยทั่วไปหญ้าชนิดนี้ชอบเกิดในพื้นที่โล่งกว้าง เช่นพื้นที่สนามฟุตบอลตามโรงเรียนในชนบท พบเห็นสองข้างทางทั่วไป ตามคันนาหัวไร่ปลายนาก็เจอประจำ เป็นหญ้าที่มีเถาว์เลื้อยไปตามพื้นดิน ขยายพันธุ์โดยชูก้านดอกแข็งๆสูงประมาณ๑ฟุต มีเมล็ดที่ห่อหุ้มด้วยเปลือกแข็งรูปกระสวยเล็กๆ ไม่ว่าสัตว์หรือคนเดินฝ่าไปใกล้ เจ้าเมล็ดหญ้าปลายแหลมก็จะทิ่มเข้าตามผิวหนัง คนไหนเดินผ่านก็จะปักเต็มขากางแกง ไม่ได้ปักนิดๆหน่อยนะเธอ ปักแน่นพรึดเต็มทุกตารางนิ้ว
แปลกแท้ๆ
ปักได้ปักดียังกะมีเครื่องอัตโนมัติรุ่นนาโนทำหน้าที่นี้
ใ ค ร โ ด น ต้ อ ง ม า นั่ ง แ ก ะ ที ล ะ ด อ ก ๆ กว่าจะหมดก็นานโข
มันปักได้ซาบซึ้งตรึงทรวงจริงๆ
เ ค ย เ ห็ น เ ด็ ก บ า ง ค น ถึ ง กั บ เ อ า มี ด เ ห ล า ดิ น ส อ ค่ อ ย ๆ ขู ด อ อ ก จ า ก ก ร ะ โ ป ร ง
· หญ้าเจ้าชู้นับว่ามีอัตลักษณ์ในการขยายพันธุ์เป็นพิเศษ ยากที่จะเห็นในหญ้าชนิดอื่น ทำให้ผมนั่งนึกตรึกตรองว่า ถ้าคนเราใส่ใจเรียนรู้เหมือนหญ้าเจ้าชู้ก็จะดี เห็นความรู้ใหม่ๆดีๆแปลกๆก็เข้าไปก๊อปปี้ หรือคอมเมนท์ไว้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ มนุษย์ยุคนี้มีเครื่องมือดูดซับความรู้สะดวกและรวดเร็ว ถ้าลองใช้ทฤษฎีที่ผมกล่าวถึงนี้ น่าจะดีไหมครับ
การเป็นผู้เรียนทำให้ชีวิตมีความหมายและมีศักดิ์ศรี
· ไม่ต้องไปงมโข่งกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง
· ไม่ต้องไปนั่งบ่นเป็นหมีกินผึ้ง
· ไม่ต้องไปเซ็งกระจาย๓เวลาหลังอาหาร
· ไม่ต้องอยู่กับเรื่องเก่าๆซ้ำซาก
· สามารถยืนอยู่บนลำแข้งตัวเองได้อย่างทรนง
คุณสมบัติของผู้เรียน ก็คือผู้ที่เปิดใจ
อยากรู้ อยากเห็น อยากทดลอง อยากค้นคว้า
อยากเจาะลึก บางคนถึงกับกัดไม่ปล่อย
(รังที่๒ เจอน้ำท่วมมิด แต่ยังอุตส่าห์สู้ซ่อมแซม)
· ถ้าเด็กไทย คนไทยมีนิสัยเยี่ยงนี้ คุณภาพของการจัดการความรู้ของคนไทยไปโลดแน่ เท่าที่เห็นๆ ส่วนมากมักจะประมาทกับการเรียนรู้ อยากจะเรียนง่ายๆ ทำวิทยานิพนธ์ง่ายๆ จบง่ายๆ โธ่ แม่คุณ ถ้ามันทำง่ายแล้วได้ประสิทธิผลดีคงไม่มีใครมาบ้าทำให้มันยุ่งยากหรอก ในบางเรื่องบางกรณี ม นุ ษ ย์ ยั ง ไ ม่ พ บ วิ ธี สั น ด า ป ค ว า ม รู้ ไ ด้ เ ร็ ว ก ว่ า นี้ บางทีอาจจะเกี่ยวข้องกับสติปัญญามีข้อจำกัด เรื่องนิสัยการเรียนรู้ต้องอาศัยการฝึกฝนเป็นลำดับ ถ้าตั้งต้นตั้งใจดี เราก็เขยิบเข้าไปหาตัวความรู้ได้ตามขั้นตอน แต่ถ้าคิดเบี่ยงแบนจากความเป็นจริงมันก็ยากละครับ
สู้สิ่งยากตรงๆจะไม่ดีกว่าหรือ
ในเมื่อทุ่มเทจะศึกษาแบบเจาะลึกก็เจาะให้มันหมดก๊อกไปเลย
จะขยักขยุกขยิกทำไมเล่า
หรือพอใจกับที่ตัวเองไม่มีความรู้ความสามารถจริง
แต่ก็สามารถฝ่าไปรับ กระดาษเปื้อนหมึก ม า อ ว ด ใ ค ร ๆ ไ ด้
ถ้าแบบนี้ไม่เข้าเกณฑ์ทฤษฏีหญ้าเจ้าชู้หรอกนะเธอ
สงสัยว่าจะเป็น ห ญ้ า ตี น ตุ๊ ก แ ก
ยามได้ยินเสียง กั๊ บ แ ก กั๊ บ แ ก ก็สะดุ้ง
กลัวจะโดนล้วงตับ หรือลองวิชา
เอาเป็นว่า เ รี ย น เ ล่ น ๆ ก็ ไ ด้ แ ต่ ข อ ใ ห้ รู้ จ ริ ง ๆ ก็ แ ล้ ว กั น
รู้ไม่จริง อนาคตจ่ายค่าโง่บานตะไทเลยละเธอเอ๋ย
ค ว ร ดำ เ นิ น ต า ม ค ร ร ล อ ง -รู้จัก –รู้จริง –รู้แจ้งก็พอ
ก า ร เ ป็ น ห ม า ห ล ง อ ยู่ บ น ท า ง ด่ ว น จะสนุกตรงไหนละเธอ
อาการมันหนักกว่า ห ม า ห อ บ แ ด ด ส มั ย ก่ อ น เ สี ย อี ก
ถ้าอยากจะฟังเรื่องนี้เต็มๆ
วันที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ภาคบ่าย
มีรายการสัมมนาแพทย์พยาบาลทั่วประเทศ
เ ร า ม า เ จ อ กั น ที่ เ มื อ ง ท อ ง ธ า นี ดี ไ ห ม ?
อย่าเผลอไปนัดกิ๊กเที่ยวละ
เอาถ่านหุงข้าวขีดกาวันที่ติดฝาบ้านไว้เลย
เ ดี๋ ย ว จ ะ ห า ห ล่ อ ไ ม่ เ ตื อ น
คริ คริ