อยากจะอบหัวใจเธอจังเลย

อ่าน: 4866

งานวิจัยไทบ้าน เรื่องความมั่นคงทางอาหาร

หมู่นี้มีการพูดถึงการเตรียมตัวเรื่องภัยพิบัติอยู่บ้าง ในฐานะผู้สอดรู้สอดเห็นก็เก็บเอามาคิดว่า ระดับอย่างเราๆจะเริ่มต้นตรงจุดไหนดี บังเอิญพี่แต๋วคุยเรื่องเตาอบพลังงานแสงอาทิตย์ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ผมก็ไม่ทราบว่าสองสาวเขาคุยตกปล่องร่องชิ้นกันยังไง มาทราบว่าก็อีตอนที่มีการสั่งซื้อเตาอบพลังงานแสงแดด และมาเห็นของจริงก็ตอนที่เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าใจดีบรรทุกมาส่งให้ถึงบ้าน โอ้โฮ ผมนึกว่าจะเล็กๆ ใหญ่แทบเต็มกะบะรถบรรทุกเล็กเลยละครับ เมื่อมีปัจจัยการทดลองอย่างนี้แล้ว ผมก็เลียบเคียงถามโฉมยงว่าคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เธอบอกว่าจะเอามาอบสมุนไพร แล้วแปรรูปทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพราะเรามีวัตถุดิบทั้งปี ใครไปใครมาก็จะเอามาให้ทดลอง ถ้าคุณภาพดีเป็นที่ยอมรับก็จะทำการเผยแพร่ต่อไป

(ทดลองอบกล้วย)

เธอว่า การที่มีเครื่องมือให้ทดลองทำให้ความคิดเดินออกจากการครุ่นคิดคำนึง

เช้านี้ เธอทดลองเอากล้วยสุกสามเครือ ปอกเปลือกแล้วแช่น้ำปูนใส

เอามาวางเรียงในตู้อบ เป็นการทดลองจากของจริงฉลองเป็นปฐมฤกษ์

เมื่อได้ทำอะไรเชิงปฏิบัติการ ง า น ที่ สั ม ผั ส ไ ด้ ส ะ ท้ อ น ค ว า ม รู้ สึ ก นึ ก คิ ด เธออธิบายเป็นฉากๆว่า ถ้าเรามีเครื่องอบชนิดนี้สี่ตู้น่าจะพอดีกับงานเริ่มต้นแปรรูปเพื่อถนอมอาหาร สำหรับการป้องกันภัยพิบัติ

· ตู้แรกจะอบผลไม้

· ตู้ที่สองจะอบอาหารประเภทเนื้อ

· ตู้ที่สามจะอบสมุนไพร

· ตู้ที่สี่จะอบพืชผัก เห็ด ต่างๆ

เ ร า จำ เ ป็ น ต้ อ ง ใ ช้ ถึ ง สี่ ตู้ เ ล ย รึ

เธอบอกว่าที่จำเป็นเพราะเรามีวัตถุที่แตกต่างกัน

ก า ร แ ย ก ตู้ อ บ จ ะ ทำ ใ ห้ ก ลิ่ น อ า ห า ร ไ ม่ อ อ ก ม า ตี กั น

ที่จริงเธออยากได้ห้าตู้ด้วยซ้ำไป

อ้าว ตู้ ที่ ห้ า จ ะ เ อ า ม า อ บ อ ะ ไ ร เธอบอกว่าประเภทของวัตถุดิบมีความแห้งระเหยไม่เท่ากัน ถ้าไม่มีตู้สำรองเราก็จะรอคอยนาน งานไม่ต่อเนื่อง ที่ทดลองวันนี้ ตู้ดังกล่าวจะรองรับกล้วยสุกได้ประมาณหกเครือ ถ้าทดลองจนได้สูตรแน่ใจอาจจะต้องขยายเป็นโดมขนาดใหญ่ เครื่องมือชุดนี้จึงเหมาะสมมากที่จะเอามาฝึกทักษะการถนอมอาหารต้นทาง ต่อ เ มื่ อ ชำ น า ญ แ ล้ ว เ ร า ค่ อ ย ข ย า ย ผ ล เ ป ลี่ ย น กิ จ ก ร ร ม เ ป็ น กิ จ ก า ร

(มันเลือด-เผือก-กล้วย ปลูกไว้เยอะจะเอามาอบทำแป้งไว้เจี๊ยะยามยากหรือเกิดภัยพิบัติ)

ส่วนผมนั้นมองอีกแบบหนึ่ง ถ้าเรามีเครื่องอบอย่างนี้ ช่วงที่ผมขุดมันเลือด ขุดเผือก เก็บเมล็ดถั่วพู ถั่วเขียว เมล็ดถั่วลิสง และข้าวโพด เราก็สามารถเอามาอบให้แห้งแล้วป่นเป็นแป้งเก็บไว้ได้ เป็นการถนอมเอาไว้ในยามยาก เมื่อได้แป้งแต่ละชนิดแล้วเราก็จะนำมาเรียนรู้ประกอบอาหารเมนูต่างๆ เครื่องมือพวกนี้จึงเป็นอุปกรณ์การค้นคว้า หาทางออกเกี่ยวกับอาหารยามภัยพิบัติในเชิงการวิจัยแบบไทบ้าน ถ้าเราประมวลความรู้ดั่งเดิมมาต่อยอดกับเทคโนโลยีที่เหมาะสมยุคสมัยใหม่ เราก็จะได้ชุดความรู้ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ที่สำคัญมันบ่งบอกว่า แนวคิดนี้ได้ประยุกค์ขึ้นตามครรลองของวิถีไทย

ถ้าไม่มีตรงนี้ เราก็จะนึกถึงแต่มาม่า

ข้าวกล่องที่บูดง่าย

โดยหาคำตอบไม่ได้ว่าในแต่ละท้องถิ่นจะพึ่งตนเองได้อย่างไร?

ถ้ามันไม่เกิดภับพิบัติ ก็ยังเดินหน้าระบบการพัฒนาอาหารสำเร็จรูปได้

จะเห็นว่า เครื่องมือที่จะนำไปสู่คำตอบไม่ได้แพงมากมายวายป่วงอะไร

ถ้ามีผู้สนับสนุนในจุดที่มีความพร้อม ความต้องการ ความมุ่งมั่น

ตู้อบอาหารแสงอาทิตย์มันไม่ใช่จะเอามาทำแต่เนื้อแดดเดียวหรอกนะเธอ

เ ร า จ ะ อ บ ทุ ก อ ย่ า ง ที่ ข ว า ง ห น้ า

โดยเฉพาะหัวใจคนโลเล อยากจะอบทำแห้งไว้จะได้ไม่ออกไปเพ่นพ่านหลอกใครๆ

เ ป็ น ก า ร บ้ า น ที่ ท้ า ท า ย ไ ห ม ล ะ พี่ แ ต๋ ว จ๋ า อิ อิ


เข้าตามตรอกออกตามประตู ฝืดๆ

อ่าน: 2140

ลานปัญญา เข้ายากเป็นบ้า

นี่คือเสียงโอดครวญระงมในระยะนี้

ต้องยอมรับว่าเพื่อนเรามีระดับความสามารถแตกต่างกัน

แม้แต่ผมเอง

ถ้าไม่คนช่วยอยู่เบื้องหลังก็คงเงอะงะยิ่งกว่าตาบอดคลำไดโนเสาร์เสียอีก อิ อิ

ลานปัญญาเป็นคล้ายๆลานวัด ที่ปัดกวาดลานบ้านให้เรียบร้อยดูดี สงบ สะอาด และสว่างด้วยแสงแห่งปัญญา เป็นที่ชุมนุนของเหล่าสาวกเฮฮาศาสตร์ มีประวัติความเป็นมาอลังการนัก ถ้าสนใจก็เข้าไปค้นหา ไม่นานหร๊อก เดี๋ยวก็เจอ เจอแล้วเธอจะรัก ถึงกับวิ่งเข้าไปกอดเชียวแหละ จรึงรึ จริงสิ

นี่คือจุดขายที่ผมเที่ยวไปปล่อยข่าว เรื่องลานปัญญา

ลงทุนไปเกี้ยวสาวๆมาเป็นกะบุงก็เพื่อการนี้ อยากเห็นลานปัญญา เป็นลานแห่งการสร้างเสริมสติปัญญาอย่างกว้างขวางของชาติ หลังจากที่ไปประชาสัมพันธ์แบบเจาะใจแล้ว ก็มีคำถามตามมามากมาย บางคำถามก็บอกว่า อ้าว ทำไมไม่เห็นมีใครตีฆ้องร้องป่าวประชาสัมพันธ์อะไรเลย บางคนที่อ่านเจ้าเป็นไผ อ่านแล้วยากจะเข้ามา ก็ติดเบรกเรื่องเข้ายากนี่แหละ ผมต้องแก้ผ้าเอาหน้ารอด ด้วยการค่อยๆปลดเปลื้องว่า โธ่ คนสวย ของดีจะมาตีแผ่แบกับดินทำไมละ คนนอกต้องเข้าไปแสวหา

เมื่อก่อนผมยังคิดเล่นๆว่า ลานปัญญาเป็นพื้นที่ๆ “ใครตาดีก็ได้” อะไรทำนองนั้น แต่พักหลังมีเสียงโอดครวญกระซี๊กระซิกว่า “เข้ายากเป็นบ้า” เรื่องนี้ต้องไหว้วานจอมยุทธแห่งลานปัญญาแล้วละครับ คุณหมอจอมป่วน กับท่านบางทราย และท่านอื่นๆลองจับเข่าคุยกัน คอมเมนท์เรื่องนี้ ตีแตกออกมาได้ไหม ทำยังไงของดีจะถึงมือผู้ที่สนใจใฝ่ฝ่าเข้ามาสนามเรียนรู้แห่งนี้

ไม่ใช่มีดีแล้วต้องอวดอะไรหรอก

ผมคิดถึงเรื่องการต่อยอดความรู้ ความคิด ความตั้งใจดีของเพื่อนใหม่

เหมือนกับเรามีต้นตอมะสังพร้อมที่จะเสียบยอด

ตอนนี้ก็มียอด ส้มโอ ส้มเช้ง ส้มเขียวหวาน มะกรูด มะนาว รอที่จะมาเสียบอยู่แล้ว

เราจะอำนวยความสะดวกให้กับญาติที่รักของเราได้อย่างไร

เราจะหาทางทำให้เส้นทางเข้า-ออกลื่นไหล ได้อย่างไร

คนดีๆอยากจะเข้ามา แต่เจอเส้นทางแบบเขาวงกต ก็ ถ อ ด ใ จ ไ ด้ น ะ ค รั บ

คงไม่ใช่เรื่องง้อ หรือไม่ง้อ เราควรมีจิตใจผ่องแผ้วสักนิด

ผมออกจากลานปัญญาไปพักหนึ่ง เพื่อไปจีบคนดีที่อยู่ในโลกกว้างให้เข้ามาเป็นพันธมิตรทางวิชาการ ชวนเข้ามาเป็นมิตรสหายถ่ายเทความรู้ให้กันและกัน สังคมอุดมปัญญาจะเกิดขึ้นได้ กระบวนการควรผ่อนคลาย ให้เข้ามาได้แบบสะดวกใจ ไม่ ถึ ง กั บ ส อ ง มื อ ล้ ว ง ก ร ะ เ ป๋ า ส อ ง เ ท้ า ก้ า ว เ ข้ า ม า ก็ ไ ด้ เอาเป็นว่าตีตั๋วก็สะดวก ประสานงานประสานใจก็สะดวก โลกข้างนอกลานปัญญามีคนดีคนน่ารักมากมาย เท่าที่ผมได้รู้จักก็เรียกว่าว่านับญาติกันได้อย่างสนิทใจก็มีไม่น้อย

บ้านเมืองเราวุ่นวายอย่างไรก็รู้ๆกันอยู่

คนดีๆก็ไม่รู้ว่าจะเอาตัวเองไปวางไว้ที่ใด

เพราะพื้นที่ๆจะไปพักใจก็ไม่รู้อยู่ที่ไหน?

ส่วนใหญ่ต่างแสวงหาโลกของตัวเอง ถ้าเราค่อยตะล่อมคนดีมาอยู่ด้วยกัน พลังของคนดีนั้นมีอานุภาพมากนัก ถ้าเราเข้าใจตรงจุดนี้ ก็ไม่มีเหตุผลที่จะชักช้า นัดพบกันครึ่งทาง หรือจะเลี้ยงดูปูเสื่อผ่านบล็อกนี่ก็ได้

· ผมเห็นความงดงามของมิตรภาพจากเพื่อนใหม่

· ผมเห็นความรู้ในตัวคนมากมายที่น่าเสียดายเวลาที่ผ่านมา

· ผมเห็นช่องทางการประสานงาน ในรูปของการทำงานแบบอิงระบบที่ชัดเจนมากขึ้น

· ผมเห็นศักยภาคนไทยจำนวนมากที่อยู่อย่างอุบอิบ ต้องการเพื่อนคู่คิดมิตรคู่บ้าน

· ผมเห็นความรักความศรัทธาที่มีต่อชาติบ้านเมืองและสังคมตกหล่นเกลื่อนกราด

· ผมเห็นคนดี คนงาม คนเก่ง คนน่ารัก จำนวนมหาศาลที่อยู่นอกรั้วลานของเรา

· ผมเห็นว่าเราควรจะปรับอะไรบางอย่างเพื่อกระแซะใจไปหากันให้ลื่นไหลยิ่งขึ้น

· ผมเห็นว่าชาวลานปัญญา อ่อนล้าต่อการต่อแต้มทางสติปัญญามาพอสมควร

· ผมเห็นว่า ถึงเวลาแล้วที่ลานปัญญาจะกระดี๊กระด๊าได้อย่างมีชีวิตชีวา

เสียดายช่วงนัดพบชาวเฮที่ผ่านมา เราต่างก็ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไป ถ้าจะรอรวมจอมยุทธวันขึ้นบ้านใหม่หมู่บ้านโลกค่อยมาถกกันก็อาจจะช้าไป มีวิธีไหนไหมครับ ที่จะขยับใจเข้ามาใกล้ชิดกันกว่านี้ เลิกร้องเพลง “โบกมือหยอยๆ ล า น้ อ ย ไ ป ช า ย แ ด น ดีไหมนะครับ

ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งกับระบบป้องกันพวกก่อกวนไวรัส

แต่ไม่มีวิธีอื่นนอกจากการล้อมรั้วอย่างแข็งขันเลยรึครับ

น อ ก จ า ก ช่ อ ง เ ข้ า ต า ม ต ร อ ก อ อ ก ต า ม ป ร ะ ตู แ ล้ ว

สามารถมีช่องลับ ช่องพิเศษอะไรได้อีกไหม?

ผมมันพวกรู้ไอทีแค่หางอึ่ง ก็ พู ด เ ป ร อ ะ ไ ป ยั ง งั้ น เ อ ง

แต่ก็เชื่อว่า สั ก วั น ฟ้ า สี ท อ ง จ ะ ผ่ อ ง อำ ไ พ

ถ้าเราระดมใจ ระดมความคิด มาช่วยกันในจุดนี้

ผ ม แ จ ก ตั๋ ว ฟ รี บั ต ร ฟ รี ไ ป ม า ก แ ล้ ว

ไปกระแซะ ไปชี้ชวน ไปออดอ้อนรำพันเขามาเอออยู่หน้าประตูบ้านแล้ว

เราจะรอให้คนที่น่ารัก บ่นงึมงำว่า เ ข้ า ย า ก ๆ ๆ ต่อไปรึครับ

ฝ า ก จ อ ม ยุ ท ธ ก ร ะ บี่ ด้ ว น พิ จ า ร ณ า ด้ ว ย เ ถิ ด

ควรมิควร ก็สมควรแก้ไขให้จบสิ้นกระบวนความ

เพื่อที่ลานปัญญาจะเป็นลานระดม พ ลั ง แ ห่ ง ส ติ ปั ญ ญ า ของหมู่เฮาเต็มลูกสูบเสียที

ใครอ่านแล้ว อิ อิ ระวังจะโดนเขก-


รักจริงหวังแต่ง

อ่าน: 1666

ใครไม่มีความรักบ้าแล้ว เออ ความรักกับความชอบเหมือนกันไหมนะ บางคนอาจจะเกิดความชอบก่อน บางคนอาจจะเกิดความรักก่อน ยิ่งรักก็ยิ่งชอบอะไรทำนองนั้น จะยังไงก็เถอะ ขอยกให้เป็นเรื่องโมเมศาสตร์ก็แล้วกัน ถ้ามนุษย์เรามีความรักที่ดี รักที่มีคุณภาพ รักที่สะอาด คุณคิดว่าโลกนี้จะน่าอยู่ไหมละ ผมชอบคำว่า “รักจริงหวังแต่ง” เ พ ร า ะ มั น มี ค ว า ม ห ม า ย ว่ า เ อ า จ ริ ง น ะ โ ว้ ย ไม่ได้มาปอกลอกหรือมาหลอกลวงแอบแฝงอะไร แต่ก็แปลกนะเธอ เรามักจะไม่ค่อยเจอประเภทหวังแต่งเท่าไหร่ ส่วนมากก็จะเป็นแบบไม่เอาจริง หรือที่เรียกว่า “หมาหยอกไก่” ทำไมหมาถึงหยอกไก่ ไปหาความหมายเอาเองก็แล้วกัน

ถ้าเราบริหารความรักได้ดี ชีวิตเราก็จะประสบแต่สิ่งที่ดีงาม

เอาความรักนำหน้า อย่างอื่นตามมาทีหลัง

รักเป็นยุทธปัจจัยเชิงรุกที่สำคัญ

หว่านโปรยรักลงที่ไหน ที่นั่นจะเต็มไปด้วยความอบอุ่นและมิตรไมตรี

ถ้าคุณภาพความรักเรามีศักยภาพ

อานุภาพความรักของเราก็จะสร้างอภินิหารได้นานัปประการ

ไ ม่ เ ชื่ อ ก็ ล อ ง นั่ ง ท บ ท ว น ดู เ ถิ ด

  • ถ้าเรารักต้นไม้ที่เราปลูก ไม้ในกระถางจะเจริญงอกงาม ให้ดอกให้ผลเป็นที่ชื่นตาชื่นใจ
  • ถ้ารักการเรียน ผลการเรียนก็ย่อมนำมาซึ่งความสำเร็จ
  • ถ้าเรารักเรื่องหนึ่งเรื่องใด เราก็จะทำได้ดีมีความสุขใช่ไหมละครับ

ปัญหาอยู่ที่ว่า เธอมีความรักในระดับใด

ถ้ามีระดับรักจริงหวังแต่งกับทุกเรื่อง

เรื่องที่เธอจับต้อง ก็ จ ะ ป ร ะ ส บ ผ ล สำ เ ร็ จ

ดั่งคำว่าที่ว่า จับให้มั่นคั้นให้อยู่

ในเชิงกระบวนการของความรักที่ดีแล้ว

คงต้อง เ พิ่ ม ขั้ น ต อ น จ า ก ห วั ง แ ต่ ง ให้เป็นการได้แต่ง

ลองดูนะครับ จากนี้ไปเราใช้ความรักไปแต่งแต้มกับสิ่งใด

  • เรามีเพื่อน หรือญาติมิตรสหายที่น่ารักกี่คน
  • เรามีเพื่อน หรือญาติที่ฝากผีฝากไข้ได้กี่คน
  • เรามีเพื่อน หรือญาติที่รู้ใจสักกี่คน

ผมไม่เชื่อว่าคนที่ไม่มีความจริงใจกับใคร ไม่ซื่อสัตย์ซื่อตรงกับเพื่อนจะมีเพื่อนที่ดีๆกับเขาได้ คบกับใครก็มีเล่ห์กะเท่จะเอารัดเอาเปรียบคนอื่น คนไม่ดีนั้นทำมาหากินลำบากมาก ถึงจะมีความร่ำรวยก็ร่ำรวยบนกองทุกข์ หาทรัพย์มาได้มากเท่าใดก็จะต้องใช้เล่ห์เททุบายมากมายเท่านั้น บางคนถึงกับคดโกงแผ่นดิน บิดตระกูดกับกฎระเบียบต่างๆ พยายามที่จะบิดพลิ้วทุกเรื่อง ถึงจะมีชื่อเสียงมีตำแหน่งมีหน้ามีตาก็มีแบบวัวสันหลังหวะ ไม่ได้รับการยอมรับโดยสุจริตใจจากประชาคมโดยรวม พวกที่ขาดความรักกำกับคุณธรรม จึงทำไปด้วยความหลงมากกว่าความรัก เลือกเดินทางเถื่อน อยู่กับความเถื่อน มีรักแบบเถื่อนๆ แต่งงานมีลูกเต้าเยอะแยะ ยังแกล้งหย่าแบบเถื่อนๆ วิบากกรรมรักนั้นมีจริง

ถึ ง จ ะ ผ่ า น ก า ร รั ก จ ริ ง ห วั ง แ ต่ ง

แ ต่ สุ ด ท้ า ย ก็ ต้ อ ง ม า เ ล่ น ล ะ ค ร ห ย่ า ไ ม่ จ ริ ง ห วั ง ต บ ต า

หาความสง่างามมิได้เลย

เป็นต้นแบบของการทำลายความรักที่งดงามของมวลมนุษยชาติ

ยั ง ไ ง ๆ ก็ ดู ดี ๆ น ะ น้ อ ง

อย่าไปรักจริงหวังแต่งกับพวกขาดคุณสมบัติรัก

เดี๋ยวอกหัก จะหาว่าหล่อไม่เตือน

ถ้ารักพี่จริง  วิ่งตามมาที่ลานปัญญานะน้อง

พี่รับรองความปลอดภัย จะเลี้ยงดูอย่างดีมีความสุขตลอดไป

ถ้ารักกันจริงวิ่งตามมาลานปัญญานะน้อง

รับรองจะเลี้ยงดูอย่างดี ไม่ทิ้งไม่ขว้าง ไม่ใจร้าย ใจดำ เหมือนที่อื่นหร๊อก

คิ คิ_



Main: 0.047909021377563 sec
Sidebar: 0.066732883453369 sec