ควันหลงจากการไปดูงานภาคตะวันออก
อ่าน: 1938ไปดูงานภาคตะวันออกเที่ยวนี้
ได้ฉุกคิดบางเรื่อง
พวกกลุ่มอุตสาหกรรมนั้นคิดน่ากลัวมาก ทำอะไรพิลึกพิลั่น
หลายเรื่องทำไปแก้ไป มีความรู้ไม่ถึงไม่เป็นไร
เอาแค่เห็นว่าได้เงินมาก มีโอกาสรวย ชิงทำก่อนได้เปรียบ ลุยเลย
อาจจะเรียกว่าตีหัวเข้าบ้านก็ได้!!
เหมือนกับนักเลงกล้าได้กล้าเสีย
โกงไว้ก่อน ถ้าไม่ไหวค่อยหาทางลี้ภัย
ความเสียหาย ผลกระทบ ให้ราคาน้อยกว่าการฉวยโอกาส
ชอบใช้วิธีตีก่อน ไปหาหมอ ไปสถานีตำรวจทีหลัง
เปรียบเสมือนโครงการวิจัยในเมืองสารขันธ์
ยักแย่ยักยันเพราะระบบมันเต็มไปด้วยอีแอบ
ไม่สามารถเดินหน้าได้ทันที
บิดกุญแจสต๊าทส์รถ
ใช่ว่าจะเคลื่อนไปได้ทันที บางทีล้อแป๊บ ต้องสูบลม ปะยาง หรือไม่ก็เปลี่ยนยางใหม่
มันถึงชักคะเย่ออยู่อย่างนี้
ไปเดินในนิคมอุตสาหกรรม
เหมือนกับเราไปอยู่ในโลกใหม่
ถนนหนทางเต็มไปด้วยท่อขนาดใหญ่ ยาวเป็นแผงหลายกิโล
ไปเจอถนนก็จะยกสูงข้าม ใหญ่ยาวกว่าทางเดินข้ามสะพานลอยเสียอีก
มีท่อมีถังมีอาคารขนาดมโหระทึก
ทุกอย่างต้องไซส์XLยกกำลัง1,000-100,000 ทั้งนั้น
เรือบรรทุกถ่านหินมโหราฬมากพี่น้อง
ไปขนมาจากออสเตรเลีย ชะวา มาผลิตกระแสไฟฟ้าในบ้านเรา
สารพัดโรงงานตกคลักกันอยู่ที่นี่
ช่วยกันใช้ทรัพยากรที่ดิน แหล่งน้ำ อากาศ ทรัพยากรมนุษย์ เทคโนโลยี พลังงานต่างๆ
ปริมาณมากกว่าการใช้ในภูมิภาคตะวันออกทั้งหมด
น้ำทะเลเน่า ดินเน่า อากาศเน่า คุณภาพชีวิตผู้คนเน่า ของเหลือใช้กองไว้เป็นภูเขา ภูเขาขยะมลพิษ ขยะเคมี กองทับถมสูงขึ้นๆๆๆๆๆ.. เอาผ้าหรือใยสังเคราะห์ก็ไม่ทราบมาคลุมไว้ มีวัสดุคลุมภูเขาขยะได้ ก็ลองนึกดูเกิดว่ามันน่าสะพึงกลัวสักเพียงไหน เราเห็นภายนอกยังขนาดนี้ แล้วข้างในจะขนาดไหนพี่น้อง
มันจะอุ่มลุ้มเพียงไหนก็ยังไม่รู้ คิดแล้วใจรอนๆ..
ถามว่าชาวบ้านเป็นยังไงรึ
อ๋อ ชาวบ้านเปรียบเสมือนปูที่ถูกจับมัด
ชุมชนเปรียบเสมือนอวนยุ่ง ขาดกระรุ่งกะริ่ง