กรมอนามัยในวัย60ปี

อ่าน: 2532

อนามัยจะไฉไลต้องติดตามอ่านเรื่องนี้

กรมอนามัยไม่ใช่ธรรมดานะเธอ โอ้โห! ก่อตั้งมาจนครบ60ปี บางคนที่อ่านเรื่องนี้ยังไม่เกิดด้วยซ้ำ คิดดูสิเธอ..ยุคโน้นคนที่อยู่ในแวดวงกรมอนามัยจะเป็นยังไง อาจจะถีบจักรยานขี่เกวียนช้างม้าพายเรือไปทำหน้าที่บริการประชาชนก็ได้ สมัยที่เป็นเด็กๆผมเห็นนางผดุงครรภ์คนเดียวทำหน้าที่ในสุขศาลา ฉีดยูกฉีดยารักษาคนป่วยไข้ได้สารพัดอย่าง เรียกว่าเจ็บป่วยตั้งแต่แรกเกิดจนเข้าโลงนางผดุงครรภ์จัดการให้ได้ แสดงว่าคุณผดุงครรภ์ยกกระทรวงสาธารณสุขมาไว้ในชุมชนไกลปืนเที่ยง ดูแลรักษาอาการเจ็บป่วยอย่างน่าอัศจรรย์ ทุกครัวเรือนได้พึ่งพาอาศัยความรู้ความสามารถของนักบริหารสุขอนามัยชุมชนครบวงจร ที่เรียกว่านางผดุงครรภ์

ตลอดเวลา60ปี บุคลากรกรมอนามัยเป็นหน่วยจรยุทธที่ตระเวนบำบัดทุกข์บำรุงสุขไม่น้อยหน้าข้าราชการกรมกองไหน การสะสมทักษะเรื่องการบริการสุขภาพของประชาชนนั้นมีความหมายมาก ถ้าจะมีการแกะรอยมาวางแผนพัฒนาการบริหารสุขภาวะอนามัยในปัจจุบัน
บทบาทใหม่ๆที่ชาวอนามัยควรจะระดมพลังให้ท่วงทันกับความเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัย ก็คือการบริการความรู้เชิงรุก เรื่องปลุกกระแสให้ประชาชนมีความรู้ที่จะดูแลตนเอง เรียนรู้ที่จะเข้าใจเข้าถึงการป้องกันและรักษาโรคเบื้องต้น ชี้ชวนให้รักตัวเองใส่ใจในการป้องกันโรคภัยต่างๆ รวมทั้งฝึกฝนทักษะในการดูแลครอบครัวและสังคมรอบข้างด้วย ถ้าไม่ยกระดับความรับผิดชอบและเฉลี่ยบทบาทเรื่องสุขภาวะเชิงรุกแล้ว สภาพการจัดการเรื่องอนามัยชุมชนก็เป็นภาระที่นักอึ้งของชาวอนามัย

ทำอย่างไร? การอนามัยจะมีเจ้าภาพร่วม อบต.อบจ.เทศบาล วัด โรงเรียน กลุ่มจิตอาสา เครือข่ายมูลนิธิ นักธุรกิจ นักอุตสาหกรรม นักพัฒนาสังคม รวมทั้งโครงการเพื่อสังคมต่างๆ จะมายืนเคียงข้าง แล้วร่วมด้วยช่วยกันกับชาวอนามัย ถ้าดึงกลุ่มภาคสังคมมาเป็นเพื่อนได้แล้ว งานบริหารบริการอนามัยในอนาคตก็จะเดินหน้าได้อย่างชื่นมื่น

ประเด็นดังกล่าวข้างต้น ผมคิดว่าชาวอนามัยก็ได้ทำการบ้านเชิงรุกมาโดยตลอด ศูนย์อนามัยในภูมิภาคต่างๆเป็นตัวแม่ มีศูนย์อนามัยจังหวัด,อำเภอ,ตำบล กระจายดูแลความเป็นไปของสุขภาวะที่นับวันจะมีปัญหาแทรกซ้อนและซับซ้อนมากขึ้น การทำงานเชิงรุก จะช่วยให้งานตั้งรับผ่อนคลายไปได้พอสมควร

ขอบอบคุณพี่สุวรรณ แช่มชูกลิ่น แห่งศูนย์อนามัยที่ 5 จังหวัดนครราชสีมา
ที่ประสานงานให้ได้ไปเรียนรู้กับชาวอนามัยทั่วราชอาณาจักร
ได้เปิดหูเปิดตาเรื่องอนามัยจนเต็มอิ่ม

ในวาระที่กรมอนามัยจัดประชุมวิชาการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่5 ประจำปี 2555 : ”กว่าจะถึงวันนี้..60 ปี กรมอนามัย” ณ ศูนย์ประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ถ้าใครได้มาเห็นมาร่วมงาน ก็จะทึ่งในพลังของชาวอนามัยและรับทราบบทบาทที่ก้าวหน้าทันต่อเหตุการณ์ บอร์ดงานวิจัย นิทรรศการที่ละลานตา ตำราเอกสารต่างๆมีมาแจกจ่ายเพียบ ของดีๆทั้งนั้นเธอเอ๋ย หอบกลับมานอนอ่านได้ประโยชน์เหลือหลาย งานนี้ผมได้พบจอมยุทธนักบุกเบิกงานด้านนี้ ทั้งที่เป็นบุคลากรในแวดวงอนามัย และเครือข่ายที่ชาวอนามัยไปจีบมาเป็นเพื่อนร่วมทาง เรียกว่าคนดีของดีอยู่ที่ไหนอนามัยไปเต๊าะมาเป็นพันธมิตรจนหมดสิ้น งานประชุมวิชาการคราวนี้Hall 9 จึงแทบโป่ง

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ได้มาประทานรางวัลแก่บุคคลประเทต่างๆ138รางวัล ที่แปลกกว่างานอื่นๆก็คือ รางวัลคุณแม่ดีเด่นด้านการดูแลบุตรด้วยนมแม่จากทั่วประเทศนั้น ได้อุ้มลูกเล็กเด็กแดงมาร่วมงานด้วย ส่วนมากจะเป็นเด็กเล็กอายุ1-2ขวบ คุณสามีจึงต้องติดตามมาด้วยทุกคู่ เพื่อจะช่วยกันดูแลคุณลูกในระหว่างเข้าร่วมพิธี เราประทับใจที่เห็นเด็กๆหัดเดินเต๊าะแตะในระหว่างเตรียมพิธีการรับรางวัล ธรรมชาติของเด็ก.. ถ้าคนหนึ่งร้องคนอื่นๆมักจะร้องตาม มีเสียงเด็กร้องพอๆกับรอยยิ้มของผู้เป็นพ่อแม่
คุณแม่..งัดนมเจ้าเต้า..สดๆปลอดภัยและสะดวกมาลดเสียงร้อง

กรมอนามัยจัดงานคราวนี้นับว่าอลังการมาก แต่ละศูนย์ได้คัดบุคคลและองค์กรต้นแบบด้านส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม, จังหวัดส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุดีเด่น, หน่วยงานดีเด่นด้านน้ำประปาได้มาตรฐานคุณภาพน้ำบริโภค, องค์กรปกครองท้องถิ่นต้นแบบด้านการจัดการสุขภาบิบาลอาหาร, องค์กรปกครองท้องถิ่นต้นแบบด้านการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ, ครอบครัวต้นแบบการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ รวมทั้งสิ้น 138 ราย

มาร่วมงานกรมอนามัยเที่ยวนี้ได้รับเอกสาร ได้ความรู้เยอะแยะ เช่น
• อยู่อย่างไรภายใต้มลพิษ ตอน ผักผลไม้ต้านโรคต้านมะเร็ง
• ไม้ประดับดูดสารพิษ
• รู้ไว้เรื่องใกล้ตัว เตรียมตัวเตรียมใจรับภัยน้ำท่วม
• รู้เรื่องใกล้ตัว ทำอย่างไรให้ไกลโรค
• จะท่วมกี่ครั้งก็ยังรับไหว
• รื้อ ล้าง ..หลังน้ำลด
• ทำอย่างไรให้ส้วมสะอาด
• แผนที่..เส้นทางเรียนรู้ ร่วมลดโลกร้อน
งานนี้เจอคุณหมอสุธี เจ้าเก่าจากเทศบาลพิษณุโลกมารับรางวัลด้วย ได้เจอจอมยุทธถั่วงอกที่เคยพาชาวบ้านไปดูงานที่ลพบุรีเมื่อ8ปีที่แล้ว เหมือนสวรรค์จับยัดให้มานั่งลำดับติดกัน คุณนิมิตร์ เทียมมงคล จำได้ทักทายกันชื่นมื่น คุณนิมิตร์ได้มาออกนิทรรศการสาธิตด้วย พบว่ากิจการพัฒนาถั่วงอกระเบิดเทิดเทิงไปไกลมาก มีกรรมวิธีใหม่ๆที่น่าสนใจมากมาย เล่าว่า..ช่วงที่น้ำท่วมใหญ่ก็ได้ตระเวนไปฝึกสอนให้ชาวบ้านเพาะถั่วงอกใส่มาม่า ใช้เวลาเพียง3วันก็มีถั่วงอกสดๆรับประทานกันไม่อั้น
ได้พัฒนาการวิธีเพาะถั่วงอกในขวดพลาสติก
ออกทีวี พิมพ์ตำรา เดินสายอบรมจ้าละหวั่น
เป็นนักสื่อสารสัมพันธ์ชั้นยอด
ใครได้ฟังล้วนประทับใจอ้าปากหวอออออ..
ผมตั้งใจว่ากลับสวนป่าครั้งนี้จะเพาะถั่วงอกในขวดพลาสติกที่ได้รับคำแนะนำทันที ก็ขวดที่ป้าหวานส่งมาให้นั่นแหละเหมาะมาก เพาะถั่วงอกได้ทีละกาละมัง เอาไว้ปรุงอาหารคราที่มีคนมาดูงาน ถ้าจะเพาะถั่วงอกเจี๊ยะกันเองในครอบครัว เพาะด้วยขวดโค๊กลิตรก็พอเพียงแล้วละครับ ชาวมังสะวิรัติควรทดลองดูนะครับ

งานนี้มีของหวานอาหารแห้งอาหารคาวอร่อยๆจากทั่วประเทศ ที่แต่ละศูนย์อนามัยแต่ละเขตส่งมาประชันกัน คุณภาพหายห่วง ผมทั้งซื้อทั้งชิมก็แทบคลานกลับโรงแรม ระหว่างที่เขียนนี้ก็ยังอิ่มแบบอึกทึกอยู่ในท้องนะครับ ในงานนี้มีความรู้เด็ดๆมากมาย ผมเดินไปเจอเรื่องมะเขือพวงอบแห้ง ทำเป็นซองๆแบบซองน้ำชา รับประทานก็แบบชานั่นแหละ วันละซอง
คุณสมบัติแจกแจงว่าไว้ว่า..ช่วยควบคุมโรคเบาหวาน ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดหลอดเลือดแข็งและตีบตัน ป้องกันโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ช่วยระบบขับถ่ายดีขึ้น มีรายละเอียดอธิบายเชิงวิชาการอีกมาก ถ้าดื่มวันละซอง..พบว่าสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี เมื่อรวมกับการปรับพฤติกรรมการบริโภค ลดภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวานได้อย่างน่าพอใจ อาทิ โรคหลอดเลือดหัวใจ ไตพิการ จอตาพิการ ประสาทพิการ โรคที่เท้าและอวัยวะพิการ
มะเขือพวงสมุนไพร1ซอง ดื่มง่ายเพียงแช่ในน้ำร้อน (ชงได้ 3-4ถ้วย)
ชนิดซองนี้เหมาะกับคนที่ไม่ชอบรับประทานมะเขือพวงสด
ที่สวนป่าไม่เสียเวลามาชงหรอกนะครับ
เก็บมาปรุงอาหารทีละตะกร้า เบาหวานที่ไหนจะกล้ามาวอแว
แต่ยังงั้นก็เถอะ ผมจะปลูกมะเขือพวงเยอะ แล้วจะทดลองทำชามะเขือพวง
อ้อ งานนี้ซื้อมะอึกมาด้วย จะเอาเมล็ดไว้เพาะน่ะครับ

ยังไม่จบง่ายๆหรอกเธอ งานนี้เดินไปสะดุดเรื่องเด็ดอีก โอ้แม่เจ้า ..เรืองผักโขมจีน (Chinese Spinach) ของชอบที่ผมรับประทานแทบทุกวัน งานนี้มีวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ผลิตสมุนไพร บ้านเกาะลอย จังหวัดจันทบุรี ได้ผลิตผักโขมผงใส่ซองอย่างดรจำหน่าย สรรพคุณคับซองอีกแล้วละเธอ ..เป็นแหล่งวิตามินเอ วิตามินซี กรดอะมิโน สารต้านอนุมูลอิสระ และสารอื่นๆฯลฯ เป็นผักบำรุงน้ำนม ธาตุเหล็กทำให้สมองตื่นตัว มีสารเบต้าแคโรทีนสูง มีทั้งลูทีน และเซอักแซนทีน ซึ่งเป็นสารแคโรทีนอยด์ สารเหล่านี้ช่วยชะลอความเสื่อมของดวงตา ลดความเสี่ยงจากจอตาเสื่อม และการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ และยังมีสาร ซาโปนิน ช่วยลดคอลเลสเทอรอลในเลือดได้อีกด้วย มีเส้นใยอาหารมาก ช่วยระบบขับถ่ายได้ดีอีกต่างหาก ผักโขมจีนผง เหมาะกับคนไม่ชอบรับประทานผัก สามารถเอามาประกอบอาหารได้หลายชนิด เช่น
• ใช้ผักโขมจีนผง2ช้อนชา ต่อไข่3ฟอง ผสมทำไข่เจียวไข่ตุน
• ผสมในเนื้อสัตว์ บด-สับ ประกอบอาหารเช่น ต้ม ทอด ผัด
• เติมต้มจืด ซุป ข้าวต้ม โจ๊ก ผัดต่างๆ บะหมี่สำเร็จรูป
• ผสมในขนม เช่น คุกกี้ พาย ขนมอบต่างๆ

เรื่องผักโขมจีนนี่นะเธอ ที่สวนป่าเกิดเองก็มี หว่านเมล็ดสายพันธุ์ใหม่ๆอยู่เรื่อยๆ เป็นผักที่ปลูกง่าย โตเร็ว ผมชอบรับประทานอยู่แล้ว ตัดเอาส่วนยอดอ่อนมาปรุงน้ำซุป ผัด แกงจืด ไม่มากไม่น้อย..ตัดมาทีละตะกร้า ยิ่งตัดก็ยิ่งแตกยอดใหม่ๆอ่อนๆมา แต่แนวคิดเรื่องทำเป็นผงก็มีนะครับ
เอาไว้คุณชายทำโรงอบผักพลังงานแสงอาทิตย์ให้เมื่อไหร่?
ผมจะอบผักโขมจีนแห้งวันละรถสิบล้อให้ดู
เ ล็ ก ๆ ไ ม่ ใ ห ญ่ ๆ . . ช อ บ ค รั บ
อิ อิ..


ตื่นมาทักนกฮูก

อ่าน: 2692

ยามดึกสงัดเยี่ยงนี้ หลายคนยังทำงานทำหน้าที่กะย่ำรุ่ง แต่ผมไม่มีหน้าที่อะไรกับเขาหรอกนะครับ ที่ชอบตื่นมาช่วงนี้เพราะเป็นนิสัยเสียแล้ว ถึงเวลาก็จะตื่นอัตโนมัติ จะนอนต่ออย่างไรก็ไม่หลับ ด้วยว่ามันเป็นความเคยชิน ชอบช่วงเวลาที่สงบสงัดลมพัดเย็น มีเสียงแมลงกลางคืนเห่กล่อมระงม เหมาะที่จะนั่งเขียนโน่นนี้ แล้วมันก็วิเศษมากที่ยุคสมัยนี้เราสามารถติดต่อ หรือทราบว่านกฮูกเพื่อนเราก็ตื่นมาเหมือนกัน ทักทายกันได้ ถึงจะอยู่กันคนละโค้งฟ้า เราหลบความชุลมุนตอนกลางวัน มาสังสรรค์กันยามน้ำค้างพร่างพรม

นกฮูกเอ๋ย นางสาวธาลัสซีเมีย เธอบอกว่า ร่างกายเป็นที่อยู่อาศัยของโรคนานัปการ เป็นชุมนุนของยุ่งเหยิงและความเสื่อม ความสดสวยใดๆไม่ได้คงทนยั่งยืนอะไร ถ้าไปหมกมุ่นมากเราก็จะเสียเวลาให้กับความฉาบฉวยชั่วคราว เอาแค่แต่งให้ดูดีเรียบร้อยพอไปวัดไปวา ถ้าถลำเวลาให้

จนเกินควร เราก็จะเสียเวลาไปแสวงหาความสวยความสุขภายใน
สรุปง่ายๆว่าถ้าเราจิตใจดีระบายยิ้มอย่างธรรมชาติ
เราก็สวยได้โดยไม่ต้องไปเข้าร้านเสริมสวยเป็นประจำ
เข้าร้านบ้างตอนที่ความสวยชำรุด..ไม่ว่ากันอยู่แล้ว
แต่อย่าลืม ฝึกหักขยับความสวยจากภายในออกบนใบหน้า
หู ตา คอ จมูก ปาก ฝึกให้รับส่งความสุขได้
แต่ถ้าไม่ฝึกก็จะไปทำอีกแบบ ..รับความทุกข์เข้ามา

มีหลายคนอยากจะมาสวนป่า บอกว่ามาเพื่อจะเรียนรู้ตนเอง ก็เรียนเรื่องเบื้องต้นตรงจุดนี้ก่อน การจัดการกับตัวเองไม่ต้องไปรอขออนุมัติใคร ตั้งใจจะทำการบ้านทำวิทยานิพนธ์ก็เทใจทำเสียเลย อยู่สวนป่าไม่มีอะไรวอกแวก ไม่มีลิงหลอกเจ้า มีแต่กระแตวิ่งไต่ตามราวไม้

เรื่องของกระแตมันมีที่ไปที่มาอย่างนี้ครับ เป้าหมายของสวนป่าก็คือ อยากจะเรียกความเป็นป่าเป็นธรรมชาติกลับคืนมา หลังจากที่เราทำลายสภาพของป่าเสียหายยับเยิน เราก็ต้องมาเรียนรู้วิธีที่จะเรียกสิ่งที่สูญเสียกลับคืนมา ตรงจุดนี้ถึงจะยากและใช้เวลา แต่ก็ยังดีกว่าอาการอกหัก หักแล้วหักเลย เรียกคืนยากมาก อิ อิ..

เรายังสามารถเรียกสัตว์ป่า นก ต้นไม้ใบหญ้า น้ำหมอกน้ำค้าง ปลูกต้นไม้ผลิตออกซิเจน ทะนุบำรุงจุลินทรีย์ ปลูกโน่นนี่ ไม่นานหรอกจะออกผลหลุนตุบตับ ถ้าเธอมาตอนนี้ จะเห็นพริก มะเขือ ผัก น้ำเต้าโตงเตง ออกอัญชันบานสวยเต็มค้าง มะกรูดลูกโตๆหล่นเต็มพื้น ความรู้แค่หางอึ่งไม่รู้จะทำอะไรได้ เดินไปเก็บมาวันละตะกร้า เอามาผ่าครึ่งเอาน้ำมะกรูดสดๆมาบีบตอนอาบน้ำในอ่างสปาแบบบ้านนอก หอมฉุยไปทั้งป่า เมล็ดที่โยนไว้รอบๆก็เกิดต้นเล็กๆ ฝนหน้ามาก็ขุดย้ายไปปลูก ไม่นานหรอกก็จะมีป่ามะกรูดรอบบ้าน นี่เล่าย่นย่อเรื่องมะกรูดนะเธอ

ยังมีเรื่องง่ายๆพื้นๆอีกเยอะ
เช่น เมื่อเย็นนี้ไปเห็นดอกอัญชันบานมากมาย
ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร..
เดินไปเด็ดแล้วนำมาล้างเอามาจิ้มน้ำพริกปลาทูนี่ละวะ
อร่อยใช้ได้เชียวแหละ 3 ดอก/คำ ..กินยังไงก็ไม่หมด
เหลือพะเรอ..กินทิ้งกินขว้าง
ไปประชุม เขาเอาน้ำอัญชันมาเลี้ยง
คนกรุงแค่ได้จิบจิ๊บๆจ้อยๆ คนบ้านนอกสวาปามทีละตะกร้า

ผมพยายามเติมความเป็นธรรมชาติให้กลับคืนมา สัตว์ป่าหายไปเพราะยาฆ่าแมลง พรรณพืชสูญหายไปเพราะสภาพแวดล้อมที่ถูกทำลาย ยับเยินเพราะกิเลศและความรู้ผิดๆของมนุษย์ วิชาความรู้ที่ก๋าๆกันอยู่นั่น..อันตรายนัก ไม่อย่างงั้นสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเราไม่พิกลพิการขนาดนี้หรอกนะเธอ เจริญแบบไหนทำไมมลภาวะปนเปื้อนทั้งภายนอกภายในมากมายเช่นนี้ ข้างนอกกายก็แย่ ข้างในใจก็เน่า คิดและทำแต่เรื่องกำมะลอทั้งนั้น ไอ่บางคนบ้าพระ ไอ่บางคนบ้าหวย ไอ่บางคนบ้าแต่งรถ ไอ่บางคนบ้าอำนาจ ไอ่บางคนไม่บ้าก็กินยาให้บ้าๆๆๆ

เรามาทำความเข้าใจกันดีไหม?
โลกใบนี้ไม่มีใครสามารถยึดครองเป็นของใครได้
ไม่มีใครจับจองเป็นเจ้าของได้
เรามาพำนักอาศัยอยู่ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น
เป็นเวทีให้แสดงละครชีวิตระยะหนึ่ง
มาแล้วก็จากไป..คนแล้วคนเล่า

ไม่เห็นใครขนเอาสมบัติบ้าอะไรติดตัวไปได้ แต่คนเราก็หมกมุ่นเสียเวลาอยู่กับเรื่องไม่เป็นเรื่อง แทนที่เกิดมาจะได้เรียนรู้วิธีใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อย่างมีความหมาย ก็ตะแรดแต๊ดแต๋ไม่บันยะบันยัง ถ้าฉุกคิดเรื่องหน้าที่มนุษย์ อยู่อย่างตระหนัก..ช่วยกันรับผิดชอบต่อโลกใบนี้บ้าง เราจะไม่หลงมุม ไม่งงงันกับพฤติกรรมของตนเอง ที่ ว้ า วุ่ น อ ยู่ กั บ สิ่ ง เ ส มื อ น จ ริ ง
เฮ้อ..ไม่อยากจะคุยเยาะพวกที่ขาดแคลนทุกอย่าง แต่จีบปากจีบคอบอกว่า..ตัวเองอยู่ในถิ่นเจริญ เจริญตรงไหนกัน ถนนหนทางก็ลำบาก มีไฟแดงคอยขืนใจ ทางเดินก็สับสนชุลมุน อากาศก็เน่า ฝุ่นก็แยะ แย่งกันอยู่แย่งกันกิน บางคนต้องไปอยู่ตึกสูงๆเหมือนรังนกกระจอก ห่างไกลจากธรรมชาติ มีชีวิตแบบบ้าๆแล้วยังมาอวดว่าตัวเองเจริญ เจริญเสียให้เข็ด

ไม่มีผีที่ไหนหรอกนะเธอ เราหลอกตัวเอง และหลอกกันเอง
ลองอยู่กับความจริงดีไหมที่รัก
ลดละเครื่องปรุงแต่งที่แบกไว้จนหนักอึ้ง
สังขารไม่เที่ยง ไม่มีอะไรถาวร มีแต่เสื่อมไปทุกวัน
ยิ้มได้ก็ไม่ยิ้ม คอมเมนท์ได้ก็ไม่คอมเมนท์
แล้วอย่างนี้..จะสอบผ่านบทที่1 ไปได้จะได๋เล่าคนสวย

วั น นี้ ต้ อ ง ไ ป เ ผ ชิ ญ ค ว า ม เ สื่ อ ม ที่ ถู ก อุ ป โ ห ล ก ว่ า เ จ ริ ญ
บ่ายวันนี้จะได้ชมงานศิลปะเพื่อแผ่นดินที่พระที่นั่งอนันตสมาคม
วั น พ รุ่ ง นี้ ไ ป ร่ ว ม ง า น ก ร ม อ น า มั ย ที่ เ มื อ ง ท อ ง ธ า นี
คนเรานี่นะเธอ หนีไม่ออกหรอก
ตกอยู่ในกฎเกณฑ์ของสังคมทั้งนั้น
คุณภาพของสังคมเป็นอย่างไร
เราก็ดำเนินชีวิตอยู่ภายใต้สังคมนั้นๆ
สังคมจะดีได้ ประชาคมในสังคมนั้นๆจะต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดี
คุณภาพชีวิตที่ดีไม่มีวางขายตามห้างเซเว่นหรอกนะเธอ
ถ้าอยากได้..ก็ต้องช่วยกันคิดและทำขึ้นมา
ถ้าคิดไม่ออก ก็คอมเมนท์แล้วจะบอก
บอกว่ายังไงรึ
ข้อยจะบอกว่า ข้อยก็บ่ฮู้เหมือนกัน
เรื่องของสังคม มันต้องออกมาจากกระบวนการของสังคม
กระบวนการทางสังคมเป็นอย่างไร?
คนสวยต้องคอมเมนท์ ถึงจะบอก
จะบอกว่า ข้อยก็บ่ฮู้เหมือนกัน
มันต้องลงขันความรู้ความรักความคิด
เพื่อให้เกิดสังคมแห่งการเรียนรู้
สังคมอุดมปัญญาจะเกิดขึ้นได้อย่างไร?
คนสวยต้องคอมเมนท์ก่อนถึงจะบอก
จะบอกว่า ข้อยก็บ่ฮู้เหมือนกัน

• ถ้าไม่คอมเมนท์ เธอก็จะอยู่ในระดับรับรู้
• ถ้าคอมเมนท์ เธอก็จะไต่ระดับขึ้นไปอยู่ในระดับเรียนรู้
• ถ้าเขียนบันทึกเล่าเรื่องราว เธอก็จะเขยื้อนไปสู่การแลกเปลี่ยนเรียนรู้
• ถ้าเธอให้ความเห็นชี้แนะชี้นำ เธอก็จะมีชีวิตอย่างผู้ใช้ความรู้
• ถ้าสร้างกลุ่มเพื่อนลงขันความคิดความรู้ เธอก็จะเป็นผู้สร้างกระบวนการจัดการความรู้


พาโนราม่า มาทำไม?

อ่าน: 2652

ผมชอบตื่นมาช่วงย่ำรุ่ง ไม่ได้มายิงกระต่ายหรือทำกิจกรรมพิเศษใดๆหรอกนะครับ ชอบบรรยากาศที่เงียบสงัด อากาศเย็นๆ แสงเดือนดาวหรุบหรู่ คอยเงี่ยหูฟังดูว่านกตัวไหนจะร้องปลุกเพื่อน ความสงบทำให้ความคิดลื่นไหล เหมาะที่จะมานั่งบันทึกเรื่องราวประจำวัน ระหว่างที่ผมกำลังนั่งพิมพ์ก๊อกๆแก๊กๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่ง เธอตื่นแต่เช้า..ในมือถือกล้อง/สมุดพกมายกมือไหว้แต่ไกลๆ จนกระทั้งมานั่งต่อหน้าเจรจาพาที เธอแนะนำตัวว่ามาจากพาโนราม่า

ก่อนหน้านั้นเธอโทรศัพท์มาจากยโสธร บอกว่ากำลังถ่ายทำรายการ เสร็จจะขอแวะมาที่พบ เธอถามว่าว่างไหม? อยู่บ้านไหม? ผมก็นึกว่าจะมาถ่ายทำรายการต่อที่เรา จึงชวนว่ามานอนที่สวนสิจะได้มีเวลาคุยกัน ..จนกระทั้งบ่ายคล้อย เธอโทรมาอีก บอกว่าน่าจะมาถึง3ทุ่ม จะเข้าสวนป่ายังไง?

คืนนั้นผมเพลียจนม่อยหลับไป

อาจารย์ปูนั่งทำงานต่อ..

ช่วงเช้าถึงทราบว่า..อาจารย์ปูออกไปรับ

มิน่าละ..เช้ามืดเธอถึงย่องออกมาคุยกับผมได้

ผมก็คงรุ่มร่ามแบบผม ไม่นึกว่าจะต้องต้อนรับใครยามเช้าตรู่ หน้าตาก็ยังไม่ได้ล้างน้ำก็ยังไม่ได้อาบ การแต่งกายก็ยู้ยี้ตามประสาคนป่า ดีเท่าไหร่แล้วที่ไม่มาเจอตอนแก้ผ้านั่งพิมพ์หนังสือ

เธอชื่อสุดใจ ข่าขันมณี (น้อย) เธอเล่าว่า..สนใจเรื่องแนวทางการพัฒนาท้องถิ่น และสนใจค้นหาตัวเอง คิดๆๆและคิดว่า..ผู้คนในสังคมกำลังตกอยู่ในสภาพอย่างไร? และจะแก้ปัญหาด้วยวิธีใด เธอทำสื่อเรื่องผู้รู้/ชุมชน/กรณีศึกษา/มาทั่วประเทศ แ ล้ ว ก็ ถึ ง จุ ด อิ่ ม ตั ว ทุกค่ายทุกช่องทุกสื่อก็ทำรายการคล้ายๆกัน พ่อคนไหนที่อยู่ในเส้นทางนี้ก็จะมีทีวีมาขอถ่ายทำรายการ แม้แต่สวนป่าเองก็ไม่ได้ยกเว้น ปีหนึ่งๆเราถูกถ่ายทำรายการอยู่เรื่อยๆ วนไปเวียนมาอยู่อย่างนี้

ก ล า ย ป็ น คุ ณ พ่ อ รู้ ดี ..แต่สังคมไม่มีอะไรดีขึ้น!

พวกที่ทำสื่อก็ดิ้นสิครับ เราจะพบเห็นรายการต่างๆเอาชีวิตของเกษตรกรมาออกรายการ เอาภาพการจัดสัมมนาล้อมวงในท้องทุ่ง เอาเรื่องพ่อโน่นแม่นี่มาออกจนเฝือ บางช่องพยายามนำเสนอฉีกแนวออกไป แล้วก็ทำได้ดีมาก เช่น รายการกบในกะลา รายการคนค้นฅน พักหลังผมเห็นการจัดประกวดการแสดงแบบยกทีมโรงเรียนมาประชันร้องเพลงประกอบรีวิว ก็เป็นที่น่าสนใจดี บางช่องจัดแบบยกหมู่บ้านหรือตำบลมาประกวดร้องเพลงกัน พี่ป้าน้าอาก็ยกขบวนมาเชียร์ลูกหลานกันอย่างอึกทึก สนุกสนานกันทั้งตำบล ยังมีรายการคุณพระช่วย ที่เสนอเรื่องราวสะท้อนอัตลักษณ์ไทย ส่วนรายการเกมส์โชว์บางช่องก็ทำได้ดี ที่ไปชวนคนไทยมาแสดงความสามารถพิเศษ ทำให้เราพบว่า..ค น ไ ท ย ก็ ไ ม่ ธ ร ร ม ด า น ะ เ ธ อ . . รายการน้าโหย่งกับเพื่อนมาร้องเพลงฉ่อยหน้าม่าน ถือว่าเป็นฮาทศวรรษแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ได้เลยละครับ

รายการลักษณะนี้ถ้าพัฒนาการตลอด

จะสามารถแข่งกับรายการละครที่ไม่ค่อยจะเปลี่ยนแปลงอะไร

บางเรื่องนำกลับมาแสดงซ้ำอีก4-5รอบ

เปลี่ยนเพียงพระเอก-นางเอก แต่คนไทยก็ชมกันอยู่นั่นแหละ

รายการประเทืองปัญญาหาโอกาสออกอากาศยากมาก

สื่อของเมืองไทยจึงไม่ค่อยจะทำหน้าที่ชี้นำสังคมในทางที่ถูกที่ควร รายการประเทืองปัญญาไม่ค่อยมี รึ อาจจะเป็นเพราะกึ๋นของคนทำสื่อจำกัดก็ไม่รู้นะ ..อิทธิพลของสื่อนั้นซึมลึกไปถึงก้นครัว กระแสต่างๆล้วนมาจากสื่อ ยิ่งสมัยเทคโนโลยีด้านการสื่อสารเจาะไปถึงใจผู้คนทั่วทุกหัวระแหงอย่างนี้ด้วยแล้ว ถ้าวัฒนธรรมของสังคมนั้นๆไม่แข็งโป๊ก อยากที่จะไม่อ่อนไหวอ่อนแอไปตามกรรมวิธีล้างสมอง

จะเห็นว่า..เด็กไทยอยากจะเป็นเด็กเกาหลีกันไม่บันยะบันยัง

มีพฤติกรรมแปลกๆ เจาะหู..เจาะห.. ทำจมูก ผ่าโน่นดึงนี่

สารพัดวุ่นวายกับตัวเองเพื่อจะหนีความเป็นไทย

อ้าว! แล้วประเทศไทยอันเป็นที่รักยิ่งของผม เอาไปซุกไว้ที่ไหนละครับ มีคนเอาภาพการแต่งตัวของนักศึกษาชาติต่างๆในอาเซียนมาแสดง ของ-ลาว-พม่า-เวียดนาม-ยังมีค่านิยมของความเป็นชาติเรียบร้อยมาก เห็นแล้วปลึ้มแทนประเทศนั้นๆ

ประเด็นการพูดคุยกันกับพาโนราม่าส่วนมาก จะอยู่ที่ความเปลี่ยนแปลงของสังคมที่ไร้ทิศทาง ผู้บริหารสื่อมีแนวคิดว่า..มีกลไกอะไรไหมที่จะทำให้คนไทยเปลี่ยนแนวคิด ช่วยกันหันมาดูตัวเองว่า ในสภาพสังคมที่กำลังปีนเกลียวกับทุกเรื่องอยู่นี้ เราจะช่วยกันคลี่คลายปัญหาสังคมติดหล่ม ให้ค่อยๆเห็นทิศทางที่จะกอบกู้ความวิกฤติที่ว่านี้กันอย่างไร มีอะไรบ้างที่จะเป็นคานงัดให้สังคม

น้อย..บอกว่าเจ้านายให้คิดในประเด็นนี้ เธอเองก็สนใจมาก พร้อมที่ทุ่มเทตีโจทย์นี้ให้แตก ช่วงนี้เธอจึงตระเวนพบปะคนโน้นคนนี้ เพื่อรวบรวมประเด็น/แง่คิด/มุมมอง/ไปประมวลออกแบบรายการในปีหน้า

เราคุยกันค่อนข้างมาก ผมก็เล่าถึงแนวคิด ความคันในหัวใจ ที่อยากจะทำเรื่องเหล่านี้เหมือนกัน แต่ก็มีข้อจำกัด เราต้องทำงานบนฐานความไม่พร้อมตลอดเวลา อยากจะพัฒนาอะไรก็ต้องดิ้นรนหาทุนมาทำด้วยตนเอง แม้แต่หนังสือเจ้าเป็นไผ หรือโมเดลอีสานที่ให้เธออ่าน เ ป็ น ก า ร ข า ย ค ว า ม คิ ด เ พื่ อ ห า ทุ น ม า ส ร้ า ง ห มู่ บ้ า น โ ล ก ถึงจะรู้ว่าปัญหาบ้านเมืองมันสาหัสสากรรจ์อย่างไร ถ้าเราไม่ลุกขึ้นมาช่วยกันคนละไม้ละมือ ปัญหาสังคมก็จะถูกลอยเพ

อันที่จริงคนไทยก็ลอยเพสังคมมานานแล้วละครับ

สังคมใกล้จะอับปางแล้วก็ยังไม่รู้สึกสะทกสะท้านอะไร

ไม่รู้ร้อนรูหนาวกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆตัว

ตอนสายๆหนุ่มหล่อที่มากับน้อย ชื่ออนันต์ธนา มงคลศิริ มาสมทบคุยด้วย ในขณะเดียวกันก็บันทึกถ้อยคำไปฝากเจ้านาย แสดงว่าประเด็นฉุกคิดได้ลำเลียงออกไปจากสวนป่าแล้ว ผมแนะนำเพิ่มเติมว่า..วันที่8-11 ที่เชียงใหม่ก็มีรายการน่าสนใจนะ มีผู้สันทัดกรณีทั้งอาเซียนและชาวราชมงคลทั่วประเทศมาช่วยกันมองไปข้างหน้า

20ปีประเทศไทยจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร?

ที่ชวนเพราะผมอยากให้วงการสื่อไทยทำการบ้านมากๆเหมือนต่างประเทศ ที่สกรู๊ปข่าวจัดทำอย่างมีคุณค่า อนึ่ง ผมอยากจะให้ทีมงานพาโนราม่าเจอกับชาวเฮด้วย เพราะเธอสนใจเรื่องของเฮฮาศาสตร์อย่างมาก อ้อ! เธอเป็นนักเขียนด้วยนะครับ ผมอยากจะให้เธอไปช่วยยุชาวเฮภาคเหนือเขียนบันทึกมากขึ้น

ผมเพิ่งได้รับหนังสือเชิญประชุมคณะทำงานวิชาการเฉพาะประเด็นเพื่อพัฒนาร่างข้อเสนอเชิงนโยบาย ประเด็น : การปฏิรูปวิชาชีพด้านสุขภาพให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของประเทศ เชิญประชุมวันที่ 6 เวลา 13.00-16.00 . ณ ห้องประชุมสำนักงานคณบดี ชั้นเอ็ม 2 อาคารเรียนรวม คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

::เรื่องนี้ญาติมิตรแฟนจ๋า..ช่วยกรุณาสมทบความคิดเห็นด้วยนะครับ จะได้นำไปสู่นโยบายดังกล่าว

เสียดายที่จองตั๋วไปเชียงใหม่ไฟล์เย็นวันที่7

ไม่อย่างนั้นผมประชุมเสร็จวันที่6

ก็เผ่นไปกินข้าวซอยเชียงใหม่กับคุณน้าแห่งชาติและพี่น้องชาวเฮ

ไม่ต้องแกร่วอยู่บางกอกให้อาดูร..

สรุปว่า..ตั้งแต่เช้าวันที่ 7 จนถึงเวลา 16.00 .

ผมจะบริหารเวลาแทบทั้งวันนี้ยังไงดี

1 นั่งทำPower point

2 ชวนขาใหญ่คุยเรื่องหนังสือ

3 นั่งทบทวนเรื่องที่จะไปโม้

4 นั่งดูคอมเมนท์ของคนสวย


ชีวิตนี้เปราะบางนัก

อ่าน: 3075

เมื่อวานมีแขกมารับตั้งแต่ตี5 จะพาไปดูที่ทางที่จะทำธุรกิจเกี่ยวกับการเกษตร พื้นที่อยู่แถวๆวังม่วง ลพบุรี ห่างจากเขื่อนชลสิทธิ์ประมาณ30กม.ระยะทางจากกทม.ประมาณ200 กม. คาดว่าช่วงบ่ายคงจะกลับมาทันขึ้นรถตู้กลับบ้าน ผมเป็นคนแก่ที่คิดถึงบ้าน คิดถึงผัก สายลมและแสงแดด คิดถึงคนรักที่อยู่ใกล้ๆและที่อยู่ไกลโพ้น..

สถาน ที่ดังกล่าวอยู่ติดกับถนนลาดยาง เลาะเลียบไปข้างๆกับแม่น้ำป่าสัก เป็นที่เปิดโล่งกว้างขวางหลายหมื่นไร่ ชาวบ้านทั่วไปทำการเพาะปลูก-ข้าว-มันสำปะหลัง-ปลูกอ้อย-เลี้ยงโค-เลี้ยงแพะ ไปเห็นสภาพแวดล้อมแล้วอิจฉาเป็นบ้า น้ำท่าบริบูรณ์ พื้นดินมีแร่ธาตุอุดม ลมพัดตึงทั้งวัน ไร่ข้างๆกันติดตั้งกังหันลมพร้อมกับสร้างแท็งก์น้ำขนาดใหญ่ แจกจ่ายน้ำให้พืชไร่ได้อย่างพอเพียง คณะเราเดินดูมุมโน้นมุมนี้แล้วก็เดินทางต่อ

วัตถุประสงค์เขาต้องการให้ผมได้มาเห็นที่ดินแปลงนี้กับตาตัวเอง

เพียงแค่บอกเล่าหรือเห็นภาพ

ไม่พอต่อการตอบคำถามว่า..จะปลูกอะไรดี?

ก่อนหน้าที่จะซื้อที่ดิน..นักธุรกิจกลุ่มนี้มีโครงการจะตั้งโรงงานแป้งมันสำปะหลัง แต่ ช่วงที่มีการสร้างเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ทำให้พื้นที่บริเวณกว้างน้ำท่วม..มีการเวนคืนที่ดิน อพยพชาวบ้านออกไป แผนงานต่างๆของนักธุรกิจกลุ่มนี้จึงชะงัก ปล่อยให้คนในพื้นที่เช่าปลูกอ้อยเป็นเวลานับสิบปี มาบัดนี้ ..จะเอาที่ดินมาทำประโยชน์เสียเอง นี่คือที่มา..ที่ผมถูกลากมาชมที่ดินผืนนี้

เห็นสภาพแวดล้อมแล้ว..ผมคิดถึง ค อ น ด รั๊ ก เ ต อ ร์ เ ป็ น บ้ า

สมัยที่ตระเวนหาที่ทางปักกลด..ได้เล่าว่า..อยากจะได้พื้นที่ๆมีองค์ประกอบอย่างนี้ มีน้ำมีลมมีภูเขามีความอุดมสมบูรณ์มีป่าไม้มีความมั่นคง.. ผมฟังแล้วก็นึกไม่ออกว่าประเทศนี้มันจะมีผืนดินที่พร้อมสรรพอย่างนี้อยู่ที่ไหน? พอมาเห็นจุดนี้ก็ได้แต่ร้อง..โอ้โหๆๆ..

แต่ก็นั่นแหละเธอเอ๋ย

กลุ่มนี้เขามารวบรวมซื้อที่ทางไว้ตั้งแต่เมื่อ20กว่าปีที่แล้ว

บัดเดี๋ยวนี้ราคาไร่ละหลายแสนบาท

ที่ดินไม่เสื่อมราคา เหมือนหน้าตาคนเราหรอกนะเธอ

นอกจากที่ดินไม่เหี่ยวเฉาแล้ว ราคายังพุ่งกระฉูดๆ

หลังจากนั้นท่านผู้สันทัดกรณีบอกว่า เราน่าจะตระเวนดูพื้นที่รอบๆ ห่างอกจากนี้ไปไม่ใกล้มีน้ำตกก้านเหลือง เป็นน้ำตกที่แปลก..น้ำทั้งหมดผุดขึ้นมาจากใต้ดิน น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา ถนนหนทางก็เข้าถึงสะดวก จึงพากันเดินชมตามจุดต่างๆ ชาวบ้านเล่าว่า..เดินไปอีก 1,200 เมตร ก็จะเจอจุดที่น้ำพุ่งขึ้นมา ก็ได้แต่ฝากไว้ก่อนโอฬาร ยังมีรายการพิเศษอยู่ใกล้ๆที่ท่านผู้นำอยากจะพาไปชมโรงเรียนสัตยาไส ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลขับรถ15นาทีก็ถึง เรื่องที่พิเศษกว่าพิเศษก็คือ อาจารย์ศุภชัยแห่งมหิดล คนที่พาผมมานี่แหละ ท่านเป็นตัวตั้งตัวตีในการตระเวนรวบรวมที่ทางที่จะมาสร้างโรงเรียนตั้งแต่ เมื่อ20กว่าปีที่แล้ว ได้ที่ดินแล้วท่านก็พาภรรยาและลูกน้องมากางเต็นท์สร้างโรงเรียนสัตยาไส ..

แหม..เจอกับผู้ก่อการตัวเป็นๆเลยนะนี่ ส่วนท่านนักธุรกิจที่พาผมมาดูที่ดิน

สมัยคุณพ่อก็ได้บริจาคที่ดินและให้ทุนก่อสร้างอาคารสำนักงานหลังแรก

เรียกว่า..จุดไต้ตำตอ..โรงเรียนสัตยาไสเข้าแล้วนะเธอ..

พอรถเลี้ยวข้าประตูไป..อาจารย์ศุภชัยก็ลองโทรฯถึงท่านอาจารย์อาจอง

อ้าว! ผมนึกว่านัดท่านไว้แล้ว

ที่ไหนได้..คำตอบ..ถ้าอาจารย์อยู่เราก็เจอตัวเองแหละ..

เออ สินะ..เรื่องนี้ขึ้นกับวาสนาเสียแล้ว..

และแล้ว..คนโชคดีจะแห้วได้อย่างไร อาจารย์อาจองท่านอยู่บ้านพอดี คณะที่มาล้วนรู้จักกันดีอยู่แล้ว อาจารย์ยิ้มร่า..เลี้ยงน้ำชาคุยกัน..ไปยังไงมายั้งไง ผมเองเสียอีกที่เป็นคนแปลกหน้าไม่เคยมาที่นี่..ท่านอาจารย์กรุณามาก..บอกว่า จะชวนไปชมทุกจุดทุกเรื่องของที่นี่ ท่านยกโทรศัพท์ประสานผู้อำนวยการโรงเรียน แม่ครัว เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ..บอกว่าจะมีแขกไปเยี่ยม

หลังจากผู้ อำนวยการมาถึง ท่านพาเราไปยังอาคารหลังใหญ่ที่นักเรียนทุกคนต้องมาสวดมนต์ทำสมาธิร่วมกัน แต่ช่วงนี้ปิดเทอม..ถ้ายังงั้นเอาท่านผู้อำนวยการนี้แหละ ..พาเราสวดมนต์..ท่านอาจารย์อาจองไปบรรเลงเปียโนประกอบ เฮ้อ..เป็นอะไรที่ซาบซึ้งมาก  ท่านอาจารย์เล่าว่าที่นี่รับเด็กทุกศาสนา เวลาทำสมาธิเด็กก็ไปนั่งยังแท่นบูชาประจำศาสนาของตน ท่านบอกว่า..ทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดี โรงเรียนแห่งนี้จึงเคารพและให้ความสำคัญศาสนาเท่าเทียมกัน นอกจากจะมีนักเรียนที่หลากหลายศาสนาแล้ว ที่นี่จะมีผู้สนใจจากมิตรประเทศมาเยือนอยู่เนืองๆ เมื่อมายังห้องนี้  แต่ละกลุ่มก็ไปทำความเคารพยังแท่นบูชาศาสนาของตนเอง..

โรงเรียน ระดับอินเตอร์ เขาคิดถึงแก่นสารความจริงยังงี้แหละเธอ หลังจากนั้นอาจารย์พาเรานั่งรถตู้ตระเวนไปจุดที่เป็นกระบวนการเรียน มีอุปกรณ์การเรียนเรื่องพลังงานต่างๆครบถ้วน พาไปชมโรงเพาะเห็ด บ้านลาสติกใสที่มีไว้อบพืชผักพืชผล พาไปชมอาคารผลิตน้ำมันไบโอดีเซล อาจารย์บอกว่า..มีโรงแรมในบางกอกบริจาคน้ำมันพืชที่ใช้แล้วจำนวน2โรงแรม พอมาถึงที่นี่ก็นำเข้าสู่กรรมวิธีเปลี่ยนน้ำมันพืชเก่าให้เป็นน้ำมันไบโอ ดีเซล ใช้เติมรถทุกคันของที่นี้ ยังมีอาคารพลังงานลมพลังงานแสงอาทิตย์อีกนะเธอ อาจารย์กำลังทำฟาร์มรับแสงแดด ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่มากพอจะเป็นรายได้มาใช้จ่ายของโรงเรียนใน อนาคต อาจารย์ชวนไปพื้นที่เพาะปลูก/ทำนา ที่นี่ทำนาได้ข้าวปีละ30ตัน เพียงพอที่จะเลี้ยงประชากรทั้งโรงเรียนได้ตลอดปี พาไปชมจักรยานปั่นไฟ เล่าให้ฟังว่า..อาคารที่เห็นๆ10กว่าหลังที่ตั้งอยู่ในบริเวณโรงเรียน400ไร่ นี้ ทุกหลังมีผู้ใจบุญจากทั่วโลกมาสร้างให้ทั้งนั้น อาจารย์ชี้ให้ดูอาคารสอนดนตรี ท่านบอกว่า..มีฝรั่งที่ลูกเขามาเสียชีวิตเมื่อคราวเกิดสึนามิภาคใต้ ได้มาสร้างอาคารหลังนี้ยกให้เป็นอนุสรณ์ของลูกที่จากไปอย่างกะทันหัน

เรื่องของการบริจาคท่านบอกว่าจะไม่ขอรับจากผู้ปกครองนักเรียน

เกรงว่าจะเงินผู้ปกครองคนรวยมาทับเงินผู้ปกครองคนจนๆ

ปีหน้าจะรับนักเรียนเพิ่ม และจะแยกเรียน/สอนนักเรียนชาย/หญิง

เด็กๆที่นี่อยู่ประจำ แยกอาคารชาย อาคารหญิง..

ที่นี่เป็นโรงเรียนทางเลือก..ที่ เ ลื อ ก ไ ด้ จ ริ ง ๆ น ะ เ ธ อ

ผมคิดว่า..เป็นโรงเรียนทางออก..ออก จากความบอบช้ำของหลักสูตร หลักสูตรที่ยกร่างไว้อย่างดีแต่ไม่มีใครปฏิบัติตาม การศึกษาไทยยุคนี้จึงกระท่อนกระแท่นเหมือนบัวแล้งน้ำ ผู้ที่อยู่ในวงการศึกษาแถกไถไปตามยถากรรม เด็กๆก็ดำน้ำเรียนไปอย่างน่าเวทนา..เละตุ้มเปะตั้งแต่อนุบาลไปจนถึงปริญญา..

ก็ยังดีใช่ไหมละครับ..

ที่ประเทศนี้ยังมีคนกล้าหาญพอที่จะหักดิบการศึกษา

พยายามสร้างตัวอย่างที่ดีๆ

มีมิตรประเทศส่งครูมาสอนภาษา

แหม พูดไทยชัด เก่ง ฉอดๆๆๆยังกะต่อยหอย

อาจารย์อาจองไปบรรยายที่ประเทศสิงคโปร์

มีรัฐมนตรีศึกษาฯมานั่งฟัง แล้วบอกว่าจะตามมาดูสัตยาไส..

แต่..บ้านเรา  มันก็ไอ่แค่นั้นแหละ..

เปลี่ยนรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการทุกๆ6เดือน

มั น ห ม า ย ค ว า ม ว่ า ยั ง ไ ง ค รั บ

นอกจาก..การศึกษาไทยไร้ทิศทาง..

อาจารย์ให้ความเห็นว่า..

พรบ.การศึกษาไทยดีที่สุดในโลก..แต่..ไม่มีการนำไปปฏิบัติ

มันก็คงไม่ต่างกับ..หัวล้านไม่ง้อหวี..

รึ..คนสวยไม่สนใจคอมเมนท์..นั่นแหละเธอ..

หลัง จากตระเวนจนจุใจแล้ว อาจารย์ชวนมายังโรงอาหาร แม่ครัวเตรียมเมนูมังสะวิรัติไว้ให้แล้ว รับประทานอาหารร่วมกัน  แล้วก็แยกย้ายอำลา..อาจารย์บอกว่าจะหาโอกาสมาแวะเยี่ยมมหาชีวาลัยอีสาน ส่วนผมได้ประโยชน์อย่างยิ่งต่อการนำความรู้ที่ได้เห็นและรับฟังมาใช้ใน โครงการหมู่บ้านโลก หลังจากล่ำลา เราก็บึ่งเข้าบางกอก ระหว่างทางก็ประสานกับแห้วให้มารอที่โรงแรม จะได้นัดหมายขึ้นรถตู้เข้าป่าด้วยกัน

รถตู้ออกจากสถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ16.30น.

นัดให้มารับที่หน้าสถาบันจุฬาภรณ์

โชเฟอร์ ซิ่งเตลิด..กว่าจะยูเทิร์นมารับได้ก็เสียเวลาไปโข เนื่องจากหยุดหลายวัน ทุกคนแห่กลับบ้าน รถติดแต่ก็พอขยับได้ช้าๆ มาสะดวกเอาตอนเลยสีคิ้วมาแล้ว รถจ้ำอ้าวราวกับจะบิน มาถึงสตึก5ทุ่มเศษ โฉมยงมารับเข้าไป มาถึงบ้าน..ก็โล่งอกโล่งใจ..ชวนกันกินข้าวต้มดีกว่า

ตั้งหม้อข้าวต้ม

ไปเก็บผักบุ้งมาล้าง

ไปเก็บพริกเหลืองมาผัดใส่สุกรสับ

ไปเอาหมูหยองมาเป็นเครื่องเคียง

แค่นี้ก็อิ่มมื้อดึกแล้วละครับ

ที่มีรายการอาหารผิดแผกนอกเหนือเวลาอย่างนี้ มันมีเรื่องผิดปกติที่จะต้องทำใจเล่า..ครั้งแรกคิดว่าจะเก็บงำไว้กับตัวไม่ บอกใคร..แต่คิดอีกทีบอกไว้ก็ดี ในเมื่อยังมีโอกาสเล่าขานบอกที่รักไว้  มันเป็นอย่างนี้ครับพี่น้อง..ช่วงที่รถวิ่งเข้าเขตพระนครศรีอยุธยา โชเฟอร์ผู้อาวุโสของเราคงจะหลับใน ล้อรถด้านซ้ายเฉตกไปข้างถนน..ตัวตกเอียงกะเท่เร่ หัวรถวิ่งฝ่ากิ่งไม้ใบหญ้าไป20เมตร ก็สามารถหักพวงมาลัยดึงรถเบนขึ้นถนนได้ รถตู้วิ่งตามหลังพุ่งแซงกะทันหันด้านขวาที่ผมนั่ง ถ้าเบียดเข้ามาสัก 1นิ้วก็คงจะโคร้มๆ!!จังเบ้อเร้อ..

หรือมีต้นไม้ข้างถนนฝั่งคนขับ

รถก็คงจะประสานงาเข้าเต็มๆ

เรา4ชีวิตก็คงจะร่องแร่งอีท่าไหนก็ไม่รู้

คิดๆแล้วก็จะใจหาย..

เกรงว่าจะไม่ได้มาเขียนอะไรๆออดอ้อนคนสวยอีก

เดือดร้อนบางท่านอาจจะแต่งชุดดำพร่ำล่ำลา

นึกถึงเรื่องบ่ายเมื่อวานนี้..ขนแขนสะแตนอัพไม่หาย..

ใจมันหวิวๆยังไงไม่รู้..ถ้าวันที่จะจากที่รักไปจริงๆ..จะเป็นยังไงหนอ?

ระหว่างรถประคองรถวิ่งกลับบางกอก

จู่ๆก็มีเสียงระเบิดตูม! ขึ้นข้างๆ

สะดุ้งโหย! เอาอีกแล้วสิ..จอดๆๆๆ

อาจารย์ศุภชัยสติดี..บอกว่า

เป็นเสียงยางรถ10ล้อระเบิด..

เฮ้อ+!!! … วันนี้ วันหัวใจชักกระตุกตลอดเลยยย..

ยังมีเรื่องหวาดเสียอีกนะเธอ

กริ๊งๆ!..ครูบาใช่ไหมค่ะ..

หนู..โทรมาจากบริษัทพาโนราม่า เรามีรายการใหม่..

หัวข้อ..“ทำอย่างไรจะชี้ชวนให้คนไทยคิดใหม่เกี่ยวกับอนาคตประเทศไทย

หนูขอไปสัมภาษณ์ครูบา / ถ่ายทำรายการวันพรุ่งนี้ได้ไหมค่ะ..

ถ้าคนรับสายบอกว่า..มันสายไปเสียแล้วหนู

ครูบาอุบัติเหตุเสียชีวิตเมื่อวานนี้..

ตอนนี้นอนฟังพระบังสุกุลอยู่ที่วัดหนองหมาว้อ..

หนูจะไปสัมภาษณ์ไหมล่ะ!!!??/@#$&^%

  • คนเรานี่นะเธอ..มีชีวิตที่เปราะบางนัก
  • ช่วงที่ยังรักใครได้..ก็รีบๆรักกันเถิดนะ
  • ช่วงที่ยังยิ้มหวานให้กันได้..ก็ยิ้มแฉ่งถิดนะ
  • ช่วงที่ยังกอดกันได้..ก็กอดๆกันบ้างนะ
  • ช่วงที่ยังทำอะไรดีๆให้กันได้ ..ก็รีบๆทำกันเถิดนะ
  • ช่วงที่ยังมีเวลาแบ่งปันให้กันได้..ก็รีบๆแบ่งเถิดนะ
  • ช่วงที่ยังคอมเมนท์ได้..ก็คอมเมนท์ด้วยนะคนสวย..


วันวานยังหวานอยู่

อ่าน: 1817

เช้าวานนี้ ตื่นแต่เช้า เห็นประชาคมชาวอุบลร่วมกันทำพิธีทำบุญตักบาตร จึงรีบอาบน้ำแต่งตัวมานั่งกินโจ๊กที่ห้องอาหาร แล้วขึ้นยังไปห้องประชุมที่อยู่ชั้น2 ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานแสดงความยินดีแก่บุคลากรมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ทุกท่านแต่งกายสะอาดเอี่ยมสดใส ท่านที่รับผิดชอบจัดให้เรานั่งเรียงตามจุดที่กำหนดไว้ คนแก่กว่าเพื่อนเขาจับให้นั่งหัวแถว เวลาซ้อมก็ต้องขึ้นไปก่อนเพื่อน ตอนรับเครื่องราชฯก็รับก่อนเพื่อน หลังจากนั้นเป็นการแจกรางวัลให้อาจารย์ที่มีผลงานวิจัยยอดเยี่ยม บุคลากรที่มีผลงานด้านต่างๆ รวมทั้งผู้ที่ทำผลงานด้านการกีฬามหาวิทยาลัยด้วย นับเป็นการเติมกำลังใจให้แก่บุคลากรที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่เต็มความดีความ สามารถ สะท้อนผลของความดีให้ปรากฏ ท่านที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้คงมีกำลังใจสู้ๆต่อไปนะครับ

หลังจากพิธีการผ่านไป มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีได้จัดให้มีการเสวนาเรื่อง

ผลกระทบของประชาคมอาเซียนต่อวงการอุดมศึกษาไทย?

ยุทธศาสตร์

-ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญ

-ภาพต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้น

-การเตรียมความพร้อม

-กฎระเบียบและข้อผูกพันที่เกี่ยวข้อง

มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีกับการก้าวสู่ประชาคมอาเซียน8มุมมองจากภายนอก ผมสนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะจะได้เก็บประเด็นต่างๆไปขยายผลต่อในการประชุมสัมมนาวิชาการนานาชาติในหัวข้อ การยกระดับคุณภาพชีวิตและภูมิปัญญาท้องถิ่นอาเซียน ครั้งที่1” วันที่8-11 สิงหาคม 2555 ที่ ม ห า วิ ท ย า ลั ย เ ท ค โ น โ ล ยี ร า ช ม ง ค ล 9 แ ห่ง ทั่ ว ป ร ะ เ ท ศ งานนี้มีตัวแทนจากประเทศกลุ่มประชาคมอาเซียนและประเทศเพื่อนบ้านมาร่วมออก ความเห็น20ประเทศ

ผมได้รับเชิญให้ไปแสดงความเห็นในหลายวาระตลอดงาน4วัน มันเป็นความรับผิดชอบที่จะต้องค้นคว้าข้อมูลมาร้อยเรียงตามสไตล์ของเรา ถ้าเราเป็นผู้เรียน ไปที่ไหนๆก็ได้เรียน การไปอุบลเที่ยวนี้ก็เหมือนการไปเรียนนั่นแหละครับ แถมยังโชคดีได้เรียนกับท่านผู้รู้ระดับอ๋องทั้งนั้น

วิทยากรประกอบด้วย

.ดร. ปิยวัฒน์ บุญหลง ผอ.คลังสมองของชาติ

คุณอรนันท์ วัฒนายานนท์ ผู้ชำนาญการกลุ่มประชาคมอาเซียน

ดร.ศิรินทิพย์ บุณมี ตัวแทนจาก ม.อุบลราชธานี

การ ได้ฟังผู้รู้มาคลี่ข้อมูลให้เราดูนั้น เป็นการเรียนลัดยอดเยี่ยมที่สุด ผมได้รับข้อมูลเกี่ยวกับอาเซียนในแง่มุมเด็ดๆมากมาย ยกตัวอย่างเช่น ผลการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับความเป็นอาเซียนของมิตรประเทศ มีตัวเลขที่ฮาจนอ้าปากหวอหลายข้อ ความสนใจ ความคุ้นเคย พบว่าประเทศลาวและประเทศเพื่อนบ้านได้รับคะแนนสูงกว่าประเทศเรา ไทยอยู่อันดับท้ายๆแทบทุกข้อ ประเทศลาวได้คะแนนอันดับ1หลายด้าน แสดงว่าพี่ไทยยังไงๆก็ออกแบบสไตล์ไทยไปเสียทุกเรื่อง ทั้งๆที่อีก2ปีเศษระบบอาเซียนก็จะคืบคลานมาถึงแล้ว วิทยากรให้ความสำคัญใน 3 ประเด็นหลัก

1 ด้านความมั่นคง การเมืองระหว่างประเทศ

2 ด้านเศรษฐกิจ เศรษฐกิจประชาคมอาเซียน

3 ด้านสังคม /วัฒนธรรม

พูด กันมากเรื่องการสื่อสาน ภาษา ทักษะฝืมือ ความสามารถ ความพร้อมด้านต่างๆ รวมทั้งจุดดีจุดด้อยอื่นๆ เช่น โรคระบาด ยาเสพติด แรงงานอพยพ สมองไหล การควบคุม กฎกติกา อะไรที่มันแตกต่างกันจะเอามารวมกันก็คงต้องอาศัยเวลาที่จะเรียนรู้ระหว่าง กัน และแสวงหาความร่วมมือระหว่างกัน วิทยากรได้ยกตัวอย่างการเตรียมความพร้อมของประเทศต่างๆพอสังเขป และกระเซ้าเรียกเสียงฮา..

ชอบงานดี งานสบาย หงายตลอด

รู้ภาษาต่างประเทศทำงานโรงงานต่างด้าว ไม่รู้ภาษาฯต้องทำงานในไทย

ความสามารถในการคอรัปชั่นสูงขึ้น แต่การแข่งขันลดลง

จุดอ่อนของไทย..อยู่ที่ไม่มีทิศทางการศึกษา

ของดีอาเซียนอยู่ตรงไหน? ค้นพบแล้วหรือยัง

ทำความรู้จักกับอาเซียนดีพอแล้วหรือยัง

ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยที่น่าสนใจอีกเยอะครับ เวลามีจำกัด งานเสวนาเป็นเพียงน้ำย่อย เราจะต้องทำการบ้านกันต่อไป ผมนำหนังสือโมเดลบุรีรัมย์ ไปแจกอาจารย์ผู้ใหญ่40 เล่ม หลังจากนั้นก็เก็บกระเป๋า/คืนห้อง ดร.อุทัย อันพิมพ์ โทรศัพท์มานัดไว้ว่าจะอาสามารับช่วงพาไปรับประทานอาหารเวียดนามที่ร้านอินโดจีน แหนมเนืองร้านนี้ฝีมือดีครับ อร่อยทุกจาน แซบทุกคำ ..

ระหว่างนั้นมีคนมาขายรถเตอรี่

อาจารย์อุทัยซื้อเลขท้าย 54 สองใบ

แบ่งให้ผมใบหนึ่ง..

ต่อมามีเจ้าอื่นเร่มาขายอีก

ผมจึงหยิบกระเป๋ามาซื้อเลขท้าย 24 บ้าง

แล้วแบ่งให้อาจารย์อุทัย 1 ใบ

อบายมุขเป็นสิ่งไม่ดี เ รื่ อ ง โ ช ค ดี ไ ม่ ดี ไ ม่ ต้ อ ง ซื้ อ ห ว ย

ถ้าทำดี โชคก็ดีอยู่แล้ว..ไม่ต้องเสียเงินหรือสุ่มเสี่ยงให้เมื่อยตุ้ม!

อ้าว! แ ล้ ว ผ ม ซื้ อ ฉ ล า ก กิ น แ บ่ ง ทำ ไ ม ล ะ

หลังจากอิ่ม อาจารย์อุทัยถามว่า..พ่อสนใจจะไปดูการแกะเทียนพรรษาไหม? มี เจ้าถิ่นพาตระเวน มีรึจะไม่รีบตะครุบ..เราออกตระเวนไปหลายวัดที่มีชื่อเสียง ไปเห็นแล้วก็ทึ่งๆและทึ่ง การที่ได้ไปดูอย่างใกล้ชิด เห็นขั้นตอนและกระบวนการต่างๆ มันสุดแสนจะแจ่มใจมากใช่ไหมละเธอ

แต่ละวัดใช้เวลาในการสร้างเทียนแห่งละ 2 เดือนเป็นอย่างน้อย

เทียนแห่พรรษาบางแห่งตบแต่งอย่างวิจิตรบรรจงบนรถที่ยาวถึง 20 เมตร

ใช้งบประมาณแห่งละ 4-8 แสนบาท

รางวัลชนะเลิศ 200,000 บาท

ต้องฝึกกระบวนแห่ ขบวนฟ้อนกันเหงื่อไหลไคลย้อย

หลังจากประกวดแล้วนำกลับมาชื่นชม 6-7 วันก็แกะเทียนออก โธ่ๆๆๆ

บางสำนักมีถ้วยรางวัลเต็มตู้ มีประวัติ มีตำนาน มีร่องรอย

นายช่างและลูกมือมีความมุ่งมั่น มีความสุข มีการพัฒนาฝีมือ

ระยะนี้..เร่งงานกันหามรุ่งหามค่ำไม่ได้หลับได้นอน..

เรื่องนี้อธิบายมิติศรัทธา ได้อย่างยอดเยี่ยม

เสียดายไม่มีเวลาชมวัดอย่างละเอียด ฝากไว้ก่อนโอราฬ

ฝน ตกพรำๆ  ตระเวนไปชมการแกะเทียน 4-5 วัด ได้เวลาจะไปสนามบินแล้ว พอคลำกระเป๋าจะซื้อของ อ้าวกระเป๋าตังส์หาย ก่อนหน้านี้ยังควักซื้อหวยอยู่นี่..สงสัยจะลืมไว้ที่ร้านอาหาร อาจารย์อุทัยทราบเรื่องรีบหันพวงมาลัยกลับไปที่ร้านอินโดจีน พบว่า..เด็กพนักงานในร้านเก็บเอาไปให้เจ้าของร้าน คุณเจ้าของร้านก็ดีเหลือใจ โทรไปบอกใครต่อใครที่รู้จักอาจารย์อุทัยให้วุ่น เพราะไม่มีเบอร์โทรฯที่จะติดต่อเจ้าตัวได้ พอเราไปรับกระเป๋าแล้ว ก็ต้องโทรฯเคลียท่านที่พลอยเดือดร้อนไปด้วย

อ ย่ า ซื้ อ ห ว ย เ ล ย น ะ ค รั บ . .หวาดเสียว..

ยังดีนะครับที่เจอคนดี

ไม่อย่างนั้นจะใจหายใจคว่ำกว่านี้

ตั๋วเครื่องบิน บัตรต่างๆ เงินซื้อข้าวกิน จะไปนอนที่ไหน?

ไม่ทำซกหมก เหมือนคนอกหักซ้ำซ้อนรึเธอ..

เย็นนี้พี่แต๋วเลี้ยงเรียกขวัญ..หาย..ให้กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว

ถ้าแห้ว..หรือท่านอื่นจะมาร่วมด้วยช่วยยิ้ม

ก็เตรียมพกยิ้ม..มารอที่พหลโยธินเพรท เวลา 6โมงเย็น นะครับ..

เสียดาย กีฬาโอลิมปิก ไม่มีการแข่งยิ้ม

ไม่อย่างนั้นจะส่ง ..พวกเรานี่แหละไปชิงแชมป์ ..

เสียงบ่นๆๆ และบ่น..ทำไม?

เกิดเป็นหญิงแสนลำบาก

แฟน..ก็ ต้ อ ง ห า

ขา..ก็  ต้ อ ง เ รี ย ว

หน้า..ก็ ห้ า ม เ หี่ ย ว

นม..มี นิ ด เ ดี ย ว ก็ ไ ม่ ไ ด้

เฮ้อ!

คัดจาก Iam Zoma



Main: 0.067600965499878 sec
Sidebar: 0.047574996948242 sec