ศึกดวลตะหลิวทอง

อ่าน: 1741

พี่น้องครับ  ศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก..ก็พี่แต๋วของเรานะสิครับ ชวนพรรคพวกจะบุกสวนป่าปลายเดือนนี้ พี่เขาก็ธรรมดาที่ไหนเล่า ในรัศมี50ตารางกิโลเมตรนี่ลุยไปชิมอาหารร้านดังๆมาหมดแล้ว ไม่เชื่อก็ลองชวนคุยเรื่องนี้ดูเถิด ทุกซอกทุกซอยร้านไหนฝีมือเป็นยังไง พี่เขาไปชิมยิ่งกว่าแฟนพันธุ์แท้

ไม่ได้บอกแค่ว่า “อร่อยหรือไม่อร่อย”

แต่รู้ทะลุก้นครัวไปจนกระทั้งบอกได้ว่า

“อร่อยเพราะอะไร”

ไอ้ตรงนี้ละสำคัญ..ที่บ่งบอกว่า..เชลชวนชิมเรียกเจ๊ได้อย่างเต็มปากเต็มคำ

ผมเคยได้ฟังกับหูตัวเองมาแล้ว

ระหว่างเซียนเจี๊ยะขาใหญ่ กับ พี่แต๋วคนสวยของชาวFB.

อึ้งกิมกี่ตาค้างลิ้นไก่แห้งเลยละครับ

หลังจากพบปะกันครั้งนั้น..พี่แต๋วก็มุ่งมาดปราถนาจะบุกมาสวนป่าให้ได้ ทำการบ้านมาตลอด ถ้าเราสังเกตุจะเห็นว่าพี่แต๋วขู่ผมอยู่เรื่อย ..จะบุกเต็มที่ กระโดดกอดบ้างละ ปลุกระดมสมาชิกของพี่เขาอยู่เรื่อยๆ ทำเอาผมหวาดหวั่นมิใช่น้อย ต้องเร่งทำการบ้านบ้างเหมือนกัน เพราะโปรแกรมทองของนักชิมระดับภาคพื้นเอเซียมา ถ้าตั้งรับไม่ดีมีหวังตกม้าตาย

กิจกรรมสัมพันธ์หนึ่งที่ออกแบบไว้

ก็คือการดวลทำอาหารระหว่างทีมเมืองกรุง กับ ทีมลูกทุ่ง

ฝ่ายพี่แต๋วก็ทำอาหารตามถนัดมื้อละ 2 อย่าง

ฝ่ายครัวบ้านป่าก์ก็จะทำอาหารพื้นถิ่นมื้อละ 2 อย่าง

ตั้งชุดครัวแยกอยู่คนละฝั่งของป่าไผ่ จ้องหน้ากัน แอบดูกันได้ อิ อิ..

จัดโต๊ะอาหารไว้ตรงกลาง แล้วรับประทานอาหารร่วมกัน แลกเปลี่ยนความรู้กัน แบบจะๆ ต่อหน้ากะทะและกาละมัง เอาตะหลิวเป็นพะยาน ส่วนกรรมการผมจะเชิญขาใหญ่เพื่อนผมมาด้วย ตะกี้คุยกันแล้ว..ยังโต๋เต๋อยู่เมืองจีน ยืนยันว่าจะกลับมาทันแน่นอน อยากจะเชิญอ.แป๋วกับป้าหวานมาเป็นกรรมการด้วย ไม่ทราบว่าจะมาได้หรือเปล่า ให้รอกอดส์เป็นผู้คุมระฆังเวลา และทำการบันทึกคลิปวีดีโอไว้ทุกระยะ เพื่อส่งขึ้นFB.ให้แควนๆได้ชม ส่วนเจ้าแห้วกันเอาไว้เป็นลูกมือผม ไม่งั้นจะออกไปเต้นเชียร์จนป่าแตก

เพื่อความไม่ประมาท วันนี้ผมลองซ้อมทำแกงบ้านๆป่าๆพื้นถิ่น กว่าจะถึงวันดวลกันผมคงซ้อมไว้ได้หลายเมนู วันนี้ทำแกงอ่อมประยุกต์ ไม่ใส่เนื้อนะครับ อาจจะมีปลาป่นที่ติดมากับพริกแกงบ้าง ชูรสด้วยผักประจำถิ่นใส่ แมงลัก ชะอม ใบมะกรูด และน้ำสลัดโฉมยงที่มีรสขามเปียก ความหวานมีในผักสดๆอยู่แล้ว ยังได้จากมะเขือเทศและต้นหอม เรื่องต้นหอมกับแกงอ่อมอีสานนี่ยังกะกิ่งทองใบหยก จึงไม่ใส่หัวหอมหรือหอมหัวใหญ่ เพราะจะหวานเกินไป

ความกลมกล่อมที่ภาษาอีสานเรียกว่า “อำลำ” นั้น ผมใช้ยอดชะอม ยอดมะระขี้นก และยอดอ่อนยอ แม่ครัวหัวป่าบางแห่งจะตำข้าวสารใส่เพื่อให้แกงข้น ภาษาพื้นถิ่นบอกว่า “ให้มันนัว” บางถิ่นก็ใส่ข้าวคั่ว แต่เมื่อเราแกงไม่ใส่เนื้อ ผมจึงใส่เผือกแทน เผือกยักษ์ที่ใส่มีคุณสมบัติพิเศษ ต้มกับผักแล้วจะเปื่อยยุ้ยแทนข้าวสารตำได้ดี อาหารอีสานยังนิยมใส่น้ำปลาร้า บ้างก็ใส่ปลาทูเค็ม ปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็นปลาเค็ม แต่ผมเห็นว่าแค่นี้ก็อร่อยจนสะอื้นแล้ว จึงตัดของเค็มๆออกไป

ผมเป็นเศรษฐีผักตามที่อาจารย์สมบูรณ์ตั้งให้

จะแกงแต่ละหม้อมีผักให้เลือกไม่หวาดไม่ไหว

แต่แกงหม้อนี้จะเน้นผักพื้นถิ่นเป็นหลัก

เท่าที่เลือกมาวันนี้มี มะเขือพวง หน่อไม้ ยอดตำลึง ยอดมะกล่ำ ยอดมะรุม ยอดผักปลัง ยอดน้ำเต้า ดอกชมจันทร์ ผักอ่อมแซบ ยอดกระดุมเงิน ก้านตูน ใส่ฟักทองอ่อน ส่วนผลน้ำเต้าอ่อนยกยอดไปทำเมนูอื่น รสแซบแบบอีสานต้องเผ็ดนิดๆ ผมใช้พริกอ่อน ถ้าพริกแก่จะเผ็ดและไม่หอมเท่าพริกอ่อน ถ้าจะใส่พริกไทยสดกับดีปลีน่าจะเหมาะกับแกงใส่เนื้อแบบแกงป่า

เดี๋ยวเผ็ดมากไป..คนกรุงจะน้ำตาร่วง

ใช้น้ำปลาแทนซ็อสนะครับไม่งั้นรสจะเพี้ยนเกินไป

ถามว่า..ผักชูรสใส่หลากหลายด้วยกันอย่างนี้ ..กลิ่นมันจะไม่เตะกันรึ

ก็แหม..ตอนนี้เราซ้อมใหญ่ลับฝีมือ..เดี๋ยวก็รู้

ปกติแม่ครัวหัวป่าส์ เขาจะรู้คุณสมบัติของผักแต่ละชนิดอยู่แล้ว สุกช้าสุกเร็ว กลิ่นกลางๆหรือกลิ่นเข้มข้น คุณสมบัติออก-รสหวาน-เผ็ด-ขมหน่อยๆ เราต้องรู้น้ำหนัก ใส่มากใส่น้อย ใส่หน้าใส่หลัง แม้แต่น้ำปลา หรือผักชูรสก็มีกำหนดระยะใส่ ไม่งั้นความหอมหายหมด ถ้าไม่รู้รายละเอียดพวกนี้ เสน่ห์ปลายจวักจะเกิดขึ้นได้อย่างไรละครับ

ส่วนคุณค่าทางด้านโภชนาการนั้นไม่ต้องห่วง

คุณหมอสารภีเขียนไว้ผักสดๆไทยๆนี่แหละดีที่สุดในโลก

ไม่มีบ้านไหนเมืองไหมมีผักสารพัดประโยชน์มากเท่ากับบ้านเรา

ถ้าเปลี่ยนแนวคิดมากินผักแทนยา

เราก็จะรู้ว่ากินผักอร่อยกว่ากินยามากมายนัก ใช่ไหมละเธอ

 

ไหนๆที่รักจะมากะตู้วู้กันแล้ว แม่หวีจะทำเมี่ยงคำ ตำน้ำพริกกุ้งให้ชิม มื้อเช้าจะเลี้ยงข้าวต้มมะลิแดงกับขนมครก ชวนแคะขนมครกท่ามกลางแดดอุ่น ใครจะชิมต้องเอายิ้มแลก ชา กาแฟ เลือกได้ ผมจะอาสาอบไก่ อบหมู กับเตาดาโกต้า มีน้ำมะสังใส่น้ำแข็งแถมตอนบ่าย ของหวานนอกจากผลไม้แล้ว จะชวนทำมะตูมไข่หวาน

รายการพี่แต๋วถล่มสวนป่าครั้งนี้ ถ้ามีจำนวนสมาชิกสัก 10 คนกำลังดี ถ้าลูกทีมยังไม่ครบก็ประกาศชี้ชวนสิครับ พี่เล็ก หนูจู หนูกุลฯ ถ้าว่างก็ลองพิจารณาดู เพราะจากนี้ไปสวนป่าก็จะยุ่งๆๆและยุ่งกับการดูงานของคณะต่างๆ และมีงานก่อสร้างติดต่อกัน ไม่สะดวกจัดรายการประชันตะหลิวอย่างนี้ได้อีก ประกอบกับยังมีคิวตะเร๊ดแต๊ดแต๋ค้างอยู่อีก2-3รายการ ถึงเป็นฤๅษี..บางทีก็ต้องออกไปช่วยสุดสาคร..

อ้อ..พี่แต๋วไม่ต้องเตรียมชุดโยคะมาหรอกนะ

ไปเลี้ยงแพะ เลี้ยงนกกระจอกเทศ ปลูกผัก ก็เอวอ่อนเอวหวานแล้ว

ผมเผยไต๋ให้ฟังบางส่วนแล้ว

แต่จุดเด็ดขืนบอก..เกรงว่าต่อมพี่แต๋วจะแตกเสียก่อน นะสิ

จึงเรียนมาด้วยความเคารพรักสม่ำเสมอ ชิมิ ชิมิ  ..

 

 

 


สงกรานต์กับครู

อ่าน: 1823

วันนี้กระต๊อบน้อยรับแขกทั้งวัน 3-4คณะได้

ด่วนสายตรงที่โทรมาค่อนข้างตะกุกตะกั๊ก..เพราะรับแขกนะเธอ

เมื่อวานนี้เล่นสงกรานต์กับนางเมฆขลาและรามสูรย์เปียกมะล๊อกมะแล๊กไปตามฟอร์ม วันนี้ฟ้าใสตั้งแต่เช้า พอเข้าบ่ายทำท่าครึ้มอกครึ้มใจอีกแล้ว ถ้าจะมาแถมอีกก็ขอเป็นช่วงกลางคืนเถิดนะพระพิรุณ ขอให้มดปลวกตั้งหลักกันบ้าง ฝนที่เทมาทำให้บ้านปลวกแมลงชำรุดไปพอควร ส่วน-กบขียด-คางคก-ร่าเริงระรื่น แมลงเม่าก็รอจังหวะเล่นออกมารำวงเล่นไฟยามค่ำคืน

ฝนมาแต่ละครั้งนำความเปลี่ยนแปลงให้แก่สรรพสิ่งทั้งปวง

น้ำฝนมีคุณค่าเหมือนน้ำใจ

หล่นลงตรงไหนมีแต่ความดีงาม

นึกถึงข้อมูลที่คุณหมอสารภีนำเสนอเกี่ยวกับคุณค่าของผักชนิดต่างๆ อ่านแล้วได้ความรู้และประทับใจมากๆ ทำให้เรารู้ว่าผักแต่ละชนิดในบ้านเรา มีคุณค่าทางเภสัชอย่างเอกอุ เพียงแต่คนไทยเราไม่ใส่ใจเท่าที่ควร บ้างก็ไปหลงละเมอเมนูและผักต่างด้าวจนลืมของดีใกล้ตัว ลองเข้าไปอ่านดูละครับ อ่านแล้วท่านจะรักผักไทยๆอย่างไม่รู้ตัว แต่ละตัวมีสารอาหารมากมาย ถ้าเรารับประทานผักปลอดสารพิษทุกวัน ก็เหมือนการเติมภูมิต้านทานให้กับตัวเองทุกวัน

ถ้าเราเห็นความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องใด

เราก็จะใส่ใจกับเรื่องนั้นๆได้ดี

  1. ทำความเข้าใจเกี่ยวกับคุณประโยชน์ของผักจากบล็อกคุณหมอสารภีและที่อื่นๆ
  2. ทดลองปลูกผักดูบาง
  3. ให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อผัก
  4. ทดลองประกอบอาหารรับประทานในครอบครัวบ่อยขึ้น
  5. วางแผนระยะยาวเรื่องการบริโภคผักในครัวเรือน
  6. ทำการศึกษาวิจัยเพิ่มเติม
  7. ออกทัศนศึกษาดูงานในจุดที่ท่านสนใจ
  8. ถามตัวเองว่า..พร้อมที่จะทำเรื่องนี้แล้วหรือยัง
  9. ถ้าสงสัย  กลับไปอ่านข้อ1-8

ผมมีเครือข่ายครูในพื้นที่มานมนาน เรียกตัวเองว่า “กลุ่ม3ก้อนเส้า”

ครูกลุ่มนี้มีแนวคิดเรื่องการศึกษาที่น่าสนใจ

กล้าคิด กล้าทำ กล้าเสนอแนะ และถ้าเบี้ยว ที่จะไม่ทำตามกระแสบ้าๆบอๆ

ด้วยพฤติกรรมเยี่ยงนี้จึงถูกผู้บังคับบัญชาบ้องตื้นหมั่นใส้

แต่..ด้วยความที่เป็นคนที่มีเจตนาดีต่อหน้าที่และรับผิดชอบลูกศิษย์

จึงพอประคับประคองตัวอยู่ในระบบได้ตามควรแก่อัตภาพ

พูดไปแล้ว..พวกเขตพื้นที่ ผู้บริหารก็ได้อาศัยผลงานของครูกลุ่มนี้แหละแก้ผ้าเอาหน้ารอดเนื่องๆ

 

ทุกปี วันสงกรานต์เขาก็จะนัดกันมาเยี่ยมยามผม และก็ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะบอกให้ผมรู้ตัวล่วงหน้า จึงไม่ทราบว่าจะจัดเลี้ยงข้าวเลี้ยงน้ำได้อย่างไร มาถึงเขาก็จะจัดที่จัดทาง เสริ์ฟน้ำ จัดพิธีการรดน้ำ แจกของฝากของขวัญ ถ่ายภาพ ผมมีหน้าที่ให้พร แล้วก็คุยสารทุกข์สุกดิบกัน นานๆได้พบกัน..จึงได้ฟังเรื่องดีๆของแต่ละคน ซึ่งเป็นความรู้ใหม่ ผมได้เรียนรู้เรื่องใหม่ๆจากคุณครูกลุ่มนี้

ยกสุดท้าย..เขาจะบอกว่า..

ให้ครูบาเล่าเรื่องอะไรก็ได้สรุปท้ายให้ฟัง

แหม..เรื่องเล่ามีปะเลอะ

ให้ไปตามอ่านในลานปัญญาและFB.

แล้วก็อย่าลืมคอมเมนท์ด้วยละ

ไม่อย่างนั้น..เขาจะเป็นครูที่หัวไวใจสู้ได้อย่างไร?

ถ้าไม่ต่อแต้มความรู้กับคนอื่นๆ

จะ..เปิดห้องเรียนสู่โลกกว้าง ให้ทุกอย่างเป็นครูได้อย่างไร

ถ้าครู ไม่เปิดตา เปิดใจ เปิดโน๊ทบุกส์ กระโจนเข้าสนามความรู้อย่างชาญฉลาด

ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่ครูทำไม่ได้ ถ้าครูอยากจะทำ


วิธีสมานฉันท์ฉบับสวนป่า

อ่าน: 2339

(แกงป่า) 

ในช่วงสงกรานต์ เท่าที่ตามอ่านพวกเราหลายคนอยู่กับบ้าน ทำกับข้าวอร่อยๆ..แล้วเอามาเล่าสู่กันฟัง ผมก็เอาบ้างสิครับ ตั้งแต่มาบำเพ็ญพรตนอนขดอยู่ในกระต๊อบ เพื่อทดลองใช้ชีวิตแบบแบกะดิน ที่มุ่งเรื่องประหยัดประโยชน์และเอื้ออาทรต่อธรรมชาติ ..ตื่นเช้ามาก็ถือกล้องกับตะกร้าเดินกะด๊อกกะแด๊กไปทักทายเพื่อนร่วมโลก

เห็นผักต่างๆมันสดงามเหลือเกิน

จึงคิดในใจว่าจะลองแกงป่าสำหรับเช้านี้

เสียบหม้อหุงข้าวไว้  แล้วออกทัศนาพื้นที่

ก่อนกลับ วกเข้าแปลงผัก เอากรรไกรตัดมะเขือพวง ตำลึง ฟักทองอ่อน มะเขือเทศ ใบอ่อมแซบ ต้นผักขมจีน เอายอดมะระขี้นกนิดหน่อย พอให้มันออกรสขมอำลำ เอาผักอีตู่เป็นตัวชูรส มาถึงเคหาก็ตั้งหม้อ ล้างผักหั่นๆเด็ดๆใส่ลงไป ขี้เกียจตำเครื่องแกง ค้นหาน้ำพริกปลาย่างสำเร็จรูป โฆษณาให้ก็ได้ “พันท้ายนรสิงห์” เติมเกลือหน่อย ขยุ้มผักลงน้ำเดือด

ปิดฝา..แล้วนั่งยิ้มรอ..เวลาอันสมควร..

เรื่องทำอาหารให้สนุกมันต้องขาใหญ่นัดมาประชันกันในป่า

ชวนพี่แต๋ว พี่โบว์ พี่เล็ก พี่อร ไอ่แห้ว ไอ่ตาหวาน หนูเก๋ หนูกุลนที

มาปะทะเสน่ห์ปลายจวักสักวัน

รับรองเธอเอ๋ย..ป่าแตกแน่ๆ

 

ระหว่างนั่นรอแกงเดือด มีรถวิ่งเข้ามา อ้าว! คุณโยธิน ละมูน ผู้จัดการฝึกอบรมบริษัท TT&Tกับภรรยาลงรถ.. บอกกล่าวเล่าแจ้งว่าไปเที่ยวบ้านภรรยาที่อุบล ผ่านมาจะไปเพชรบูรณ์ ก็เลยแวะมาเยี่ยม เอาผ้าโสร่ง ผ้าถุง หมูยอ และผลไม้ป่า“บักแงว” มาฝาก ต้องเดินทางข้ามเขาไปไกล จึงแวะแว๊บๆแล้วเดินทางต่อ

คุณโยธิน ทักว่า..พ่อผอมไปนะ

ก็เล่าให้ฟังว่า..ช่วงนี้ใช้ชีวิตแบบฤๅษี

หุ่นถึงดีอย่างนี้..

ใครเคยเห็นฤๅษีลงพุงบ้าง  ไม่มีหร๊อก

เว้นแต่พวกซูโม่จะหนีมาบวชเป็นฤๅษี..ไม่แน่

 

(บักแงว)

หลังจากแขกกลับ  ผมก็มาสาละวนเรื่องปรุงอาหาร  ใส่โน่นนิดนี่หน่อย ชิมบ่อยๆจนพอใจ ..แหม อร่อยจนนึกชมตัวเอง อยู่คนเดียวจะพูดกับใครละ ถ้าไม่ถือโอกาสโม้ทางFB. ไม่รู้ว่าพันธมิตรคนสวยจะมีใครอยู่ตอนนี้หรือปล่าว คุณแนนซี่อยู่เบลเยี่ยมก็คงยังไม่ตื่นมั๊งเมื่อคืนแกโม้กับคนโน้นคนนี้จนลืมนอน ยังไงๆอ่านแล้วก็ส่งข่าวกลับมาบ้างนะ อย่าใจดำอ่านทิ้งอ่านขว้างนักเลย ช่วยกันให้กำลังใจฤๅษีหัวเดียวกระเทียมลีบหน่อยเถิด

ใครๆก็คอมเมนท์ฟรีทั้งนั้น  ไม่ต้องเสียตังค์

ถ้ามีการเก็บเงินค่าคอมเมนท์ก็ว่าไปอีกอย่าง

ชาวเราควรจะหันมาช่วยกันสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้จากใจสู่ใจ

นึกถึงหัวอกเขาหัวอกเราบ้าง

อย่าแห้งแล้งน้ำใจนักเลย

ควรเริ่มพัฒนากระบวนการทางสังคมให้เป็นรูปธรรม

ไม่อย่างนั้น..สังคมสมานฉันท์ สังคมปรองดองจะเกิดขึ้นได้อย่างไร?

  • จะเป่าหยิงฉุบเอาก็ไม่ได้หรอก
  • จะปั่นแปะเอาก็ไม่ได้หรอก
  • จะโยนหัวโยนก้อยก็ไม่ได้หรอก

เรื่องอย่างนี้มันต้องสะสมให้มีที่ไปที่มา

ไม่อย่างนั้นเรื่องสมานฉันท์ก็เป็นแค่ทำนองเพลง

..คุณไม่รักทำไมไม่บอก ..มาลวงมาหลอกกันเล่นทำไม 

สมานฉันท์ กับ หลอกฉัน มันเหรียญคนละด้าน

ไม่มีใครเหมือนผมหรอกนะ

พร้อมที่จะสมานใจกับคนสวยทั่วราชอาณาจักร

 ฮัดๆๆๆเช๊ยยยย!


สวัสดีปีใหม่พี่น้อง

6 ความคิดเห็น โดย sutthinun เมื่อ 12 เมษายน 2012 เวลา 19:45 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 1693

วันปีใหม่ไทยเป็นวันระดมญาติระดมสุข ทุกหมู่บ้านจัดงานสนุกสนาน ยุคนี้ลูกหลานไปทำงานต่างถิ่นจะนัดหมายมาพบปะกัน พี่ป้าน้าอาพ่อแม่คุณตาคุณยายต่างก็รอวันนี้กัน ธรรมเนียมคนอีสานบ้านเฮานอกจากจะเลี้ยงดูกันอิ่มหมีพีมันแล้ว เรื่องเข้าวัดทำบุญก็ไม่ได้น้อยหน้าใคร

ผมปลีกวิเวกมานอนกระต๊อบน้อยคนเดียว
ช่วงสาย..เดินไปทางบ้านใหญ่เงียบเชียบ
โฉมยงคงไปวัดทำบุญ ..
จึงรดน้ำผัก ..นึกเข้าข้างตัวเอง
ไม่ได้ออกไปสรงน้ำพระที่ไหน ..ก็ขอสรงน้ำให้ผักที่ช่วยกันชำไว้
ขอให้เจริญงามวันงามคืนเถิดนะ..ผักสลัดน้อยเอ๋ย..

ผมไม่นิยมไปร่วมงานรื่นเริงตามเทศกาลต่างๆมา20 ปีแล้ว เว้นแต่ไปต่างถิ่น ไปดูสิ่งใหม่ๆของวิถีชุมชนนั้นๆก็สนใจบ้าง แต่กับท้องถิ่นตัวเองแทบไม่ได้ข้องแวะเลย ใครมาเชิญ..ก็มักจะเบี้ยวเขาอยู่เรื่อย รู้ว่าเป็นสิ่งไม่สมควร..แต่ไปแล้วมันไม่สนุกเสียดายเวลา ชอบทำงานอยู่กับต้นไม้มากกว่า กลายเป็นตาแก่ติดบ้านติดสวนไปเสียแล้ว

สงกรานต์ปีนี้อากาศสลับไปสลับมา ตอนบ่ายอาบน้ำแล้วนอนงีบหนึ่ง ตื่นเพราะได้ยินเสียงฝนเปาะแปะ ฝนตกเหมือนขี้เกียจ นิดๆหน่อยๆก็หยุดไป..อาจจะย้อนมาใหม่ยามค่ำคืนก็อาจเป็นได้ ลุงอานคนเลี้ยงวัวมาบอก..เจ้าตากลมตายแล้ว ..อ้าว! เกิดอะไรขึ้น มันก็อ้วนท้วนดีนี่น่า..แกบอกว่ามันแก่แล้ว คงจะสิ้นอายุไข ..

ถ้าเพราะเหตุนั้น..จะเอาไปฝังหรือทำยังไง..แกขอเนื้อนกกระจอกเทศไปทำกับแกล้มเลี้ยงฉลองวันสงกรานต์ เออ..ก็พิจารณากันเองก็แล้วกัน ..ลองชำแหละดูภายในด้วยนะ ตับไตใส้พุงเป็นปกติหรือเปล่า แล้วมาเล่าให้ฟังด้วย ..ผมไม่ออกไปดูซากเจ้าตากลมเพราะสงสาร กลับมานั่งทำใจ..ไปดีเถิดเพื่อนเอ๋ย ..แต่นี้ไปเจ้าตาหวานคงจะอยู่โดดเดี่ยว ไม่มีเพื่อนมาวิ่งแข่งออกกำลังกันอีกแล้ว

เย็นนี้จะออกไปปลอบใจเจ้าตาหวานเสียหน่อย
นี่แหละหนอชีวิต..วาระพรากจากกันมีอยู่แล้ว จะช้าหรือเร็ว..บอกไม่ได้

เสียงรถเข้ามาส่งพัสดุไปรษณีย์
รีบแกะกล่อง..ต่อสาย..เปิดฟัง
เสียงกระหึ่ม..เริ่มด้วยเพลง “ดีใจที่มีวันนี้”
ซึ่งเป็นเพลงประจำบล็อกสมัยที่เขียนในโกทูโน
ตามด้วยเพลง “กอด” ซึ่งเป็นเพลงประจำกลุ่มเฮฮาศาสตร์
ต่อด้วยเสียงเทศน์ ของท่านพุทธทาส ภิกขุ
เสียงบันทึกชัดเจนมาก..มีเสียงน้ำไหลเบาๆ
ฟังไปซึ้งไประลึกไป..ยังกะได้ไปนั่งอยู่สวนโมก
สาธุ..หลวงพ่อ..ท่านมาโปรดสัตว์ได้จังหวะเหลือเกิน

หวลคิดถึงคนที่ส่งเครื่องบันทึกเสียง
กล่องเล็กๆแต่ประสิทธิภาพใหญ่เกินตัวอย่างน่าอัศจรรย์
ทำไมมันช่างเหมาะเจาะได้จังหวะเช่นนี้
การฟังเทศน์ท่ามกลางความเงียบสงบ
ช่างเป็นวันสงกรานต์ที่อิ่มเอิบเหลือเกิน

ถึงไม่ได้ไปทำบุญที่วัด
บุญก็ยังเดินมาหาในป่าได้..
เรามีบุญหรือเปล่าไม่ทราบได้
แต่เราได้เพื่อนดีมีบุญคุณนับเป็นวาสนานัก ..
ขอบคุณมากครับ พระอาจารย์ Handy
สงกรานต์ปีมีขอให้ชีวีเหมือนเสียงแจ่มใสจากลำโพงที่ส่งมา

สาธุ อายุ วันโณ สุขโข ขายของดี จนไม่มีที่เก็บเงิน
ฝากกอดเจ้าเว๊ปไซด์ด้วย ครับ


ดีใจที่ได้คุยกับครูใต้

2 ความคิดเห็น โดย sutthinun เมื่อ 11 เมษายน 2012 เวลา 15:35 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 1387

ผมตื่นเช้ามืดเพื่อจะได้แก้ผ้าอาบน้ำไม่ประเจิดประเจ้อ ปล่อยน้ำไหลไปรดต้นไม้ อากาศค่อนข้างเย็นแต่ก็พอทนไหว จะได้ไม่ติดยึดเรื่องการอาบน้ำอุ่น รีบๆเช็ดตัวนุ่งโสร่ง แต่ไม่ใส่เสื้อนะ เพราะอีกหน่อยแดดออกมาได้อาบแสงสุรีย์ฉาน สายหน่อยคนงานมา เดินต๊อกๆไปคุยเรื่องการทำนั่งร้านผัก แล้วเดินต่อไปดูป้าสอนขุดเผือกยักษ์ไปปลูก วันนี้งัดหัวเผือกใหญ่มากออกมา จับตั้งบนรถไสแล้วยังกะเด็ก2ขวบ พอปล่อยมือรถไสถึงกับหัวปักคมำ

จบ2จุดแวะ เดินต๊อกๆไปเก็บผัก ได้เต็มตะกร้าเอามาล้างลงหม้อ จู่ๆ ..ก็มีอาคันตุกะที่ไม่ได้นัดหมายจากแดนใต้มาเยี่ยม ยกครอบครัวมา3พ่อแม่ลูก หลังจากเจรจาต้าอวยจึงทราบชื่อ อาจารย์พรศักดิ์ ชุมทอง จากโรงเรียนพัทลุง ดำรงตำแหน่งเป็นรองผู้อำนวยการโรงเรียน เล่าว่าได้ติดตามอ่านข้อเขียนผมมานาน ตั้งแต่สมัยเขียนลงประจำที่สารปฏิรูป

อาจารย์เล่าว่า..ไปสอนอยู่ที่จังหวัดตราดหลายปี จนกระทั้งมีแม่บ้านเป็นคนตราด อยู่ดีมีสุขจนมีลูกชายคนหนึ่ง ตอนนี้อยู่ม.6 จึงย้ายกลับไปสอนที่ภาคใต้ แรกๆเขาย้ายให้ไปสอนที่จังหวัดยะลา ซึ่งเป็นหัวเมืองที่มีความขัดแย้งสูงมาก ปัจจุบันย้ายมาสอนที่จังหวัดบ้านเกิดพัทลุง เพื่อดูแลแม่ที่ชรามากแล้ว

ปิดเทอมครานี้ตระเวณเยี่ยมญาติแม่บ้านที่ตราด ขากลับตั้งใจแวะผ่านมาทางนี้ ถามเขามาตลอดทาง อาจารย์ตั้งใจมาคุยด้วย เจอตัวไม่เจอตัวก็จะมาดู แต่โชคดีเจอเจอตัวเป็นๆก็เลยคุยแหลก
ผมไม่เลี้ยงน้ำไม่อะไรทั้งนั้น เพราะจะเสียเวลาคุย
คนที่ตั้งใจมาจะมีคำถามที่ใคร่ครวญอย่างดีล่วงหน้า
หลังจากแนะนำตัวเสร็จคำถามก็ออกมาเหมือนยิงสลุต
ตอบในที่นี่ไม่หมดแน่ เอาสักตัวอย่างสักเรื่องสองเรื่องก็แล้วกัน

: ถาม-เมื่อสภาพการการศึกษาไทยสับสนรุงรังเช่นนี้ ผมมีความคิดเห็น หรือมีข้อเสนอแนะให้อย่างไรบ้าง

: ตอบ-ยังมีหนทางที่จะลงมือทำได้บ้างในช่วงนี้ก็คือ หันหน้าเข้าหากันระหว่างโรงเรียนกับชุมชนและผู้ปกครอง นัดเจอกันคุยเข้ม สรุปประเด็นปัญหาที่เผชิญ มุมมองที่ทุกคนเห็น..พลังครูพลังผู้ปกครองเป็นอย่างไร ผนวกพลังกันไหม ยอมลงเรือลำเดียวกันไหม กระโดดลงเรือมาช่วยจ้ำเรือจ้างที่จะจมเหล่มิจมเหล่เข้าฝั่งให้ได้ แล้วยกเรือขึ้นฝั่งปะผุ อย่าไปรองบประมาณ อย่าไปรอความช่วยเหลือภายนอก เอางบใจงบกายของชุมชนและโรงเรียนนั่นแหละ เป็นทุนยกเครื่องการเรียนให้ลูกหลาน คิดเห็นสิ่งใดก็ช่วยกันวิเคราะห์ ถ้าทำเต็มไม้เต็มมือเต็มใจก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรง ที่จะโอบอุ้มเอาลูกหลานให้อยู่รอดปลอดภัย ถ้ายังยึกยัก..รอวิธีการห่วยๆจากทางไกล เรือก็จะจม เด็กก็จะถูกลอยแพ ครูก็ผะงาบๆ

ทุกข์การศึกษาคือทุกข์ของแผ่นดินขนานแท้ ถ้าครูและผู้ปกครองไม่เห็นปัญหาร่วมกันในเรื่องที่จะให้ความรู้คู่ความรัก เด็กก็จะทิ้งผู้ปกครอง ทิ้งครู ทิ้งโรงเรียน ทิ้งการศึกษา คราวนี้ละไปสุดกู่ อาการแสดงออกถึงความเบื่อหน่ายทางการศึกษา เริ่มรุนแรงและพลิกผันมากขึ้นจนยากจะเยี่ยวยาแล้วในเวลานี้ เจ้ากระทรวงเอง กรรมการต่างๆ ผู้บริหารไม่มีพลังมีน้ำยาพอที่จะแก้วิกฤตินี้ได้ ทำปากดีไปอย่างนั้นเอง จะใช้ยุทธศาสตร์โน่นนี้ แต่ในความเป็นจริงทำแบบสาดเสียเทเสีย มันจะแจกแท๊บเล็ท อีโธ่อีถังเอ๋ย มันเห็นประเทศอื่นเขาแจก มันก็แจกตามก้นเขา ไม่ได้คิดได้คิดดีอะไรหรอก ลูกอีช่างแจก..ไม่ได้ดูตาม้าตาเรือว่าครูและเด็กประเทศเขาแตกต่างจากบ้านเราอย่างไร

อย่าไปรอความหวังลมๆแล้งๆทางอื่นเลยครับ
ไฟไหม้บ้านแล้วยังจะทำจดหมายขออนุมัติรถดับเพลิงยังงั้นรึ

ถาม-ครูบามองครูทุกวันนี้อย่างไร?
ตอบ-ผมเห็นใจครูนะ ครูถูกกระทำต่างๆนานา ครูส่วนหนึ่งไปรับใช้การเมือง เอาอำนาจเถื่อนมาครอบงำครูด้วยกัน ตำแหน่งบริหารเป็นตำแหน่งการเมือง บางคนได้มาเพราะการเมือง สร้างผลประโยชน์ร่วมกันซับซ้อน ความเป็นครูอาจารย์อยู่ไหนก็ไม่รู้ ..ครูส่วนใหญ่รู้สึกตัวเองไม่ได้การยอมรับจากสังคม ก็เลยพยายามที่แสวงหาวิธีการยอมรับขึ้นมา ด้วยการดิ้นรนหาวัตถุ ต้องมีรถยี่ห้อนี้ บ้านหลังใหญ่ๆ แสดงสถานะเป็นเสี่ย วางก้ามแบบนักธุรกิจ+การเมือง กลายเป็นมนุษย์พันธุ์ใหม่ บริหารโรงเรียนทางโทรศัพท์ เอาเวลาไปเฝ้านักการเมือง คอยพินอบพิเทา กุมหำงกๆ ไม่เหลือศักดิ์ศรีอะไรเลย แต่พอย่างเท้าเข้าโรงเรียน..เดินกร่าง..ด่าครูสาดหน้าไปก่อน

..ผมว่าครูจนมุมจนใจนะ
ยิ่งมาแก้ปัญหาด้วยการอวดโอ้วัตถุ
ไม่กลัวหนี้ ยิ่งกู้ได้มากก็ยิ่งเสียสติมาก เพราะหนี้มากขึ้นๆ
คนเราต่างก็รู้แก่ใจว่ากำลังแบกสถานะอะไร
แทนที่จะหันมาใส่ใจงานการในหน้าที่
ครูก็หมกมุ่นหมกเม็ดอยู่กับปมด้อย
คล้ายๆกับเด็กๆ
สุดท้าย ครูไม่มีใจสอน เด็กไม่มีใจเรียน

ประเทศนี้จะไม่โง่ที่สุดในโลกรึ

ถาม-ถ้ามันวิบัติมากขึ้นๆอย่างนี้ จะทำอย่างไรครับ
ตอบ-ไม่รู้จะทำยังไง เพราะไม่เห็นกลไกอะไรที่จะเป็นบวกในเรื่องการศึกษา คงปล่อยให้มันตายอย่างเขียดละมัง ให้เด็กมันตีกันยิงกันตายมากๆ ขายยาบ้า ขายตัว หนีเรียน ซิ่งรถ เล่นเกมส์ สักครึ่งโรงเรียนกระมัง ..รอดูต่อไป..ว่ามันจะวิกฤตจนวิบัติมากไปกว่านี้ยังไงจวนแล้วละ แววฉิบหายฉายโชติช่วงชัลวาลย์ขึ้นเรื่อยๆ ดูสิว่า การบริหารการศึกษาแบบตอแหลศาสตร์จะเป็นยังไง ตอนนี้ก็ตัวใครตัวมันก่อนนะโยม

ผมถึงบอกไง อย่าแต่งงาน อย่ามีลูกมีผัว อยู่ตัวล่อนจ้อนนี่ก็แทบหน้ามืดแล้ว
ส่วนคนที่ถลำใจไปแล้วก็ยอมรับสภาพเถิดนะ
ประคับประคองกันไป เลี้ยงลูกเลี้ยงผัวง๊อกๆไปตามหน้าที่ภรรยาที่ดี

ถาม-ในส่วนตัวของอาจารย์ละคิดทำอะไรตอนนี้
ตอบ-ผมก็หลบเข้าป่านะสิ มาบำเพ็ญตนเป็นฤาษีจำบ่มอย่างที่เห็นนี่แหละ -อยู่ง่าย-กินง่าย-นอนง่าย-ยิ้มง่าย-อยู่กะต๊อบแบกะดิน สร้างพื้นที่ของตนเองอย่างสงบเสงี่ยม เจียมตัวเจียมใจ อย่าไปเหยียบตาปลาใคร อย่าไปอยู่ในสายตาใคร หลบๆเจ้าบุญทุ่มบุญหนักศักดิ์ใหญ่ ปลูกผักปลูกหญ้ากินตามประสาคนป่า อยู่กับเพื่อนๆที่รู้ใจ ชวนคนดีคนมีความรู้มาสร้างเมืองใหม่ อยู่ด้วยกัน ดูแลกัน รักกัน ทนุถนอมใจกัน ยามคิดถึงก็มาเยี่ยม โผเข้ากอดกัน เรียกความรักกลับคืนมาให้ได้

ถ้าคนไทยไม่รักกัน
มันก็จะเป็นคนไถทั้งประเทศ
จะไหวรึครับ !



Main: 0.036677122116089 sec
Sidebar: 0.086014032363892 sec