ดีใจที่ได้คุยกับครูใต้

โดย sutthinun เมื่อ 11 เมษายน 2012 เวลา 15:35 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 1313

ผมตื่นเช้ามืดเพื่อจะได้แก้ผ้าอาบน้ำไม่ประเจิดประเจ้อ ปล่อยน้ำไหลไปรดต้นไม้ อากาศค่อนข้างเย็นแต่ก็พอทนไหว จะได้ไม่ติดยึดเรื่องการอาบน้ำอุ่น รีบๆเช็ดตัวนุ่งโสร่ง แต่ไม่ใส่เสื้อนะ เพราะอีกหน่อยแดดออกมาได้อาบแสงสุรีย์ฉาน สายหน่อยคนงานมา เดินต๊อกๆไปคุยเรื่องการทำนั่งร้านผัก แล้วเดินต่อไปดูป้าสอนขุดเผือกยักษ์ไปปลูก วันนี้งัดหัวเผือกใหญ่มากออกมา จับตั้งบนรถไสแล้วยังกะเด็ก2ขวบ พอปล่อยมือรถไสถึงกับหัวปักคมำ

จบ2จุดแวะ เดินต๊อกๆไปเก็บผัก ได้เต็มตะกร้าเอามาล้างลงหม้อ จู่ๆ ..ก็มีอาคันตุกะที่ไม่ได้นัดหมายจากแดนใต้มาเยี่ยม ยกครอบครัวมา3พ่อแม่ลูก หลังจากเจรจาต้าอวยจึงทราบชื่อ อาจารย์พรศักดิ์ ชุมทอง จากโรงเรียนพัทลุง ดำรงตำแหน่งเป็นรองผู้อำนวยการโรงเรียน เล่าว่าได้ติดตามอ่านข้อเขียนผมมานาน ตั้งแต่สมัยเขียนลงประจำที่สารปฏิรูป

อาจารย์เล่าว่า..ไปสอนอยู่ที่จังหวัดตราดหลายปี จนกระทั้งมีแม่บ้านเป็นคนตราด อยู่ดีมีสุขจนมีลูกชายคนหนึ่ง ตอนนี้อยู่ม.6 จึงย้ายกลับไปสอนที่ภาคใต้ แรกๆเขาย้ายให้ไปสอนที่จังหวัดยะลา ซึ่งเป็นหัวเมืองที่มีความขัดแย้งสูงมาก ปัจจุบันย้ายมาสอนที่จังหวัดบ้านเกิดพัทลุง เพื่อดูแลแม่ที่ชรามากแล้ว

ปิดเทอมครานี้ตระเวณเยี่ยมญาติแม่บ้านที่ตราด ขากลับตั้งใจแวะผ่านมาทางนี้ ถามเขามาตลอดทาง อาจารย์ตั้งใจมาคุยด้วย เจอตัวไม่เจอตัวก็จะมาดู แต่โชคดีเจอเจอตัวเป็นๆก็เลยคุยแหลก
ผมไม่เลี้ยงน้ำไม่อะไรทั้งนั้น เพราะจะเสียเวลาคุย
คนที่ตั้งใจมาจะมีคำถามที่ใคร่ครวญอย่างดีล่วงหน้า
หลังจากแนะนำตัวเสร็จคำถามก็ออกมาเหมือนยิงสลุต
ตอบในที่นี่ไม่หมดแน่ เอาสักตัวอย่างสักเรื่องสองเรื่องก็แล้วกัน

: ถาม-เมื่อสภาพการการศึกษาไทยสับสนรุงรังเช่นนี้ ผมมีความคิดเห็น หรือมีข้อเสนอแนะให้อย่างไรบ้าง

: ตอบ-ยังมีหนทางที่จะลงมือทำได้บ้างในช่วงนี้ก็คือ หันหน้าเข้าหากันระหว่างโรงเรียนกับชุมชนและผู้ปกครอง นัดเจอกันคุยเข้ม สรุปประเด็นปัญหาที่เผชิญ มุมมองที่ทุกคนเห็น..พลังครูพลังผู้ปกครองเป็นอย่างไร ผนวกพลังกันไหม ยอมลงเรือลำเดียวกันไหม กระโดดลงเรือมาช่วยจ้ำเรือจ้างที่จะจมเหล่มิจมเหล่เข้าฝั่งให้ได้ แล้วยกเรือขึ้นฝั่งปะผุ อย่าไปรองบประมาณ อย่าไปรอความช่วยเหลือภายนอก เอางบใจงบกายของชุมชนและโรงเรียนนั่นแหละ เป็นทุนยกเครื่องการเรียนให้ลูกหลาน คิดเห็นสิ่งใดก็ช่วยกันวิเคราะห์ ถ้าทำเต็มไม้เต็มมือเต็มใจก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรง ที่จะโอบอุ้มเอาลูกหลานให้อยู่รอดปลอดภัย ถ้ายังยึกยัก..รอวิธีการห่วยๆจากทางไกล เรือก็จะจม เด็กก็จะถูกลอยแพ ครูก็ผะงาบๆ

ทุกข์การศึกษาคือทุกข์ของแผ่นดินขนานแท้ ถ้าครูและผู้ปกครองไม่เห็นปัญหาร่วมกันในเรื่องที่จะให้ความรู้คู่ความรัก เด็กก็จะทิ้งผู้ปกครอง ทิ้งครู ทิ้งโรงเรียน ทิ้งการศึกษา คราวนี้ละไปสุดกู่ อาการแสดงออกถึงความเบื่อหน่ายทางการศึกษา เริ่มรุนแรงและพลิกผันมากขึ้นจนยากจะเยี่ยวยาแล้วในเวลานี้ เจ้ากระทรวงเอง กรรมการต่างๆ ผู้บริหารไม่มีพลังมีน้ำยาพอที่จะแก้วิกฤตินี้ได้ ทำปากดีไปอย่างนั้นเอง จะใช้ยุทธศาสตร์โน่นนี้ แต่ในความเป็นจริงทำแบบสาดเสียเทเสีย มันจะแจกแท๊บเล็ท อีโธ่อีถังเอ๋ย มันเห็นประเทศอื่นเขาแจก มันก็แจกตามก้นเขา ไม่ได้คิดได้คิดดีอะไรหรอก ลูกอีช่างแจก..ไม่ได้ดูตาม้าตาเรือว่าครูและเด็กประเทศเขาแตกต่างจากบ้านเราอย่างไร

อย่าไปรอความหวังลมๆแล้งๆทางอื่นเลยครับ
ไฟไหม้บ้านแล้วยังจะทำจดหมายขออนุมัติรถดับเพลิงยังงั้นรึ

ถาม-ครูบามองครูทุกวันนี้อย่างไร?
ตอบ-ผมเห็นใจครูนะ ครูถูกกระทำต่างๆนานา ครูส่วนหนึ่งไปรับใช้การเมือง เอาอำนาจเถื่อนมาครอบงำครูด้วยกัน ตำแหน่งบริหารเป็นตำแหน่งการเมือง บางคนได้มาเพราะการเมือง สร้างผลประโยชน์ร่วมกันซับซ้อน ความเป็นครูอาจารย์อยู่ไหนก็ไม่รู้ ..ครูส่วนใหญ่รู้สึกตัวเองไม่ได้การยอมรับจากสังคม ก็เลยพยายามที่แสวงหาวิธีการยอมรับขึ้นมา ด้วยการดิ้นรนหาวัตถุ ต้องมีรถยี่ห้อนี้ บ้านหลังใหญ่ๆ แสดงสถานะเป็นเสี่ย วางก้ามแบบนักธุรกิจ+การเมือง กลายเป็นมนุษย์พันธุ์ใหม่ บริหารโรงเรียนทางโทรศัพท์ เอาเวลาไปเฝ้านักการเมือง คอยพินอบพิเทา กุมหำงกๆ ไม่เหลือศักดิ์ศรีอะไรเลย แต่พอย่างเท้าเข้าโรงเรียน..เดินกร่าง..ด่าครูสาดหน้าไปก่อน

..ผมว่าครูจนมุมจนใจนะ
ยิ่งมาแก้ปัญหาด้วยการอวดโอ้วัตถุ
ไม่กลัวหนี้ ยิ่งกู้ได้มากก็ยิ่งเสียสติมาก เพราะหนี้มากขึ้นๆ
คนเราต่างก็รู้แก่ใจว่ากำลังแบกสถานะอะไร
แทนที่จะหันมาใส่ใจงานการในหน้าที่
ครูก็หมกมุ่นหมกเม็ดอยู่กับปมด้อย
คล้ายๆกับเด็กๆ
สุดท้าย ครูไม่มีใจสอน เด็กไม่มีใจเรียน

ประเทศนี้จะไม่โง่ที่สุดในโลกรึ

ถาม-ถ้ามันวิบัติมากขึ้นๆอย่างนี้ จะทำอย่างไรครับ
ตอบ-ไม่รู้จะทำยังไง เพราะไม่เห็นกลไกอะไรที่จะเป็นบวกในเรื่องการศึกษา คงปล่อยให้มันตายอย่างเขียดละมัง ให้เด็กมันตีกันยิงกันตายมากๆ ขายยาบ้า ขายตัว หนีเรียน ซิ่งรถ เล่นเกมส์ สักครึ่งโรงเรียนกระมัง ..รอดูต่อไป..ว่ามันจะวิกฤตจนวิบัติมากไปกว่านี้ยังไงจวนแล้วละ แววฉิบหายฉายโชติช่วงชัลวาลย์ขึ้นเรื่อยๆ ดูสิว่า การบริหารการศึกษาแบบตอแหลศาสตร์จะเป็นยังไง ตอนนี้ก็ตัวใครตัวมันก่อนนะโยม

ผมถึงบอกไง อย่าแต่งงาน อย่ามีลูกมีผัว อยู่ตัวล่อนจ้อนนี่ก็แทบหน้ามืดแล้ว
ส่วนคนที่ถลำใจไปแล้วก็ยอมรับสภาพเถิดนะ
ประคับประคองกันไป เลี้ยงลูกเลี้ยงผัวง๊อกๆไปตามหน้าที่ภรรยาที่ดี

ถาม-ในส่วนตัวของอาจารย์ละคิดทำอะไรตอนนี้
ตอบ-ผมก็หลบเข้าป่านะสิ มาบำเพ็ญตนเป็นฤาษีจำบ่มอย่างที่เห็นนี่แหละ -อยู่ง่าย-กินง่าย-นอนง่าย-ยิ้มง่าย-อยู่กะต๊อบแบกะดิน สร้างพื้นที่ของตนเองอย่างสงบเสงี่ยม เจียมตัวเจียมใจ อย่าไปเหยียบตาปลาใคร อย่าไปอยู่ในสายตาใคร หลบๆเจ้าบุญทุ่มบุญหนักศักดิ์ใหญ่ ปลูกผักปลูกหญ้ากินตามประสาคนป่า อยู่กับเพื่อนๆที่รู้ใจ ชวนคนดีคนมีความรู้มาสร้างเมืองใหม่ อยู่ด้วยกัน ดูแลกัน รักกัน ทนุถนอมใจกัน ยามคิดถึงก็มาเยี่ยม โผเข้ากอดกัน เรียกความรักกลับคืนมาให้ได้

ถ้าคนไทยไม่รักกัน
มันก็จะเป็นคนไถทั้งประเทศ
จะไหวรึครับ !

« « Prev : ฐานกาย ฐานใจ ไปไหนมา?

Next : โลกในความคิดคำนึง » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

2 ความคิดเห็น

  • #1 krupu ให้ความคิดเห็นเมื่อ 11 เมษายน 2012 เวลา 19:30

    พ่อขารับครูชาวใต้ไปอยู่ด้วยซักมุมนึงนะพ่อนะ รับรองว่าปมด้อยไม่ใช่ปัญหา ไอ้ที่มักสร้างปัญหาคือตอนไปกวนชาวบ้านเขาเนี่ยะ แต่สัญญาว่าจะไม่ไปเหยียบตาปลาใคร ไปไหนก็จะพยายามหดตาปลาตัวเองเก็บไว้แนบลำตัวทุกครั้ง เรื่องน้อย ยิ้มมาก ขำบ่อย กินน้อย พูดแยะ และไม่พะงาบกับอะไรง่าย ๆ อะค่ะ ผ่านแมะ ๆ ^^

  • #2 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 12 เมษายน 2012 เวลา 2:37

    ขอฟังครูภาคอื่นๆก่อนนะ ว่าจะผ่านไหม?


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.91197299957275 sec
Sidebar: 0.76255416870117 sec