ควันพิษควันใจ
- อ่านข่าวพี่น้องชาวเหนือเจอควันพิษจากไฟป่าปกคลุม
น้ำหูน้ำตาไหลพราก ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้อกหักสักกะหน่อย!
ไม่เป็นไข้หวัดนก ไม่เป็นไข้ 2009 ต้องใช้ผ้าปิดจมูก
ผมเป็นห่วงอุ้ย -ครูอึ่ง-ครูอาราม-น้าอึ่ง เกรงว่าจะจมูกบานเป็นลำโพงนะสิ
โอ้หนอ อากาศบริสุทธิ์พอที่จะหายใจโล่งๆสบายๆก็หายากเสียแล้ว
แล้วจะอยู่จะอาศัยกันสุขสบายได้อย่างไรหนอ
ถ้าพิจารณาให้ดีจะเห็นว่าปัญหานี้ซ้ำซากซ้ำซ้อนทุกปี
เป็นตัวบ่งชี้ว่าคนไทยใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมแบบนกแก้วนกขุนทอง
- วันนี้นั่งรถทัวร์เข้ากรุงเทพฯ
สองข้างทางมีร่องรอยไฟไหม้ดาษดื่นทั่วไป
สวนอ้อยจุดไฟก่อนลงมือตัด
บางแห่งประมาทปล่อยไฟลามเลียไปถึงไหน ๆ
ข้าวนาปรังกำลังร่อแร่ เฮ้อ ๆ ๆ ๆ..
- ช่วงที่ผ่านสระบุรีมีควันไฟครอบคลุมถนนจนมืดสลัว
พวกเราเผา เผา แผ่นดินกันหน้าตาเฉย
ความรู้ที่ถูกต้อง งานวิชาการที่สร้างความตระหนักอยู่ที่ไหน
นโยบายที่ทุกคนเอาด้วยจะเสริมสร้างกันอย่างไร
เฮ้อ! มีแต่คำถาม ๆ ๆ ๆ แต่ไม่มีคนตอบ
ปัญหาจึงล่องลอยอยู่ในอากาศ
- จุดนี้ ใครทำอะไรได้ก็ช่วยกันคนละไม้ละมือเถิดนะครับ
ช่วยพูด ช่วยบอก ช่วยแนะ ช่วยทำเป็นตัวอย่าง
ทำมุมบ้านให้ร่มรื่นเขียวชะอุ่ม
มันก็น่าแปลกนะครับ
คนเราชอบอยู่กับความร่มเย็น
แต่กลับเผาทุกอย่างไม่บันยะบันยัง
เผาธรรมชาติยังไม่จุใจ
เกรงว่าจะเผากฎกติกา เผาบ้านเผาเมือง เผาความปกติสุข จนเกินเลย
โลกร้อนไม่พอ ยังทำให้จิตใจร้อนรุ่มกลุ่มอุราไปทั่วพารา
ชวนกันอยู่อย่างเย็นอกเย็นใจไม่ดีกว่าหรือพี่น้อง โธ่ๆๆๆๆ
8 ความคิดเห็น
เรื่องเผาป่านั้นมีเหตุผลหลายประการ แต่เหตุผลหนึ่งที่เจ็บแปลบๆยิ่งนัก
คือ ราชการมีหน่วยป้องกันไฟป่า มีหน้าที่โดยตรงเรื่องการป้องกันและดับไฟป่า
ส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างราชการ จ้างมานั่งๆนอนๆรอให้ไฟป่าเกิด แล้วก็แบกถังน้ำ แบกครอบ (คราด+จอบ=ครอบ) แบก ฯลฯ ไปตีไฟ ดับไฟกันเป็นหมวด เหมือนทหาร
เหตุที่เกิดและไม่กล้าพูดกันคือ หากออกไปดับไฟป่าก็ได้เบี้ยเลี้ยงกัน สมัยผมทำงานที่ห้วยขาแข้ง จึงทราบว่า จำนวนไฟป่าที่เกิดขึ้นไม่ลดลงเพราะมีคนตั้งใจจุดไฟป่าเพื่อออกไปดับแล้วได้เบี้ยเลี้ยง จำนวนครั้งจึงไม่ลดลง ปีต่อไปก็ตั้งงบประมาณมากขึ้น !!!????
ทีนี้ก็มีแนวคิดว่า ให้ชาวบ้านรอบป่าช่วยกันทำหน้าที่นี้ซิ เข้าท่า เรียกให้เข้าสมัยก็คือ ให้ชาวบ้านมีส่วนร่วม ฟังดูดี เอ้าก็ทำกัน ตั้งงบประมารไปอบรมชาวบ้านรอบป่ากัน จัดซื้อเครื่องมือดับไฟป่าให้ราคาไม่น้อย ทีนี้เมื่อเกิดไฟป่า แรกๆก็คึกคัก ชาวบ้านต่างช่วยกันขึ้นป่าอย่างยากลำบากไปดับไฟป้าตามแบบที่อบรมมา แต่เหนื่อยชิบ….. ไม่มีเบี้ยงเลี้ยงต่างว่าเป็นส่วนรับผิดชอบของชาวบ้าน
ชาวบ้านต้องมีสว่นร่วม ต้องมีจิตสำนึก ต้องเสียสละ ต้อง ต้อง ตอ้ง…. แต่เจ้าหน้าที่ออกทุกครั้งมีเบี้ยงเลี้ยง…ทั้งที่พื้นที่นั้นเป็นพื้นที่รับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ ในที่สุดชาวบ้านต่างก็เลิกรากันไป แล้วก็บ่นดังดังให้เจ้าหน้าที่ได้ยิน แล้วก็ไม่ได้มีการตื่นตัวหาทางแก้ไขปัญหานี้กันอีก ปล่อยมันไป…แถมความไม่พึงพอใจดังกล่าว ยิ่งเกิดไฟใหม้มากยิ่งขึ้น เหมือนตั้งใจจุด มึ…ง มีเบี้ยเลี้ยงก็ไปดับเอาซิ
หลักการง่าย แนวคิดมีมากมาย วิธีการมีล้นสมุดบันทึก แต่มันก็ออกมาอย่างนี้แหละครับในทางปฏิบัติ
แสดงว่า อาจจะต้องดับไฟในหัวใจของระบบราชการก่อน
หวงแหนป่า เอาป่าไปดูแล แต่ราชการก็ไม่สามารถรักษาป่าได้
จะยกให้ชาวบ้านดูแล ก็เกรงจะโดนทุบหม้อข้าวอย่างที่ท่านเล่าแล้ว
เท่าที่สังเกต วัดป่าที่ไปสร้างอยู่ในป่า จะดูแลป่า รักษาป่า เสริมสร้างสิ่งแวดล้อมได้ดี
แต่ก็ต้องเลือกเจ้าอาวาสเหมือนกัน ก็มีบ้างที่มีวัดป่าเพี้ยนๆ
แต่ก็เลือกพัฒนารูปแบบได้ตามความเหมาะสม
รัฐควรส่งเสริมปลูกป่ารายเล็กรายน้อยของชาวบ้าน
ให้เขาปลูก-ดูแล -รับประโยชน์ แบบยั่งยิืน
งบไทยเข้มแข็งแบ่งมากระจิ๊ดเดียวก็ทำได้แล้ว ดีกว่าไปหว่านเล่นโครมๆ
คิดแบบราชการ ทำแบบราชการ ชาวบ้านก็เมิน สุดท้ายก็เป็นที่มาของ 2 มาตรฐานแทบทุกเรื่อง
เฮ้อ พููดมากก็ร้อนปาก อิอิ
เบิร์ดเพิ่งหายใจโล่งตะหมูกเมื่อวานกับวันนี้เองค่ะพ่อเพราะเหลือ 155 PM เกินค่ามาตรฐานมา 30 กว่าถือว่านิดเดียว ตัวที่เกินจนเดือดร้อนกันหมดคือ PM ซึ่งดูที่การเผาไหม้อย่างเดียวเลยค่ะ การเผาสารพัดตั้งแต่ขยะ การปิ้งย่าง เผาตอซังข้าว เผาไร่ เผาป่าที่มีทั้งเราทำเองกับลามมาจากป่าประเทศเพื่อนบ้าน หรือจะเผาบ้านเผาเมือง อิอิอิ เมื่อ PM เกินก็ส่งผลไปที่คุณภาพอากาศ (AQI) จึงเต้นหรับ ๆ กัน ^ ^
… ตลอดสี่อาทิตย์ที่ผ่านมาอากาศชร.เกินค่ามาตรฐานมาตลอด ในระดับเกือบ 200 สูงสุดคือ 270 ได้มั้งคะ ตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค เบิร์ดเริ่มมีอาการระคายคอหนัก 15 มี.ค น้ำมูกไหลยืดแบบซับเกือบไม่ทันทั้งวัน :(… ระคายคอจนไอ เช็ดน้ำมูกขนาดจมูกถลอกเลยอ่ะค่ะพ่อ (ผิวมันแห้ง) เพราะวันที่ 15 -16 -17 ฝุ่นเยอะมาก สองร้อยกว่าเกือบ 300 PM ที่แม่สายยิ่งอ่วม เพราะสามร้อยกว่า แม่ฮ่องสอน 400 - 500 ไม่รู้ว่าหายใจกันยังไง…ลำพูนสูสีกับชร. แต่ชม.ดีกว่าหน่อย
มันหนักจนทนไม่ไหวน่ะค่ะพ่อ คนทำก็ไม่ได้อยู่ข้างล่าง เฮ้อ !…ลักษณะของเมืองทางเหนือเป็นเมืองในหุบ ฝุ่นจากการเผาไหม้เหล่านี้มันหนักกว่ามวลอากาศทั่วไป มันเก๊าะลอยเรี่ยลงต่ำ ดังนั้นจึงเอวังด้วยประกาละฉะนี้ค่ะ จะทำฝนเทียมความชื้นในอากาศก็ไม่พออีก ดีที่วันสองวันที่ผ่านมาพายุซัดโครมเข้ามาอากาศถึงสดมาหน่อย แต่ก็แลกด้วยบ้านพังไป100กว่าหลังที่แม่จันค่ะพ่อ ;(
ไม่รู้จะช่วยยังไหงแล้วเบิร์ดเอ๊ย นอกจากย้านบ้านไปอยู่ทางใต้ ลมทะเลพัดตึงทั้งวันทั้งคืน
จะได้ปอดสะอาดกับเขาเสียที แคว๊กๆ
แสบตาจริงๆครับพ่อ วันก่อนฝนที่เชียงใหม่ตกมานิดนึง ลำพูนตกคืนวันศุกร์อากาศค่อยดีขึ้นบ้างครับ
แสบจมูกแทน
จมูกกำลังบานเป็นลำโพงค่ะ
วันพฤหัสและศุกร์นึกดีใจที่บ้านอยู่ในพื้นที่ 10% ที่อุตุพยากรณ์ว่าจะมีฝนค่ะ …ฝนตกหนักแบบฟ้ารั่วอยู่เกือบชั่วโมง อากาศดีขึ้นได้ครึ่งวัน..ตอนนี้ร้องเพลงฉานยางเหมียนเดิมๆๆๆ คือมืดมัวไม่เห็นฟ้า…สงสัยว่าเพราะควันมันมากกว่าที่น้ำฝนจะกระหน่ำทันค่ะ
กว่าจะผ่านหน้าแล้ง คงลำบากกับเรื่องฝุ่นละอองนี้ไปอีกนานนะครับ
หนีมาอยู่อิสาน ดีกว่าครับ